เจ้าสาวร้อยเล่ห์ – ตอนที่ 46 ตอบโต้ข่าวลือ

หลังอาหารค่ำ เป็นเวลาว่างของบรรดาคนรับใช้ของตระกูลซั่งกวน…เมื่อทำหน้าที่การงานในระหว่างวันเสร็จสิ้นแล้ว ไม่ว่าเหล่าเจ้านายจะทำอะไรก็ตาม จะต้องการเพียงแค่แม่นมหรือสาวใช้ส่วนตัวหนึ่งหรือสองคนเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆ ที่คุ้นเคยกันกำลังจับกลุ่มสามถึงห้าคนสนทนาและพูดคุยกันในลานบ้านที่บ่าวไพร่อาศัยอยู่ นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าสบายใจที่สุดของวัน

อย่างไรก็ตามตระกูลซั่งกวนแตกต่างจากตระกูลคนทั่วไป หากอยู่ในตระกูลเยี่ยน แม่นมหรือสาวใช้จะต้องเย็บปักถักร้อยและถักถุงใส่เครื่องประดับตกแต่งที่ใช้งานได้จริงไม่ขาดมือ ในขณะที่แม่นมหรือสาวใช้ของตระกูลซั่งกวน จะทำงานฝีมือและถักถุงกันได้ทุกคน แต่น่าเสียดายที่เชี่ยวชาญไม่มากนัก ดังนั้น ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ จึงมีของว่างติดไม้ติดมือมากขึ้น ในขณะที่กินขนมจุกจิกแก้ความอยาก ก็พูดคุยซุบซิบนินทาได้อย่างสบายอารมณ์

“ได้ยินหรือไม่? อู๋เลี่ยนเยี่ยนถูกว่าที่ภรรยาของคุณชายใหญ่พาตัวไป!” สาวใช้เจี่ยพูดอย่างมีเลศนัย ด้วยความพึงพอ ใจเล็กน้อย “ข้ามีความลับจะบอก ใครอยากรู้บ้าง”

“จุ๊ๆ !” ในขณะนั้นก็มีคนโห่ไล่นาง สาวใช้อี่มีสีหน้าดูแคลน “เจ้าช่างเป็นข่าววงในเสียจริง” แล้วพูดว่า “เจ้าละอายใจที่เอาข่าวแบบนี้มาเล่าอวดกันบ้างไหม? อู๋เลี่ยนเยี่ยนกลายเป็นคนที่ว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่ถูกใจ แม่นมผู้เลี้ยงดูว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่ก็มารับไปด้วยตัวเอง ลุงเต๋อที่เฝ้าประตูใหญ่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ใบหน้าของอู๋เลี่ยนเยี่ยนยิ้มจนแทบจะเสียรูป!”

“ใช่! ถูกต้อง!” สาวใช้ปิ่งพยักหน้าระรัวแล้วพูดว่า “ข้ายังเจอจื่อหลัวสาวใช้ชั้นหนึ่งข้างกายของว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่ ม่านเหลียนที่อยู่ข้างกายคุณชายใหญ่อยู่เป็นเพื่อนนางเก็บสัมภาระของอู๋เลี่ยนเยี่ยนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ว่ากันว่าอู๋เลี่ยนเยี่ยนเขียนสัญญาขายตัวให้ว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่แล้ว!”

“จริงหรือ?” สาวใช้ติงพูดด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “อู๋เลี่ยนเยี่ยนพึ่งพาอนุภรรยาอู๋ผู้เป็นป้ามาตลอด ทั้งคุณหนูใหญ่ก็ชมชอบนางมาก เลยคิดว่าตัวเองเป็นสาวสูงศักดิ์ไม่ใช่หรือ? นางเขียนสัญญาขายตัวทำไมกัน?”

“ได้ยินว่า…” สาวใช้ปิ่งมองเหลือบซ้ายแลขวา แสร้งทำเป็นลึกลับพูดว่า “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เรือนตะวันออกเมื่อวานนี้?”

เรือนตะวันออก? นั่นคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในดวงใจของเหล่าสาวใช้ เป็นที่พักของคุณชายใหญ่ผู้มีเรือนร่างงามสง่า และยังเป็นสถานที่ที่ยากจะย่างก้าวเข้าไปสำหรับสาวใช้ธรรมดาอย่างพวกนาง สาวใช้ทุกคนนัยน์ตาสว่างวาบ อุณหภูมิในห้องก็สูงขึ้น ดวงตาสองข้างของแต่ละคนล้วนแฝงไปด้วยความหลงใหล เผยความเคลิบเคลิ้มออกมาอย่างปิดไม่มิด

“ยังจะมีเรื่องอะไรอีกล่ะ?” สาวใช้อู้พูดอย่างเหนื่อยหน่ายและอ่อนแรงว่า “อู๋เลี่ยนเยี่ยนปีนขึ้นเตียงคุณชายใหญ่ ครอบครองเรือนกายของคุณชายใหญ่ แล้วไปสุขสมด้วยกัน!”

หา? นี่เป็นเรื่องใหญ่เชียวนะ! บรรดาสาวใช้ที่ไม่รู้เรื่องข่าวซุบซิบต่างพากันจ้องมองตาเขม็ง

“เจ้ารู้ได้อย่างไร?” สาวใช้ปิ่งมีโทสะเล็กน้อย มีท่าทางไม่พอใจและโมโหที่ถูกชิงตัดหน้า เพียงแต่คนอื่นๆ ต่างรู้ว่า ทั้งสองคนนี้ไม่ลงรอยกันมาตลอด เมื่อใดก็ตามที่คนหนึ่งพูดคุย อีกคนหนึ่งจะพยายามหาเรื่องแน่นอน

“ข้ารู้ได้อย่างไรแล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้า!” สาวใช้อู้พูดด้วยน้ำเสียงฮึดฮัดว่า “แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไร? เจ้าเห็นอู๋เลี่ยนเยี่ยนยั่วยวนคุณชายใหญ่หรือ?”

“เป็นไปได้อย่างไร!” ใครบางคนตะโกนขึ้นอย่างขุ่นเคืองในขณะนี้ “แม้อู๋เลี่ยนเยี่ยนจะมีเสน่ห์อยู่บ้าง แต่ไหนเลยนางจะเทียบได้กับพี่ม่านเหลียนกับพี่ม่านเหอที่อยู่ข้างกายคุณชายใหญ่ พี่ม่านเหอและคนอื่นๆ รับใช้คุณชายใหญ่มาหลายปีดีดักแล้ว ก็ไม่ได้ยินว่ามีอะไรกับคุณชายใหญ่ แค่รูปโฉมโนมพรรณของอู๋เลี่ยนเยี่ยน กล้าจะหลอกล่อคุณชายใหญ่งั้นหรือ?”

“แล้วไฉนจะไม่กล้าล่ะ?” สาวใช้คนหนึ่งกรีดนิ้วคล้ายดอกกล้วยไม้โดยใช้หัวแม่มือกับนิ้วกลางงอเข้าหากันแล้วอีกสามนิ้วเหยียดตรง ทำท่าทางมีเสน่ห์ ยักคิ้วหลิ่วตาแล้วพูดอย่างหวานหยาดเยิ้มว่า “ถ้ามีโอกาส ข้าก็กล้านะ!”

“เจ้าไปตายซะ!” เสียงหัวเราะเยาะด่าทอดังกลบท่าทางดัดจริตนั้นอยู่พักหนึ่ง

“เอาล่ะ! ต่อให้นางจะใจกล้า แต่รูปลักษณ์ของนางจะดึงดูดใจคุณชายใหญ่ได้หรือ? พวกเจ้าลองนึกถึงคุณหนูอวี้ผู้งามพริ้งดุจเทพธิดา คุณหนูสื่อผู้เร่าร้อนดั่งเพลิง คุณหนูหวงผู้สง่างาม คุณหนูที่เป็นญาติของตระกูลทั่วป๋าผู้มีเสน่ห์ คุณหนูชุยผู้ สูงส่งหรูหรา พวกนางคิดอะไรกับคุณชายใหญ่ เกรงว่าไม่มีใครไม่รู้หรอก! แต่พวกนางคนไหนที่เข้าใกล้คุณชายใหญ่ได้หรือ?” สาวใช้ที่ตะโกนอย่างขุ่นเคืองมาตลอดคนนั้นพูดมีเหตุผลน่าฟังมาก

“นั่นไม่เหมือนกัน! คุณหนูเหล่านั้นล้วนมีศักดิ์ศรี จำเป็นต้องรักนวลสงวนตัวรักษาซึ่งตระกูลของคุณหนูไว้ แต่อู๋เลี่ยนเยี่ยนคืออะไร เพียงแค่เกิดมาฐานะต่ำต้อย หลุดพ้นจากการเป็นทาส แล้วถือตัวเป็นเจ้านายเสียเอง ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเลย! ได้ยินว่าเช้าวันนี้จะถูกขับออกไปไม่ใช่หรือ? ถ้าเช่นนั้น เมื่อวานนี้นางยุแยงให้คุณหนูใหญ่พานางไปที่เรือนตะวันออกจริงๆ จากนั้นก็วางยาคุณชายใหญ่…” สาวใช้ปิ่งลดเสียงลงแล้วพูดว่า “มันคือวสันตโอสถล่ะ แล้วนางก็ทำสำเร็จอย่างราบรื่น! ดังนั้น คุณชายใหญ่จึงตัดสินใจรับนางเป็นสาวใช้เมียบ่าว!”

“นังนี่ไร้ยางอาย!” เหล่าสาวใช้เต็มไปด้วยความโกรธแค้นอัดแน่นทรวง รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำไมตัวเองถึงไม่กล้าและมีโอกาสเช่นนี้บ้าง? มิฉะนั้นละก็…

“เจ้าเห็นหรือยัง?” สาวใช้อู้ยังคงดูเบื่อหน่ายแล้วพูดว่า “คุณชายใหญ่เป็นใคร จะปล่อยให้อู๋เลี่ยนเยี่ยนลอบทำร้ายได้อย่างไร?”

“ไม่ได้บอกหรือว่า คุณหนู…” สาวใช้ปิ่งกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว

“คุณหนูจะถูกคนเยี่ยงนั้นยุแยงให้ลอบทำร้ายพี่ชายตัวเองหรือ?” สาวใช้อู้ปรายตามองนางอย่างเย็นชา แล้วย้อนถามว่า “อีกอย่าง ต่อให้จะกินยาเข้าไปแล้ว คุณชายใหญ่ยังมีม่านเหอกับม่านเหลียนอยู่ข้างกาย ไม่ดีกว่าอู๋เลี่ยนเยี่ยนหรือ เหตุใดถึงไปชอบอู๋เลี่ยนเยี่ยนด้วยเล่า?”

“ยาของอู๋เลี่ยนเยี่ยนจะเอาเปรียบคนอื่นได้หรือไม่?” สาวใช้ปิ่งกล่าวอย่างสมเหตุสมผลว่า “เจ้าลองคิดดูสิ นางเป็นหลานสาวของอนุภรรยาอู๋เชียวนะ คนอื่นจะเอาเปรียบนางได้หรือ?”

“นั่นสินะ!” มีคนเห็นด้วย พวกบ่าวต่างรู้ดีว่าอนุภรรยาอู๋เป็นคนร้ายกาจที่และน่าหวาดกลัวที่สุด ถ้าไม่ใช่เพราะมีป้าที่อำมหิต อู๋เลี่ยนเยี่ยนนางจะถือสิทธิ์อะไรมาเป็นสหายกับคุณหนูใหญ่ได้เล่า? จะถือสิทธิ์อะไรมาหยิ่งผยองในตระกูลซั่งกวนได้?

“มิน่าล่ะที่ม่านชิง ม่านจิ้ง และแม่นมหวังซึ่งอยู่ข้างกายคุณหนูใหญ่จะถูกนายท่านสั่งโบยถึงยี่สิบไม้ ที่แท้เป็นเพราะเหตุนี้!” มีใครบางคนคิดเชื่อมโยงเรื่องของพวกแม่นมหวัง ทั้งสามคนนั้นถูกกฎของตระกูลลงโทษในทันที

“แล้วไฉนว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่จึงมาพาอู๋เลี่ยนเยี่ยนไปเล่า?” สาวใช้ตัวน้อยที่ไม่รู้ความก็สนใจแตกต่างกันไป

“จะเป็นอะไรไปได้อีกเล่า? ได้ยินมาว่าอู๋เลี่ยนเยี่ยนปีนขึ้นเตียงคุณชายใหญ่ ย่อมเดือดดาลเป็นธรรมดา คงเอานางไปลงโทษนางอย่างรุนแรงกระมัง” สาวใช้ปิ่งกล่าวว่า “พวกเจ้าคิดดู บัดนี้เหลือไม่ถึงยี่สิบวันก่อนแต่งงาน นึกไม่ถึงว่าคุณชายใหญ่จะไปทำอะไรๆ กับคนข้างกายน้องสาวตัวเอง ว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่จะไม่โกรธ ไม่โมโหได้หรือ?”

