“ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของเธอ?! “ผลักลิ
สาออกอย่างกระทันหัน
พิงกี้มีแผลเต็มตัว จ้องผู้หญิงที่เสแสร้งเป็น คนอ่อนโยนอย่างโหด
สายตาเต็มไปด้วยความเจ็บแค้นใจอย่าง
สุดขีด
จู่ๆเธอนึกถึงรายละเอียดที่ก่อนหน้านั้น ละเลยไป เดิมทีในใจประพันธ์จะหาแต่คนที่ชื่อ
“เตวินอะไรนั่น” แต่จู่ๆน้ำผึ้งมาหาถึงที่
เอาสาเหตุที่ประพันธ์เกิดเรื่องโยนความผิด มาให้เธอ ให้เธอจ่ายค่ารักษาของประพันธ์ให้
พวกเขา ประพันธ์เกิดมาจากชนบท ตอน แรกประพันธ์กับนํ้าผึ้งไม่รู้ชาติกำเนิดของเธอ
ทําไมจู่ๆแป๊บเดียวประพันธ์และญาติๆเขา ต่างก็รู้ว่าเธอคือคุณหนูของตระกูลดำรงกูลยังมีอีก พวกเขาไม่เพียงแค่ค่าเธอยั่วสวาท ประพันธ์ แต่ยังบอกว่าเธอยั่วสวาทพี่เขย…..
นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเธอ! เป็นเธอจริงๆซะ
ด้วย!
แววตาที่เย็นใสบริสุทธิ์เหลียวมองป้าย เหล่านั้น ทันใดนั้นหัวใจของพิงกี้มีไฟลุกท่วม
เผาสติสัมปชัญญะของเธอจนเป็นเถ้าถ่าน
เธอตบใบหน้าเป็นเสแสร้งเป็นคนดีของลิ
สาอย่างแรง!
“เจี๊ยะ!”
ไม่รอให้ลิสาเปิดปากพูด พิงกี้ก็ตบไปอีกที ตบจนหน้าของลิสาเอียงไปข้างนึง
ลิสาเสียเปรียบจริงๆ แทบจะแค่พริบตาเตียว ใบหน้าเธอมีรอยฝ่ามือโผล่มาทั้งสองข้าง
พริบตาเดียว จากผู้หญิงที่สวยสง่าดูมี ระดับกลายเป็นคนอิดโรยจนถึงที่สุด
สายตาเธอมีความโหดร้ายแว๊บผ่าน เธอกุม หน้าไว้ น้ำตาที่ใหญ่เท่าเม็ดถั่วไหลรินออกมา
จากดวงตา ดูพิงกี้ด้วยสายตาที่ไม่อยากจะ เชื่อ และพูดด้วยความเสียใจ
“พิงกี้ พี่รู้ว่าเธอโทษ ที่มาช้าไป ทำให้เธอ ได้รับบาดเจ็บ แต่…..
แต่พี่ก็ไม่รู้ว่าวันนี้จะเกิดเรื่องแบบนี้นี่เธอ ทำแบบนี้กับพี่ได้ยังไง?พี่เป็นพี่สาวเธอนะ!
“ฉันไม่มีพี่สาวอย่างเธอ ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!
“พี่รู้ว่าเธอไม่ชอบพี่ แต่เธออย่าทำนิสัย แบบนี้กับพี่ได้ไหม?”ลิสาดึงมือของพิงกี้ไว้
เธอกัดริมฝีปาก ดวงตาที่สวยวาวกังวลและ
ใจกว้างมองพิงกี้ไว้
“เธอมีอะไรเข้าใจพี่ผิด เรากลับไปค่อยคุย กัน ตอนนี้เธอได้รับลาดเจ็บ
พี่พาเธอไปหาหมอก่อน โอเคไหม?”ลิสา เปิดปากพูดทีไรก็พี่สาว
ก็เพื่ออยากให้พิงกี้รู้สึกสะอิดสะเอียน จับ มือของพิงกี้ไว้ เธอก็ไม่ได้พลาดโอกาศนี้
เล็บมือที่ยาวจิกไปที่หลังมือของพิงกี้ ยืน หันหลังให้กับผู้คน
สายตาเธอเต็มไปด้วยความท้าทาย เธอยิ้ม มุมปากขึ้นอย่างไร้เสียง
ทั้งหมดนี้ ทำให้ไฟที่ลุกท่วมในใจของพิงกี้ ยิ่งหนักเข้าไปอีก เธอผลักลิสาออกอย่างโหด
“พี่สาวอะไร เธอไม่ใช่พี่สาวฉัน ปล่อยฉัน!เธอสมรู้ร่วมคิดกับญาติของประพันธ์
ทุ่มเทแรงใจทำทุกวิถีทางหาสุนัขพวกนึง มาจัดการ น
ก็ไม่ใช่เพราะอยากเห็นฉันถูกรังแกและ หัวเราะเยาะฉันหรือ?!
ลิสา เธอแสดงละครทั้งวันไม่เหนื่อยหรือ
ไง?”
“ฉัน….”
ถูกผลักจนถอยหลังไปสองก้าว ลิสาพลาด ท่า เธอ“อ๊า!”กรี๊ดคำนึง
สีหน้าตื่นตระหนกและล้มลงจากพื้นต่าง ระดับ กลิ้งตกบันไดไปห้าหกขั้น
เธอกลิ้งลงอย่างแรงและสลบไป เหตุการณ์พลิกผันนี้ทำให้คนที่อยู่ในเกตุการณ์ต่างอึ้งจนร้อง ไม่ออก สายตาต่างมองไปที่พิงกี้
พิงกี้ “
เธอมองดูมือของตัวเองด้วยสายตาทึ่ง แล้ว
ขมวดคิ้ว
เมื่อกี้เธอผลักแรงขนาดนั้นเลยหรือ?
ตอนนี้ที่ๆเธอยืนห่างจากขั้นบันไดหนึ่ง เมตรกว่าๆ เมื่อกี้ลิสายืนอยู่ตรงหน้าเธอ
ยังไงก็ไม่มีทางใกล้ขั้นบันไดขนาด นี้….เธอแค่ผลัก ก็ผลักลิสาถึงขั้นบันไดเลย หรือ?
เป็นไปไม่ได้! ลิสาต้องเสแสร้งแน่ๆ!
“เธอไม่ต้องแกล้งตายหรอก ใส่ร้ายฉัน ครั้งนึงไม่พอ ยังอยากใส่ร้ายฉันอีกหลายๆครั้ง ใช่ไหม?”พิงกี้สีหน้าเย็นชา เธอลงไปสะกิดร่างกาย ของลิสาอย่างเร่งรีบ ใจคิดแต่อยากเปิดโปงเธอ
อยากให้ทุกคนเห็นหน้ากากที่ สะอิดสะเอียนของเธอ! แตว่า ในขณะนี้
จู่ๆเสียงที่ซ่อนความโกรธไว้ดังขึ้นมา
“พิงกี้ หยุดเดี๋ยวนี้! ”
พิงกี้ใจคอไม่ดี ท่าทางในมือหยุดลงมา เงา ของผู้ชายสูงใหญ่หยุดอยู่ตรงหน้าเธอ
เธอเงยหน้ามองไปที่เขา ที่เห็นใบหน้าที่คุ้น เคยของเขา และแววตาที่เย็นชาสงบ
“ทำไมเธอต้องลงมือกับลิสา ?”เควินก้ม หน้าดูลงไป
ใบหน้าที่มาดเข้มกล้าหาญสีหน้าเรียบเฉย เม้มปากเป็นเส้นตรง
“ลิสาเป็นโรคหัวใจ เธอไม่ใช่ไม่รู้หนี่ หรือ ว่าเธออยากเธอตายหรือ?
ถ้าลิสาตายมีผลดีอะไรกับเธอ?!”
ถามต่อว่าแต่ละคํา ถามจนสมองของพิง ก็เหมือนจะระเบิด
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเหมือนราวกับเทพบุตร เป็นคนที่เธอคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย
ที่ผ่านมาเขาก็เป็นคนเย็นชาไร้ความเมตตา
ความเย็นชาของนาทีนี้ เอาความโหดเหี้ยม ของในใจเขาซ่อนอยู่ภายใต้สายตาที่สงบนิ่ง
ถึงมองดูเธออย่างเงียบๆ แต่กลับเหมือนคน ที่เขาดูไม่ใช่เธอ
แต่เป็นคนตายที่ไม่มีลมหายใจ
เขาโกรธมาก โกรธมากแล้วจริงๆ!
เพื่อลิสา!
เพราะฉะนั้น ทั่วร่างที่อิดโรยของเธอ เขา ถึงมองไม่เห็นเลยหรือ?
ในสายตาและในใจเขา มีแต่ลิสาที่เสแสร้ง เป็นคนดีคนเดียว!
ความรู้สึกและความจริงนี้ พริบตาเดียว ทำให้หัวใจของพิงกี้เจ็บแปลับขึ้นมา
แม้แต่หายใจก็รู้สึกยากลำบากมาก เธอก้ม หน้าไว้ หายใจลึกๆเฮือกนึง
ถึงทำให้หัวใจที่เจ็บปวดทรมานรู้สึกดีขึ้น แต่ว่า ในใจกลับรู้สึกสิ้นหวัง
“ทำไมฉันถึงลงมือกับเธอ คุณน่าจะไป ถามเธอดูว่าทําอะไรลงไปกับฉัน!”
พิงกี้แบกร่างตัวเองลุกขึ้นจากพื้น ถอยไป ก้าวนึง ยืนอยู่บนขั้นบันไดสบตากับเควินคําพูดเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “เธอสลบ ไปแล้ว ถึงแม้ไม่รู้ว่าสลบจริงหรือแกล้งสลบ
แต่ดีที่สุดคุณพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาล เถอะ ไม่ใช่ถึงเวลาตายแล้วมาโทษฉันอีก”
“พิงกี้ เธอ… เควินขมวดคิ้วอย่างโหด อยากพูดอะไรต่อ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูด
อุ้มลิสาที่สลบขึ้นมาไว้ในอ้อมอก เขาสั่ง การพายุอย่างเย็นชา
“สะสางเรื่องที่นี่ให้เรียบร้อย ห้ามปล่อย คนพวกนี้ไปสักคน ส่งไปกักตัวให้หมด
รอฉันกลับมาจัดการ!”
“แล้วเจ้านายจะไปไหนครับ?” พายุถาม
“ฉันส่งลิสาไปที่โรงพยาบาลก่อน เดี่ยว
กลับมา”
‘….ครับ” พายุมองพิงกี้อย่างระมัดระวัง ไปทีนึง ขยับปากไปครู่นึง
สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจ และเดินไป เจรจากับตำรวจอย่างจนปัญญา
พิงกี้ยืนอยู่บนบันได ดูเควินอุ้มลิสาขึ้นรถ
อย่างเร่งรีบ
ตำรวจให้ความร่วมมือกับพายุจับคนพวก
นั้น
ทุกคนรวมถึงน้ำผึ้งต่างก็ร้องไห้ไม่ยอมให้ ความร่วมมือ
ช่างตกแต่งบาร์มองพิงกี้ด้วยสายตาซับ ช้อน อยากเข้ามาปลอบเธอ
แต่ก็รู้สึกฐานะต่างกันเยอะเกิน และไม่ได้ สนิทกันขนาดนั้น เลยเกรงใจไม่กล้าเข้าใกล้
เธอได้แค่ยืนลังเลอยู่ข้างๆ พิงกี้นั่งลงที่ขึ้น บันไดอย่างหมดเรี่ยวแรง
บนตัวมีแผลหลายจุดที่เจ็บมาก เธอหลับตา
ลง มือทั้งสองกุมศรีษะไว้
อยากทำให้อาการวิงเวียนศรีษะที่มาเป็น พักๆทุเลาลง
นาทีนี้เธอไม่อยากเผยความอ่อนแอออกมา ไม่อยากไร้ยางอายเหมือนลิสา
ใช้ความอ่อนแอมาทำให้คนเห็นใจ แต่ว่า สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหว
เธอลืมตาด้วยความยากลำบาก และกวัก มือเรียกช่างที่ยืนอยู่ไม่ไกล พอเขามาถึง
เธอยิ้มอย่างอ่อนเพลียและถามเขา
“ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย รบกวนคุณช่วย พยุงฉันขึ้นไปที่ออฟฟิศได้ไหมคะ?”
“ได้ครับ!” ช่างตาแดงก่ำพร้อมพยักหน้า
ภายใต้การพยุงตัวของช่าง พิงกี้เดินไป สองก้าว ก็ตัวอ่อนสลบไป
ข้างหูได้ยินแค่เสียงช่างที่เรียกอย่าง ร้อนรนใจ “คุณพิงกี้ คุณได้ยินผมไหม คุณตื่น สิครับ!”