CLS ตอนที่ 245: ของดี!
“ท่านประมุข ท่านกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” เมื่อพวกผู้อาวุโสใหญ่เห็นอี้เทียนหยุนกลับมาก็พากันคลายใจลงทันที
โชคดีที่อี้เทียนหยุนกลับมาทันเวลา ไม่อย่างนั้นคงต้องเกิดปัญหาขึ้นแน่ๆ การหายตัวไป แม้ว่าจะไม่ได้ทำอะไร แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะทำให้ชื่อเสียงเสียหายอยู่ดี
“เพิ่งจะกลับมาเมื่อกี้นี้แหละ ดีที่กลับมาทัน ไม่อย่างนั้นคงเกิดปัญหาใหญ่”
อี้เทียนหยุนรู้สึกเย็นสันหลังวาบ ถ้ามาแล้วไม่เจอเขา มันจะต้องเป็นปัญหาอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ถ้ามีคนจับได้ว่าเขาออกไปข้างนอก มันก็จะเป็นปัญหาเช่นเดียวกัน ที่นี่มีคนจับตามากมาย ถ้าไม่เจอเขา นั่นก็หมายความว่าเขามีความสามารถในการหลบหลีกที่ดีเยี่ยม
ส่วนเรื่องที่ว่าเขาจะก่อเรื่องอะไรไหมนั้น อาณาจักรใต้พิภพคงจะไม่สนใจ ทั้งยังจะทำการสอบสวนพร้อมกับทรมานเขาอย่างหนักแน่นอน ยิ่งตอนนี้เฉิงเฟิงมาตายไปด้วยแล้ว ปัญหาจะต้องมากขึ้นอย่างแน่นอน
“แล้วท่านประมุขออกไปทำอะไรมาอย่างงั้นเหรอ?” ผู้อาวุโสใหญ่แอบถามขึ้น
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้” อี้เทียนหยุนยิ้ม จากนั้นก็เดินเข้าไปยังห้องนอน “ข้าจะพักผ่อนแล้ว ถ้ามีเรื่องอะไรค่อยเรียกข้าแล้วกัน”
พวกเขาพากันมองหน้ากันด้วยสีหน้าว่างเปล่า ไม่รู้ว่าอี้เทียนหยุนจะทำให้ลึกลับไปทำไม แต่เมื่อเขาไม่อยากบอก พวกเขาก็ลำบากใจที่จะถามเช่นกัน
เมื่ออี้เทียนหยุนเข้ามาในห้องก็หามุมนั่งสมาธิ แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะนอน แต่เลือกที่จะฝึก หลังจากนั่งสมาธิ เขาก็เปิดใช้งานบัตรเลื่อนระดับก่อแกนวิญญาณขึ้นมา ถ้าไม่มีระดับมาถึงขั้นนี้ มันก็ไม่มีความหมายที่จะใช้
“ใช้บัตรเลื่อนระดับ!”
“ติ๊ง ท่านใช้บัตรเลื่อนระดับสำเร็จ!”
“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้เข้าสู่ระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 1!”
ในพริบตานี้ อี้เทียนหยุนก็สัมผัสได้ถึงพลังที่เหยียบย่างเข้าสู่โลกใหม่ และเมื่อเขาลองควบคุมพลังวิญญาณดู เขาก็พบว่าเขาในตอนนี้สามารถบินได้แล้ว
และตอนนี้ ถ้าเขาใช้ปีกฟินิกซ์ มันก็จะเป็นการแสดงพลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา ทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า!
“มาลองดูพลังรบกันดีกว่า ว่าจะอยู่ที่เท่าไหร่…..”
อี้เทียนหยุนตรวจดูพลังรบของตนเอง ตอนอยู่ในระดับก่อแกนวิญญาณขั้นที่ 9 พลังรบของเขาอยู่ที่ประมาณ 500,000 ตัวเลขนี้ถือว่าค่อนข้างต่ำ แต่ยังไงก็ตาม ยามต่อสู้ แน่นอนว่าพลังรบต้องเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะมาจากอาวุธ เครื่องป้องกัน รวมถึงวิชายุทธ์ด้วย
เมื่อรวมพลังทุกอย่างเข้าด้วยกัน ตัวเลขที่แสดงออกมาย่อมน่าสะพรึง ยังไงก็ตาม โหมดคลั่งย่อมเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดพลังรบ ดังนั้น ถึงต่อให้อาวุธจะท้าทายสวรรค์ขนาดไหน แต่ถ้าระดับพลังไม่มากพอ ก็ไม่สามารถระเบิดพลังทั้งหมดออกมาได้
ระดับก่อแกนวิญญาณขั้นที่ 9 มีพลังรบประมาณ 500,000 ส่วนระดับก่อแกนวิญญาณขั้นสูงสุด เหมือนว่าจะอยู่ประมาณ 550,000 เพิ่มขึ้นประมาณ 1 แสน สามารถจินตนาการได้เลยว่าพลังรบหลายแสนนี้ เมื่อเพิ่มขึ้นอีก 8 เท่า มันจะน่าสะพรึงขนาดไหน
ส่วนระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 1 ยิ่งน่าสะพรึงขึ้นไปอีก เพราะตัวเลขพลังรบของเขามีถึง 800,000!
