ตอนที่ 21 : บนดาดฟ้าของห้างสรรพสินค้า
เวลา 11.35 นาฬิกา – ห้างสรรพสินค้าบาคัวร์, ดาดฟ้า
เหล่าผู้หญิงนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกกันเป็นวงกลมใกล้ๆกับบันไดที่พวกเธอได้ปีนขึ้นมาก่อนหน้านี้ ในขณะที่พนักงานชายก็กำลังคุยอยู่กับชายสามคนซึ่งดูอายุต่างกันซึ่งพวกเขาสวมใส่ชุดเครื่องแบบเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน
เมื่อตอนที่พวกเขาได้ปีนขึ้นมาถึงดาดฟ้าก่อนหน้านี้ พวกเขาก็ได้เผชิญหน้ากับชายสามคนนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างก็ระแวงต่อกัน แต่พนักงานชายซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาจะคุ้นเคยก็เป็นคนที่ได้ทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดนี้ไป จากการที่ได้พูดคุย เหมือนว่าพวกเขาสามคนนั้นได้กำลังทำความสะอาดดาดฟ้าอยู่เมื่อตอนที่ได้เกิดเหตุการณ์หายนะต่างๆขึ้น
พวกเขาได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านหลังคาหน้าต่างของบนดาดฟ้าที่ตั้งอยู่และพวกเขาก็กลัวที่จะกลับไปข้างในห้าง เมื่อพวกเขาเห็นคนปีนขึ้นมาที่ดาดฟ้า พวกเขาคิดว่าพวกสัตว์ร้ายข้างล่างนั่นได้ปีนขึ้นมาบนดาดฟ้า แต่พวกเขาก็ดีใจที่รู้ว่าสิ่งที่ปีนขึ้นมานั้นคือคนที่พยายามจะหลบหนีและพวกเขาทั้งสามก็เข้าไปหาเพื่อที่จะทักทาย แต่อย่างไรมันก็จบด้วยความล้มเหลว
เมื่อสามคนนั้นได้เข้าไปทักทายสั้นๆกับเหล่าผู้หญิง แม่เด็กและลูกของเธอ รวมถึงแองเจและพอลลาต่างก็ดูยินดี และก็รู้สึกดีใจเช่นกันที่เจอคนอื่นๆ ยกเว้นเหมยที่เริ่มตัวสั่นและเดินถอยหลังออกไปอย่างช้าๆ ชายสามคนนั้นก็เริ่มมีปัญหากับปฏิกิริยาที่เหมยได้แสดงออกมา
พอลลาบอกแองเจให้พาเหมยไปพักสักนิด และได้ขอโทษชายสามคนนั้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น พอลลาได้อธิบายต่อเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นแต่ก็ยังละเว้นรายละเอียดเอาไว้บ้างซึ่งเหมยนั้นกลายเป็นโรคกลัวผู้ชายไปแล้ว
ชายสามคนนั้นเข้าใจและไม่ได้ต้องการรับรู้เรื่องนี้อย่างละเอียดทั้งหมด แต่ชายที่เด็กที่สุดช่วยไม่ได้ที่จะไม่มองชำเลืองไปที่เหมยด้วยสายตาที่ชื่นชอบ แต่เหมยนั้นก็ถือว่าอยู่ต่างระดับกับเขา
หลังจากนั้น ชายหนุ่มคนนี้ก็โดนโขกเข้าไปที่ศรีษะโดยชายที่อายุเยอะกว่าที่ยืนอยู่ข้างเขา ทำให้เขาละสายตาออกไปและกุมหัวด้วยความเจ็บ ชายที่แก่กว่านั้นขอโทษแทนความไม่เหมาะสมของนิสัยของชายหนุ่มและลากเขาออกไป
พนักงานชายเจอเก้าอี้พลาสติกหลายๆตัวและนำไปให้เหล่าผู้หญิง และเข้าไปคุยกับพนักงานทำความสะอาดสามคนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้
เหล่าผู้หญิงนำขนมและเครื่องดื่มออกมาจากกระเป๋า มันได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว แม่เด็กเปิดแซนวิชที่ถูกห่อไว้และป้อนให้ลูกสาวของเธอที่นั่งอยู่ข้างเธอ แองเจและพอลลาก็ได้เปิดแซนวิชที่ของพวกเธอ เหมยซึ่งที่สงบอารมณ์ได้แล้วก็กำลังดื่มน้ำส้ม ตอนนี้เธอทำได้แค่ดื่มน้ำส้มเนื่องจากแผลที่ปากของเธอยังคงเจ็บอยู่
พอลลาก็ได้นำแซนวิชและเครื่องดื่มให้พวกผู้ชาย พนักงานชายรับอาหารและเครื่องดื่มที่เธอเสนอให้ ในขณะที่ชายอีกสามคนรับเพียงแค่เครื่องดื่มและบอกเธอว่าพวกเขาก็มีอาหารกลางวันที่พวกเขาเตรียมเอาไว้แล้ว อันที่จริงพนักงานทำความสะอาดเด็กหนุ่มก็ต้องการที่จะรับแซนวิชนั้นไว้ แต่เขาก็ถูกจ้องเขม็งโดยพนักงานชายที่แก่กว่า
แม้ว่าพวกเขากำลังกินอาหารและรู้สึกปลอดภัยแล้ว แต่เหล่าผู้หญิงและพนักงานชายก็ดูมีสีหน้าที่บึ้งตึง เครียด และกังวลอย่างเห็นได้ชัด และจ้องมองไปที่บันไดที่พวกเขาได้ปีนขึ้นมาก่อนหน้านี้ตลอดเวลา
ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของพนักงานชายวัยกลางก็ได้ทำงานขึ้นมา
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นกันล่ะ? เกิดอะไรขึ้น?”
พนักงานชายถอนหายใจ
“คนที่ช่วยให้พวกเรามาไกลถึงตรงนี้ยังคงคิดอยู่ข้างล่าง”
พนักงานชายชี้ไปที่พื้นตรงฝ่าเท้าเขา จากนั้นพนักงานชายก็เริ่มรื้อความทรงจำเล่าสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มาร์คช่วยเอาไว้ได้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ตั้งแต่ตอนที่เขาหากล่องอาหารและถูกซอมบี้ไล่ล่า วิธีที่เขาหาวิธีหลบหนีในโซนสินค้าไอที และเวลาที่มาร์ควิ่งล่อซอมบี้ไปอีกทางเพื่อให้พวกเขาได้หลบหนีอย่างปลอดภัย และเหตุการณ์คร่าวๆที่เขาได้ช่วยเหมยเอาไว้
ชายทั้งสามคนนั้นถึงกับประหลาดใจและก็เข้าใจความรู้ของพวกเขากลุ่มนี้ซึ่งต้องจัดการเอาชีวิตให้รอดมาได้อย่างยากลำบาก ในขณะที่พวกเขาสามคนอยู่บนดาดฟ้า พวกเขาเห็นเหตุการณ์หลายๆอย่างทั้งข้างในและข้างนอกห้าง พวกเขาเห็นคนตาย และเห็นคนถูกไล่กิน ภาพฉากเหลา่านั้นทำให้ท้องไส้ของพวกเขาปั่นป่วนอยากมาก พวกเขากลัวการที่จะหนีออกไปจากทีปลอดภัยบนดาดฟ้าแห่งนี้
และคนของกลุ่มมาร์คก็เกือบไม่มีชีวิตรอดมาหลายต่อหลายครั้งเช่นกัน
บรรยากาศเริ่มตึงเครียด พวกคนทำความสะอาดกำลังกังวลถึงครอบครัวของพวกเขา และเรื่องราวที่พวกเขาเพิ่งได้ฟังทำให้พวกเขามีความรู้สึกกังวลมากขึ้น
ครอบครัวพวงเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง? พวกเขาจะปลอดภัยมั้ย? ถ้าพวกเขาอยู่ในอันตราย จะมีคนช่วยพวกเขาเหมือนที่กลุ่มนี้ถูกช่วยไว้มั้ย พวกเขาก็กังวลมากขึ้นเรื่อยๆ
“ฉันขอให้ครอบครัวของฉันปลอดภัย” พนักงานชายทำความสะอาดวัยกลางพูดขึ้นมา
เมื่อได้ยินสิ่งที่พนักงานชายพูดออกมา กลุ่มของมาร์คก็มีความรู้สึกเดียวกัน ตอนนี้ที่พวกเขาปลอดภัยจากเหตุการณ์ร้ายๆข้างล่างนั่น อยู่ๆภาพการเผชิญกับประสบการณ์เฉียดตายก็โผล่เข้าไปอยู่ในใจของพวกเขา ครอบครัวของพวกเขาจะเจอสถานการณ์แบบเดียวกับพวกเขาหรือไม่? ใครจะไปรู้? พวกเขาหยุดกินอาหารโดยไม่ทันได้รู้ตัว
มีอยู่สองคนบนดาดฟ้าที่ดูเหมือนจะไม่กังวลเกี่ยวกับครอบครัวของพวกเขา แองเจยังคงกินแซนวิชอย่างต่อเนื่องด้วยความอร่อย เธอใช้พลังงานไปชุดใหญ่กับการต่อสู้กับพวกซอมบี้ก่อนหน้านี้ และตอนนี้เธอก็รู้สึกหิวกระหายมากๆ อีกอย่างเธอก็ดูเหมือนว่าไม่ได้กังวลอะไรเกี่ยวกับครอบครัวของเธอที่อาจจะเผชิญหน้าอยู่ในอันตราย เหมยก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน เธอมาจากครอบครัวธุรกิจที่ร่ำรวย พวกเขามีเส้นสายที่สามารถพาพวกเขาไปยังที่ปลอดภัยได้
เหมยนั้นได้กังวลถึงคนที่ช่วยชีวิตเธอที่ติดอยู่ข้างในห้างมากกว่า ถ้าเธอสามารถวิ่งได้ เธออาจจะวิ่งกลับไปเพื่อหาเขาด้วยซ้ำ
เหมยนั้นมีความรู้สึกที่อึดอัด เธอมองไปข้างหลังของเธอ จากนั้นเธอก็ยืนขึ้นและเดินไปอย่างโซซัดโซเซตรงไปทางด้านใต้ของบนดาดฟ้า ซึ่งคนอื่นๆก็ชำเลืองมองด้วยความสับสน
แองเจต้องการที่จะตามเหมยไปแต่พอลลาหยุดแองเจเอาไว้ พอลลาเข้าใจว่าเหมยอาจจะอยู่ในภาวะที่ยังมีความบอบช้ำทางจิตใจอยู่ และคนที่เจอแบบนั้นก็ต้องการเวลาที่ต้องการอยู่คนเดียวสักพัก ตราบใดที่เธอนั้นไม่ฆ่าตัวตาย ทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น
เหมยเดินไปอย่างช้าๆแต่นั่นก็เร็วที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ในตอนนี้ มีโครงสร้างตึกที่เหมือนตึกนี้ซึ่งถูกสร้างอยู่ทางใต้ของบนดาดฟ้า บนตึกนั้นมีประตูหลายบาน แต่เธอกลับเพ่งเล็งไปที่ประตูสองบานใหญ่ที่อยู่ทางด้านซ้ายด้วยเหตุผลบางอย่าง
ในขณะที่เธอนั้นได้อยู่ห่างไปหลายเมตรจากประตูสองบานนั้น และประตูเปิดออกมา…
***
มาร์คพาร่างที่เหนื่อยหอบของเขาขึ้นไปยังบันไดขั้นสุดท้ายอย่างยากลำบาก เขาเห็นประตูสองบานอยู่ข้างบน และเขาแน่ใจแน่นอนว่าจะต้องเป็นดาดฟ้าแน่นอน
เขาดึงประตูเปิดออกและก้าวออกมาก่อนที่จะปิดประตูลงในทันที ด้วยความรู้สึกที่อ่อนแอ เขายืนพิงกำแพงข้างๆประตูและเริ่มที่จะไอออกมา
ในตอนนี้ที่เขารู้สึกปลอดภัย ความรู้สึกเจ็บปวดที่ขาทั้งสองข้างของเขาก็เริ่มขึ้น ปอดของเขาก็ได้หายใจติดขัด และรู้สึกเจ็บไปที่ใต้ซี่โครงด้านขวาของเขา
ด้วยพลังงานที่หมดลงของเขา เขาได้เอาร่างกายของเขายึดกำแพง
จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงก้าวเท้าเบาๆอยู่ที่หน้าของเขา ทำให้เขาเงยหน้าที่เหน็ดเหนื่อยของเขาขึ้นมา
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมา เขาเห็นเหมยที่ร้องห่มร้องไห้กับร่างที่อ่อนแอของเธอในขณะที่เธอก็เดินโซเซไปหาเขา
เขาพยายามจะยิ้มให้เธอแต่ยิ้มนั้นก็ทำให้เขาไอออกมาหลายครั้ง
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมา เหมยก็ได้อยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว แขนทั้งสองข้างของเธอที่เหมือนจะกอดเขา แต่เธอไม่กอดและเอาแขนจับไว้อย่างนั้น ในอีกด้านหนึ่งเหมยนั้นก็รู้สึกสับสนไร้สติและตัวแข็งทื่อไปเมื่อเธอได้รู้ตัวแล้วว่ากำลังทำอะไรอยู่
บรรยากาศก็กลับกลายเป็นเขินอาย
มาร์คก็สังเหตุเห็นได้ว่าคนอื่นๆนั้นเห็นเขามาถึงแล้ว และวิ่งตรงมาหาเขา เขาเช็ดมือขวาไปที่เสื้อของเขา และลูบไปที่ศรีษะของเธอเพื่อลดบรรยากาศเขินอายนี้ จากนั้นเหมยก็ได้ปล่อยมือทั้งสองข้างของเธอและช่วยประคองแขนซ้ายของมาร์คด้วยมือทั้งสองของเธอ
มันเหมือนกับเป็นภาพฉากของการกลับมารวมกลุ่มกันครั้งยิ่งใหญ่ที่มีอยู่ในซีรีย์ดราม่าล้าสมัย จนกระทั่งเขารู้สึกหน้ามืดเห็นทุกอย่างสว่างไปหมด ในขณะที่เขาสะดุ้งให้กับความเจ็บปวด เข่าของเขาก็ล้มพับลงไป