ไม่นานจิ้งจอกได้ส่งข้อความมาอย่างยาว เหยียดค่าแล้วค่าเล่า เหมือนกับคนที่ไปอยู่ต่าง ประเทศนานมากพอดู เพราะจากสำเนียงของ เขาที่พูด
(ต้องขออภัยด้วย วันนั้นไม่ทันได้ดู ข้อความที่เพื่อนของคุณส่งมา จากนั้นก็ไม่รู้ เหมือนกันว่าทำไมข้อความถึงไม่ขึ้นแจ้งเตือน ว่ายังไม่ถูกอ่าน บางทีซอฟต์แวร์อาจจะเกิด ปัญหาเล็กน้อย ทําให้ผมไม่เห็นข้อความใหม่ที่ เข้ามา…พอดีวันนี้อยากจะติดต่อคุณ จึงค่อยมา เห็นข้อความนี้ ตอนนี้ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร แล้ว แต่ก็ยังอยากจะถามสักหน่อย คุณไม่ได้มี ปัญหาอะไรอยู่ใช่มั้ย หากยังต้องการให้ผมช่วย ผมก็ยินดีที่จะช่วยทำเรื่องบางอย่างของคุณ
พิ้งกี้ยิ้มขึ้นที่มุมปาก แล้วพูดกลับ (ฉัน ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ คุณล่ะ ช่วงนี้เป็นอย่างไร บ้าง? )
(ตอนนี้ผมอยู่ในประเทศแล้ว เป็นเพราะ วันนั้นผมกำลังนั่งเครื่องกลับมา พอกลับมาถึงยังต้องสะสางธุระหลายอย่าง ยังไม่ได้ออกไป กินข้าวเลย อย่างนี้มั้ย เพื่อเป็นการเลี้ยงต้อนรับ กลับจากทางไกล คุณช่วยเลี้ยงข้าวผมสักมื้อ
” พิงกี้นิ่งอึ้ง
ไม่ใช่มั้ง ที่เขาพูดนี่หมายความว่าจะเจอ หน้ากันงั้นเหรอ?
ถึงแม้วจะคุยกับจิ้งจอกลับผ่านทาง ออนไลน์นานหลายปีแล้ว ความสัมพันธ์ก็ถือว่า ไม่เลว แต่เธอยังไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะเจอกับ เขาอย่างตัวเป็นๆมาก่อน!
ตอนนี้พิงกี้เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ได้แต่กุมหัวดึงทิ้งผมอย่างทำอะไรไม่ถูก
ปฏิเสธ แล้วปฏิเสธ หรือปฏิเสธดีล่ะ?
ในสามข้อนี้ งั้นเลือกปฏิเสธก็แล้วกัน (แม้ว่าจะเป็นตัวเลือกเดียวกันก็ตามอ่ะนะ)
ในเมื่อรู้สึกว่าต้องปฏิเสธ งั้นก็ต้องหาข้อ อ้างที่ไม่เลวหน่อยสิ แล้วข้ออ้างล่ะ จะอ้างว่า อะไรดี?!
แต่กลับนึกข้ออ้างที่สมเหตุสมผลไม่ออก!
พิงกี้รู้สึกอยากร้องไห้จนน้ำตาคลอเบ้า ใน ตอนที่เธอกำลังจะเป็นบ้าอยู่แล้วเพราะหาข้อ อ้างที่จะปฏิเสธยังไม่ได้ กลับมีเสียง” ติ๊ง ต่อง ” มาหนึ่งเสียง ข้อความเข้าอีกแล้ว
จิ้งจอกลับส่งข้อความมาต่อครั้งที่แล้ว คุณให้ผมช่วยเหลือ รู้มั้ยทำไมผมถึงไม่ขอค่า ตอบแทนจากคุณ? ]
พิงกี้เริ่มเอ๋อไปแล้ว เพราะอะไรคะ?
เพราะว่าครั้งนั้นที่ผมช่วยคุณแก้ปัญหา ใหญ่ที่ถูกโพสต์ลงบนเว็บบอร์ด ทำให้ผมไม่ เพียงแค่รู้ประวัติของคุณ แต่ยังรู้ว่าคุณรูปร่าง หน้าตาเป็นยังไง ดังนั้น ผมเลยตัดสินใจใช้ข่าว
นั้นเป็นการตอบแทนของคุณ อีกอย่างผมก็รู้แล้วว่าคุณเป็นใคร เพราะฉะนั้น ดูเหมือนว่าคุณ ไม่ต้องลังเลว่าจะออกมาเจอผมหรือไม่ คุณว่า
ถูกมั้ย?
“เอ่อ !”
จากนั้นพิงกี้กรีดร้องออกมา แล้วเด้งขึ้นมา จากเตียง ดวงตากลับเต็มไปด้วยความตะลึงงัน อย่างไม่น่าเชื่อจ้องมือถืออยู่อย่างนั้น!
ตอนนี้สมองของเธอถูกเหมือนถูกดับ เครื่องไปแล้ว!
เธอไม่ได้คิดไปในทางนั้นเลย!
แต่ว่าก็ถูกนะ………..
ท่าทางที่น่าอายของเธอก็ถูกจิ้งจอกลับ พบเห็นไปแล้ว ยังจะกลัวการพบเจอกันอีกหรอ?
เธอก็จะไม่คิดอะไรให้มันยุ่งยากอีก
ฟิง จึงตอบกลับไป (โอเค งั้นฉันขอเลี้ยง ของอร่อยคุณนะ]
ผมรู้ว่าเรื่องเงินคุณไม่เอื้ออำนวย แต่ ว่าผมสามารถเลือกร้านอาหารที่อยู่ระดับปาน กลางได้มั้ย? จะเป็นอาหารจีนหรืออาหารตะวัน ตกผมได้หมด แต่มีอย่างเดียวคือผมไม่กิน เผ็ด)
[ได้แน่นอน งั้นขอถามเลยแล้วกัน คุณ สะดวกเมื่อไหร่?
เมื่อแน่ใจแล้วว่าจะเจอหน้ากัน พิงกี้เองก็ อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ในใจก็ค่อยๆเริ่มมีการ ตั้งตารอคอยขึ้นมา
จิ้งจอกลับนั้น เขาจะเป็นคนแบบไหนกันนะ
จริงสิ…
เธอยังขอให้เขาช่วยได้อีกเรื่อง ให้เขาช่วย ติดตามโทรศัพท์ของยายสมศรีและลิสาหน่อยและสถานการณ์การใช้เน็ตของลิสา ลองดูเผื่อ ว่าอาจจะพบเบาะแสบางอย่าง
เมื่อคิดขึ้นได้แบบนี้ พิงกี้จึงไม่รอช้า เล่า เรื่องทุกอย่างให้กับจิ้งจอกลับฟัง แล้วทำการ ขอร้องให้เขาช่วยตรวจสอบเรื่องนี้
จิ้งจอกลับก็ย่อมตอบตกลงอยู่แล้ว
เขาตอบกลับมาว่า ในเมื่อแบบนี้ รอให้ ผมทำการตรวจสอบค้นหาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราค่อยเจอกันโอเคมั้ย? พอดีผมจะได้สามารถ นําเรื่องนี้เป็นของขวัญที่พบเจอกันครั้งแรกให้ คุณโดยที่คุณไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทน
นี่เป็นคำหยอกล้อ
จากนั้นพิงกี้ก็ได้ส่งรูปภาพตลกในอดีต กลับไปน้อยไปสำหรับคุณ
ฟัง ที่ได้รับความช่วยเหลือจากต่าง ประเทศ ในการให้จิ้งจอกลับช่วยตรวจสอบ ความจริง ส่วนทางด้านของพายุก็สามารถจับ ตัวของณรงค์เดชที่เป็นน้องชายของณรงค์กร ได้เช่นกัน
และก็ทําการตรวจสอบประวัติของตระกูล รีนทวีไปด้วย
ณรงค์เดชเป็นที่รักและเอ็นดูมากที่สุดของ ตระกูลรื่นทวี
แต่กลับเป็นที่น่าเสียดาย เพราะณรงค์เดช เป็นคนที่ไม่เรียนรู้อะไรเลย ถูกเลี้ยงจนเสีย นิสัยมาตั้งแต่เด็ก เมื่อตอนอยู่บ้านนั้นอยากได้ ลมก็ได้ลม อยากได้ฝนก็ได้ฝน อยากได้อะไร ก็ได้ตามความต้องการอย่างไม่ขัดใจ เมื่ออยู่ ข้างนอกกลับเรียนรู้แต่เรื่องที่ไม่ดี จนยิ่งเลว ร้ายไปอีก และหนึ่งในนั้นก็คือการเล่นพนัน
ส่วนณรงค์กรนั้นเป็นคนที่เรียนดีตั้งแต่เด็ก เพียงแต่เพราะว่าทางด้านอารมณ์และจิตใจที่ไม่เหมือนคนทั่วไป ทําให้คนในบ้านต่างก็มองดูเขา เป็นเหมือนเป็นตัวประหลาด
แน่นอน ที่เป็นแบบนี้ก็มีสาเหตุอยู่
แต่ยังไม่รู้ถึงสาเหตุของข่าวที่ถูกแพร่ออก มา ว่าเกย์นั้นติดโรคเอดส์ได้ง่าย ก็ไม่รู้ว่าณรงค์ กรได้ติดโรคนี้ด้วยหรือเปล่า บางทีก็บอกว่าคน ที่เข้าใกล้เขาก็จะติดโรคนั้นมา
เป็นเพราะณรงค์กร ทำให้ทั้งเพื่อนบ้านไม่ ว่าจะชายหรือหญิงต่างก็หนีห่างออกจากบ้าน ของเขาไปหมด เพราะกลัวว่าจะได้รับการติด เชื้อเอดส์
ก็เพราะแบบนี้ ถึงณรงค์กรจะเป็นคนที่มี สุขภาพร่างกายแข็งแรง แต่กลับถูกรังแกจาก ครอบครัว และไม่เว้นแม้แต่เพื่อนบ้านที่มองเขา อย่างกับตัวประหลาดอีก
ตอนที่ครอบครัวประสบปัญหาทางการเงิน เขาไปทำงานที่เป็นพนักงานเสิร์ฟที่บาร์ คิดไม่ถึงไปๆมาๆกลับไปทำงานด้านรักร่วมเพศอย่าง นั้น และด้วยทางบ้านที่รอเขาหาเงินเพื่อนำมา จุนเจืออยู่ เขาจึงไม่มีทางเลือก ได้แต่ก้มหน้า ทํางานนี้ต่อไป
ในครั้งนี้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะณรงค์เดชที่ ติดหนี้นอกระบบมากมายขนาดนั้น เขาเองก็ไม่ ต้องถูกบังคับให้ทำเรื่องพวกนี้
ว่าไปแล้วณรงค์กรเองก็เป็นคนที่น่าสงสาร ถูกครอบครัวที่คอยทำให้เหนื่อยทั้งกายใจอยู่ ตลอดเวลา โดยไม่แม้แต่จะมีช่วงเวลาที่ดีใน ชีวิตของตัวเอง แต่เขาเองดันยังเกลียดตัวเอง และดูถูกตัวเองอยู่ทุกวัน โดยที่ปล่อยให้คนใน ครอบครัวคอยเป็นเหมือนกับปลิงดูดเลือด ที่ คอยเกาะสูบเลือดบนตัวเขาอยู่ตลอดเวลา เขา เพียงเพื่อต้องการให้คนในครอบครัวยอมรับใน ตัวของเขา
จับตัวณรงค์เดชมาวางไว้ตรงหน้าของ ณรงค์กร ตอนแรกณรงค์กรยังไม่ยอมพูด แต่ หลังจากพายุสั่งให้คนตัดนิ้วของณรงค์เดชไปหนึ่งนิ้วนั่นก็ทําให้ณรงค์เดชไม่เอาด้วยแล้ว
“พี่ พูดออกมาส! ใครเป็นคนบงการกัน แน่ รีบพูด พี่ไม่ยอมพูดเพราะอยากให้พวกเขา ตัดนิ้วของฉันใช่มั้ย? ถ้าพี่ยังทำแบบนี้กับฉัน ฉันจะกลับไปฟ้องปู่กับย่า ให้พวกเขามาตีพี่
“ไอ้สารเลว พวกแกทำไมต้องมาตัดนิ้วมือ ของฉัน ตัดของเขาไปสิ พวกแกไปตัดนิ้วของ เขาสิ!”
ณรงค์เดชที่ทั้งเจ็บและหวาดกลัว เพราะ เป็นเพียงคนเล็กๆคนหนึ่งจะไปทำอะไรได้
ภายใต้คำสบถ ณรงค์เดชด่าทอออกมา ก็ ทำให้ณรงค์กรมีท่าทีว่ายอมแพ้แล้ว
เขามองไปยังพายุด้วยท่าทีที่สงบ “ผม
พูด”
ในตอนแรกที่เขาแข็งข้อก็เพื่อปกป้อง คนในครอบครัว แต่มาตอนนี้คนในครอบครัวกลับต้องเดือดร้อน เหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ เขาอดทนไปก่อนหน้านั้นไม่มีเหตุผลอะไรเลย
พายุให้คนเข้ามาหาตัวคนที่กำลังร้องห่ม ร้องไห้อย่างโหยหวนออกไป และทรมานณรงค์ กรต่อไป “ว่ามา ใครเป็นคนสั่งให้นายท่า ไอ้ จิ๊กโก้นั่นเกี่ยวอะไรกับนาย และเกี่ยวอะไรกับ คนที่อยู่เบื้องหลังที่คอยบงการนาย?”
ในครั้งนี้ ณรงค์กรเองก็ให้ความร่วมมือ อย่างเต็มที่
“นายใหญ่ของไอ้จิ๊กโก๋นั่นชื่อว่าลิขิต อยู่ๆ เขาก็ติดต่อหาผมเอง เหมือนกับว่าเขาต้องการ จะใช้ผมเพื่อจัดการกับพิงกี้ ดังนั้นจึง…….
“เอี๊ยะ!” แส้ที่ลงมาอีกครั้ง พายุฝาดด้วย ความเดือดดาลไปยังบนร่างของณรงค์กร ผู้ หญิงของท่านเควิน นายสามารถเรียกแบบนั้น ได้เหรอ เรียกว่าคุณพิงกี้ ได้ยินมั้ย? !
“ครับ..……..” ณรงค์กรได้แต่ทนกับความเจ็บปวด ยิ้มออกมาด้วยความขมขื่น แล้วพูดขึ้น ต่อ “คนที่บงการผมก็คือลิขิต แต่ว่ามีอยู่ครั้ง หนึ่งผมเคยเห็นลิขิตนัดเจอกับผู้หญิงที่อายุไม่ มากเท่าไหร่ แต่ผมรู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนั้นต้องมี ปัญหาแน่นอน