ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันอยู่นั้น อี้เทียนหยุนก็ได้ตบฝ่ามือลงไป ทันใดนั้น อักขระที่อยู่บนกล่องก็แตกออก ทำให้ผู้ชมพากันตกใจ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป
วาดอักขระ จากนั้นก็ทำลายอักขระทั้งหมด นี่ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจจริงๆ! เกือบจะพริบตาก็ทำลายทำเสร็จ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน
นักสลักอาคมคนอื่นต้องใช้เวลานานเพื่อที่จะทำลายมัน บ้างก็ใช้เวลามากถึงหลายชั่วยาม แต่ก็ไม่ส่งผลแม้แต่น้อย แต่อี้เทียนหยุนกลับใช้เวลาไม่ถึงช่วงธูปไหม้หมดดอก ก็ทำลายสำเร็จ ความต่างนี้มันช่างใหญ่มากจริงๆ!
ในมือผู้อื่น อักขระเหล่านี้เทียบได้กับระดับผู้สร้าง แต่เมื่ออยู่ในมืออี้เทียนหยุน มันกลับเท่ากับชั้นที่ 5 อย่างแท้จริง สามารถทำลายทิ้งได้อย่างสบาย
ความเร็วนี้น่าสะพรึงจนทำให้พวกเขาต้องตกตะลึง ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
“นี่ นี่เป็นไปได้ยังไง ทำลายได้แล้วจริงๆ เหรอ?” ปรมาจารย์เทียนชิงตกใจ นี่เทียบได้กับการตบหน้าเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ก่อนหน้านี้เขาได้บอกไว้ว่า หากว่าใครสามารถทำลายอักขระบนกล่องนี้ได้ จากนี้ไปเขาจะเดินกลับหลัง!
และไม่ต้องให้เขารอนาน คำพูดของเขาก็ถูกเติมเต็มสำเร็จ
“ฮ่าๆๆ สมแล้วที่เป็นพี่ใหญ่ของพวกเรา พริบตาก็เปิดได้แล้ว เจ้าหนู เมื่อกี้นี้ใครที่บอกว่าพวกเราจะเปิดไม่ออก?” หยางจื้อเหวินกับพวกพากันหัวเราะ ที่จริงในใจพวกเขาก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน แต่เมื่อเห็นอี้เทียนหยุนทำได้ พวกเขาก็พากันตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็พากันโห่ร้องออกมา
สมกับที่เป็นพี่ใหญ่ของพวกเขาจริงๆ ร้ายกาจมาก!
สีหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นแดงก่ำเหมือนตับหมู อยากจะโต้กลับไป แต่ก็ไม่รู้ว่าจะตอกกลับยังไง กล่องเปิดให้เห็นอยู่ทนโท่ แล้วอย่างนี้เขายังจะปฏิเสธอะไรได้อีก?
จากนี้ไป คนที่ถูกเรียกว่าปรมาจารย์ ได้มีเพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้ว!
“เปิดได้แล้วจริงๆ?” เถ้าแก่เย่พุ่งเข้ามาราวกับพายุ พร้อมกับรับกล่องในมืออี้เทียนหยุนไปอย่างรีบร้อน จากนั้นก็ตรวจสอบอักขระบนกล่องอย่างระวัง เมื่อตรวจดูก็พบว่าไม่มีอักขระเหลืออยู่บนกล่องแล้ว จะเหลือก็เพียงกล่องเปล่าๆ ที่สามารถเปิดขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
“เถ้าแก่เย่ ท่านสามารถเปิดดูได้” อี้เทียนหยุนบอกให้เถ้าแก่เย่ลองเปิดดู
เถ้าแก่เย่เปิดสลักบนกล่อง จากนั้นก็ค่อยๆ เปิดฝากล่องขึ้นอย่างช้าๆ ตามมาด้วยกลิ่นอายเปลวเพลิงที่ซึมผ่านออกมาจากข้างใน เถ้าแก่เย่รีบปิดกล่องลงทันที ทำให้ไม่สามารถเห็นได้ว่าข้างในมีอะไรอยู่
อี้เทียนหยุนก็เห็นไม่ชัดเช่นกัน ฝากล่องเปิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ใครมันจะไปมองเห็น? เขาเชื่อว่าแม้แต่ตัวเถ้าแก่เย่เองก็มองไม่เห็นเช่นกัน แต่จากกลิ่นอายที่ส่งออกมา ก็พอจะรู้ได้ว่าของข้างในนั้น จะต้องเป็นสมบัติที่มีพลังธาตุไฟที่แข็งแกร่งมากอย่างแน่นอน
เปลวไฟที่ปล่อยออกมา ดูแล้วทั้งป่าเถื่อนและไม่ธรรมดา เพียงแค่กลิ่นอายนี้โผล่ออกมา เถ้าแก่เย่ก็รีบปิดกล่อง แต่ถึงอย่างนั้น กลิ่นอายที่ปล่อยออกมาก็ทำให้เขาสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นกลิ่นอายของเปลวเพลิง
เพลิงฟีนิกซ์ : เปลวเพลิงระดับปฐพีขั้นสูงสุด, สามารถแผดเผาได้ทุกสิ่ง, และสามารถทำให้ฟีนิกซ์คืนชีพขึ้นมาด้วยเปลวเพลิงนี้, เปิดใช้งานสภาวะเพลิงอมฤทธิ์!
พริบตา ดวงตาประเมินก็วิเคราะห์เปลวเพลิงนี้ออกมาได้ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเพลิงฟีนิกซ์ ช่างทำให้เขารู้สึกตกใจจริงๆ ในกล่องเล็กๆ ใบนี้ ถึงกลับผนึกเพลิงฟีนิกซ์ไว้ บางที นี่อาจจะเป็นสมบัติที่เกี่ยวข้องกับเพลิงฟีนิกซ์ก็เป็นได้
แต่ว่าน่าเสียดายที่เถ้าแก่เย่ปิดกล่องเร็วเกินไป ดังนั้นอี้เทียนหยุนจึงมองไม่เห็นว่าของข้างในเป็นอะไร แต่รู้ว่าจะต้องเป็นของดีมากอย่างแน่นอน ภายใต้กล่องที่ปิดผนึกอย่างแน่นหนาขนาดนั้น หากว่าเปิดออกมาแล้วเป็นแค่ของธรรมดา คงได้มีกระอักเลือดกันบ้างล่ะ
“เจ้าเปิดมันได้จริงๆ ข้าดูคนไม่ผิดเลย!” เถ้าแก่เย่ตื่นเต้นอย่างมาก บนใบหน้าแก่ๆ ของเขามีสีแดงขึ้นหลายส่วน แสดงให้เห็นว่าเขาตื่นเต้นขนาดไหน
“เหมือนว่าเถ้าแก่เย่จะรู้ว่าข้าสามารถเปิดกล่องได้?” อี้เทียนหยุนไม่รู้ว่าตนจะเปิดได้ไหม แต่คิดว่าต้องลองดูก่อน แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะเปิดได้จริงๆ
ถึงยังไงก็มีนักสลักอาคมที่นี่หลายคนพยายามเปิดก็เปิดไม่ออก ไม่รู้ว่าเพราะความชำนาญในการสลักอาคมต่ำเกินไป หรือเพราะใช้ไม่ถูกวิธี แต่หากเป็นเพราะว่าวิธีไม่ถูกต้อง ต่อให้จะทำยังไงก็ไร้ประโยชน์
“ข้าคิดว่าเจ้าคงเปิดได้…. ในบรรดาคนมากมายที่มา เจ้าเป็นคนแรกที่ข้าไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าอยู่ระดับไหน แต่สัญชาตญาณของข้าบอกว่าเจ้าต้องไม่ธรรมดา” เถ้าแก่เย่พูดด้วยท่าทางมีความสุข พร้อมกับชี้ไปยังอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์สองชิ้นนั้นแล้วพูดว่า “อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์พวกนี้เป็นของเจ้าแล้ว ตามข้าไปที่ร้าน ข้าจะได้มอบหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณให้กับเจ้า!”
“งั้นก็ต้องขอบคุณมาก” อี้เทียนหยุนยิ้ม พร้อมกับรับอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์สองชิ้นนั้นมา
ปู๋เยี่ยนที่อยู่ใกล้ๆ ก็มองอี้เทียนหยุนด้วยท่าทางสงสัย อายุก็ไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่ แต่ทำไมถึงได้เปิดกล่องนี้ได้กัน?
“หรือจะเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่า?” ปู๋เยี่ยนสงสัยสุดๆ
จากนั้น เถ้าแก่เย่ก็นำพวกเขาจากไป แต่ในขณะที่กำลังจากไปนั้น อี้เทียนหยุนก็ได้ถูกปรมาจารย์เทียนชิงมาขวางไว้ พร้อมกับถามขึ้นว่า “เจ้าทำได้ยังไง?”
“ทำได้ยังไง? ที่ข้าทำเมื่อกี้ เจ้าไม่ได้ดูเหรอ?” อี้เทียนหยุนพูดเบาๆ “เอาล่ะ อย่าได้ลืมคำพูดเมื่อก่อนหน้าของตน จำไว้ว่าจากนี้ไปเจ้าต้องเดินกลับหลัง”
บางครั้งก็ไม่สามารถพูดออกมาพล่อยๆ ได้ เพราะมันจะทำให้ตนเองต้องอับอาย
“เจ้าหนูนี่ แกรู้ไหมว่าข้าเป็นใคร!” ในใจปรมาจารย์เทียนชิงโกรธอย่างมาก เตรียมจะใช้ฐานะของตนเข้าข่ม
“ไสหัวไป!” เถ้าแก่เย่มองเขาอย่างเย็นชา กล่องก็เปิดไม่ได้ แล้วยังจะมาหาเรื่องอีก นี่จึงทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
ปรมาจารย์เทียนชิงพลันสูญเสียคำที่จะพูดในทันที แม้จะรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก แต่ก็ต้องเห็นแก่ความแข็งแกร่งของเถ้าแก่เย่ผู้นี้ ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงสะกดความโกรธของตนเอาไว้ พร้อมกับเดินจากไป แต่ว่าเขาไม่ได้เดินกลับหลังจริงๆ เพราะนี่จะเป็นการเสียหน้าอย่างแท้จริง
เขาเดินจากไปด้วยสีหน้าดำคล้ำ รอบๆ มีผู้ฝึกตนอยู่มากมาย เรื่องนี้เชื่อว่าจะต้องถูกกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายคนรู้ว่า ปรมาจารย์เทียนชิงผู้นี้ ได้พ่ายแพ้ต่อเด็กหนุ่มไร้ชื่อคนหนึ่ง!
อี้เทียนหยุนกับพวกพากันกลับไปที่ร้านพร้อมเถ้าแก่เย่ ที่นี่ยังคงไม่ต่างจากตอนที่ออกมา ไม่มีใครกล้าเข้ามาขโมยของที่นี่ เพิ่งจะเข้ามา อี้เทียนหยุนก็ส่งอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์สองชิ้นนี้ให้กับพวกเริ่นเหลียงเฉิน แล้วพูดขึ้นว่า “อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์สองชิ้นนี้พวกเจ้าเก็บเอาไว้ มันพอจะมีส่วนช่วยต่อพวกเจ้าอยู่บ้าง”
“นะ นี่…. พี่ใหญ่ไม่ใช้เหรอ?” พวกเริ่นเหลียงเฉินตกใจ ไม่คิดว่าอี้เทียนหยุนจะมอบอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์สองชิ้นนี้ให้
หลังจากเถ้าแก่เย่ที่อยู่ใกล้ๆ ได้เห็น ก็พลันแสดงสายตาประหลาดใจออกมา อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นต่ำสำหรับเขา แม้ว่าจะไม่ใช่ของล้ำค่า แต่ก็ถือว่าเป็นของที่ดีมากอย่างหนึ่ง อย่างน้อยสำหรับผู้ฝึกตนที่มีระดับค่อนข้างต่ำ ก็เป็นของที่ได้แต่เฝ้าฝันถึง
แต่ตอนนี้อี้เทียนหยุนกลับส่งให้กับเริ่นเหลียงเฉินอย่างง่ายๆ หากไม่เป็นเพราะให้ความสำคัญกับพวกเขาอย่างมาก ก็เป็นเพราะของไม่ถูกใจเขา!
“สหายน้อย ไม่ทราบว่าเจ้าชื่ออะไร?” ในตอนนี้เอง เถ้าแก่เย่ก็ได้ถามชื่อเขาออกมา แสดงให้เห็นว่าเขาได้ให้การยอมรับต่ออี้เทียนหยุนแล้ว
สามารถได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณ ถือเป็นเรื่องที่หาได้ยากจริงๆ
“อี้เทียนหยุน” อี้เทียนหยุนบอกชื่อจริงออกไป ถึงยังไงที่นี่ก็ไม่มีใครรู้จักชื่อของเขา ดังนั้นถึงบอกออกไปก็ไม่เป็นไร
“อี้เทียนหยุน…. อี้เทียนหยุน…. ยอดเยี่ยม ข้าจะจำชื่อเจ้าไว้ ครั้งนี้เจ้าช่วยข้ากำจัดเรื่องยุ่งยากที่มีมาหลายปี โดยที่ไม่มีใครสามารถช่วยข้าได้” เถ้าแก่เย่พูดด้วยความขอบคุณ “ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงมีของจะมอบให้เจ้าอีก!”
อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณจะมอบของให้ แน่นอนว่าเขาย่อมไม่มีทางพลาด