“จริงด้วย! จริงด้วย!” มีเสียงเออออคล้อยตาม

“คนที่ไร้ยางอายที่สุดอย่างพวกเจ้าก็จะประจบสอพลออวดฉลาดเช่นนี้แล้วยังสาดน้ำโคลนใส่ร้ายคนอีก!” สาวใช้ตัวน้อยที่ดูไม่คุ้นตาปรากฏตัวขึ้นข้างหลังสาวใช้อู้ แล้วพูดอย่างโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

“เจ้าเป็นใคร? เจ้ามีความคิดเห็นได้อย่างไร?” สาวใช้ปิ่งกำลังจะบันดาลโทสะ สาวใช้ตัวน้อยคนนี้ที่ดูไม่ค่อยคุ้นตาโผล่ออกมาจากไหน

“นางชื่อลี่หลัว เป็นคนของเรือนตะวันออก” สาวใช้อู้แนะนำอย่างใจเย็นแล้วเอ่ยว่า “นางเป็นน้องสาวของข้า เพิ่งเข้าจวนมาได้ไม่นาน นางเป็นสาวใช้ชั้นสามที่ฮูหยินเลือกไว้เมื่อปีกลาย”

อ๋อ…ที่แท้เป็นสาวใช้ที่ฮูหยินเตรียมไว้ให้ว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่นี่เอง! มิน่าเล่าจึงพูดแทนว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่!

“ที่แท้เป็นเด็กตัวเล็กนิดเดียวที่เพิ่งเข้ามาในจวน ไม่แปลกใจเลยที่จะกล้าพูดเช่นนี้” สาวใช้ปิ่งจ้องขมึงทึงไปที่ลี่หลัวอย่างเหี้ยมเกรียม แล้วพูดด้วยสีหน้าดุร้ายว่า “ทำประจบสอพลออวดฉลาดแล้วยังสาดน้ำโคลนใส่ร้ายหมายความว่าอย่างไร?”

“เดิมทีก็ใช่!” ลี่หลัวไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังพี่สาวอย่างตกประหม่า แต่ก็ยังทนน้ำเสียงนั้นไม่ได้จึงเอ่ยขึ้นว่า “อู๋เลี่ยนเยี่ยน ฉวยประโยชน์ไปแล้ว คุณชายใหญ่รับเป็นเมียบ่าวก็เป็นเรื่องสมควรอยู่แล้ว ทำไมพวกเจ้าต้องพยายามสาดโคลนใส่ร้ายว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่อีกด้วย คิดจะปิดซ่อนอะไรบางอย่าง ก็ไม่จำเป็นต้องเนรคุณเร็วขนาดนี้หรอก!”

“เจ้าหมายความว่าอะไร?” สาวใช้ปิ่งกินปูนร้องท้องอยู่บ้าง นางก็เป็นคนที่ไม่รู้ความจริงเช่นกัน แต่สิ่งที่นางพูดนั้นกลับถูกชี้เข้าตัว นางเองก็รู้สึกไม่น่าเชื่อถือเล็กน้อย

“เจ้าไม่ใช่ลูกผู้น้องหลานสาวแม่นมกุ้ยที่อยู่ข้างกายอนุภรรยาอู๋หรอกหรือ?” สาวใช้อู้มองไปที่สาวใช้ปิ่งอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “พวกเจ้าชอบอู๋เลี่ยนเยี่ยนมาตลอด จึงคิดเสมอว่านางจะบินขึ้นไปบนกิ่งไม้และกลายเป็นหงส์ได้ไม่ใช่หรือ? ทำไมดูเหมือนอู๋เลี่ยนเยี่ยนจะสมความปรารถนา พวกเจ้าก็เลยเปลี่ยนกระแสงั้นหรือ?”

เอ๊ะ? ถูกต้อง? สาวใช้คนนี้เป็นญาติแท้ๆ กับแม่นมกุ้ย สิ่งที่นางพูดคล้ายจะมีบางอย่างผิดปกติจริงๆ!

“ใช่แล้ว! ข้าก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ตอนที่อู๋เลี่ยนเยี่ยนตามแม่นมผู้นั้นออกไปก็มีหลายคนมองเห็น มันเป็นใบหน้าอมยิ้ม ดูมีชีวิตชีวา เฉกเช่นเดียวกับจิ้งจอกที่เพิ่งแอบกินไก่ก็ไม่ปาน ถ้าพาไปจัดการที่เรือนสดับวายุ นางจะหัวเราะอย่างมีความสุขได้ไหม?” ทันใดนั้นสาวใช้อี่ก็จำได้ว่าอู๋เลี่ยนเยี่ยนมีความสุขเพียงใดยามเดินจากไป ดูท่าจะไม่ได้ไปทรมาน

“ลี่หลัว นี่เจ้ารู้ความลับอะไรมาใช่ไหม?” มีใครบางคนเริ่มตีกรอบความคิดของสาวใช้ตัวน้อยผู้ดูอ่อนเยาว์ ราวกับเด็กหญิงตัวเล็กคนนั้นรู้เบื้องหลังอะไรบางอย่าง

“ข้าไม่รู้อะไรเลย!” ลี่หลัวพูดอย่างหนักแน่น แต่สายตากลับอดกลอกลอยไปมาไม่ได้ และควบคุมตัวเองไม่ไหวจนต้องไปหลบอยู่ข้างหลังพี่สาว

“ลี่หลัว มีอะไรที่บอกไม่ได้แม้กระทั่งข้าจริงหรือ?” สาวใช้อู้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับปฏิกิริยาของน้องสาว นางเป็นคนบอกเรื่องที่อู๋เลี่ยนเยี่ยนกำลังจะกลายเป็นสาวใช้เมียบ่าวของคุณชายใหญ่ ทั้งยังบอกด้วยว่าอู๋เลี่ยนเยี่ยนเป็นสาวใช้ที่มาทดลองอยู่ก่อนแต่งซึ่งว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่ถูกใจ แล้วได้เขียนสัญญาขายตัวกับว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่

“ไม่มี!” ลี่หลัวส่ายหัวอย่างแรงแล้วพูดว่า “ไม่มีจริงๆ ข้าไม่รู้อะไรเลย!”

“แล้วทำไมเจ้าต้องซ่อนตัว?” สาวใช้เจี่ยรีบลากนางออกมาจากด้านหลังสาวใช้อู้ สาวใช้ตัวน้อยตกใจกลัวจนไม่กล้าจะขยับตัว

“ไม่มีอะไรจริงๆ! พวกเจ้าอย่าถามข้า ถ้าพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด พี่ม่านเหลียนจะขับข้าออกไป!” ลี่หลัวแน่วแน่มาก มีเพียงพี่น้องในเรือนตะวันออกเท่านั้นที่รู้ความลับในขณะนี้ ถ้ามันถูกแพร่งพรายออกไป จะทำให้เกิดความวุ่นวายอย่างแน่นอน พวกพี่ม่านเหลียนคงเกลียดตัวเองมากแน่

“ข้ารู้แล้ว!” สาวใช้คนหนึ่งถลาเข้ามาอย่างเหนื่อยหอบ มองไปที่ลี่หลัวอย่างดุเดือดแล้วเอ่ยว่า “พวกเจ้าคิดจะปิดเรื่องนี้ต่อไปใช่หรือไม่? อย่าฝันนักเลย!”

“เรื่องอะไรหรือ?” สาวใช้อู้มองนางอย่างมีน้ำโหแล้วพูดว่า “มีเรื่องอะไรเจ้าก็ไม่น่าจะถึงกับโกรธพุ่งเข้าใส่น้องสาวของข้า ถ้ามีปัญญาก็มาหาข้าสิ!”

“พี่ ไม่ใช่เรื่องของเจ้า!” สาวใช้คนนั้นดึงลี่หลัวออกมาอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยง และตะคอกถามว่า “เจ้าบอกกับข้าให้ชัดเจนสิ แม่นมของว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่มาทำอะไรกันแน่? ไหนบอกว่าจะมาเลือกคนจากสาวใช้ที่เก่งที่สุด?”

“เจ้าได้ยินอะไรมา?” จู่ๆ บรรดาสาวใช้ก็รู้สึกว่ามีข่าวใหญ่ ว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่จะเลือกคน? แล้วจะเลือกใคร?

“พูดเร็วสิ!” สาวใช้ทุกคนกลายร่างเป็นแม่เสือใหญ่ แต่ละคนจ้องมองลี่หลัวตาเป็นมัน

“ว้าย!” ลี่หลัวได้เห็นการแก่งแย่งเช่นนี้ ก็เริ่มร้องไห้ด้วยความตกใจแล้วพูดว่า “แม่นมฉินเพิ่งบอกว่าสาวใช้ข้างกายว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่มีไม่มากนัก ส่วนช่าจื่อกับเยียนหงที่ฮูหยินส่งไปนั้นก็ไม่ได้โปรดปราน จึงอยากจะเลือกสาวใช้ใหญ่ชั้นหนึ่งสักสองคน สาวใช้ชั้นสองสองคนและสาวใช้ชั้นสามอีกหกคน ยังบอกด้วยว่าพี่ม่านเหลียนดูแล้วเข้าตา ได้รับเลือกจากสาวใช้ที่ดูมีหน่วยก้านดี และไม่ได้พูดอะไรอีก!”

“แล้วทำไมไม่บอกพวกเรา” ไม่มีใครเชื่อว่านี่คือความจริง

“พี่ม่านเหลียนบอกว่าไม่ให้บอกใคร ทั้งยังบอกอีกว่าว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่เป็นนายหญิงของเรือนตะวันออก ต่อไปนางจะมาอยู่ในเรือนตะวันออก โดยปกติแล้วสาวใช้ที่อยู่ข้างกายนางควรได้รับเลือกจากในเรือนตะวันออกด้วย!” ลี่หลัวเล่าอย่างสะอื้นไห้

“เจ้ามันหัวขี้เลื่อย!” พี่สาวของลี่หลัวเอานิ้วจิ้มที่หน้าผากของลี่หลัวแล้วพูดว่า “นี่มันยังไม่ชัดอีกหรือ? ว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่จะเลือกคนที่ถูกใจไม่กี่คนจากในหมู่สาวใช้ นั่นคือจะเตรียมสาวใช้เมียบ่าวให้คุณชายใหญ่ อู๋เลี่ยนเยี่ยนจึงเข้าตาของว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่ จึงมีโอกาสใกล้ชิดกับคุณชายใหญ่!”

“มิน่าเล่าที่เจ้าบอกว่าอู๋เลี่ยนเยี่ยนวางยาให้คุณชายใหญ่ ที่แท้ต้องการเบี่ยงเบนความสนใจ แล้วปกปิดเรื่องนี้ต่อไป เพื่อไม่ให้เรารู้ว่าภรรยาคุณชายใหญ่กำลังเลือกรับสาวใช้อยู่” สาวใช้เจี่ยฉุกคิดขึ้นได้จึงมองไปที่สาวใช้ปิ่ง ราวกับมองศัตรู

“ไม่ผิดแน่!” มีคนพูดตามทันที “ไม่น่าแปลกใจที่อู๋เลี่ยนเยี่ยนภูมิใจนัก และไม่น่าแปลกใจที่นางจะใกล้ชิดกับคุณชายใหญ่ได้เมื่อคืนวาน! เอ๊ะ ไม่สิ นางจะกล้าปีนขึ้นเตียงคุณชายใหญ่ทั้งที่งานแต่งงานใกล้เข้ามาได้อย่างไร? ภรรยาคุณชายใหญ่ไม่หึงหรือ?”

“เอ่อนี่คือ…” มีสาวใช้คนหนึ่งพูดอย่างมีเลศนัย “ข้าได้ยินมาเรื่องหนึ่ง แต่ไม่อยากจะเชื่อเลย!”

