ซุปเปอร์เจ้าสำราญ – ตอนที่ 722 ผิดคาด

หลินอิ่งเดินมาจนถึงด้านนอก ก็พบว่านอกจากฉินเหิงเยว่ที่กำลังรออยู่ ยังมีชายวัยกลางคนสองคนที่สวมชุดคอจีนลักษณะท่าทางไม่ธรรมดา

คนหนึ่ง ใบหน้าแข็งกร้าว สายตาดุจดั่งนกอินทรี จ้องมองมาที่หลินอิ่งด้วยความเย็นชา

หลินอิ่งเหลือบตามอง คิ้วขมวดเล็กน้อย

คนที่มองเขาอยู่นั้น ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยความทรงพลังที่หาผู้ใดมาเปรียบได้ สายตาเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตร มองตนเองด้วยความอาฆาต

“คุณหลินอิ่ง นี่คือหลินเสวียนหมิงผู้อาวุโสสองกับหลินเสวียนเฮ่อผู้อาวุโสแปดครับ” ฉินเฟิงเยว่ยืนแนะนำอยู่ข้างๆ

“หลินเสวียนหมิงผู้อาวุโสสอง?” หลินอิ่งทำท่าเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ มองไปที่ชายวัยกลางคนผู้นั้นที่ทรงพลังด้วยสีหน้าเมินเฉย

หลินเสวียนหมิงยืดตัวตรง รัศมีออร่าไม่ธรรมดา สายตาคู่นั้นมีพลังมาก ยืนอยู่ที่นั่นราวกับเหยี่ยวที่ทะยานขึ้นไปสู่ท้องฟ้า เผยให้เห็นออร่าที่ดุดันและดุร้าย

หลินเสวียนหมิงแก่กว่าหลินซวนหวาผู้เป็นปู่ อายุที่แท้จริงควรจะมีอายุหกสิบกว่าแล้ว กระทั่งอายุเจ็ดสิบเข้าไปแล้ว

แต่ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก หลินเสวียนหมิงเหมือนคนที่อายุสี่สิบถึงห้าสิบปี ชายวัยกลางคนที่กำลังรุ่งโรจน์ในชีวิต ผมดำครับ เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ

หลินอิ่งมองแวบเดียวก็ตัดสินใจได้ในทันที นี่คือปรมาจารย์ระดับรายการแห่งฟ้า!

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับผู้อาวุโสสองแห่งตระกูลหลิน

แต่ก่อนหน้านี้ ได้เคยดวลกันมานับไม่ถ้วนแล้ว

ในทุกครั้ง มักเป็นหลินเสวียนหมิงที่ต้องกล้ำกลืนกับผลของความเจ็บปวด ความอาฆาตที่เขามีต่อตนเอง มันสามารถจินตนาการได้

หลินเสวียนหมิงทำเสียงหึอย่างเย็นชา กลอกตาใส่หลินอิ่งอย่างเยือกเย็น หันหลังเดินจากไป โดยไม่พูดอะไร

สีหน้าของหลินเสวียนเฮ่อถึงกับเขียนจนคล้ำ หน้าแดงก่ำ แล้วหันหลังเดินตามหลินเสวียนหมิงไปในทันที

“เหอะ” หลินอิ่งหัวเราะอย่างเย็นชา

จากคำพูดของท่านเฉินเฟิง เขาสามารถรับรู้ได้ว่านี่เป็นแผนการของหลินเสวียนหมิง อยากจะยืมใช้มีดของคนอื่นมาฆ่าคน ยืมมือของท่านเฉินเฟิงมากำจัดตัวเองทิ้งซะ

เพียงแต่พวกเขาคิดไม่ถึง หลายปีก่อนท่านเฉินเฟิงจะถูกเขาทำลายความกล้าไปทั้งหมดแล้ว เห็นเงาตัวเองยังต้องกลัว จะกล้าลงมือได้อย่างไร?

คิดไปคิดมา หลินเสวียนหมิงผู้นี้อยากจะมาเยาะเย้ยตัวเอง คราวนี้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ จึงทำให้เขารู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก

สำหรับหลินเสวียนหมิงผู้อาวุโสสองตระกูลหลิน หลินอิ่งได้วางแผนไว้แล้ว จะหาโอกาสที่เหมาะสม ต้องจัดการฆ่าเขาทิ้งซะ

หลินอิ่งมาที่ตระกูลหลินแห่งลังยา ยังมีอีกหนึ่งจุดประสงค์นั่นก็คือสะสางเรื่องที่หลินซวนหวาผู้เป็นปู่ทำไม่สำเร็จในอดีต และต่อสู้เพื่อแม่ที่ตายไปแล้ว

ทำให้คนของตระกูลหลินเห็นว่า หลินซูชิงที่ถูกพวกเขาไล่ออกจากบ้าน ลูกชายที่เธอให้กำเนิด เป็นคนอย่างไร!

“คุณชายหลินอิ่งครับ คุยกับท่านเฉินเฟิงสำเร็จไหมครับ?” ฉินเหิงเยว่ใส่สีหน้าตกใจมองสำรวจหลินอิ่ง

เขาคิดไม่ถึงว่า หลินอิ่งจะสามารถเดินออกมาจากคฤหาสน์ของท่านเฉินเฟิงโดยสงบสุขพบไม่พบเจอกับปัญหาใดๆ

ต้องรู้ว่า เมื่อครู่ฉินเหิงเยว่รับรู้ได้ถึงความดุดันที่ออกมาจากภายในห้องโถง แม้แต่เขายังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเลย

เขาสามารถสรุปได้เลยว่า ท่านเฉินเฟิงจะต้องโกรธมาก จนลงมือแน่

แต่สุดท้าย หลินอิ่งกลับ เดินออกมาอย่างไม่มีอะไรเสียแม้แต่ปลายผม?ท่านเฉินเฟิงสามารถทนกับการที่ลูกศิษย์ถูกฆ่า?ไม่สั่งสอบหลินอิ่ง?

ฉินเหิงเยว่มองไปที่หลินอิ่งหลายครั้ง แต่จากสีหน้าของหลินอิ่งก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งผิดปกติแม้แต่นิดเดียว

เขารู้สึกภายในใจว่า หลินอิ่งผู้นี้ยิ่งอยู่ยิ่งดูออกยากขึ้นทุกวัน!ช่างลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูก

“ถือว่าคุยสำเร็จมั้ง” หลินอิ่งพูดอย่างเรียบเฉย

หลินเหิงเยว่หัวเราะแห้งๆ แล้วพูดว่า “วิธีการของคุณชายหลินอิ่งไม่ธรรมดาเลยครับ แม้แต่เรื่องที่ยุ่งยากอย่างนี้ยังสามารถจัดการได้!กระผมเหล่าฉินเลื่อมใสมากครับ”

พูดจบ ฉินเหิงเยว่ก็หันกลับมาพูดต่อว่า “คุณชายหลินอิ่งครับ งั้นเชิญเข้าไปที่คฤหาสน์เถอะครับ แม่เฒ่ากำลังรอคุณอยู่ครับ ”

พูดจบ ทั้งสองก็พากันเดินทางไปที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน หลินอิ่งจึงพาจางฉีโม่มาด้วย

อีกด้านหนึ่ง

หลินเสวียนหมิงกับหลินเสวียนเฮ่อมาถึงบันไดหยกนอกคฤหาสน์ของตระกูลหลิน

หลินเสวียนหมิงหน้าแดงก่ำ กำหมัดแน่นจนเสียงดังกรอบแกรบ โกรธจนปอดแทบจะระเบิด!

