สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ต่อให้พวกเขาเปิดปาก คนของตระกูลลู่ก็ไม่มีทางยอม ในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่เอยปากเป็นการดีกว่า
” นี่คือสัญญาที่ตระกูลฮอร์ตันพึ่งจะเขียนขึ้นมาใหม่ ตามความต้องการของประธานลู่ สี่ต่อหก”
ซีซานหยิบสัญญาขึ้นมาอีกครั้ง แล้วพูดอย่างกดฟันแน่น
แต่ว่า……
ลู่จิ้นยวนมองสัญญาที่อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าที่ยิ้มนิดๆ เหลียบตามองแววเดียวแล้วละสายตาออกไป เอนหลังพิงเก้าอี้ จากนั้นหลับตาอย่างกับกำลังใช้สมาธิ
ท่าทางละเลยไม่สนใจนี้ ทำให้คนอย่างซีซานโกธรมาก
“ ประธานลู่ นี้คุณหมายความว่าอย่างไร ” เขาระงับความโกรธไว้
อันเฉินที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้้นอย่างเป็นทางการด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ ” คุณชายซีซานครับ สิ่งที่ท่านประธานของเราหมายถึงก็คือ ผลประโยชน์สี่ต่อหกที่คุณพูดเมื่อกี้ไม่ถูกต้อง ”
” ไม่ถูกต้องอะไร นี่ไม่ใช่ความต้องการที่พวกคุณร้องขอเองเหรอ ” ซีซานพูดอย่างร้อนรน
สีหน้าของอันเฉินไม่เปลี่ยน ค่อยๆพูดอย่างสุภาพ ” สี่หก เป็นความต้องการขัันต่ำของตระกูลลู่ก็จริง แต่ นี้เป็นความต้องการก่อนการแข่งขัน ”
ซีซาน “… ”
ใบหน้าที่แข็งทื่อของเขา คนที่นั่งอยู่ในนี้ ไม่มีใครโง่
เขาตระหนักถึงความหมายของอันเฉินที่พูดนั้นหมายความว่ายังไง สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ดูน่าเกลียดจนสามารถแข่งกับซอมบี้ได้เลย ดวงตาจ้องไปที่อันเฉินอย่างกับจะกลืนกินคน
แต่อันเฉินก็ไม่ได้สนใจอะไร ไม่รอให้พวกเขาเปิดปาก แล้วพูดต่อ
“บริษัทตระกูลลู่ของเรา มีสาขามากมายในแต่ละประเทศ งานและเวลาค่อนข้างที่จะแน่น ดังนั้น ท่านประธานของเรางานยุ่งมาก เวลาแต่ละวันนั้นถูกจัดวางไว้เรียบร้อยและแน่นมาก ”
” และในครั้งนี้ เนื่องจากการมาเยืยนและการร่วมมือกับตระกูลฮอร์ตัน ท่านประธานของเราจึงได้เบียดเวลาออกมาเกือบหนึ่งอาทิตย์ เพื่อการต้อนรับพวกท่านเป็นพิเศษ ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ อันเฉินจ้องมองไปที่พวกเขา เลิกคิ้วแล้วพูดต่อ ” เดิมที การร่วมมือครั้งนี้ สามารถเจรจาตกลงกันได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ แต่คุณชายซีซานกับต้องการมีการแข่งขันบ้าบออะไรนี้ขึ้น”
“คุณชายซีซานทำให้การจัดเวลาของท่านประธานเรานั้นวุ่นวายไปหมด ทางเราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ตอนนี้การแข่งขันจบลง แล้วยังจะใช้ข้อตกลงการเจรจาของก่อนหน้านั้นมาเซ็นสัญญากัน มันจะเป็นกันมองข้ามกันไปหน่อยไหมครับ”
ขณะที่อันเฉินพูด ยังเน้นปากขึ้นเล็กน้อย ” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแข่งขันครั้งนี้ทางเรายังเป็นผู้ชนะอีกด้วย ”
ทันทีที่สิ้นเสียง ทั้งห้องประชุมนั้นเงียบกริ๊บไม่มีเสียงใดๆ รวมถึงอากาศรอบด้านภายในห้องก็ขมุกขมัว ดูกดดันอย่างมาก
กลุ่มคนของตระกูลฮอร์ตัน ภายใต้การแปลและการอธิบายของบุคคลที่ติดตามมาด้วย แต่ละคนนั้นเครียดจนหน้าแดงคอยาว ต่างจ้องมองไปที่ผู้ถือหุ้นของตระกูลลู่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของตัวเอง
ผู้ถือหุ้นของตระกูลลู่แต่ละคนก็ไม่ใช่ว่าจะยั่วยุได้ง่ายๆเช่นกัน เมื่อต้องเผชิญกับสายตาเหล่านี้ พวกเขาเต็มไปด้วยสายตาดูหมิ่น
ซีซานได้กำมือแน่น เขาคิดยังไงก็คิดไม่ถึง เรื่องมันจะเป็นแบบนี้ บริษัทตระกูลลู่กล้าดียังไง …
ใช่สิ ทำไมพวกเขาถึงจะไม่กล้า
ที่นี่เป็นถิ่นฐานของเขานี่ เขาควรจะรับรู้ตั้งนานแล้วถึงแผนการต่างๆที่เกิดขึ้นตอนแข่งขัน
ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าเป็นการสะกิดให้เขา ว่าแค่นี้ยังไม่เพียงพอ
ลู่จิ้นยวนลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วดูเวลาในข้อมือ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน อย่าว่าจะพูดเลย แม้แต่หางตาก็ไม่มองซีซานด้วยซ้ำ
อันเฉินผงะ แล้วยิ้มนิดหนึ่ง ” ต้องขอโทษทีครับ ท่านประธานของเรายังมีประชุมต่ออีก หลังจากนี้ผมจะรับหน้าที่ต่อทั้งหมดในการเจรจากับพวกท่าน สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้”
ซีซานไม่สามารถทนได้อีก ตบโต๊ะดังปัง ” นี่ท่านประธานลู่ของพวกคุณหมายความว่ายังไง ฉันดูเหมือนว่า พวกคุณไม่ได้อยากเจรจากับการรวมมือครั้งเลยแม้แต่น้อย ”
รอยยิ้มที่มุมปากของอันเฉินค่อยๆลดลง ” คุณชายซีซานไม่จำเป็นต้องโมหกขนาดนี้ครับ แน่นอนว่า ถ้าหัวหน้าตระกูลฮอร์ตันอยู่ที่นี่ ต่อให้เสียเวลาของท่านประธานของเรามากกว่านี้ก็ไม่เป็นไร ”
ความหมายก็คือ คุณเป็นเพียงแค่คนเจรจาของตระกูลฮอร์ตัน ไม่ใช่หัวหน้าของตระกูลฮอร์ตัน ท่านประธานของเรายังมาต้อนรับด้วยตนเอง ก็ถือว่าให้เกียรติคุณมากแล้ว
สมองของซีซานตกตะลึง เขาแทบกระอักเลือด แต่ ณ เวลานั้นเขาไม่สามารถหาคำพูดอะไรมาหักล้างได้
อันเฉินก็ไม่อยากเสียเวลากับพวกเขาอีกต่อไป ต้องรู้ว่า ฐานะผู้ช่วยที่รอบรู้ของลู่จิ้นยวน เวลาแต่ละวันของเขาก็ยุ่งไม่น้อยเหมือนกัน รู้ไหม
เขาได้หยิบเอกสารฉบับหนึ่งออกมา ” นี่คือข้อตกลงสัญญาที่ตระกูลลู่ของเราทำขึ้น ผลกำไรสามต่อเจ็ด ส่วนกฎระเบียบที่ละเอียดได้อยู่ในนี้หมดแล้ว ทุกท่านสามารถค่อยๆอ่านดูได้ครับ ”
” ถ้าหากไม่มีปัญหาอะไร พวกเราสามารถเซ็นสัญญากันวันนี้ได้เลยครับ ”
ซีซานตัวสั่นเล็กน้อย กำลังอยากจะพูดอะไรสักอย่าง ดูเหมือนว่าอันเฉินก็คิดอะไรบางอย่างได้ ” โอ้ ใช่แล้วครับ สัญญาฉบับนี้ ตามรูปแบบของประธานลู่ของเรา น่าจะเป็นของเฉพาะวันนี้ ”
” ถ้าหากคุณชายซีซานไม่สามารถตัดสินใจได้ภายในวันนี้ ล่าช้าไปหนึ่งวัน ข้อกำหนดบางประการในสัญญานี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง”
ความหมายก็คือ สามต่อเจ็ดเป็นของวันนี้ ถ้าเลื่อนไปถึงพรุ่งนี้ ก็อาจจะไม่ใช่สามเจ็ด แต่เป็น … ฮ่าฮ่า
แค่คำเดียว ทำให้ซีซานหุบปากทันที แต่อาการตัวสั่นนั้นยิ่งชัดเจนมากขึ้น
ซีซานนั้นก็ถือว่าเป็นสายเลือดโดยตรงของตระกูลฮอร์ตันเหมือนกัน มันนานมากแล้วที่ไม่มีใครกล้าทำให้เขาโกรธมากขนาดนี้
แม้ว่าเขาจะโกรธมาก แต่หลังจากหายใจเข้าลึกๆแล้ว ก็ไม่กล้าที่จะเสียเวลามากกว่านี้ ได้โทรทางไกลไปต่างประเทศให้หัวหน้าตระกูลฮอร์ตัน เพื่อรายงานสถานการณ์ที่นี่
ในที่สุด ความร่วมมือในการขยายตัวระหว่างตระกูลฮอร์ตันและตระกูลลู่ ก็ได้รับการลงนามตามสามเจ็ดของลู่จิ้นยวน แต่เรื่องเวลานั้น ได้เปลี่ยนไปเป็น จากห้าปีเป็นสองปี
การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นความต้องการของตระกูลฮอร์ตัน และตระกูลลู่ก็เห็นด้วย
สุดท้าย ความร่วมมือระหว่างประเทศนี้ ในที่สุดก็ได้สิ้นสุดลง แม้ว่ากระบวนการนี้ค่อนข้างที่จะตื่นเต้นและมีความเสี่ยง แต่ผลประโยชน์ส่วนใหญ่ก็เป็นของตระกูลลู่
…
ที่บ้านตระกูลโม่
คนรับใช้ได้แต่มองหน้ากันอยู่ในสวนหลังบ้าน ได้ยินแต่เสียงดัง ปังปัง ออกมาเป็นระยะ ๆ พวกเขาต่างพากันหวาดกลัว พวกเขารู้สึกว่าอารมณ์ของคุณชายโม่เทียนยวี๋ช่วงนี้ ยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้นทุกวัน
ในห้องรับแขก โม่เทียนยวี๋ได้ใช้ไม้เบสบอลที่อยู่ในมือของเขาทุบสิ่งของไปทั่ว ได้ถือว่าสื่งของเหล่านี้เป็นโม่โยวกับลู่จิ้นยวน เพื่อระบายความโกรธของเขา
เพราะว่า เขาถูกตีอีกแล้ว.
โม่เทียนยวี๋ได้ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ ในร่างกายนั้นไม่ได้มีรอยแผลอะไร แต่ใบหน้าของเขาดูน่ากลัวน่าสงสาร จากหน้าที่หล่อเหลา ณ ตอนนี้ไม่มีผิวส่วนไหนสามารถดูได้เลย
ไม่เพียงแต่ทั้งเขียวทั้งม่วง แต่ยังมีเลือดคั่งทั้งใบหน้า ซึ่งบวมกว่าปกติเกือบสองเท่า และโหนกแก้มทั้งสองข้างยังบวมตามด้วย ซึ่งดูขี้เร่มาก
เขาโตขนาดนี้ นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาขี้เร่ขนาดนี้
ช่วงนี้ โม่เทียนยวี๋เครียดจนจะเป็นโรคอยู่แล้ว ถือว่าบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ
หลังจากได้ระบายแล้ว เขาถึงได้สงบลง ใบหน้าที่เจ็บปวดและอารมณ์หงุดหงิดของเขา ผนังปากด้านในของเขายังมีเลือดคั่ง ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถกินข้าวได้ ดื่มน้ำก็ยังเจ็บ
แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความคับแค้นใจหรือเปล่า หลังจากที่ได้ระบายแล้ว เขาก็ค่อยๆสงบลงอีกครั้ง
เมื่อพ่อบ้านที่ยืนรออยู่ด้านข้างเห็นเช่นนี้แล้ว ถึงได้ค่อยๆก้าวเข้าไปยื่นผ้าเช็คหน้าให้เขาอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นว่าโม่เทียนยวี๋รับมันไป ถึงได้รู้สึกโล่งอกขึ้นมา
“คุณชายครับ ผู้หญิงเย่ที่ท่านให้ไปสืบ ได้ข่าวคราวแล้วครับ ”
ดวงตาของโม่เทียนยวี๋สว่างขึ้นทันที และจ้องมองไปที่เขาอย่างกะทันหัน แต่เขาดันหันหัวเร็วไปหน่อย ทำให้ดึงโดนเอ็นกล้ามเนื้อ เจ็บจนน้ำตาจะไหล เขากัดฟันด้วยความโกธร
“พูด.”