“เรื่องอะไรหรือ?” ในขณะนี้ก็มีคนติดกับดักอีกครั้ง

“ได้ยินมาว่า ว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่รู้ว่าไม่มีแม้แต่สาวใช้เมียบ่าวสักคนในห้องคุณชายใหญ่ นางกังวลมาก กลัวว่าคุณชายใหญ่จะมีอาการป่วยบางอย่างซ่อนอยู่ซึ่งยากจะเอ่ยปาก นางจึงให้อู๋เลี่ยนเยี่ยนไปเป็นสาวใช้ทดลองก่อนแต่ง เพื่อให้ประโยชน์แก่นาง ทั้งเพื่อทำข้อผูกมัดร่วมกัน”

เป็นแบบนี้นี่เอง! ทันใดนั้นสาวใช้ทุกคนก็เข้าใจ ที่แท้เป็นเพราะความสะอาดสะอ้านของคุณชายใหญ่ที่ก่อให้เกิดปัญหา เพียงแต่เหตุใดความโชคดีเช่นนี้ถึงไม่ตกมาที่ตัวเองบ้าง?

“หรือจะบอกว่า ภรรยาคุณชายใหญ่ให้อู๋เลี่ยนเยี่ยนมา ‘ตรวจสอบสินค้า’ งั้นหรือ?” พี่สาวของลี่หลัวถามอย่างผิดหวัง “แล้วยังจะหาสาวใช้เมียบ่าวให้อีกหรือ?”

“ข้าไม่รู้จริงๆ!” ลี่หลัวขดตัวจนแทบไม่สามารถหดตัวลงได้

“มันพูดยาก! แต่…” มีใครบางคนกลอกตาเอ่ยว่า “ม่านเหลียนและคนอื่นๆ ปกปิดเรื่องนี้ได้ ไม่อยากให้พวกเรารู้ มิวายอาจจะมีแผนนั้น ข้าว่าเราควรแสดงฝีมือสักตั้ง อย่างน้อยให้ว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่รู้ว่าพวกเราก็ดีเช่นกัน ถูกไหม?”

“ถูกต้อง! ถูกต้อง!” ทุกคนคิดว่ามันสมเหตุสมผลแล้ว สำหรับข่าวลือที่สาวใช้ปิ่งจะเผยแพร่ไปนั้น ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ ก็ไม่มีใครสนใจอีกแล้ว เมื่อเทียบกับการทำให้ว่าที่ภรรยาคุณชายใหญ่พอใจ เหมือนอู๋เลี่ยนเยี่ยนที่ได้บินขึ้นไปบนกิ่งไม้ นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม หมู่มวลสาวใช้มีความกังวลเรื่องอื่นมากกว่า…นั่นคือคุณชายใหญ่เป็นโรคมักมากในกามหรือไม่?

ช่างน่าคิด…

————————————————

เจ้าสาวร้อยเล่ห์

เจ้าสาวร้อยเล่ห์

‘ข้าจะมีความสุขให้ได้ แม้ชีวิตนี้จะมีไฟแค้นสุมในใจมากเพียงใดก็ตาม!’ ‘เยี่ยนมี่เอ๋อร์’ คุณหนูห้าแห่งตระกูลพ่อค้าได้สาบานไว้กับท่านป้าสุดที่รัก ชีวิตของนางจะพบความสุขได้เยี่ยงไรเมื่อต้องลด ละ เลิกการแก้แค้น ทั้งยังต้องถูกคลุมถุงชนแต่งงานกับคุณชาย ‘ซั่งกวนเจวี๋ย’ ผู้ยิ่งใหญ่ในยุทธภพนี้ เช่นนี้แล้ว รักแรกพบระหว่างนางกับคุณชายขลุ่ยถึงคราวต้องจบก่อนที่ยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ! งานนี้จึงต้องมีแผนการล่มวิวาห์ ทว่ากลับต้องพลิกเป็นแผนการรักมัดใจผู้เป็นว่าที่สามี เมื่อคุณชายคนนี้กับคุณชายขลุ่ยคนนั้น คือ คนเดียวกัน! แต่ไฉนข้างกายเขากลับมีผู้หญิงคอยจับจ้องอยู่มากมาย? แต่ไม่เป็นไร เจ้าสาวอย่างนางจะใช้มารยาที่มีปราบชายเจ้าชู้ให้อยู่หมัด มัดใจเขาไว้กับนางแต่เพียงผู้เดียว ส่วนหญิงสาวเหล่านั้นน่ะหรือ… ‘จงใช้เสน่ห์ที่มีอยู่ให้เต็มที่เถิด ก่อนจะต้องอกแตกตายด้วยฝีมือข้า!’

Comment

Options

not work with dark mode
Reset