อยู่ๆ ก็เพิ่มขึ้นมา 250,000 นี่เหมือนกับการก้าวกระโดดชัดๆ นี่ทำให้เขาต้องสูดลมหายใจเฮือก ไม่แปลกที่เฉิงเฟิงที่ไม่สวมเครื่องป้องกันอะไรเลยนั้นจะมีพลังรบมากถึง 2 ล้าน ถ้าดูจากระดับผันแปรวิญญาณที่แต่ละขั้นจะเพิ่มพลังรบให้มากถึงขั้นละ 2-3 แสนเป็นอย่างน้อย เมื่อมาถึงระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 5 พลังรบที่มีย่อมมากกว่า 2 ล้านเป็นธรรมดา
ไม่แปลกที่บอกว่ายิ่งระดับสูง การต่อสู้ข้ามระดับยิ่งเป็นเรื่องยาก ที่แท้ความต่างของพลังรบแต่ละขั้นก็น่าสะพรึงขนาดนี้นี่เอง ยิ่งระดับต่าง ยิ่งมีช่องว่าง เป็นช่องว่างที่ไม่สามารถข้ามไปได้ นอกเสียจากจะเติมเต็มด้านอาวุธ ติดอาวุธที่แข็งแกร่งพร้อมกับค่ายกล ถึงจะมีสิทธิ์เพิ่มพลังรบขึ้นหลายแสนได้ในพริบตา ดังนั้น นี่จึงเป็นแกนหลักในการต่อสู้ข้ามระดับ
ทั้งยังมีเม็ดยาต่างๆ ที่ช่วยทำให้ความต่างของพลังรบของทั้งสองฝ่ายกระเถิบใกล้เข้ามาได้อย่างรวดเร็ว
“พลังรบ 800,000 ถ้าใช้โหมดคลั่งก็จะเป็น…..” อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย ตอนนี้พลังของเขาสามารถสะกดข่มเฉิงเฟิงได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่พลังเดิมๆ ของเขาก็ปะทุขึ้นเป็น 6,400,000 แล้ว นี่ถึงจะเรียกว่าน่าสะพรึงของจริง!
เพราะอย่างนี้ระดับจึงสำคัญมาก ยิ่งระดับสูง พลังที่ระเบิดออกมายิ่งแข็งแกร่ง
“เรื่องนี้เอาไว้ก่อน ตอนนี้มาเปิดกล่องของขวัญเลเวล 41 ดูดีกว่าว่ามีอะไรอยู่ข้างใน!”
ที่อี้เทียนหยุนสนใจในตอนนี้ก็คือกล่องของขวัญเลเวล 41 ของสิ่งนี้แต่ละครั้งล้วนให้แต่ของดี ซึ่งครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
“ติ๊ง ท่านเปิดกล่องของขวัญเลเวล 41 สำเร็จ ได้รับบัตรค่าประสบการณ์ 30 เท่า, บัตรค่าความชำนาญ 5 เท่า, บัตรค่าความคลั่ง 5 เท่า, บัตรค่าความชั่ว 2 เท่า, กล่องของขวัญเลเวล 51, ได้เรียนรู้ความชำนาญในการจับสัตว์ขั้นพื้นฐาน!”
บัตรค่าประสบการณ์กองใหญ่ระเบิดออกมา ยิ่งกว่านั้นยังมีความชำนาญในการจับสัตว์อีก!
ความชำนาญในการจับสัตว์ขั้นพื้นฐาน: นอกจากคนแล้ว สามารถจับสิ่งมีชีวิตอะไรก็ได้มาเป็นสัตว์เลี้ยง ยิ่งเลเวลสูง โอกาสในการจับได้ยิ่งสูง โอกาสในการจับสัตว์ระดับสูงยิ่งสูงตาม
“ที่ควรจะมาก็ต้องมา…..”
