The King of War – ตอนที่ 450 การทวงหนี้

“ครับ!”

เกาสงรีบตอบทันที ดวงตาแฝงด้วยแผนชั่วร้าย เหล่มองไปที่ตึกเยี่ยนเฉินกรุ๊ป และพูดอย่างเย็นชาว่า “พูดดีๆไม่ชอบ ถ้างั้นก็ใช้วิธีบังคับ!”

พูดจบ ก็หันหลังเดินออกไป

หยางเฉินอยู่ในออฟฟิสของประธาน ใช้เวลาไปครึ่งวัน เฉพาะเซ็นชือ ก็เซ็นไปแล้วร้อยฉบับ

แม้ว่าเขาจะปล่อยวางอำนาจไปมาก แต่ยังไงเขาก็เป็นประธาน และเรื่องบางสิ่งจะต้องจัดการด้วยตัวเอง

“ท่านประธาน!”

เมื่อใกล้เลิกงานตอนเที่ยง ฉินยีเปิดประตูเดินเข้ามา ใบหน้ามีความเคร่งขรึมเล็กน้อย

“เกิดอะไรขึ้น?” หยางเฉินถาม

“เมื่อกี้มีข่าวออกมา ที่ดินแม่น้ำเหล่าหลงบนฝั่งตะวันออก ได้เริ่มก่อสร้างแล้ว”

ฉินยีพูดอย่างด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ตระกูลหวงได้แพร่ข่าวออกมาว่า จะมีการสร้างสุสานที่นั่น ซึ่งเป็นสุสานที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้!”

ตามที่ตั้งของทางการจิ่วโจว จะมีการแบ่งออกเป็นภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคใต้ ภาคเหนือ และกลางรวมห้าภาค

และเมืองเจียงผิงและเมืองหนันหยัง เป็นเขตของภาคใต้

เป็นไปได้ว่า ถ้าตระกูลหวงต้องการสร้างสุสานแห่งนี้จริงๆ มันจะทำให้เกิดความโกลาหลมาก

ผลกระทบของสุสานนี้ยิ่งมากเท่าใด คฤหาสน์เหล่านั้นที่อยู่ในคฤหาสน์กุหลาบก็จะมีมูลค่าตกต่ำลง

ในเวลานั้น ไม่เพียงแต่ราคาคฤหาสน์กุหลาบเท่านั้นที่จะตกต่ำลง แต่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ก็จะตกต่ำลงด้วย

หยางเฉินขมวดคิ้ว “เคลื่อนไหวได้เร็วมาก!”

เขารู้ดีว่า ทำไมตระกูลหวงถึงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

ในเวลาเช้า เกาสงพ่อบ้านของตระกูลหวง เพิ่งไปหาเขา โดยบอกว่าต้องการร่วมมือกับหยางเฉินเพื่อจัดการกับตระกูลอวี๋เหวิน ทำไมหยางเฉินจะไม่เข้าใจ เป้าหมายที่แท้จริงของอีกฝ่ายคือเจียงผิงและหนันหยังล่ะ?

“นี่คือการบังคับให้ฉันประนีประนอมเหรอ?” หยางเฉินเยาะเย้ย ด้วยสายตาพิฆาต

“คุณหมายถึง ตระกูลหวงจงใจเหรอ?” ฉินยีถามด้วยความประหลาดใจ

หยางเฉินไม่ต้องการให้ฉินยีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และพูดว่า “เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง เธอรอฟังข่าวจากฉันก็พอ”

“พี่เขย ระวังตัวด้วย!”

ฉินยีพูดด้วยท่าทางกังวล

หยางเฉินยิ้มและพยักหน้า “วางใจได้!”

ตอนบ่ายสามโมง หยางเฉินคนเดียว มุ่งหน้าไปยังอาคารจงอี้

อาคารจงอี้เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างเสร็จเมื่อปีที่แล้ว ตั้งอยู่ในสถานที่สำคัญในการพัฒนาพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการใหม่ และถือได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญในการก่อสร้างของเจียงโจว

บริษัทซันชายน์จำกัด ก็อยู่ข้างใน

ก็คือบริษัทที่รับผิดชอบการก่อสร้างสุสานแม่น้ำเหล่าหลงบนฝั่งตะวันออกในครั้งนี้ ขณะนี้ได้ถูกตระกูลหวงกว้านซื้อกิจการไปแล้ว

ใช้เงิน 1.5 พันล้านซื้อที่ดินผืนนี้ นับประสาอะไรกับการสร้างสุสาน แม้ว่าจะเป็นการสร้างคฤหาสน์ ก็เป็นการลงทุนที่ขาดทุน

เพื่อบังคับให้หยางเฉินยอมประนีประนอม ตระกูลหวงได้ลงทุนไปเยอะมาก

หยางเฉินขึ้นลิฟต์ มาถึงชั้น16 ทางด้านซ้ายของลิฟต์ เป็นห้องประชุมของบริษัทซันชายน์จำกัด

“ฉันรอคุณมานานแล้ว!”

หยางเฉินเพิ่งเข้าไปในห้องประชุม เป็นชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งหัวหน้า พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ในเวลานี้ ห้องประชุม ก็เต็มไปด้วยผู้คน

คนที่พูดคือทายาทของตระกูลหวง หวงเจิ้ง

ตงเชยผู้มีพลังแข็งแกร่งสูงสุดของตระกูลหวง ยืนอยู่ข้างหลังเขา

ทันทีที่เขาเห็นหยางเฉิน ตงเชยก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น นึกถึงเมื่อวาน เขาเกือบตายในมือของชายหนุ่มคนนี้ และถึงตอนนี้ เขายังมีความหวาดผวา

ในตำแหน่งแรกทางด้านซ้ายข้างๆหวงเจิ้ง มีชายชราใส่ชุดสูทและรองเท้าหนัง และเป็นคนที่ตอนเช้าได้ไปที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป พ่อบ้านตระกูลหวงคนที่ไปหาหยางเฉิน ชื่อเกาสง

สำหรับคนอื่นๆ หยางเฉินไม่เคยเห็นมาก่อน

“คุณหยางทบทวนดีแล้วใช่ไหม ต้องการร่วมมือกับตระกูลหวงใช่ไหม?”

เกาสงถามด้วยรอยยิ้ม ดวงตาแฝงไปด้วยความขี้เล่น

เขาต้องการที่จะเห็นใบหน้าของหยางเฉิน มีความตื่นตระหนกและความเสียใจ แต่สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังคือ สีหน้าการแสดงออกของหยางเฉินนั้นนิ่งสงบมาก ไม่ได้มองเขาเลยสักนิด แต่เดินไปที่ตำแหน่งตรงข้ามกับหวงเจิ้ง เอื้อมมือออกไปจับคอเสื้อของเขาไว้

“ไอ้เลว แกจะทำอะไร?”

ชายคนนั้นตื่นตระหนก และตะวาด

“ตูม!”

มีหรือที่หยางเฉินจะมาพูดเรื่องไร้สาระกับคนไร้ค่าเช่นนี้? ราวกับว่ากำลังทิ้งขยะ เขาจับยกคนๆนั้นด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วโยนไปข้างๆ

“ไอ้หนุ่ม นี่คือออฟฟิสกิจการของตระกูลหวง นายทำเกินไปแล้ว!”

หวงเจิ้งโกรธจัด หยางเฉินลงมือกับคนของเขาต่อหน้าฝูงชน เหมือนตบหน้าเขาชัดๆ

เมื่อวาน ในที่สถานที่ประมูล หยางเฉินก็ตบหน้าเขาหลายครั้ง จนถึงตอนนี้ ใบหน้าของเขายังบวมเหมือนหัวหมู

ถ้าไม่ใช่เพราะอยากเห็นหยางเฉินได้รับผลตอบแทนอย่างสาสม เขาก็คงไม่ปรากฏตัวที่นี่

“นายคงรู้สึกว่า เมื่อวานที่ฉันตบหน้านายมันยังแรงไม่พอใช่ไหม?”

หยางเฉินมองไปที่หวงเจิ้ง และถามอย่างหยอกล้อ

ใบหน้าของหวงเจิ้งเคร่งขรึมขึ้นทันที รูม่านตาขยายเพราะความหวาดกลัว

“ตอนแรกฉันคิดว่า คุณหยางจะต้องมาหาฉัน และต้องการประนีประนอม แต่ความหมายของคุณ ต้องการที่จะใช้ไม้แข็งเผชิญหน้ากันใช่ไหม?”

เกาสงเหล่ตา เผชิญหน้าหยางเฉิน เขาไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย

หยางเฉินเหลือบมองเกาสงอย่างดูถูก “ฉันกำลังพูดกับเจ้านายของแก แค่สุนัขตัวหนึ่งมาเสือกทำไม?”

เมื่อหยางเฉินพูดคำนี้ออกมา ชั่วขณะทุกคนต่างตกตะลึง!

“ไอ้บ้า นายหุบปากซะ รู้ไหมพ่อบ้านเกาคือใครไหม? นายกล้าดูถูกเขา รอดูต่อไปฉันจะทำลายล้างแกให้สิ้นซาก”

ก่อนที่เกาสงจะพูด ผู้บริหารระดับสูงที่นั่งอยู่ข้างๆเขา ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ยกมือขึ้น เตรียมจะตบหน้าหยางเฉิน

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

เกาสงตะโกนด้วยความโกรธ อยากจะขวาง แต่ก็สายเกินไป

“ไปตายซะ!”

ผู้บริหารระดับสูงพุ่งไปถึงตรงหน้าหยางเฉิน และตบไปหนึ่งที

“เพี๊ยะ!”

เสียงตบดังก้องไปทั่วห้องประชุม

เห็นเพียงผู้บริหารระดับสูงคนนั้น ร่างกายเหมือนลูกบอล ลอยอยู่ในอากาศ พร้อมด้วยฟันหลายซี่ที่ปนด้วยเลือดกระเด็นออกมา

“ตูม!”

เกิดเสียงดังสนั่น และร่างของผู้บริหารระดับสูงก็หล่นลงกับพื้นอย่างแรง และเสียชีวิตทันที

ตั้งแต่ต้นจนจบ หยางเฉินนั่งอยู่ที่นั่น ดูเหมือนว่าคนที่ลงมือเมื่อสักครู่ ไม่ใช่เขา

ฤดูใบไม้ร่วงในเจียงโจว มีอากาศเย็นนิดๆ

ลมฤดูใบไม้ร่วงพัดเข้ามาทางหน้าต่าง ทุกคนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น สีหน้าดูแย่และมองดูชายหนุ่มที่นั่งนิ่งเฉย

“ฉันมาที่นี่วันนี้ เพื่อทวงหนี้ และไม่อยากฆ่าคน แน่นอน ถ้ามีคนต้องการหาที่ตาย ก็อย่ามาโทษฉัน!”

ทันใดนั้นหยางเฉินก็พูด ไม่กะพริบตาแล้วจ้องมองร่างที่นั่งอยู่ในตำแหน่งหัวหน้า ร่างที่หวาดผวาและอยู่ไม่สุข

“ทวงหนี้? ทวงหนี้อะไร?”

หวงเจิ้งนั่งกระสับกระส่าย และถามอย่างใจเย็น

“นายลืมไปแล้วหรือ เมื่อวานนี้ที่สถานที่ประมูล นายสัญญากับฉันเอง ที่ดินแม่น้ำเหล่าหลงบนฝั่งตะวันออก จะมอบให้ฉันฟรีๆ”

หยางเฉินถามแบบขี้เล่น

หวงเจิ้งสีหน้าเปลี่ยน พูดด้วยความโกรธ “ฉันไปพูดตอนไหนว่าจะเอาที่ดินผืนนั้นให้นาย? นายอย่าพูดเรื่องไร้สาระ!”

“บ้านเมืองที่สงบสุขเช่นนี้ คุณหวงนี่พูดเรื่องโกหกโดยไม่เกรงกลัวใดๆเลยหรือ? เมื่อวานนี้ที่สถานที่ประมูล มีคนมากมาย ได้ยินว่าคุณรับปากแล้ว ว่าจะมอบที่ดินผืนนั้นแก่ฉัน”

หยางเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม และคำพูดก็เต็มไปด้วยการล้อเล่น

อุณหภูมิของห้องประชุมทั้งหมด ดูเหมือนชั่วขณะจะลดหลายองศา

จู่ๆหวงเจิ้งก็นึกอะไรบางอย่างได้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัว

The King of War

The King of War

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset