รถเมล์สาย 18 – ตอนที่ 2 บังเอิญ?

บทที่  2  บังเอิญ ?

 

          “ ขอบอกเลยนะ จางหลาน ! ‘ เรื่องผี’ ของนายนี่มันค่อนข้างน่ากลัวเลยนะ !  หากที่พูดเป็นเรื่องจริง !”  ตำรวจคนที่ไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ ข่มความอายจากอาการหวาดกลัว ก่อนจะยิ้มแล้วพูดกับจางหลาน

          “ เสี่ยวหลิว ฉันรู้ว่านายไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ แต่ฉันขอรับรองว่าที่พูดไปไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ถ้านายไม่เชื่อก็ไปที่บริษัทรถเมล์ตรวจสอบได้เลย” จางหลานกล่าวอย่างเคร่งขรึมแสดงออกว่าไม่ได้พูดเล่น

          “ เจ้าอ้วนหลาน พูดจริงดิ !  อย่าทำให้ฉันกลัว คนที่ตายไปแล้ว ขับรถมาตลอด ‘ 5  ปี’ นี่…นี่มันไม่ใช่ ‘เรื่องผี’ หรือไง !”  ตำรวจร่างผอมสูงพยายามยิ้มแล้วพูด แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ห่างไกลเกินกว่าจะเรียกว่ายิ้ม เห็นได้ชัดว่า เขากลัว ‘เรื่องผี’ ที่จางหลานพูด

          “ ฉันไม่ได้พูดเล่น พวกนายมองหน้าฉันสิ แล้วคิดว่าที่ฉันพูดมันล้อเล่นไหม ?”  สีหน้าของจางหลานจริงจังมาก ดูไม่เหมือนการล้อเล่น

          “ หัวหน้าเย่ คุณว่าเขาที เจ้าอ้วนหลานล้อเล่นเกินไปแล้ว !”  ตำรวจร่างผอมสูงหันมาพูดกับเย่ปิน

          ตอนนี้ เย่ปินมีสีหน้าสงบนิ่ง เหมือนกำลังนั่งสมาธิตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้เปิดปากพูดเลย

          เป็นเวลานานกว่าเย่ปินจะเงยหน้าขึ้นมองจางหลาน “หลานเกอ  ( พี่ชายหลาน )  ที่พูดมาทั้งหมดน่ะเรื่องจริงใช่ไหม ?”  การแสดงของเย่ปินดูจริงจัง สำหรับคำพูดของจางหลาน เขายังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

          จางหลานมองเย่ปิน แล้วพยักหน้าเล็กน้อย “หัวหน้าเย่ แม้ผมจะเป็นคนอ้วนที่ขี้เล่นเป็นบางครั้ง แต่สิ่งที่เพิ่งพูดไป ผมขอรับรองว่าไม่ใช่มุขตลกเด็ดขาด มันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด !”  จางหลานยกสามนิ้วขึ้นปฏิญาณรับรองคำพูด

          เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของจางหลานในตอนนี้ ทุกคนก็เข้าใจแล้วว่า จางหลานไม่ได้พูดเล่น ด้วยสถานะของเขา ทุกคนคิดว่าจางหลานคงไม่กล้าเล่นตลกกับเย่ปิน

          “ หลานเกอ เฉินฮุ่ย พวกเราไปที่บริษัทรถเมล์กันเถอะ” เย่ปินไม่ดูภาพวงจรปิดต่อ เขาลุกขึ้นพาจางหลานกับเฉินฮุ่ยไปที่บริษัทรถเมล์

          บริษัทรถเมล์อยู่ไม่ไกลจากสถานีตำรวจของคนทั้งสามมากนัก เพียงขับรถไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว

          หลังจากมาถึงที่บริษัทรถเมล์ เย่ปินก็แสดงบัตรประจำตัวกับพนักงาน หลังจากนั้นไม่นาน บริษัทก็ส่งพนักงานออกมาต้อนรับพวกเย่ปินทั้งสามคน

          “ เรื่องรถเมล์สาย ‘ 18’  มันเป็นมายังไงครับ ?”

          เย่ปินเปิดปากถามเรื่องรถเมล์ ‘สาย  18’  ขึ้นทันที

          พนักงานต้อนรับพอได้ยินเย่ปินถามเรื่อง ‘สาย  18’  สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัย

          “ พวกคุณมาสืบสวนเรื่องเด็กที่หายไปก่อนหน้านี้ใช่ไหมครับ ?”  เรื่องเด็กที่หายไปได้ถูกโพสต์ลงอินเตอร์เน็ตแล้ว ดังนั้นพนักงานที่ออกมาต้อนรับเย่ปินกับพวกในตอนนี้จึงเชื่อว่าพวกเขามาสืบสวนเรื่องของเด็กที่หายไป

          “ ใช่ครับ”

          เย่ปินพยักหน้า ความจริงคราวนี้เขามาเพื่อตรวจสอบเรื่องรถเมล์ ‘สาย  18’  และตามหาเบาะแสของเด็กที่หายไป

          “ โอเค รอสักครู่นะครับ” พนักงานต้อนรับลุกขึ้นไปหยิบแฟ้มแล้วนำกลับมายื่นให้เย่ปิน “นี่คือแฟ้มข้อมูลเกี่ยวกับรถเมล์ ‘สาย  18’  ครับ”

          ดูจากฝุ่นที่สะสมอยู่บนแฟ้ม แฟ้มดูเหมือนจะถูกเก็บไว้เป็นเวลานานมาก และเห็นได้ชัดว่าไม่มีใครเปิดมันมานานแล้ว

          เย่ปินหยิบแฟ้มและกล่าวขอบคุณสั้นๆ จากนั้นก็เปิดแฟ้มที่เต็มไปด้วยฝุ่นออกมาดู

          มีเอกสารอยู่ในแฟ้มเป็นปึก เย่ปินนำเอกสารออกมาค่อยๆอ่านข้อมูลที่บันทึกไว้พร้อมกับ จางหลานและเฉินฮุ่ย

          ในเอกสารบันทึกข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับ ‘สาย  18’  ไว้อย่างชัดเจน ตั้งแต่สถานที่ต้นทาง จนถึงสถานีปลายทาง เวลาออก จนถึงเวลาเดินรถเที่ยวสุดท้าย…

          นอกเหนือจากบันทึกเหล่านี้ หน้าสุดท้ายของแฟ้มข้อมูลได้หายไป มันถูกฉีกออกไป

          “ ทำไมหน้าสุดท้ายถึงได้หายไปครับ ?”  เย่ปินถามพร้อมกับชี้ไปที่หน้าเอกสารที่ถูกฉีกออกไป

          แต่พนักงานต้อนรับก็ส่ายหน้าอย่างอายๆและตอบว่า

          “ ขอโทษครับ แฟ้มนี้ถูกเก็บไว้โดยไม่มีใครเคลื่อนย้ายมานานมาก ผมไม่รู้จริงๆว่าใครเป็นคนฉีกมันออกไป”

          เย่ปินพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าเขาเดาคำตอบของอีกฝ่ายไว้แล้ว เมื่อพิจารณาจากฝุ่นที่สะสมอยู่บนแฟ้ม มันคงเป็นเวลานานมากแล้วที่หน้าสุดท้ายถูกฉีกออก

          “ เกี่ยวกับ ‘สาย  18’  คุณรู้เรื่องอะไรบ้างครับ ?”  เย่ปินเก็บเอกสารลงแฟ้มแล้วส่งคืนให้พนักงานต้อนรับก่อนที่จะถาม

          “ รถเมล์ ‘สาย  18’”  พนักงานต้อนรับแตะคางครุ่นคิดหนัก แต่ก็คิดอะไรไม่ออก “ผมไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ เพราะตอนที่ผมเข้าทำงาน ‘สาย  18’  น่าจะถูกยกเลิกไปแล้ว” พนักงานต้อนรับตอบอย่างชัดเจนว่าไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้จริงๆ

          “ หลานเกอ ก่อนหน้านี้คุณมาถามกับใคร ?”  เย่ปินหันมาถามจางหลานที่ยืนอยู่ข้างๆ

          “ ดูเหมือน… ดูเหมือนจะชื่อ…” จางหลานขมวดคิ้วครุ่นคิด เป็นเวลานานก่อนจะคิดออก “ใช่แล้ว ผมได้ยินคนในบริษัทเรียกเขาว่า หัวหน้าเหล่าหวัง”

          “ โอ้ !  พวกคุณพูดถึงหัวหน้าเหล่าหวังเหรอครับ !”  เย่ปินยังไม่ ทันถาม พนักงานต้อนรับก็พูดขึ้น

          “ ตอนนี้เขาอยู่ที่บริษัทหรือเปล่าครับ ?”  เย่ปินถามอย่างเร่งรีบ

          พนักงานต้อนรับมีสีหน้าเสียใจพร้อมกับส่ายหน้า “เฮ้อ พูดถึงหัวหน้าเหล่าหวัง !  เมื่อคืนก่อนดูเหมือนจะหัวใจวายแล้วเสียชีวิต”

          “ เสีย !  เสียชีวิตแล้ว !”  จางหลานตกใจ รู้สึกเหมือนถูกลมหยิน  ( ลมปีศาจ – ลมหนาวเย็นตอนผีโผล่ )  พัดใส่ร่างจากด้านหลัง

          “ ใช่ครับ !  หัวหน้าเหล่าหวังเป็นคนดีมาก !  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทุกคนในบริษัท และเขายังเป็นพนักงานเก่าซึ่งทำงานที่บริษัทมาเป็นเวลานานกว่า  20  ปีอีกด้วย ตอนนี้กลับมาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน น่าเศร้ามาก” พนักงานต้อนรับถอนหายใจ

          “ หัวหน้าเย่ มีบางอย่างผิดปกติ !  มันจะบังเอิญไปไหม ?”  สีหน้าของเฉินฮุ่ยแสดงออกถึงความตื่นตระหนก

          เย่ปินยกมือส่งสัญญาณให้เฉินฮุ่ยเงียบ

          “ ขอโทษด้วยนะครับ  พวกผมคิดไม่ถึงว่าเรื่องบังเอิญแบบนี้จะเกิดขึ้น” เย่ปินฝืนยิ้นให้กับพนักงานต้อนรับ

          พนักงานต้อนรับเห็นเช่นนั้นก็ฝืนยิ้มออกมาเช่นกัน “ไม่เป็นไรครับ ถ้าเป็นผม ผมก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกัน”

          “ ถ้าเช่นนั้น พวกเราก็ขอตัวก่อนนะครับ ขอบคุณสำหรับการต้อนรับ” พูดจบเย่ปินก็ลุกขึ้น เตรียมตัวกลับ

          “ ด้วยความยินดีครับ” พนักงานต้อนรับกล่าวด้วยรอยยิ้ม และลุกขึ้น เตรียมส่งเช่นกัน

          หลังจากเย่ปิน เฉินฮุ่ยและจางหลาน ออกจากบริษัทรถเมล์กลับไปขึ้นรถ พวกเขาก็คุยกันเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ “หัวหน้าเหล่าหวัง”

          “ หลานเกอ เฉินฮุ่ย พวกนายคิดยังไงกับการตายของหัวหน้าเหล่าหวัง ?”  เย่ปินเป็นคนแรกที่เอ่ยปากถามพวกเขาสองคน

          ( สรรพนามที่ใช้นอกสถานีตำรวจจะเป็นแบบเพื่อนฝูงคุยกัน )

          “ เฮ้อ ฉันคิดว่ามันจะบังเอิญไปหน่อย” จางหลานพูดขึ้นด้วยความรู้สึกบางอย่าง เพิ่งเจอกันเมื่อไม่กี่วันก่อน ใครจะคิดว่าอีกไม่กี่วันต่อมา หัวหน้าเหล่าหวังจะเสียชีวิต

          “ บังเอิญ ?  มันเป็นความบังเอิญที่ทำให้ฉันรู้สึกว่ามีปัญหาเกิดขึ้นที่นี่” เฉินฮุ่ยบ่นเบาๆ “ปินจื่อ  ( จื่อ – คำเรียกเพื่อน )  นายคิดว่าเป็นเพราะรถเมล์ ‘สาย  18’  หรือเปล่าที่ทำให้หัวหน้าเหล่าหวังเสียชีวิต !”  พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมาก่อน ดังนั้นเมื่ออยู่นอกสถานีตำรวจ เฉินฮุ่ยจึงเรียกเย่ปินว่า ‘ปินจื่อ’ และจะเรียกเย่ปินว่า ‘หัวหน้าเย่’ ก็เฉพาะตอนอยู่ที่สถานีตำรวจเท่านั้น

          “ ฉันก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน” จางหลานพูดขึ้นก่อนที่เย่ปินจะพูด

          เย่ปินนิ่งครุ่นคิดไม่พูดอะไรอยู่นาน ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นี้จะซับซ้อนมากกว่าที่คิด”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset