ภายในรถนั้น พื้นที่เล็กน้อยบรรยากาศอันคับแคบ ทำให้ทั้งสองคนแน่ประสานกันอย่างใกล้ชิด
รถคันนี้จอดอยู่ข้างถนน แม้ว่าจะเป็นสายที่ค่อนข้างเปลี่ยว แต่ก็ยังพอมีคนเข้าออกอยู่บ้าง อาจจะไม่มากแต่ก็ยังมี และบังเอิญเหลือเกินตอนที่เธอไม่ต้องการให้ใครผ่านไปมามากที่สุด ก็บังเอิญพบเข้าพอดี
รถคันหนึ่งแล่นมาในถนนและผ่านรถของพวกเขาไป จากนั้นก็มีตามมาอีกสามคันสอง
ผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงได้ใช้เส้นทางนี้ และสังเกตเห็นรถที่จอดอยู่ริมถนน
แต่ไม่มีใครรู้เหรอว่าวินาทีนี้ มนต์เสน่ห์ของทั้งสองคนที่อยู่ในรถเหนือจินตนาการ
“ตื่นเต้นดีใช่มั้ยล่ะ?”
เขากุมมือของเธอเอาไว้ นิ้วทั้งสิบประสานกัน “ครั้งหน้าลองเปลี่ยนเป็นถนนที่มีคนพลุกพล่านดูน่าจะตื่นเต้นมากกว่านี้”
ซูย้าวกัดฟันอย่างรุนแรง มือจิกไปที่เบาะหนังอย่างควบคุมไม่ได้เสียจนเบาะขาด ใบหน้าอันเขินอายของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกมา
เดิมทีเธอคิดว่าเพียงแค่เธอพยายามอดทนเอาไว้ให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยดี แต่เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่า ไม่เพียงแต่ท่าทางของเขายังคงเป็นดังเดิม แต่การกระทำนั้นแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
ทั้งเชื่องช้าและหนักแน่นราวกับเขากำลังนึกถึงบางอย่างอยู่ ท่าทางนี้ดำเนินไปอยู่เนิ่นนานจนซูย้าวเองก็รู้สึกถึงความแปลกไป
ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาซุกแทรกเข้ามาตรงบริเวณลำคอของเธอ จึงทำให้เธอมองไม่เห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน แต่ก็ยังคงรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น เธอจึงยื่นมือเล็กๆ ออกไปสัมผัสด้านหลังคอของชายหนุ่ม “คุณ……”
เธอรู้สึกงงงวยและอยากจะถามคำถามกับเขา แต่ลี่เฉินซีก็เงยหน้าขึ้นดวงตาสีดำเข้มของเขามองมาที่เธอแล้วพูดว่า “คุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหม ว่าผมต้องเข้าไปลึกขนาดไหนถึงจะเข้าถึงหัวใจของคุณได้?”
“หรือว่าผมควรจะทำอย่างไรให้คุณมอบใจให้กับผม?”
เขาใช้นิ้วมือที่เรียวยาวจับไปยังแก้มของเธอเบาๆ แล้วปัดผมออกจากริมฝีปากก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบ
วินาทีนี้ซูย้าวรู้สึกว่าสมองของเธอว่างเปล่า ภาพตรงหน้าหมุนไปรอบๆ มีเสียงดังก้องออกมาจากหู เธอไม่รู้ว่าต่อจากนั้นเขาทำอีกนานเท่าไหร่ และมันจบลงอย่างไร เขาสวมเสื้อผ้าให้เธอตอนไหน และส่งเธอกลับไปเมื่อไหร่ถ้าไม่รู้เรื่องเลย
เธอรู้สึกสับสนมึนงง สมองของเธอ ราวกับเกิดคลื่นทะเลคำรามมันยากที่จะสงบลง เธอขดตัวเข้าหากันแล้วใช้มือทั้งสองข้างกอดเขาเอาไว้ นิ้วมือของเธอขยับไปมาไม่หยุดจิตใจว้าวุ่น ความคิดจากจิตใต้สำนึกของเธอปรากฏออกไปอย่างชัดเจนว่า
เขารู้แล้ว รู้ทั้งหมดแล้วจริงๆ
ลี่เฉินซีพาเธอมาที่ร้านขนมหลิ่งโจว แล้ววันนี้เขาปรากฏตัวขึ้นที่โรงงานแป้ง เธอไม่ได้บอกที่อยู่กับเขาในโทรศัพท์แม้แต่น้อย แต่เขาก็หามันพบ อีกทั้งในเวลาที่แม่นยำเหลือเกิน……
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เป็นเรื่องบังเอิญ!
