ทุกคนต่างพากันมองไปที่ผู้จัดการตู้อย่างตะลึง ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความมึนงงเล็กน้อย
คนอื่นอาจจะเป็นของปลอม แต่ผู้จัดการตู้คนนี้สิของจริง เพราะบุคคลนี้สามารถเข้าออกสถานที่นี้ได้อย่างตามอำเภอใจ ประกอบกับชุดที่สวมใส่ไหนจะตราสัญลักษณ์ที่หน้าอก ดู ๆ แล้วผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลจริง ๆ
“ผู้จัดการตู้?ผู้จัดการตู้ไหนกัน?”
เกาจื่อเหวินแสดงท่าทางไม่เชื่อสักเท่าไหร่ เขาเดินไปข้างหน้าแล้วเอ่ยถาม
ผู้จัดการตู้ชะงัก ก่อนจะหยิบบัตรพนักงานของตัวเองออกมาส่งให้เกาจื่อเหวินแล้วเอ่ย
“ผมชื่อตู้เหวินหมิงครับ เป็นรองผู้จัดการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุป และก็เป็นผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลของปราสาทซีแอทเทิลแห่งนี้ คุณต้องการจะตรวจสอบอะไรอีกไหม?”
ตู้เหวินหมิงไม่เพียงแค่มีบัตรพนักงาน แต่ยังสามารถสืบค้นประวัติของเขาได้ในไป๋ตู้ ถ้าอยากจะตรวจสอบฐานะของตู้เหวินหมิงก็ทำได้อย่างง่ายดาย
ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุป ตู้เหวินหมิงก็ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญมากของบริษัท
บริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุปมีชื่อเสียงด้านอสังหาริมทรัพย์ พวกเขาก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างดีมาก พูดได้เลยว่าเป็นที่สุดในวงการนี้ เพราะฉะนั้นตู้เหวินหมิงจึงถือว่าเป็นบุคคลที่สำคัญมาก ๆ ของบริษัท มักจะเห็นเขาตามข่าวหรืองานแถลงข่าวต่าง ๆ
หลังจากนั้นทุกคนก็ตะลึงกันไปหมด ตู้เหวินหมิงพูดมาขนาดนี้ จะเป็นเรื่องเท็จได้ยังไง?
“คุณตู้ หมอนี่เป็นเจ้าของกิจการที่นี่จริง ๆ เหรอ?มันแค่จ่ายเงินเช่าที่นี่ใช่ไหม?”
ตู้เหวินหมิงขมวดคิ้วเข้าหากัน จากนั้นก็นำสัญญาออกมาโชว์ให้ทุกคนดู
“บนสัญญานี้เขียนไว้อย่างชัดเจนครับ เจ้าของธุรกิจนี้คือ คุณเฉินเค่อเอ๋อร์”
“ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ มันต้องเป็นของปลอม หล่อนจ่ายเงินให้คุณใช่ไหม?ติดสินบนคุณ ให้คุณมาเล่นละครตบตาพวกเราใช่ไหม?”
ตู้เหวินหมิงหัวเราะอย่างสมเพช “คุณผู้หญิงครับ คุณกำลังล้อผมเล่นอยู่หรือไง?”
ขณะที่พูดคุยกัน ตู้เหวินหมิงบังเอิญเผยนาฬิกาเรือนทองของเขาขึ้นมา
ตู้เหวินหมิงเป็นคนฐานะระดับไหนแล้ว?
เขาเป็นถึงผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุป รายได้ต่อปีนับล้าน นาฬิกาRolexสีทองในมือของเขามีมูลค่ามากกว่าสองแสน
เห็นได้ชัดว่า ตู้เหวินหมิงไม่มีทางโดนใช้เงินติดเงินสินบนธรรมดาแบบนี้แน่นอน อีกอย่างจากฐานะของเขาแล้ว ต่อให้ให้เงินมากขนาดไหน ก็ไม่มีทางซื้อเขาได้
เพื่อน ๆ ทั้งหมดต่างตะลึงงันกันหมด
“ปราสาทนี้เป็นของเฉินเค่อเอ๋อร์จริง ๆ เหรอ?”
ตู้เหวินหมิงส่งเสียงอย่างเย็นชา “ไม่อย่างนั้นล่ะครับ เป็นของพวกคุณงั้นเหรอ?”
พูดจบ เสียงโทรศัพท์ของตู้เหวินหมิงก็ดังขึ้น
“คุณผู้หญิงเฉินครับ นี่เป็นสายวิดีโอคอลจากท่านประธานเหอเนี่ยนอิงของเรา ปราสาทซีแอลเทิลแห่งนี้ค่อนข้างพิเศษ จำเป็นต้องให้ท่านคุยวิดีโอคอลกับท่านประธานของพวกเราหน่อย จากนั้นค่อยทำการเซ็นชื่อครับ”
เฉินเค่อเอ๋อร์มึนไปหมดแล้ว เธอพยักหน้าอย่างงง ๆ
“คะ ค่ะ ๆ ได้ค่ะ”
เธอเดินไปตรงหน้าโทรศัพท์แล้วกดรับวิดีโอคอล
จากนั้นโทรศัพท์ก็ปรากฏเหอเนี่ยนอิงขึ้นมาจริง ๆ !
“สวัสดีค่ะคุณเฉินเค่อเอ๋อร์ ดิฉันคือเหอเนี่ยนอิง ตอนนี้ดิฉันจะทำการยืนยันเกี่ยวกับเรื่องปราสาทซีแอทเทิลกับคุณสักหน่อยนะคะ”
จากนั้นเหอเนี่ยนอิงก็อธิบายกระบวนการคร่าว ๆ ให้แก่เฉินเค่อเอ๋อร์ แล้วก็เอ่ยแสดงความยินดีกับเธอแล้วก็จบการสนทนา
การปรากฏตัวของเหอเนี่ยนอิงบนวิดีโอทุกคนต่างเห็นกันอย่างชัดเจน เพราะมันเป็นการวิดีโอคอล แถมระหว่างการสนทนาผ่านวิดีโอคอลเหอเนี่ยนอิงก็เอ่ยชื่อของเฉินเค่อเอ๋อร์ออกมา แบบนี้มันไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน
เห็นแบบนี้แล้ว แสดงว่าฉินจุนซื้อปราสาทแห่งนี้มอบให้เฉินเค่อเอ๋อร์จริง ๆ เหรอ?
นี่มันมีแต่มหาเศรษฐีเจ๋ง ๆ มีแต่พวกคนรวยเท่านั้นที่ทำเรื่องแบบนี้ได้?
หรือว่าตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ สิ่งที่ฉินจุนพูดมานั้นเป็นคนจริงทั้งหมด ไม่ได้โม้ไปทั่วเฉย ๆ ?
เฉินเค่อเอ๋อร์เองก็ตกตะลึง
พี่เขยซื้อปราสาทให้เธอจริง ๆ เหรอ?
เฉินเค่อเอ๋อร์มองสัญญาตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ
“พี่เขย คุณมีเงินมากมายขนาดนี้เลยเหรอ?”
เฉินเค่อเอ๋อร์เอ่ยถามเสียงเบา
ฉินจุนยิ้มบาง ๆ “เธอคิดว่าไงล่ะ?”
เฉินเค่อเอ๋อร์เผยรอยยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะดึงมากฉินจุนมาเอ่ย
“พี่เขย ฉันเพิ่งพบว่าคุณนี่เจ๋งจริง ๆ !”
“ต่อสู้ก็ได้แถมยังรวยอีก ทำไมพี่ถึงไปชอบพี่สาวฉันได้!พี่เลิกกับพี่สาวฉันแล้วเรามาคบกันดีกว่า!”
ฉินจุนหมดคำจะพูด เขาถลึงตาใส่เฉินเค่อเอ๋อร์ “พี่สาวของเธอสุขุมกว่าเธอเยอะ”
“นี่ ๆ คุณพูดอะไรของคุณ ฉันเองก็สุขุมมากเหมือนกันนะ!”
ในเมื่อที่นี่เป็นปราสาทของเฉินเค่อเอ๋อร์ ถ้าอย่างนั้นสิ่งของภาพในก็เป็นของเธอทั้งหมด รูปภาพนั่นต่อให้แพงกว่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องชดใช้ เพราะนั่นเป็นของเฉินเค่อเอ๋อร์ ต่อให้เธอจะเผามันทิ้งก็ไม่มีใครมายุ่งได้
เพราะฉะนั้นหลังจากทุกคนชื่นชมสถานที่แห่งนี้เป็นที่เรียบร้อย ก็ออกจากที่นี่ไปทันที
พวกเพื่อนหัวสูงกลุ่มนี้ เมื่อสักครู่ยังทำท่าทางรังเกียจใส่ อยากจะตัดเพื่อนกับเฉินเค่อเอ๋อร์อยู่เลย
ตอนนี้พอรู้ว่าเฉินเค่อเอ๋อร์รวยแล้ว ก็อยากจะเข้ามาประจบประแจงแต่ก็ไม่มีหน้าจะเข้าไปคุยด้วยแล้ว
เฉินเค่อเอ๋อร์และฉินจุนเข้าไปชื่นชมภายในปราสาทอยู่นาน ที่นี่มันหรูหราเสียจริง ๆ เหมือนพระราชวังเลย
“พี่เขย ต่อไปฉันจะเข้ามาพักที่นี่ตอนไหนก็ได้เลยเหรอ?”
ฉินจุนยิ้ม “แน่นอนสิ ที่นี่เป็นปราสาทของเธอ ตอนที่เธอไม่อยู่จะปล่อยให้คนเข้ามาเช่าก็ได้นะ คืนละแสน”
“โอ้โห จริงด้วย ถ้าอย่างนั้นแบบนี้ฉันก็จะรวยแล้ว!”
เฉินเค่อเอ๋อร์ถูกใจมันมาก ๆ เธอเดินชมอยู่ราว ๆ ครึ่งชั่วโมงถึงจะพัก
พอทั้งสองออกมาจากปราสาท ฉินจุนก็เอ่ย “เดี๋ยวฉันไปส่งเธอกลับบ้านเอง แล้วเดี๋ยวฉันก็ต้องกลับตงไห่แล้ว
เฉินเค่อเอ๋อร์ชะงัก “พี่เขย คุณเป็นคนตงไห่เหรอ?”
“อื้ม ส่งเธอเสร็จฉันก็กลับแล้ว”
เฉินเค่อเอ๋อร์กลอกลูกตา “พี่เขย ช่วยคนต้องช่วยให้ถึงที่สุดสิ ฉันยังมีอีกหนึ่งเรื่องต้องการให้คุณช่วย!”
ฉินจุนหมดคำจะพูด ทำไมพี่น้องคู่นี้ถึงได้เป็นเหมือนกันเลย ?ช่วยคนต้องช่วยให้ถึงที่สุด แล้วเมื่อไหร่จะพอ?
เฉินเค่อเอ๋อร์เห็นสีหน้าของฉินจุนก็รีบเอ่ยทันที
“พี่เขยคุณอย่าเพิ่งกังวลไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่ฉันมีเรื่องที่มหาวิทยาลัยนิดหน่อย คุณช่วยไปที่มหาลัยสักหน่อยก็จบแล้ว”
ฉินจุนขมวดคิ้ว “เรื่องที่มหาวิทยาลัย?เธอพูดมาให้เคลียร์ ๆ เลยดีกว่ามีอะไร”
เฉินเค่อเอ๋อร์อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แต่สุดท้ายก็จำใจพูดออกมา
“อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยของฉันเรียกพบผู้ปกครอง……”
“……”
ฉินจุนหมดคำจะพูดอย่างแรง เฉินเค่อเอ๋อร์เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยนะ!นักศึกษามหาวิทยาลัยยังต้องเรียกพบผู้ปกครองอีกเหรอ นี่มันเรื่องอะไรกัน!
“เธอไปก่อเรื่องอะไรอีก?”
เฉินเค่อเอ๋อร์เบ้ปาก “ไม่ใช่เรื่องเดือดร้อนอะไรหรอก ก็แค่วิทยานิพนธ์จบการศึกษาของฉันมันไม่ผ่านสักที อาจารย์ที่ปรึกษาบอกว่าฉันโง่ ฉันโมโหมากก็เลยเผาเคราของเขา!”
“……”
ฉินจุนรีบหมุนตัวเดินหนีทันที “เรื่องนี้ฉันคงช่วยไม่ได้”
นักศึกษาซุกซนนะเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าซนตั้งแต่เด็กยันโตเข้ามหาวิทยาลัยฉินจุนไม่เคยพบเคยเจอ เขามีลางสังหรณ์ว่าเรื่องนี้จะต้องไม่ใช่เรื่องดี
ใครจะคิดว่าเฉินเค่อเอ๋อร์จะกระโดดไปกอดคอฉินจุน เอาขาทั้งสองข้างรัดเอวเขา เกาะหนึบไม่ปล่อยที่ด้านหลัง เหมือนหมึกยักษ์เกาะอยู่ที่ด้านหลังของฉินจุน
“พี่เขย!”
ฉินจุนเอือมระอา “เธอเหมือนตัวอะไรเนี่ย รีบลงไปเลยนะ!”
“ไม่ลง!ถ้าคุณไม่ยอมตกลงช่วยฉัน ฉันจะบอกพี่สาวฉันว่าคุณลวนลามฉัน รังแกข่มเหงฉัน เพราะอย่างไรก็ตามฉันมีรูปที่คุณจูบฉันอยู่!”
ฉินจุนส่งเสียงอย่างไม่พอใจ “ถ้าอย่างนั้นก็ไปบอกสิ”
เรื่องของเขากับเฉินหยวนนั้นเป็นเรื่องโกหก เขาไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว ยัยเด็กผู้หญิงคนนี้คิดจะบีบบังคับเขาเหรอ? ช่างน่าตลกสิ้นดี