สัตว์เลี้ยงของเขามีน้อยมาก ซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่แค่ 2 ตัว หนึ่งคือหมาป่าหิมะ และอีกหนึ่งคือมังกรดำ ซึ่งทั้งสองตัวต่างก็แข็งแกร่งมาก แต่ถึงยังไงก็น้อยไปอยู่ดี ซึ่งตอนนี้เขาได้ความสามารถในการจับสัตว์มาแล้ว ทำให้เขาสามารถไปไล่จับสัตว์อสูรมาเป็นสัตว์เลี้ยงได้ตามใจ
นี่ก็เหมือนกับนักฝึกสัตว์ แต่พวกเขาจำเป็นต้องฝึกสัตว์อสูรตั้งแต่ยังเด็ก จากนั้นถึงจะสามารถเอามาเป็นคู่หูของตนได้ พร้อมทั้งเติบโตไปด้วยด้วยกัน แต่นี่มีความยากสูงมาก ทำให้คนที่ประสบความสำเร็จมีแค่บางคนเท่านั้น
ซึ่งทั้งหมดนี้ ส่วนใหญ่จำเป็นต้องเลี้ยงตั้งแต่สัตว์อสูรยังเด็ก ทำให้จำนวนยิ่งน้อยลงไปอีก เป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถควบคุมได้หลายๆ ตัว
แต่กับอี้เทียนหยุนที่มีความสามารถจับสัตว์นั้นต่างกัน เมื่อจับมาได้เขาสามารถเอามาใช้ได้เลย! นี่หมายความว่า ขอแค่สัตว์อสูรตัวไหนเข้าตา เขาก็สามารถเข้าไปจับมัน จากนั้นก็ใช้ให้มันเป็นยามเฝ้าประตูได้!
“ไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ กล่องของขวัญเลเวล 41 นี้ช่างมีแต่ของดีจริงๆ…. ไม่รู้ว่ากล่องของขวัญระดับถัดไปจะให้อะไรออกมา?” อี้เทียนหยุนเต็มไปด้วยความคาดหวัง
จากนั้นเขาก็เปิดลอตเตอรี่แบบปรับปรุงขึ้นมา ก่อนหน้านี้เขาได้สิทธิ์ในการสุ่มลอตเตอรี่แบบปรังปรุงมาครั้งหนึ่ง เพื่อไม่ให้เสียเปล่า หลังจากเปิดโชคดีขึ้นมา เขาก็รีบหมุนลอตเตอรี่อย่างรวดเร็ว
“ครั้งนี้จะเป็นอะไรก็ได้ เพราะข้าได้ของที่ข้าต้องการมาหมดแล้ว!”
อี้เทียนหยุนคิดได้อะไรมาก็ไม่สำคัญ ถึงยังไงก็เป็นของดีอยู่แล้ว
อย่างรวดเร็ว ลอตเตอรี่แบบปรับปรุงก็ได้หยุดลง หยุดลงตรงหมวดอาวุธ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสุ่มได้อาวุธออกมา จากนั้นเสียง “ติ๊ง” ก็ดังออกมา พร้อมกับกล่องหยกหล่นลงมา หลังจากเปิดออก เขาก็พบกับอาวุธที่สุ่มได้มา
คันศรน้ำค้างแข็งเทวะ : ศาสตราจิตวิญญาณขั้นสูง(สามารถอัพเกรดได้) สามารถปล่อยศรน้ำค้างแข็งออกไปแช่แข็งศัตรูได้ ระยะทางขึ้นอยู่กับระดับ, ท่าพิเศษ : เผาผลาญค่าความคลั่ง 5,000 แต้ม, ทำให้พลังเพิ่มขึ้นสองเท่า, ความเร็วเพิ่มขึ้นสองเท่า, เพิ่มระยะสูงสุดของศรน้ำค้างแข็งขึ้นสองเท่า, ครอบคลุมทุกสิ่งในระยะ 1 ลี้!
“ของดี!”
อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย จากนั้นก็ลุกขึ้นพร้อมกับลองน้าวศรดู จากจุดที่เขาอยู่ ทำให้เขาสามารถเด็ดหัวศัตรูที่อยู่ข้างนอกในระยะ 1,000 ลี้ได้ นี่มันวิถีราชันชัดๆ!
มู่เซียนเอ๋อกับพวกพากันมองมาที่นี่ เมื่อเห็นอี้เทียนหยุนกำลังหัวเราะก็พากันเผยสีหน้าแปลกๆ ออกมา นี่คือประมุขของพวกเธอจริงๆ อย่างงั้นเหรอ?