“ผู้อาวุโสสองครับ คะ คุณอย่าโกรธเลยนะครับ เดี๋ยวก็ต้องเข้าพบแม่เฒ่าแล้ว อย่าใจร้อนนะครับ” หลินเสวียนเฮ่อสังเกตเห็นผู้อาวุโสสองที่ที่กำลังโกรธ จึงรีบพูดเกลี้ยกล่อม

“นี่มันเหลวไหลเกินไปแล้ว!ตู้เฉินเฟิงเป็นเศษสวะรึไง?มันทำอะไรของมัน!ลูกศิษย์ของเขาถูกหลินอิ่งฆ่า ฉันอุตส่าห์เอาผลประโยชน์มาล่อเขา แต่เขากลับปล่อยหลินอิ่งไป?” หลินเสวียนหมิงแทบจะกัดฟันกรอด สีหน้าโกรธเกรี้ยว

เขาคิดไม่ออกว่า เหตุใดหลินอิ่งถึงเดินมาโดยไม่มีอะไรเสียหาย!

ท่านเฉินเฟิงมัวทำอะไรอยู่?

หรือเขาไม่ได้ต่อกรกับหลินอิ่ง?

“อะ เอ่อตู้เฉินเฟิงอาจจะลงมือไปแล้ว แต่อาจจะถูกหลินอิ่งรับมือได้?แล้วทำให้เขาตกใจ ไม่กล้าสู้ต่ออีก?” หลินเสวียนเฮ่อพูดเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ ด้วยสีหน้าสงสัย

พวกเขาทั้งสองคน เดิมทีอยากจะมาดูเรื่องตลกของหลินอิ่งด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความสุข จะรอดูว่าหลินอิ่งจะถูกกำจัดบูโดได้อย่างไร แล้วไสหัวออกมาอย่างสะบักสะบอม

แต่คิดไม่ถึงว่า ตอนนี้หลินอิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาทั้งสองอย่างเริงร่า

จิตใจของพวกเขา รู้สึกทรมานเป็นอย่างมาก!

“ผิดคาดจริงๆ ผิดคาดมาก!” หลินเสวียนหมิงส่ายหัวไปมา แล้วพูดอย่างไม่ยอม “ตู้เฉินเฟิงคนนี้เสียทีที่เป็นถึงปรมาจารย์เปิดสำนัก ปรมาจารย์ที่มีอยู่ในต้นๆของรายการแห่งฟ้า!แต่กลับไม่สามารถสั่งสอนหลินอิ่งได้?”

“หรืออยากจะบีบให้ฉันหาโอกาส กำจัดหลินอิ่งด้วยตัวเอง?”

“ผู้อาวุโสสอง อย่าใจร้อนไปเลยครับ รออีกเดี๋ยว เราเข้าไปถามตู้เฉินเฟิง ถามว่าเขาจัดการเรื่องนี้ยังไง!ถ้าไม่อธิบายออกมา งั้นเราก็ไปถามตาแก่ง่อยนั่น!” หลินเสวียนเฮ่อกล่าวว่า “แม่เฒ่าจะมอบหมายภารกิจให้หลินอิ่งด้วยตัวเอง เรายังต้องหาโอกาสย้ายกลับเข้าไปในเมือง!”

“ย้ายกลับเข้าไปในเมือง?” หลินเสวียนหมิงสายตาเฉียบคม แล้วทำท่าเหมือนเริ่มครุ่นคิด

“จริงด้วย ไม่ว่ายังไง ฉันจะทำให้หลินอิ่งมันอยู่ในตระกูลหลินอย่างทรมาน!อยากจะลงหลักปักฐานในตระกูลหลิน มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”

……

หลังจากผ่านไปห้านาที

ณ ห้องโถงตระกูลหลิน

แม่เฒ่ากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ปรมาจารย์

ด้านล่าง คือเหล่าบรรดาผู้อาวุโสของตระกูลหลิน แต่ละคนเป็นคนมีอำนาจและอิทธิพลในการพูดสั่งการ

รวมถึงหลินซวนหวาคุณตาของหลินอิ่งก็อยู่ในที่นี้เช่นกัน

ครั้งนี้ หลินอิ่งปรากฏตัวขึ้นที่ตระกูลหลินแห่งลังยาอย่างเป็นทางการ ในฐานะทายาท ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

เวลานี้เอง หลินอิ่งกับจางฉีโม่ ก็ค่อยๆเดินเข้ามา

คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างมองไปที่พวกเขาทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset