“พิงก์
เธอถึงกับหมดคำพูด ความโกรธที่กำลัง ปะทุขึ้นบนหัวที่ใกล้จะระเบิดกลับเย็นลงทันที
ด้านมืดของจิตใจที่มีความโกรธเกลียด และความอาฆาตลดลงอย่างรวดเร็ว
เป็นเพราะเตชิตที่เข้ามาแทรกจนทำอะไร
ไม่ถูก
เตชิต………
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่มารผจญคนนี้วิ่งออกมา อีกแล้ว? ประชุมเสร็จแล้วงั้นเหรอ?
พิงกี้บิดตัวไปมาแล้วไปหลบข้างๆ แต่เตชิต กลับได้คืบจะเอาศอก
เขากลับกอดเธอแน่นขึ้นและเอาน้ำหนัก
ทับใส่บนตัวเธอมากขึ้น
ถูกทับหนักกว่าเดิม. นี่ทำให้เธอเข้าใจแล้วว่าเขาจงใจทําชัดๆ!
ตระกูลมหาเจริญศิลอำนาจใหญ่ค้ำฟ้า เต ชิตเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ร่ำรวยที่สุดของเมือง หลวงนี้
ขอแค่คนที่มีใจคอยติดตามแวดวงไฮโซ ของเมืองหลวงนี้สักนิด ก็ไม่มีทางที่จะไม่รู้จัก ใบหน้าของเขาเลย
ลิสาที่เห็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของพิงกี้ กับเตชิต ใบเริ่มเปลี่ยนสี
ไม่มีใครคาดคิดว่า
ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเอาใจยากอย่างเตชิตกลับ ออกตัวแทนหล่อน…….ระหว่างพวกเขาเป็น ความสัมพันธ์อะไรกัน?
“คุณเตชิต คุณ ชอบล้อเล่นจังเลยนะ คะ…….. ลิสาที่หน้าเดี่ยวแดงเดี่ยวซีด
แต่ดันไม่กล้าหาเรื่องเตชิต ร่ารวยเงินทอง และเอาใจยากไม่แคร์อะไร
พูดได้ว่าสีหน้าตอนนี้ของเธอน่าเกลียด
อย่างมาก
“ฉันไม่ใช่หมาที่บ้านฉันสักหน่อย ทำไมฉัน ต้องล้อเธอเล่น คอยทำให้เธอมีความสุขด้วย
ฉันไม่ใช่พวกขายตลกสักหน่อย เตชิต หัวเราะเยาะทีนึง ท่าทางที่หยิ่งเหมือนอยู่เหนือ ทุกสิ่ง
สีหน้ากวนตีนมาก แต่ไม่มีใครกล้ายแตะ
เนื้อต้องตัวเขา
ถึงแม้จะมีคนกล้า ก็ต้องรอคำตอบจาก บอดี้การ์ดของเขาก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่
ลิสาเริ่มรู้สึกอึดอัดมาก ได้แต่กัดริมฝีปาก ไว้แน่น แทบจะควบคุมรอยยิ้มน้อยๆบนหน้าไม่ ไหว
นังแพศยา ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถหาเตชิต มาหนุนหลังได้ ถือว่าพิงกี้มีความสามรถ!
เล็บมือยาวจิกเข้าที่ฝ่ามือ ลิสาใช้ความเจ็บ ปวดให้ตัวเองฝืนได้ต่อไป
แม้ในใจจะเกลียดมากแค่ไหนแต่ก็ต้องทน พิงกี้ที่จิตใจเริ่มมืดครึ้ม
หากไม่ใช่เพราะมาผิดที่ เมื่อเห็นใบหน้าที่ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของลิสา
เธออยากหัวเราะอย่างไม่ห่วงสวยเป็นเวลา สามนาทีไปเลย
เธอเงยหน้ามองเตชิต ตาคู่นั้นระยิบระยับ อย่างสดใส “คุณเตชิต คุณจะหนุนหลังฉันใช่ มั้ย?”
“แน่นอน ครั้งก่อนเธอไม่ใช่ตกลงว่าจะเป็น แฟนกับฉันหรอ? ฉันไม่หนุนหลังเธอแล้วจะไป หนุนหลังใคร? ”
พิงกี้ถาม น ” ……….. คนได้มั้ย?
“ระวังอย่าให้มือเจ็บก็พอ”เตชิตเก็บสีหน้า เหิมเกริมไว้ แล้วพูดย้ำอย่างกวนประสาท
“ถ้าตีจนเธอเจ็บขึ้นมา ฉันจะปวดใจมาก เลยนะ”
“…”มาหลอกเหมือนสุนัขจิ้งจอกแบบนี้ พิงกี้เองก็ให้เตชิตได้ประโยชน์ตรงจุดนี้ไปก็ แล้วกัน
ยังไงซะก็เป็นแค่คําพูด เธอไม่ได้ขาดทุน อะไร เธอผงกหัวพอเป็นพิธี “อืมๆ โอเค”
คิดถึงสามารถได้ใช้อ้านาจรังแกแกล้งคน พริบตาเดียวพิงกี้ก็มีความสุขขึ้นมาแล้ว
สําหรับอาการปวดมือ จะถือว่าอะไรเชียว
ได้ยินการสนทนาของพิงกี้กับเตชิต ทำให้
ตีรญาตกใจจนหน้าซีด มือทั้งสองกุมไว้บนหน้า สีหน้าเริ่มซีดจนเหมือนคนใกล้ตาย ดวงตา
แดง มองไปทางพิงกี้ แต่กลับไม่คิดว่า
พิงกี้ไม่เอาเรื่องเธอ แต่เดินตรงไปทางลิสา
“พิงกี้…….. ลิสาที่ตกใจจนเผลอถอย หลังไปก้าวหนึ่ง
“อย่ามาเรียกฉัน มันน่าสะอิดสะเอียน!
อื้มมือมาจับไปที่มือของลิสา จากนั้นพิงกี้ก็ ตบเข้าที่หน้าซ้ายขวาไปสองชุด รวมเป็นสี่ตบ
“ลิสา นี่คือค่าตอบแทนที่เธอทำให้ชื่อเสียง
ฉันป่นปี้!”
ตบเข้าอีกสองชุด
“นี่คือค่าตอบแทนที่เธอใช้ให้คนตระกูลยืนยงศิลป์มาทําร้ายฉัน”
ตบต่ออีกสองชุด
“และนี่คือค่าตอบแทน ให้คนที่คอยเลีย แข้งเลียขาของเธอทำเรื่องขึ้นในวันนี้”
หลังตบเสร็จ เธอจับตัวแล้วเหวี่ยงลิสา ลงพื้นอย่างแรง
เมื่อเห็นลิสาที่ล้มอยู่บนพื้นอย่างไร เรี่ยวแรง พิงกี้ยิ้มขึ้นที่มุมปากเล็กน้อยอย่าง
รอยยิ้มน้อยๆที่ชั่วร้ายแผ่ไปทั่วบนใบหน้า มองไปยังตีรญากับจูลี่อยากเย็นชา
“เธอสองคนจะลงมือเอง
หรือจะให้ฉันเชิญบอดี้การ์ดของคุณเตชิต มาลงมือ?” ถ้าตบเองยังสามารถควบคุมแรงได้
ถ้าให้บอดี้การ์ดที่สูงหนาพวกนี้ลงมือ ก็ไม่รู้ว่าหน้าจะบวมถึงเมื่อไหร่…….
จูลี่ รู้สถานการณ์ดี รีบยิ้มและพูดขึ้น “ฉัน ผิดเอง ฉันไม่ดีเอง……..คุณหนูรองให้ฉันลงมือ
เองเถอะ
ไม่รบกวนคุณดีกว่า……….
พูดพลางตบลงที่หน้าตัวเอง แค่เบี่ยง สายตาก็ตบไปแล้วสิบกว่ารอบ แต่ก็ไม่เท่าที่พิง กี้ลงมือกับลิสา
เมื่อจูลี่ตบเสร็จ ตีรญาที่ยังคงปฏิเสธไม่ทำ ตาม สายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังมองไป ที่พิงกี้
ดูเหมือนจะแข็งข้อกับเธอจนถึงที่สุด เธอรู้ ว่าวันนี้เธอทำไม่ดี แต่ว่า เธอไม่เต็มใจ
พิงกี้เองก็ไม่พูดไร้สาระกับเธอ อีกอย่างก็ ไม่ได้อยากจะลงมือเอง จึงส่งสายตาไปให้เต
แสดงฝีมือให้เขาเห็น “คุณเตชิตคะ หน้า ของคุณ ร าหนาเกินไปค่ะ
ฉันกลัวตีแล้วเธอจะไม่มีความรู้สึก ดูสิคะ เมื่อกี้ฉันตบคุณลิสา ตีจนมือฉันแดงไปหมดแล้ว ค่ะ”
เธอทําเสียงที่ออดอ้อน และยังจงใจพูด หวานๆออกมา หวานจนเต ตอยากจะทําตาขาว
ผู้หญิงบ้าคนนี้นี่จริงๆเลย!
แต่ที่ยิ่งเอาชีวิตกว่าคือ ตอนที่เธออยากยั่ว สวาทนี่แม่งโครตยั่วเลย!
เตชิตยักคิ้วขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ กระแอมสองที จากนั้นกวักมือไปยังคนด้านหลัง
ก็มีบอดี้การ์ดสามคนเดินตรงไปยังตีรญา
“พวกแกอย่าเข้ามานะ อย่าเข้า…….อ้า!”
ทันที
ตีรญาโวยวายด้วยความตกใจจนวิ่งออกไป ข้างนอก แม้ว่าเธอจะเสียงดังแค่ไหน
ก็ถูกบอดี้การ์ดจับตัวไว้ได้อยู่ดี
ถูกคุมตัวไว้ซ้ายขวาไม่ให้เธอขยับ บอดี้ การ์ดอีกคนใช้ความเร็วและแรงตบเข้าที่เธอ เป็นสิบๆชุด
จากเมื่อกี้ที่ยังทำตัวเย่อหยิ่งกลับมีเลือดพุ่ง ออกจากปาก ตาที่ปิดลงจนหมดสติไป
“คุณเตชิตครับ เป็นลมไปแล้วครับ”บอดี้ การ์ดพูดขึ้น
“วางไว้ข้างในเกะกะสายตา เอาไปโยน ข้างนอกก่อน เดี๋ยวค่อยจัดการ”เตชิตโบกมือ อย่างเหลือทน
เหมือนกับกำลังไล่แมลงวันที่น่ารำคาญ ออกไป “ครับ!”
ไม่มีความสงสาร บอร์ดี้การ์ดสองคนทั้ง ลากและดึงตีรญาออกมานอกร้าน ทิ้งไว้ตาม ทางเดิน
เมื่อเห็นตีรญาที่อยู่ในสถานการณ์นั้น ลิสา รู้สึกเหมือนกับกระต่ายที่ถูกบีบให้ตายอย่างน่า สงสาร
ลิสาที่ถูกกระทำต่อหน้าผู้คนมากมาย ชื่อ เสียงของเธอคงไม่เหลือ
และจะกลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะเยาะของ สังคม เธอไม่สามารถรักษาสิ่งที่ทำให้เธอต้อง สูญเสีย
อีกหน่อยคนที่คอยติดตามเธอก็คงค่อยๆ
หายจากเธอไป
เมื่อคิดแบบนั้น ลิสาเริ่มจะเสียใจ
“พิงกี้!” ดวงตาของเธอบวมแดง น้ำตาร่วง ออกมา “เธอจะไม่ยอมเลิกลาแบบนี้เลยหรอ?
เธอให้คนมาทําร้ายพี่ ไม่นึกถึงความรักที่มี ให้กันมาหลายปีนี้เหรอ เธอแย่งเควินไป
พี่ยังไม่พูดสักคำก็ยกเขาให้เธอ พี่ไม่หวัง ให้เธอมาทําดีกับพี่ แต่ทำไมเธอต้องทำร้าย แบบนี้ด้วย?”
“เธอยกเขาให้ฉัน? ทั้งๆที่เธอเป็นคนลอบ วางแผนฉันกับเขาชัดๆ! หากเธอนึกถึงความ รู้สึกที่ผ่านมา
จะใช้เควินเพื่อถีบฉันออกจากบ้านเหรอ?! แม้แต่เรื่องความรักเธอยังเอามาหลอกใช้ได้
เธอคอยสร้างหลุมพรางให้ฉันตกลงไป ตลอด เธอยังจะหวังให้ฉันทำตัวดีๆกับเธอ เธอ คงไม่ใช่บ้าไปแล้วมั้ง?
เธอไร้เดียงสาขนาดนี้ หรือคิดว่าตัวเองยังเป็นเด็กน้อยผู้บริสุทธิ์อยู่? ยังมีอีก
ที่เธอบอกว่าฉันไร้เหตุผลกับเธอฉันเห็น ด้วย ตอนนี้คนก็ตีไปแล้ว
งั้นตอนนี้เราก็มาดูกันว่าฉันเข้าใจเธอผิด หรือพวกเธอที่จงใจใส่ร้ายฉันกันแน่! ”
“เธอคิดจะทําอะไร?
“ก็ต้องดูกล้องวงจรปิดน่ะสิ”พิงกี้ไม่พูด มาก เดินไปหาเตชิตทันที
“คุณเตชิต ห้างสตาร์ไลท์ทั้งห้างเป็นของ คุณหมด เอาตามที่คุณพูดเถอะ….
เตชิตเพียงปัดมือแล้วพูด“เช็คเลย”
พนักงานในร้านถูกทําให้ตกใจกลัวจนเข่า อ่อนไปนานแล้ว เมื่อได้ยินที่เตชิตพูด
จึงไปตรวจสอบกล้องหน้าร้านกันอย่างวุ่นวาย
เตชิตเริ่มโกรธ เรื่องที่เกิดในห้างสตาร์ไลท์ สักพักก็ถูกเผยแพร่แล้ว คนมากมายแห่กันมาดู ละครฉากหนึ่ง
ยืนกระซิบกันอยู่หน้าประตูแล้วส่งข่าวต่อ ให้คนที่อยู่หัวมุม แต่ว่า คนที่น่าอายเมื่อกี้คือพิง
ตอนนี้กลับกลายเป็นลิสาทั้งสาม
ไม่นาน พนักงานก็ตอบกลับมา “คุณเตชิต คะ กล้องวงจรปิดเช็คออกมาแล้วค่ะ”
พิงกี้ตาเป็นประกาย
“ไป เราไปดูกันซิ!”
เธอลากเตชิตให้เดินตามแต่ยังไม่ทันได้ สองก้าว ก็ได้ยินเสียงดังจากฝูงชน
กลับเป็นเสียงความประหลาดใจของลิสา “เควินคะทําไมเพิ่งมาล่ะคะ ลิสารอคุณนาน มากเลยค่ะ
ลิสาอยู่นี่ค่ะ!”
“พิงก์
เธอถึงกับหมดคำพูด ความโกรธที่กำลัง ปะทุขึ้นบนหัวที่ใกล้จะระเบิดกลับเย็นลงทันที
ด้านมืดของจิตใจที่มีความโกรธเกลียด และความอาฆาตลดลงอย่างรวดเร็ว
เป็นเพราะเตชิตที่เข้ามาแทรกจนทำอะไร
ไม่ถูก
เตชิต………
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่มารผจญคนนี้วิ่งออกมา อีกแล้ว? ประชุมเสร็จแล้วงั้นเหรอ?
พิงกี้บิดตัวไปมาแล้วไปหลบข้างๆ แต่เตชิต กลับได้คืบจะเอาศอก
เขากลับกอดเธอแน่นขึ้นและเอาน้ำหนัก
ทับใส่บนตัวเธอมากขึ้น
ถูกทับหนักกว่าเดิม. นี่ทำให้เธอเข้าใจแล้วว่าเขาจงใจทําชัดๆ!
ตระกูลมหาเจริญศิลอำนาจใหญ่ค้ำฟ้า เต ชิตเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ร่ำรวยที่สุดของเมือง หลวงนี้
ขอแค่คนที่มีใจคอยติดตามแวดวงไฮโซ ของเมืองหลวงนี้สักนิด ก็ไม่มีทางที่จะไม่รู้จัก ใบหน้าของเขาเลย
ลิสาที่เห็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของพิงกี้ กับเตชิต ใบเริ่มเปลี่ยนสี
ไม่มีใครคาดคิดว่า
ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเอาใจยากอย่างเตชิตกลับ ออกตัวแทนหล่อน…….ระหว่างพวกเขาเป็น ความสัมพันธ์อะไรกัน?
“คุณเตชิต คุณ ชอบล้อเล่นจังเลยนะ คะ…….. ลิสาที่หน้าเดี่ยวแดงเดี่ยวซีด
แต่ดันไม่กล้าหาเรื่องเตชิต ร่ารวยเงินทอง และเอาใจยากไม่แคร์อะไร
พูดได้ว่าสีหน้าตอนนี้ของเธอน่าเกลียด
อย่างมาก
“ฉันไม่ใช่หมาที่บ้านฉันสักหน่อย ทำไมฉัน ต้องล้อเธอเล่น คอยทำให้เธอมีความสุขด้วย
ฉันไม่ใช่พวกขายตลกสักหน่อย เตชิต หัวเราะเยาะทีนึง ท่าทางที่หยิ่งเหมือนอยู่เหนือ ทุกสิ่ง
สีหน้ากวนตีนมาก แต่ไม่มีใครกล้ายแตะ
เนื้อต้องตัวเขา
ถึงแม้จะมีคนกล้า ก็ต้องรอคำตอบจาก บอดี้การ์ดของเขาก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่
ลิสาเริ่มรู้สึกอึดอัดมาก ได้แต่กัดริมฝีปาก ไว้แน่น แทบจะควบคุมรอยยิ้มน้อยๆบนหน้าไม่ ไหว
นังแพศยา ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถหาเตชิต มาหนุนหลังได้ ถือว่าพิงกี้มีความสามรถ!
เล็บมือยาวจิกเข้าที่ฝ่ามือ ลิสาใช้ความเจ็บ ปวดให้ตัวเองฝืนได้ต่อไป
แม้ในใจจะเกลียดมากแค่ไหนแต่ก็ต้องทน พิงกี้ที่จิตใจเริ่มมืดครึ้ม
หากไม่ใช่เพราะมาผิดที่ เมื่อเห็นใบหน้าที่ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของลิสา
เธออยากหัวเราะอย่างไม่ห่วงสวยเป็นเวลา สามนาทีไปเลย
เธอเงยหน้ามองเตชิต ตาคู่นั้นระยิบระยับ อย่างสดใส “คุณเตชิต คุณจะหนุนหลังฉันใช่ มั้ย?”
“แน่นอน ครั้งก่อนเธอไม่ใช่ตกลงว่าจะเป็น แฟนกับฉันหรอ? ฉันไม่หนุนหลังเธอแล้วจะไป หนุนหลังใคร? ”
พิงกี้ถาม น ” ……….. คนได้มั้ย?
“ระวังอย่าให้มือเจ็บก็พอ”เตชิตเก็บสีหน้า เหิมเกริมไว้ แล้วพูดย้ำอย่างกวนประสาท
“ถ้าตีจนเธอเจ็บขึ้นมา ฉันจะปวดใจมาก เลยนะ”
“…”มาหลอกเหมือนสุนัขจิ้งจอกแบบนี้ พิงกี้เองก็ให้เตชิตได้ประโยชน์ตรงจุดนี้ไปก็ แล้วกัน
ยังไงซะก็เป็นแค่คําพูด เธอไม่ได้ขาดทุน อะไร เธอผงกหัวพอเป็นพิธี “อืมๆ โอเค”
คิดถึงสามารถได้ใช้อ้านาจรังแกแกล้งคน พริบตาเดียวพิงกี้ก็มีความสุขขึ้นมาแล้ว
สําหรับอาการปวดมือ จะถือว่าอะไรเชียว
ได้ยินการสนทนาของพิงกี้กับเตชิต ทำให้
ตีรญาตกใจจนหน้าซีด มือทั้งสองกุมไว้บนหน้า สีหน้าเริ่มซีดจนเหมือนคนใกล้ตาย ดวงตา
แดง มองไปทางพิงกี้ แต่กลับไม่คิดว่า
พิงกี้ไม่เอาเรื่องเธอ แต่เดินตรงไปทางลิสา
“พิงกี้…….. ลิสาที่ตกใจจนเผลอถอย หลังไปก้าวหนึ่ง
“อย่ามาเรียกฉัน มันน่าสะอิดสะเอียน!
อื้มมือมาจับไปที่มือของลิสา จากนั้นพิงกี้ก็ ตบเข้าที่หน้าซ้ายขวาไปสองชุด รวมเป็นสี่ตบ
“ลิสา นี่คือค่าตอบแทนที่เธอทำให้ชื่อเสียง
ฉันป่นปี้!”
ตบเข้าอีกสองชุด
“นี่คือค่าตอบแทนที่เธอใช้ให้คนตระกูลยืนยงศิลป์มาทําร้ายฉัน”
ตบต่ออีกสองชุด
“และนี่คือค่าตอบแทน ให้คนที่คอยเลีย แข้งเลียขาของเธอทำเรื่องขึ้นในวันนี้”
หลังตบเสร็จ เธอจับตัวแล้วเหวี่ยงลิสา ลงพื้นอย่างแรง
เมื่อเห็นลิสาที่ล้มอยู่บนพื้นอย่างไร เรี่ยวแรง พิงกี้ยิ้มขึ้นที่มุมปากเล็กน้อยอย่าง
รอยยิ้มน้อยๆที่ชั่วร้ายแผ่ไปทั่วบนใบหน้า มองไปยังตีรญากับจูลี่อยากเย็นชา
“เธอสองคนจะลงมือเอง
หรือจะให้ฉันเชิญบอดี้การ์ดของคุณเตชิต มาลงมือ?” ถ้าตบเองยังสามารถควบคุมแรงได้
ถ้าให้บอดี้การ์ดที่สูงหนาพวกนี้ลงมือ ก็ไม่รู้ว่าหน้าจะบวมถึงเมื่อไหร่…….
จูลี่ รู้สถานการณ์ดี รีบยิ้มและพูดขึ้น “ฉัน ผิดเอง ฉันไม่ดีเอง……..คุณหนูรองให้ฉันลงมือ
เองเถอะ
ไม่รบกวนคุณดีกว่า……….
พูดพลางตบลงที่หน้าตัวเอง แค่เบี่ยง สายตาก็ตบไปแล้วสิบกว่ารอบ แต่ก็ไม่เท่าที่พิง กี้ลงมือกับลิสา
เมื่อจูลี่ตบเสร็จ ตีรญาที่ยังคงปฏิเสธไม่ทำ ตาม สายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังมองไป ที่พิงกี้
ดูเหมือนจะแข็งข้อกับเธอจนถึงที่สุด เธอรู้ ว่าวันนี้เธอทำไม่ดี แต่ว่า เธอไม่เต็มใจ
พิงกี้เองก็ไม่พูดไร้สาระกับเธอ อีกอย่างก็ ไม่ได้อยากจะลงมือเอง จึงส่งสายตาไปให้เต
แสดงฝีมือให้เขาเห็น “คุณเตชิตคะ หน้า ของคุณ ร าหนาเกินไปค่ะ
ฉันกลัวตีแล้วเธอจะไม่มีความรู้สึก ดูสิคะ เมื่อกี้ฉันตบคุณลิสา ตีจนมือฉันแดงไปหมดแล้ว ค่ะ”
เธอทําเสียงที่ออดอ้อน และยังจงใจพูด หวานๆออกมา หวานจนเต ตอยากจะทําตาขาว
ผู้หญิงบ้าคนนี้นี่จริงๆเลย!
แต่ที่ยิ่งเอาชีวิตกว่าคือ ตอนที่เธออยากยั่ว สวาทนี่แม่งโครตยั่วเลย!
เตชิตยักคิ้วขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ กระแอมสองที จากนั้นกวักมือไปยังคนด้านหลัง
ก็มีบอดี้การ์ดสามคนเดินตรงไปยังตีรญา
“พวกแกอย่าเข้ามานะ อย่าเข้า…….อ้า!”
ทันที
ตีรญาโวยวายด้วยความตกใจจนวิ่งออกไป ข้างนอก แม้ว่าเธอจะเสียงดังแค่ไหน
ก็ถูกบอดี้การ์ดจับตัวไว้ได้อยู่ดี
ถูกคุมตัวไว้ซ้ายขวาไม่ให้เธอขยับ บอดี้ การ์ดอีกคนใช้ความเร็วและแรงตบเข้าที่เธอ เป็นสิบๆชุด
จากเมื่อกี้ที่ยังทำตัวเย่อหยิ่งกลับมีเลือดพุ่ง ออกจากปาก ตาที่ปิดลงจนหมดสติไป
“คุณเตชิตครับ เป็นลมไปแล้วครับ”บอดี้ การ์ดพูดขึ้น
“วางไว้ข้างในเกะกะสายตา เอาไปโยน ข้างนอกก่อน เดี๋ยวค่อยจัดการ”เตชิตโบกมือ อย่างเหลือทน
เหมือนกับกำลังไล่แมลงวันที่น่ารำคาญ ออกไป “ครับ!”
ไม่มีความสงสาร บอร์ดี้การ์ดสองคนทั้ง ลากและดึงตีรญาออกมานอกร้าน ทิ้งไว้ตาม ทางเดิน
เมื่อเห็นตีรญาที่อยู่ในสถานการณ์นั้น ลิสา รู้สึกเหมือนกับกระต่ายที่ถูกบีบให้ตายอย่างน่า สงสาร
ลิสาที่ถูกกระทำต่อหน้าผู้คนมากมาย ชื่อ เสียงของเธอคงไม่เหลือ
และจะกลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะเยาะของ สังคม เธอไม่สามารถรักษาสิ่งที่ทำให้เธอต้อง สูญเสีย
อีกหน่อยคนที่คอยติดตามเธอก็คงค่อยๆ
หายจากเธอไป
เมื่อคิดแบบนั้น ลิสาเริ่มจะเสียใจ
“พิงกี้!” ดวงตาของเธอบวมแดง น้ำตาร่วง ออกมา “เธอจะไม่ยอมเลิกลาแบบนี้เลยหรอ?
เธอให้คนมาทําร้ายพี่ ไม่นึกถึงความรักที่มี ให้กันมาหลายปีนี้เหรอ เธอแย่งเควินไป
พี่ยังไม่พูดสักคำก็ยกเขาให้เธอ พี่ไม่หวัง ให้เธอมาทําดีกับพี่ แต่ทำไมเธอต้องทำร้าย แบบนี้ด้วย?”
“เธอยกเขาให้ฉัน? ทั้งๆที่เธอเป็นคนลอบ วางแผนฉันกับเขาชัดๆ! หากเธอนึกถึงความ รู้สึกที่ผ่านมา
จะใช้เควินเพื่อถีบฉันออกจากบ้านเหรอ?! แม้แต่เรื่องความรักเธอยังเอามาหลอกใช้ได้
เธอคอยสร้างหลุมพรางให้ฉันตกลงไป ตลอด เธอยังจะหวังให้ฉันทำตัวดีๆกับเธอ เธอ คงไม่ใช่บ้าไปแล้วมั้ง?
เธอไร้เดียงสาขนาดนี้ หรือคิดว่าตัวเองยังเป็นเด็กน้อยผู้บริสุทธิ์อยู่? ยังมีอีก
ที่เธอบอกว่าฉันไร้เหตุผลกับเธอฉันเห็น ด้วย ตอนนี้คนก็ตีไปแล้ว
งั้นตอนนี้เราก็มาดูกันว่าฉันเข้าใจเธอผิด หรือพวกเธอที่จงใจใส่ร้ายฉันกันแน่! ”
“เธอคิดจะทําอะไร?
“ก็ต้องดูกล้องวงจรปิดน่ะสิ”พิงกี้ไม่พูด มาก เดินไปหาเตชิตทันที
“คุณเตชิต ห้างสตาร์ไลท์ทั้งห้างเป็นของ คุณหมด เอาตามที่คุณพูดเถอะ….
เตชิตเพียงปัดมือแล้วพูด“เช็คเลย”
พนักงานในร้านถูกทําให้ตกใจกลัวจนเข่า อ่อนไปนานแล้ว เมื่อได้ยินที่เตชิตพูด
จึงไปตรวจสอบกล้องหน้าร้านกันอย่างวุ่นวาย
เตชิตเริ่มโกรธ เรื่องที่เกิดในห้างสตาร์ไลท์ สักพักก็ถูกเผยแพร่แล้ว คนมากมายแห่กันมาดู ละครฉากหนึ่ง
ยืนกระซิบกันอยู่หน้าประตูแล้วส่งข่าวต่อ ให้คนที่อยู่หัวมุม แต่ว่า คนที่น่าอายเมื่อกี้คือพิง
ตอนนี้กลับกลายเป็นลิสาทั้งสาม
ไม่นาน พนักงานก็ตอบกลับมา “คุณเตชิต คะ กล้องวงจรปิดเช็คออกมาแล้วค่ะ”
พิงกี้ตาเป็นประกาย
“ไป เราไปดูกันซิ!”
เธอลากเตชิตให้เดินตามแต่ยังไม่ทันได้ สองก้าว ก็ได้ยินเสียงดังจากฝูงชน
กลับเป็นเสียงความประหลาดใจของลิสา “เควินคะทําไมเพิ่งมาล่ะคะ ลิสารอคุณนาน มากเลยค่ะ
ลิสาอยู่นี่ค่ะ!”