ในตอนแรกเควินไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่แล้ว เมื่อเขาเห็นหัวข้อข่าวที่ถูกโพสต์ลงด้วย
ตัวหนังสือสีแดงหนาในแท็บเล็ต จึงจับ แท็บเล็ตแน่นด้วยนิ้วมือทั้งห้าจนหน้าจอแตก บ
ดวงตา จ้องมองค่อยๆก่อลมพายุอันมืด ครึ้มขึ้นอย่างรุนแรงในทันที
ณรงค์กร !
ณรงค์กรนายตัวดี!
“ออกระดมทุกๆคน ใช้เวลารวดเร็วที่สุดหา เธอให้เจอ เดี๋ยวนี้!”
เควินออกคำสั่งด้วยเสียงทุ้มต่ำ สีหน้าที่มืด ครึ้มเหมือนกับเมฆฝนที่กำลังจะมีฝนตก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่
พิงกี้ค่อยๆได้สติกลับมา เธอใช้แรงทั้งหมด
ที่มีพยายามเปิดตามอง
รู้สึกเหมือนกับว่าตอนนี้ร่างกายของเธอถูก วางอยู่ในเตาเผา
เพราะทุกอณูรูขุมขมบนร่างกายต่างก็เต็ม ไปด้วยความร้อนที่ทะลักออกมา
ร้อนจนทนไม่ไหวแล้ว ใช้มือตัวเองขยับ
เสื้อไปมา แต่กลับมีมือของใครบางคนเข้ามาจับ มือของเธอเอาไว้
เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไป กลับเจอกับดวงตาที่ สลับซับซ้อนของณรงค์กร
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด แล้วพูดขึ้น “คุณอย่าเพิ่งขยับ อย่าขยับ…..
มือของเขาที่อุณหภูมิต่ำมากและเย็น ทำให้ เกิดความรู้สึกสบาย
เมื่อเทียบกับไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่ใน ร่างกายเธอ
ฟิงก็อยากที่จะไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้ว เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา
เพื่อที่ร่างกายของเธอจะได้สบายขึ้น แต่ ว่า…เธอยังคงจําเรื่องราวทั้งหมดได้เป็นอย่างดี
ว่า
หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จแล้วออกมา เขา ยื่นนาขวดนั้นให้เธอดื่ม…
พิงกี้ใช้เล็บจิกเข้าที่ฝ่ามือ ใช้ความเจ็บนี้ เพื่อมาหักห้ามความต้องการในจิตใจของเธอ
ถามขึ้นด้วยเสียงอันสั่นเครือ “คือ คุณ…ใช่มั้ย? ทำไม?
จะต้องเป็นเขาที่วางยากับเธอ ไม่อย่างนั้น ทําไมเธอถึงเป็นแบบนี้
หลังออกจากห้างสตาร์ไลท์ เธอก็เพิ่งจะได้ ดื่มน้ำที่เขาให้เป็นครั้งแรก จากนั้นก็ไม่ได้ดื่ม อะไรอีก
“เป็นผมเอง” ณรงค์กรไม่ได้พูดปฏิเสธแต่
อย่างใด
“เพราะอะไร?”
“ผมขอโทษ ผมมีเหตุผลของผม” ณรงค์ กรหลุบตาลงต่ำ แล้วไม่พูดอะไรกับเธออีก
“ฮึ…” พิงกี้หัวเราะออกมาทีหนึ่ง สุด หายใจเข้าแล้วถามขึ้น
“งั้น…ตอนนี้คุณคิดจะทํายังไงต่อ?มีความ สัมพันธ์กับฉันแล้วถ่ายรูป หรือถ่ายวิดีโอล่ะ?
หรือว่ากำลังรอให้ใครสักคนเข้ามา ขัดจังหวะงั้นเหรอ?”
“…” ณรงค์กรยังคงเงียบและไม่พูดอะไร
เขาเองก็กำลังสับสนกับตัวเองว่าควรหรือ ไม่ควรลงมือดี
หากไม่เป็นแบบนี้ เขาก็ไม่ต้องใช้วิธีในการ วางยาแบบนี้กับเธอ
แต่ยังคงนั่งอยู่อย่างสับสนก็เป็น เพราะ…เขาไม่เต็มใจที่จะลงมือกับเธอ และทํา มันไม่ลงจริงๆ
แต่ว่า หากเขาไม่ลงมือ แล้วเขาล่ะจะเป็น ยังไง? เขาไม่มีทางเลือก
หลังจากที่เงียบไปนาน เขาจึงตัดสินใจ เอื้อมมืออันสั่นเทาออกไปจับตรงส่วนเอวของ พิงกี้
ดึงเสื้อเชิ้ตบางๆที่อยู่รอบเอวของพิงกี้ขึ้น
ทำให้เห็นเธอที่มีสายตาที่มีความตกใจกลัว และกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด
เขาได้แต่พูดขึ้นอย่างรู้สึกผิดเบาๆ “พิงกี้ ผมขอโทษ…”
ถึงแม้ว่าฟังดูแล้วจะไม่สมเหตุสมผลก็ตาม
ขอโทษ…..
คำว่าขอโทษสองคำนี้ ก็คือคำพูดที่อ่อนแอ มากที่สุดในโลกใบนี้
พิงกี้อยากลุกขึ้นมาต่อต้านอย่างมาก อยากจะตะโกนด่าสุดเสียงใส่ณรงค์กร
แต่เรี่ยวแรงที่มีในตอนนี้กลับทำได้เพียง ปล่อยให้ร่างกายเป็นไปตามสัญชาตญาณ เท่านั้น
เมื่อต้องเผชิญกับมือของณรงค์กรที่เข้า มาจับ เธอทำได้เพียงกัดริมฝีปากให้แน่นที่สุด อย่างเอาเป็นเอาตาย
และคอยห้ามตัวเองไม่ให้หลงเข้าไปอ ในอ้อมแขนของเขา อย่างน้อย เธอก็ยังคง พยายามเตือนสติตัวเอง
ไม่ให้ยาที่อยู่ภายในร่างกายเข้าครอบงำ
จิตใจตัวเอง
เสื้อเชิ้ตที่ถูกปลดกระดุมออกหมดแล้ว ตอนนี้ถูกถอดเอามาวางอยู่บนเตียง ทำให้เห็น ผิวที่ขาวเนียนของพิงกี้
ทําให้ความร้อนที่เกิดในร่างกายเบาลงเล็ก น้อย แต่ในใจของเธอกลับเหลือแต่ความเย็นยะ เยือก
เธอเอาแต่กอดร่างที่ไร้เสื้อของตัวเองอย่าง แน่น เหมือนกำลังหลอกตัวเอง ทั้งที่แรงที่มียัง ขยับตัวได้ยากเลย
ปิดตาแน่นสนิท เธอพยายามกลั้นน้ำตาที่ กําลังจะเอ่อล้นออกมา
แต่เธอยังคงคาดหวังกับความหวังสุดท้าย
ที่เธอมี…..
“ปัง!”
และในวินาทีนั้นเอง ก็เกิดเสียง ราวกับ เสียงระเบิดจากท้องฟ้าขึ้น
ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างรุนแรง ข้าง ก่าแพงที่มีเสียงระเบิดดังขึ้น ทำให้พื้นที่ทั้งหมด สั่นสะเทือนกันไปหมด
ณรงค์กรรีบหันไปมองดูความวุ่นวายที่เกิด ขึ้นทางด้านประตู ในระหว่างที่มองไปยังเห็นไม่ ชัดถึงคนที่พังเข้ามา
กลับถูกชายที่อยู่ตรงหน้าชกเข้าที่เบ้า อย่างแรงทีหนึ่ง จึงทำให้ตกลงมาจากเตียงกลิ้ง ลงไปบนพื้นทันที
จนเกิดความมึนไปทั้งหัวอย่างรุนแรง
พิงกี้เปิดตาขึ้นมอง ปรากฏว่าคนที่อยู่ใน สายตาของเธอตรงหน้านี้
คือใบหน้าที่เยือกเย็นและน่ากลัวของ ผู้ชายคนนั้น
คือเขา….
เขามาแล้ว!
“เควิน?” พูดชื่อชายตรงหน้าอย่างอ่อน แรง พิงกี้ไม่เคยคาดคิดว่า เขาจะมาปรากฏอยู่ ตรงหน้าแบบนี้
แต่เธอก็หลอกหัวใจตัวเองไม่ได้เหมือนกัน และไม่สามารถเพิกเฉยต่อเขาได้
ภายในจิตใจที่เริ่มเกิดความรู้สึกดีๆขึ้น มากมาย เธอคิดว่าเขาจะไม่มีวันเข้ามาช่วยเธอ อีกแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็มา
“คุณเควิน”
“เควิน… ”
เธอตะโกนออกไปเบาๆด้วยเสียงที่ต่ำ ครั้ง แล้วครั้งเล่า
จนน้ำตาที่กลั้นไว้ต่างก็ทะลักออกมาอย่าง ไม่ห่วงรูปลักษณ์ภายนอก
ทำให้เปียกไปทั่วแก้มที่แดงจากการถูก แผดเผา และทำให้คนที่มองมาเห็นถึงความไว้ วางใจที่เกิดขึ้นในสายตา
ส่วนเขาที่ตอนนี้ไม่หลงเหลือความอดทน ใดๆ กลับตอบเธอเสียงเบาอย่างอ่อนหวาน ละมุน “ฉันอยู่นี่!
