ตอนที่ 539: บดขยี้โดยตรง
หุบเขามังกรก็ไม่ใช่อะไรอื่น แต่เป็นอาณาเขตเหมือนกับรังฟีนิกซ์ เพียงแต่หุบเขามังกรไม่ได้ตั้งอยู่ที่โลกวิญญาณ แต่อยู่ในโลกสวรรค์ ซึ่งถือว่าต่างกันคนละโลก ไม่ใช่ที่ที่จะอยู่ด้วยกันได้
ยังไงก็ตาม สายเลือดเทพมังกรที่อี้เทียนหยุนแสดงออกมานั้น ทําให้พวกเขารู้สึกตกใจจริงๆ กับสายเลือดที่บริสุทธิ์ขนาดนั้น น่ากลัวว่าจะมีแต่ที่หุบเขามังกรที่เดียวเท่านั้นถึงจะมีได้? แต่ความจริงกลับไม่ใช่อย่างนั้น เพราะว่าอี้เทียนหยุนไม่ได้เป็นคนจากหุบเขามังกร
แต่แม้ว่าเขาจะบอกแบบนั้น แต่ก็ไม่มีใครที่จะเชื่อคําพูดของเขา สายเลือดเทพมังกรที่บริสุทธิ์ขนาดนั้น นอกจากหุบเขามังกรแล้ว ยังจะมีจากที่อื่นอีกได้ยังไง?
ทั้งพลังนั้นยังทําให้ป้าหลงถึงกับหน้าถอดสี ตัวเขาถูกซัดอย่างน่าเกลียด ถูกสะกดเอาไว้โดยสมบูรณ์ ไม่สามารถแสดงพลังของตนออกมาได้ นอกจากว่าคนที่เผชิญหน้าต้องไม่ใช่อี้เทียนหยุน หรือไม่งั้นก็ต้องกําจัดสายเลือดมังกรในร่างทิ้งไป ไม่อย่างนั้น เขาก็จะต้องถูกสะกดเอาไว้อย่างนี้ ไม่สามารถแสดงพลังของตนออกมาได้
“เจ้าจะต้องมาจากหุบเขามังกรอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะไปมีสายเลือดเทพมังกรที่บริสุทธิ์ขนาดนั้นได้ยังไง!” ป้าหลงลุกขึ้นมา พร้อมกับจ้องมาที่อี้เทียนหยุนอย่างเย็นชา แต่ทว่าในใจกลับเกิดอาการสั่นสะท้าน
“ใช่แล้วทําไม ไม่ใช่แล้วทําไม?” อี้เทียนหยุนไม่สนใจกับคําถามของเขา ต่อให้จะเข้าใจผิดว่า เขามาจากหุบเขามังกร เขาก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาอะไร
อย่างมากก็แค่ทําให้หุบเขามังกรเสียชื่อ ซึ่งเขาก็คงทําได้เพียงเอ่ยขอโทษเท่านั้น จะดีจะร้ายยังไง ตัวเขาในตอนนี้ก็ใช้ใบหน้าปลอมอยู่ ดังนั้นจึงไม่จําเป็นต้องกังวลว่าจะถูกจําได้ หากแดน ศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงคิดว่าเป็นการรุกรานจากหุบเขามังกรจริง งั้นก็ให้หุบเขามังกรรับเผือกร้อนนี้ไป แทนก็แล้วกัน
“แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงของพวกเขาไม่เคยหาเรื่องอะไรเจ้า แล้วทําไมเจ้าถึงทําอย่างนี้!” ป้าหลงถามอย่างไม่พอใจ ยังคงยืนยันว่าเขามาจากหุบเขามังกร
“ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่ได้มาจากหุบเขามังกร เจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็เรื่องของเจ้า ไม่เกี่ยวกับข้า เป็นเพราะพวกเจ้าหาเรื่องข้า ข้าจึงต้องทําอย่างนี้” เทียนหยุนเดินเข้าไปทีละก้าว พร้อมกับปลดปล่อยพลังของสายเลือดเทพมังกรออกมาอย่างช้าๆ ทําให้ในใจของป่าหลงสั่นสะ ท้านขึ้นอย่างแรง
ยังไงก็ตาม ป้าหลงก็ไม่ถอย พร้อมกับหยิบโอสถออกมาจากแหวนเก็บของอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะยัดเข้าไปในปาก
หลังจากกินเข้าไป ดวงตาทั้งสองข้างของเขาก็แดงก่ํา ร่างขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพิ่ม ขนาดในพริบตา พร้อมกับพ่นลมหายใจสีขาวออกมา ขณะเดียวกัน ร่างเงามังกรยักษ์ที่ด้านหลังก็ เพิ่มขนาดขึ้นในทันที พร้อมกับแสดงให้เห็นถึงพลังที่แข็งแกร่งขึ้น
โอสถคลั่งเทวะ!
อี้เทียนหยุนจําโอสถนี้ได้ มันสามารถเพิ่มพลังให้กับตน แต่ก็มีผลข้างเคียงที่ใหญ่มากเช่นกัน แต่ขอแค่มันสามารถเพิ่มพลังขึ้นขั้นใหญ่ในช่วงเวลาสั้นๆ แค่นั้นก็พอแล้ว
ภายใต้สภาวะสะกด แต่พลังรบของเขาก็ยังคงระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง
400 ล้าน!
500 ล้าน!
550 ล้าน!
630 ล้าน!
พลังเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง แต่ถ้าจะว่ากันจริงๆ แล้วกลับอ่อนแอมาก หากไม่ใช่เพราะถูก สะกดข่มทางสายเลือดล่ะก็ พลังรบของเขาจะต้องไม่ใช่ตัวเลขนี้อย่างแน่นอน แต่จะเพิ่มขึ้นเป็น 7.8 พันล้าน!
แต่ตอนนี้กลับมีพลังรบเพียงหลักร้อยล้านเท่านั้น ก่อนหน้านี้ตัวเลขระดับหลายล้านก็ถือว่า ท้าทายสวรรค์มากพอแล้ว แต่ตอนนี้ตัวเลขระดับร้อยล้านยังถือว่าธรรมดา นี่คือความแตกต่างระ หว่างระดับยิ่งก้าวไปยังช่วงหลัง ก็จะยิ่งท้าทายสวรรค์ สามารถจิตนาการได้เลยว่า ระดับเจ้าศักดิ์ สิทธิ์นั้นจะมีพลังรบมากขนาดไหน
หากว่าเจ้าศักดิ์สิทธิ์ไม่ร้ายกาจ คนที่ได้ยินชื่อนี้คงไม่ตัวสั่น คาดว่าเพียงกระดิกนิ้ว ก็สามารถบดขยี้ได้ทุกสิ่งแล้ว
“พลังรบ 630 ล้าน โอสถคลั่งเทวะนี้ ให้ผลลัพธ์ที่ดีเลยทีเดียว…”
แม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะดี แต่หลังจากที่หมดฤทธิ์ ก็จะมีผลข้างเคียงตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาที่กินเข้าไปหลายเม็ดด้วยแล้ว บางทีระดับของเขาอาจจะตกลงไปที่ระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 2 ก็เป็นได้ แล้วจากนั้นยังต้องใช้เวลารักษาอาการอยู่หลายปี
ยังไงก็ตาม เขาก็คงจะไม่มีโอกาสนั้น เพราะว่าอี้เทียนหยุนจะไม่ให้โอกาสเขา
“ต่อให้มีสายเลือดเทพมังกร ข้าก็จะจัดการเจ้าให้ได้!”
ป้าหลงร้องคํารามออกมา พร้อมกับทะยานเข้ามาที่นี่อย่างบ้าคลั่ง ความเร็วของเขา หากเทียบกับก่อนหน้าแล้ว เรียกว่าดุดันกว่ามาก แต่ละเท้าที่เหยียบลงไป ต่างก็ทําให้ทุกสิ่งที่ถูกเหยียบ แหลกละเอียด หากเปลี่ยนเป็นข้างนอก ป่านนี้ที่นี่คงถูกเขาเหยียบจนแตกออกเป็นหลุมลึกแล้ว
เมื่อเห็นพลังที่ป่าเถื่อนนี้ ผู้คนก็เริ่มพากันมีกําลังใจขึ้นมา
“ฆ่ามัน ฆ่ามัน! ต้องจัดการมันให้ได้! ต่อให้จะเป็นหุบเขามังกรมาเอง ก็ต้องถูกพวกเราบดขยี้อยู่ดี!”
“ป้าหลงต้าเหริน จัดการมัน แสดงให้มันเห็น ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงของพวกเรา แข็งแกร่งที่สุด
พวกเขาพากันร้องออกมาอย่างตื่นเต้น ดูราวกับพากันฉีดเลือดไก่มายังไงอย่างงั้น พวกเขา พากันติดเชื้อจากท่วงท่าที่ปาเถื่อนนี้ คิดว่าคราวนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องชนะอย่างแน่นอน!
ป้าหลงโจมตีเข้ามาด้วยมือเปล่า แม้ว่าจะไม่มีอาวุธ แต่ด้วยหมัดที่ป่าเถื่อนนี้ ก็เหนือยิ่งกว่า อาวุธทุกชนิด
“แหลกไปซะ!”
ป้าหลงคํารามด้วยความเกรี้ยวกราด พร้อมกับต่อยกําปั้นออกไปนับไม่ถ้วน ร่างเงา มังกรยักษ์ที่อยู่ด้านหลังก็ร้องออกมาคําหนึ่ง ก่อนที่จะหลอมรวมเข้าไปในหมัด เข้าสู่ขอบเขตคน และมังกรหลอมรวมกันในพริบตา
หมัดระเบิดออกมา จนแม้แต่กระทั่งอากาศก็ยังสั่นไหว
นัยน์ตาอี้เทียนหยุนปรากฏลําแสงสีแดงฉานวาบผ่าน เขาไม่หลบการโจมตีนี้ พร้อมกับ ทําการกระทืบเท้าเบาๆ กระโดดขึ้นไปพร้อมกําหมัด ก่อนที่เหวี่ยงกําปั้นออกไปปะทะกับการโจมตีของป้าหลงอย่างรุนแรง
หลังจากผู้คนได้เห็นสิ่งนี้ ในตาก็เผยร่องรอยแห่งความดูถูก ปะทะหมัดกับป้าหลงอย่างหักโหม นี้เท่ากับรนหาที่ตาย!
“เปรี้ยง!”
หมัดต่อหมัดปะทะกัน ขณะที่หมัดทั้งสองชนเข้าด้วยกันอย่างแรง ก็ก่อให้เสียงดัง “แกรก” ที่ น่าสยองขวัญออกมา เป็นเสียงที่ดังมาจากแขนของป้าหลง พร้อมกับเลือดที่ฉีดพุ่งออกมาไม่หยุด สาดกระจายออกรอบๆ ย้อมพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นสีชมพูอ่อน ขณะเดียวกัน ป้าหลงก็หน้าเปลี่ยนสี ก่อนที่จะกระเด็นออกไป พร้อมกับกลิ้งอยู่หลายสิบตลบ ก่อนที่จะค่อยๆหยุดลง
ทั่วทั้งแขนของเขาแตกหัก เกล็ดมังกรที่อยู่ข้างบนก็ร่วงหล่นลงมาก ดูแล้วสภาพน่าสังเวชสุดๆ
ส่วนทางด้านอี้เทียนหยุนกลับไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย ยังคงอยู่ในท่าต่อยหมัดออกไปด้วยท่าทางสบาย พลังที่กดขี่นี้ ทําให้ผู้คนต้องสูดหายใจเฮือก นี่ยังเป็นพลังของคนอยู่อีกเหรอ? ป้าหลงที่กินโอสถคลั่งเทวะเข้าไป ยังด้อยกว่าผู้บุกรุกคนนี้อีกหรือไง?
“พลังก็ดีอยู่หรอก แต่ว่ายังอ่อนไปอยู่ดี” อี้เทียนหยุนเก็บหมัดคืนมา ราวกับไม่มีเรื่องมีราวอะไร “ในเมื่อใช้พลังออกมาจนหมดแล้ว ก็ได้เวลาจบสักที”
ร่างของอี้เทียนหยุนกระพริบวาบ พร้อมกับไปโผล่อีกทีที่ตรงหน้าของป้าหลง ก่อนที่จะยกเท้า เหยียบเขาไว้ พร้อมกับเริ่มดูดกลืนพลังวิญญาณในร่างของเขาออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขาจะไม่ยอม ให้พลังวิญญาณในร่างของป่าหลงเสียเปล่า จําเป็นต้องดูดออกมา พลาดไม่ได้เด็ดขาด
โดยที่เขาไม่รอให้เขาได้ดูดนาน หมิงเฉินก็หมุนตัววิ่งหนีออกไปจากที่นี้อย่างไม่คาดคิด เขาต้องการหนีไปจากพื้นที่แห่งนี้ เพื่อช่วยให้อี้เทียนหยุนผ่านบททดสอบนี้ไป
คิดไม่ถึงว่าหมิงเฉินจะเลือกหลบหนีไป นี่ถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างมาก ในใจหมิงเฉินก็ไม่ อยากทําอย่างนี้เหมือนกัน แต่ขนาดป้าหลงยังถูกจัดการ แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่าป้าหลง แต่ให้จัดการป่าหลงอย่างสบายอย่างนั้น เขาถามตัวเองดูแล้วว่าสามารถทําอย่างนี้ได้ไหม ก็ได้คําตอบว่าไม่มีทางอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ เขายังจําเป็นต้องต่อต้านให้มันได้อะไร?
“คิดหนี?” อี้เทียนหยุนสายตาเย็นชา หมิงเฉินเป็นเป้าหมายที่เขาต้องฆ่าอย่างแน่นอนแล้ว อย่างนี้จะปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปได้ได้ยังไง
ภายใต้การชี้นิ้วของเขา โล่คุ้มกันที่ไร้เทียมทานบนร่างหมิงเฉินก็หายไป นั่นหมายความว่าสามารถโจมตีได้แล้ว สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้
ในสายตาหมิงเฉินมีแสงเย็นชาวาบผ่าน พร้อมกับที่มุมปากหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มชั่วร้ายราวกับว่าได้คาดการไว้อยู่แล้ว