อีกทั้งประโยคของเขาเมื่อครู่ก็ไม่ได้พูดออกมาเป็นเพราะมีความสุขในชั่วขณะ ดังนั้นเขาคงจะรู้แล้วจริงๆ
ซูย้าวหลับตาลงอย่างเจ็บปวดและอ่อนแรง เธอพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความระมัดระวังทุกวิถีทาง ดูเหมือนว่ามันจะราบรื่น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา มันกลับเกิดข้อผิดพลาดมากมายช่างตลกและไร้สาระสิ้นดี
แต่เขากลับไม่ได้เปิดเผยมันออกมา ไม่ใช่เพราะไว้หน้าหรือ เข้าใจในความรู้สึกนึกคิดของเธอ แต่เป็นเพราะ……
เขาต้องการคอยช่วยเหลือเธออยู่เบื้องหลังเท่านั้นเอง!
ซูย้าวกำมือของเธอด้วยความงุนงงทำตัวไม่ถูก ถ้าเขาเป็นแบบนี้แล้วความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเธอจะมีประโยชน์อะไร?
……
ลี่เฉินซีพาเธอกลับมาที่คฤหาสน์ตระกูลเจียง เมื่อมาถึงคฤหาสน์แล้วเขาได้ใช้เสื้อสูทของตัวเองคลุมร่างของเธอแล้วอุ้มเธอเข้าไปด้านในคฤหาสน์
ในห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่โต เจียงจี้เซิงกำลังโอบกอดเซียวไน่อยู่บนโซฟาอย่างหวานชื่น จู่ๆ เมื่อเงยหน้าเห็นทั้งสองคนก็อดไม่ได้ที่จะผงะ แต่ลี่เฉินซีกลับไม่ได้มองดูเขา ทำเพียงอุ้มซูย้าวขึ้นไปด้านบน
เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา จากนั้นหันไปที่ห้องน้ำ
ครู่หนึ่งเขาก็เดินออกมาอีกครั้งแล้วมานั่งข้างเธอ มืออันแข็งแรงสัมผัสไปที่แก้มของเธอเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงต่ำทุ้มและอ่อนโยนว่า “ผมเปิดน้ำเอาไว้ให้แล้ว เดี๋ยวคุณไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนก่อนเนอะ เดี๋ยวดึกๆ ผมค่อยขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ”
เธอพยักหน้าอย่างว่าง่าย ดวงตาอันงดงามของเธอสั่นไหวเหมือนมีเมฆหมอกปกคลุม ในสมองของเธอมีเรื่องมากมายเหลือเกิน มากมายเสียจนไม่อาจซ่อนมันได้อีกต่อไป
ลี่เฉินซีมองดูเธอด้วยแววตาอันลึกซึ้งแล้วกำชับเธอหยุดสองสามประโยคก่อนจะลุกขึ้นและเดินจากไป
เนิ่นนานทีเดียว ซูย้าวแชร์ตัวเองอยู่ในอ่างน้ำอุ่น น้ำร้อนทำให้ผิวหนังของเธอสัมผัสถึงความสบาย และทำให้เธอผ่อนคลายความกังวลลงอย่างช้าๆ
เธอหลับตาลง ที่จริงแล้วประโยคที่ลี่เฉินซีพูดนั้นเป็นความจริง เธอโกหกไม่เก่ง และไม่มีทักษะด้านการแสดงเอาเสียเลย
ดังนั้นเธอไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นนักแสดง
อานเจียเย้นมองความคิดของเธอออกเพียงแค่แวบเดียว ลี่เฉินซีก็สามารถมองออกถึงทักษะการแสดงเล็กน้อยของเธอนั้น แม้แต่เพ้ยส้าวหลี่ ก็ยังมองออกว่าความจริงใจนั่นเรื่องจริงหรือเท็จ จึงได้แอบหักหลังเธอ……
ทุกสิ่งอย่างวนเวียนไปมา ท้ายที่สุดแล้วก็กลับไปที่จุดเริ่มต้น เรื่องราวทุกสิ่งอย่างมันสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
ถ้าเช่นนั้นหลังจากนี้ เธอคงมีเพียงทางเลือกเดียวที่จะเดิน
แม้ว่ามันอาจจะดูหมดหวัง แต่ถ้าไม่ลองจะรู้ได้อย่างไรว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบไหน
เธอค่อยๆ เลื่อนร่างกายลงไป จนกระทั่งน้ำปกคลุมร่างกายทั้งร่าง ปล่อยให้เรือนร่างแช่น้ำอย่างสบาย เธอกลั้นลมหายใจจุ่มศีรษะลงไปที่ใต้น้ำ
จู่ๆ ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก ลี่เฉินซีก้าวเข้ามาและพบกับฉากตรงหน้า เขาไม่รู้ว่าเธอมุดอยู่ใต้น้ำแบบนี้นานเท่าไหร่แล้ว ดังนั้นจึงรีบเอนตัวลงไปลากเธอขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำโดยไม่คิด
“เป็นอะไรไปครับ?” เขาถามออกมาเบาๆ มือรีบดึงผ้าขนหนูที่วางไว้ด้านข้างมาเช็ด หน้าที่เต็มไปด้วยน้ำของเธอ และเช็ดผมยาวที่เปียกชุ่ม
เมื่อครู่ซูย้าวสำลักน้ำตอนนี้เธอพยายามหายใจเข้าอย่างรวดเร็วจึงทำให้ไอออกมาหลายที หลังจากกลับมาเป็นปกติแล้ว เธอก็ได้ยืดแขนออกไปโดยไม่คิด โอบคอของชายหนุ่มเข้ามาใกล้ เรี่ยวแรงของเธอค่อนข้างมาก จนทำให้เขาเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเธออย่างแน่น “กอดฉัน”
ลี่เฉินซีผงะ และในวินาทีต่อมาเขาก็เอื้อมมือออกไปก่อนเอาเธอมาไว้ในอ้อมแขน
เขากอดเธออยู่สักพัก จากนั้นจึงปล่อยเธอออกอย่างช้าๆ “เช็ดตัวก่อนนะเดี๋ยวผมจะอุ้มคุณออกไป”
เธอไม่ได้ตอบตกลงแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ปล่อยให้ชายหนุ่มอุ้มเธอออกไปด้านนอกโดยใช้ผ้าเช็ดตัวห่อหุ้มร่างกายเอาไว้ เช็ดหยดน้ำที่เกาะตามตัวออก ก่อนจะอุ้มเธอเดินตรงไปที่ห้องนอน
เมื่อเขาวางเธอลงบนเตียงใหญ่แล้ว ก็ได้เดินไปหยิบเครื่องเป่าผมมาเป่าให้เธอจนผมแห้ง เมื่อเขาปิดไดร์เป่าผมลง เธอก็เอนตัวเข้ามาในอ้อมแขนของเขาอีกครั้ง ก่อนจะใช้มือขึ้นไปลูบไล้ใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่ม เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ใช้ริมฝีปากปิดผนึกริมฝีปากเขา
“ทำอีกครั้งนะคะ” เธอพูดเบาๆ นุ่มนวล ดูเหมือนเป็นคำถาม แต่ก็เหมือนการร้องขอ
ลี่เฉินซีตกตะลึง เขารู้สึกถึงความผิดปกติของเธอแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่ยิ้มอย่างมีความสุข และเอนตัวลงให้คำตอบแก่เธอ
ครั้งนี้แม้เขาจะพยายามยับยั้งตัวเอง แต่ก็ไม่อ่อนโยนสักเท่าไหร่ เนื่องจากว่าพื้นที่ไม่ได้มีจำกัดเหมือนกับตอนอยู่ในรถ เขาสามารถทำได้ตามที่ต้องการ โดยท่วงท่าที่แตกต่างกันไป
ตั้งแต่ต้นจนจบ ซูย้าวร่วมมือกับเขาเป็นอย่างดี เธอไม่รังเกียจที่เขาจะทำอย่างรีบร้อนและหนักหน่วง ได้แต่ยอมรับอย่างเงียบๆ
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ เธอสัมผัสได้ว่าเขากำลังจะผ่อนคลายลง นิ้วเรียวของเธอก็สัมผัสลูบไล้ไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่ม “ที่จริงหัวใจของฉันให้คุณไปตั้งนานแล้ว”
ภายในรถนั้น พื้นที่เล็กน้อยบรรยากาศอันคับแคบ ทำให้ทั้งสองคนแน่ประสานกันอย่างใกล้ชิด
รถคันนี้จอดอยู่ข้างถนน แม้ว่าจะเป็นสายที่ค่อนข้างเปลี่ยว แต่ก็ยังพอมีคนเข้าออกอยู่บ้าง อาจจะไม่มากแต่ก็ยังมี และบังเอิญเหลือเกินตอนที่เธอไม่ต้องการให้ใครผ่านไปมามากที่สุด ก็บังเอิญพบเข้าพอดี
รถคันหนึ่งแล่นมาในถนนและผ่านรถของพวกเขาไป จากนั้นก็มีตามมาอีกสามคันสอง
ผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงได้ใช้เส้นทางนี้ และสังเกตเห็นรถที่จอดอยู่ริมถนน
แต่ไม่มีใครรู้เหรอว่าวินาทีนี้ มนต์เสน่ห์ของทั้งสองคนที่อยู่ในรถเหนือจินตนาการ
“ตื่นเต้นดีใช่มั้ยล่ะ?”
เขากุมมือของเธอเอาไว้ นิ้วทั้งสิบประสานกัน “ครั้งหน้าลองเปลี่ยนเป็นถนนที่มีคนพลุกพล่านดูน่าจะตื่นเต้นมากกว่านี้”
ซูย้าวกัดฟันอย่างรุนแรง มือจิกไปที่เบาะหนังอย่างควบคุมไม่ได้เสียจนเบาะขาด ใบหน้าอันเขินอายของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกมา
เดิมทีเธอคิดว่าเพียงแค่เธอพยายามอดทนเอาไว้ให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยดี แต่เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่า ไม่เพียงแต่ท่าทางของเขายังคงเป็นดังเดิม แต่การกระทำนั้นแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
ทั้งเชื่องช้าและหนักแน่นราวกับเขากำลังนึกถึงบางอย่างอยู่ ท่าทางนี้ดำเนินไปอยู่เนิ่นนานจนซูย้าวเองก็รู้สึกถึงความแปลกไป
ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาซุกแทรกเข้ามาตรงบริเวณลำคอของเธอ จึงทำให้เธอมองไม่เห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน แต่ก็ยังคงรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น เธอจึงยื่นมือเล็กๆ ออกไปสัมผัสด้านหลังคอของชายหนุ่ม “คุณ……”
เธอรู้สึกงงงวยและอยากจะถามคำถามกับเขา แต่ลี่เฉินซีก็เงยหน้าขึ้นดวงตาสีดำเข้มของเขามองมาที่เธอแล้วพูดว่า “คุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหม ว่าผมต้องเข้าไปลึกขนาดไหนถึงจะเข้าถึงหัวใจของคุณได้?”
“หรือว่าผมควรจะทำอย่างไรให้คุณมอบใจให้กับผม?”
เขาใช้นิ้วมือที่เรียวยาวจับไปยังแก้มของเธอเบาๆ แล้วปัดผมออกจากริมฝีปากก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบ
วินาทีนี้ซูย้าวรู้สึกว่าสมองของเธอว่างเปล่า ภาพตรงหน้าหมุนไปรอบๆ มีเสียงดังก้องออกมาจากหู เธอไม่รู้ว่าต่อจากนั้นเขาทำอีกนานเท่าไหร่ และมันจบลงอย่างไร เขาสวมเสื้อผ้าให้เธอตอนไหน และส่งเธอกลับไปเมื่อไหร่ถ้าไม่รู้เรื่องเลย
เธอรู้สึกสับสนมึนงง สมองของเธอ ราวกับเกิดคลื่นทะเลคำรามมันยากที่จะสงบลง เธอขดตัวเข้าหากันแล้วใช้มือทั้งสองข้างกอดเขาเอาไว้ นิ้วมือของเธอขยับไปมาไม่หยุดจิตใจว้าวุ่น ความคิดจากจิตใต้สำนึกของเธอปรากฏออกไปอย่างชัดเจนว่า
เขารู้แล้ว รู้ทั้งหมดแล้วจริงๆ
ลี่เฉินซีพาเธอมาที่ร้านขนมหลิ่งโจว แล้ววันนี้เขาปรากฏตัวขึ้นที่โรงงานแป้ง เธอไม่ได้บอกที่อยู่กับเขาในโทรศัพท์แม้แต่น้อย แต่เขาก็หามันพบ อีกทั้งในเวลาที่แม่นยำเหลือเกิน……
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เป็นเรื่องบังเอิญ!
อีกทั้งประโยคของเขาเมื่อครู่ก็ไม่ได้พูดออกมาเป็นเพราะมีความสุขในชั่วขณะ ดังนั้นเขาคงจะรู้แล้วจริงๆ
ซูย้าวหลับตาลงอย่างเจ็บปวดและอ่อนแรง เธอพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความระมัดระวังทุกวิถีทาง ดูเหมือนว่ามันจะราบรื่น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา มันกลับเกิดข้อผิดพลาดมากมายช่างตลกและไร้สาระสิ้นดี
แต่เขากลับไม่ได้เปิดเผยมันออกมา ไม่ใช่เพราะไว้หน้าหรือ เข้าใจในความรู้สึกนึกคิดของเธอ แต่เป็นเพราะ……
เขาต้องการคอยช่วยเหลือเธออยู่เบื้องหลังเท่านั้นเอง!
ซูย้าวกำมือของเธอด้วยความงุนงงทำตัวไม่ถูก ถ้าเขาเป็นแบบนี้แล้วความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเธอจะมีประโยชน์อะไร?
……
ลี่เฉินซีพาเธอกลับมาที่คฤหาสน์ตระกูลเจียง เมื่อมาถึงคฤหาสน์แล้วเขาได้ใช้เสื้อสูทของตัวเองคลุมร่างของเธอแล้วอุ้มเธอเข้าไปด้านในคฤหาสน์
ในห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่โต เจียงจี้เซิงกำลังโอบกอดเซียวไน่อยู่บนโซฟาอย่างหวานชื่น จู่ๆ เมื่อเงยหน้าเห็นทั้งสองคนก็อดไม่ได้ที่จะผงะ แต่ลี่เฉินซีกลับไม่ได้มองดูเขา ทำเพียงอุ้มซูย้าวขึ้นไปด้านบน
เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา จากนั้นหันไปที่ห้องน้ำ
ครู่หนึ่งเขาก็เดินออกมาอีกครั้งแล้วมานั่งข้างเธอ มืออันแข็งแรงสัมผัสไปที่แก้มของเธอเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงต่ำทุ้มและอ่อนโยนว่า “ผมเปิดน้ำเอาไว้ให้แล้ว เดี๋ยวคุณไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนก่อนเนอะ เดี๋ยวดึกๆ ผมค่อยขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ”
เธอพยักหน้าอย่างว่าง่าย ดวงตาอันงดงามของเธอสั่นไหวเหมือนมีเมฆหมอกปกคลุม ในสมองของเธอมีเรื่องมากมายเหลือเกิน มากมายเสียจนไม่อาจซ่อนมันได้อีกต่อไป
ลี่เฉินซีมองดูเธอด้วยแววตาอันลึกซึ้งแล้วกำชับเธอหยุดสองสามประโยคก่อนจะลุกขึ้นและเดินจากไป
เนิ่นนานทีเดียว ซูย้าวแชร์ตัวเองอยู่ในอ่างน้ำอุ่น น้ำร้อนทำให้ผิวหนังของเธอสัมผัสถึงความสบาย และทำให้เธอผ่อนคลายความกังวลลงอย่างช้าๆ
เธอหลับตาลง ที่จริงแล้วประโยคที่ลี่เฉินซีพูดนั้นเป็นความจริง เธอโกหกไม่เก่ง และไม่มีทักษะด้านการแสดงเอาเสียเลย
ดังนั้นเธอไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นนักแสดง
อานเจียเย้นมองความคิดของเธอออกเพียงแค่แวบเดียว ลี่เฉินซีก็สามารถมองออกถึงทักษะการแสดงเล็กน้อยของเธอนั้น แม้แต่เพ้ยส้าวหลี่ ก็ยังมองออกว่าความจริงใจนั่นเรื่องจริงหรือเท็จ จึงได้แอบหักหลังเธอ……
ทุกสิ่งอย่างวนเวียนไปมา ท้ายที่สุดแล้วก็กลับไปที่จุดเริ่มต้น เรื่องราวทุกสิ่งอย่างมันสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
ถ้าเช่นนั้นหลังจากนี้ เธอคงมีเพียงทางเลือกเดียวที่จะเดิน
แม้ว่ามันอาจจะดูหมดหวัง แต่ถ้าไม่ลองจะรู้ได้อย่างไรว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบไหน
เธอค่อยๆ เลื่อนร่างกายลงไป จนกระทั่งน้ำปกคลุมร่างกายทั้งร่าง ปล่อยให้เรือนร่างแช่น้ำอย่างสบาย เธอกลั้นลมหายใจจุ่มศีรษะลงไปที่ใต้น้ำ
จู่ๆ ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก ลี่เฉินซีก้าวเข้ามาและพบกับฉากตรงหน้า เขาไม่รู้ว่าเธอมุดอยู่ใต้น้ำแบบนี้นานเท่าไหร่แล้ว ดังนั้นจึงรีบเอนตัวลงไปลากเธอขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำโดยไม่คิด
“เป็นอะไรไปครับ?” เขาถามออกมาเบาๆ มือรีบดึงผ้าขนหนูที่วางไว้ด้านข้างมาเช็ด หน้าที่เต็มไปด้วยน้ำของเธอ และเช็ดผมยาวที่เปียกชุ่ม
เมื่อครู่ซูย้าวสำลักน้ำตอนนี้เธอพยายามหายใจเข้าอย่างรวดเร็วจึงทำให้ไอออกมาหลายที หลังจากกลับมาเป็นปกติแล้ว เธอก็ได้ยืดแขนออกไปโดยไม่คิด โอบคอของชายหนุ่มเข้ามาใกล้ เรี่ยวแรงของเธอค่อนข้างมาก จนทำให้เขาเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเธออย่างแน่น “กอดฉัน”
ลี่เฉินซีผงะ และในวินาทีต่อมาเขาก็เอื้อมมือออกไปก่อนเอาเธอมาไว้ในอ้อมแขน
เขากอดเธออยู่สักพัก จากนั้นจึงปล่อยเธอออกอย่างช้าๆ “เช็ดตัวก่อนนะเดี๋ยวผมจะอุ้มคุณออกไป”
เธอไม่ได้ตอบตกลงแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ปล่อยให้ชายหนุ่มอุ้มเธอออกไปด้านนอกโดยใช้ผ้าเช็ดตัวห่อหุ้มร่างกายเอาไว้ เช็ดหยดน้ำที่เกาะตามตัวออก ก่อนจะอุ้มเธอเดินตรงไปที่ห้องนอน
เมื่อเขาวางเธอลงบนเตียงใหญ่แล้ว ก็ได้เดินไปหยิบเครื่องเป่าผมมาเป่าให้เธอจนผมแห้ง เมื่อเขาปิดไดร์เป่าผมลง เธอก็เอนตัวเข้ามาในอ้อมแขนของเขาอีกครั้ง ก่อนจะใช้มือขึ้นไปลูบไล้ใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่ม เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ใช้ริมฝีปากปิดผนึกริมฝีปากเขา
“ทำอีกครั้งนะคะ” เธอพูดเบาๆ นุ่มนวล ดูเหมือนเป็นคำถาม แต่ก็เหมือนการร้องขอ
ลี่เฉินซีตกตะลึง เขารู้สึกถึงความผิดปกติของเธอแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่ยิ้มอย่างมีความสุข และเอนตัวลงให้คำตอบแก่เธอ
ครั้งนี้แม้เขาจะพยายามยับยั้งตัวเอง แต่ก็ไม่อ่อนโยนสักเท่าไหร่ เนื่องจากว่าพื้นที่ไม่ได้มีจำกัดเหมือนกับตอนอยู่ในรถ เขาสามารถทำได้ตามที่ต้องการ โดยท่วงท่าที่แตกต่างกันไป
ตั้งแต่ต้นจนจบ ซูย้าวร่วมมือกับเขาเป็นอย่างดี เธอไม่รังเกียจที่เขาจะทำอย่างรีบร้อนและหนักหน่วง ได้แต่ยอมรับอย่างเงียบๆ
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ เธอสัมผัสได้ว่าเขากำลังจะผ่อนคลายลง นิ้วเรียวของเธอก็สัมผัสลูบไล้ไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่ม “ที่จริงหัวใจของฉันให้คุณไปตั้งนานแล้ว”