พิงกี้เบาใจขึ้นอย่างมาก แต่เมื่อนึกได้ถึง สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เธอจึงรีบอธิบายต่อสิ่งที่ เกิดขึ้นทันที
“ฉันถูกวางยา ไม่ใช่ว่าฉันต้องการทำแบบ นี้กับเขานะ…”
“ฉันรู้”
“ฉัน….ตอนนี้ฉันรู้สึกทรมานมาก
“ฉันรู้”
“คุณ…คุณช่วย…
คำหลังที่จะพูดต่อ ทำให้พิงกี้ลำบากใจที่ จะพูดมันออกมา
เธอจะไปกล้าพูดได้ยังไง ว่าให้ช่วยเขา ถอนฤทธิ์ยา
แต่เธอยิ่งอยู่ก็ยิ่งอึดอัดมากขึ้น เธอไม่รู้ว่า ต้องทำยังไงต่อแล้ว ร่างกายกลับเป็นไปอย่าง ธรรมชาติ
บางทีนี่อาจทําให้เกิดความเต็มใจต่อคนที่ อยู่ใกล้ๆ
พิงกี้กำลังยับยั้งและควบคุมสัตว์ร้ายที่อยู่ ภายในที่พร้อมจะขย้ำเหยื่ออย่างสุดกำลัง
จากนั้น ไม่รอให้เธอพูดต่อ ผู้ชายรูปงาม ที่หล่อเหลาตรงหน้า กลับก้มลงมองและพูดกับเธออย่างทะนุถนอม
“นี่เป็นเกียรติของฉัน!”
จากความอันตรายที่น่ารำคาญเหล่านั้น และสําหรับอุบัติเหตุในครั้งนี้ เขาเองก็ต้องรู้สึก ขอบคุณ
หากไม่ใช่เพราะที่เป็นแบบนี้ เขาจะได้การ ถูกยอมรับจากเธอได้อย่างไร
พิงกี้ถูกอุ้มขึ้นจากเตียงอย่างนุ่มนวล แล้ว เควินจึงหันไปออกคำสั่งกับพายุ
“จับตัวมันออกไป จับตาดูไว้ให้ดี แล้วก็รีบ เปิดห้องที่ดีที่สุดให้ฉันอย่างด่วนด้วย!”
พายุมองไปยังร่างที่มีเสน่ห์ของพิงกี้อย่าง เงียบๆ แล้วรีบก้มหน้าไม่กล้ามองอีก
“ครับ เจ้านาย!” เขารับคำสั่งแล้วออกไป
เปิดห้องทําอะไร?
ก็เพื่อให้ท่านประธานเจ้านายสุดเท่ห์ของ เขา ‘ถอนพิษ ให้คุณพิงกี้ดีๆน่ะสิ!–
ทั้งสองไม่ใช่อยู่ด้วยกันครั้งแรก แม้แต่เค วินเองก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เล่นเป็นนักดับเพลิงเพื่อ ดับไฟให้กับพิงกี้
ต่างก็คุ้นเคยกับความต้องการของฝ่ายตรง ข้ามแล้ว และเรื่องทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นอย่างมี เหตุมีผล
ให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า
แม้ว่าผลของยาจะไม่สามารถบังคับจิตใจ มนุษย์ แต่สามารถบังคับอารมณ์ได้ง่าย
บนโลกที่งดงามนี้ ใบหน้าที่เนียนขาวใส ของพิงกี้กลับแดงเหมือนกับถูกปัดแก้มให้แดง
คอยหายใจเข้าออกอย่างหนัก รู้สึกได้รับคลื่นที่ถูกซัดให้เข้าไปหาชายคนนี้
ทุกส่วนของร่างกายต่างก็กำลังร้องเรียก ให้กำลังใจ จนตัวเธอเริ่มสั่น
ทำให้จิตใจที่อ่อนอยู่แล้วอ่อนลงไปอีก จน ไม่สามารถต่อต้านเขาต่อไปได้อีก
ดวงจันทร์ที่ลาลับ แทนที่ด้วยพระอาทิตย์ ในเช้าวันใหม่
แสงแดดในยามเช้าที่สาดส่องเข้ามา ภายในห้อง ปลุกให้พิงกี้ค่อยๆลืมตาตื่นอย่าง เหนื่อยล้า
กลับเจอเข้ากับคางที่มั่นคงและมีไรหนวดสี เขียวขึ้นบางๆ…เธอกระพริบตามอง
เริ่มนึกถึงความทรงจำที่ผ่านมา ถึงกับต้อง ปิดปากของตัวเองอย่างตกตะลึง
โอ้แม่เจ้า !นี่เธอสามารถพลิกหน้ามือเป็นหลังเท้าได้
ไหมเนี่ย?