Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 166

Special District 9 – เขตพิเศษที่ 9 Special District 9 ตอนที่ 166 หลิวเป่าเฉินผู้ร่าเริง

เช้าวันต่อมา

หลิวเป่าเฉินกําลังเพลิดเพลินกับอาหารเช้าอยู่ในห้องนั่งเล่นก่อนหันไปบอกภรรยา “คืนนี้ฉันไม่กลับบ้านนะ จะไปพบลูกความ”

“หืม ลูกความเหรอ? คราวนี้จะไปหลอกใครอีกล่ะ?” ภรรยาของหลิวเป่าเฉินถามด้วยท่าทางเยาะเย้ย

“ลูกความจริงๆ” หลิวเป่าเฉินตอบขณะเคี้ยวข้าวต้ม “หยวนเค่อเรียกฉันไป ฉันปฏิเสธเขาไม่ได้”

“หยวนเค่อไม่ได้ทํางานให้สํานักงานตํารวจแล้วนี่ ทําไมคุณยังต้องฟังคําสั่งเขาอีก?”

“ถึงเขาลาออกไปแล้วแต่ความสัมพันธ์ของเรายังแน่นแฟ้น นอกจากนี้ตั้งแต่เข้ารับตําแหน่งในบริษัทเขาก็ปฏิบัติต่อฉันอย่างดี และดีกว่าหยวนหัวเสียอีก” หลิวเป่าเฉินกล่าว

เขาหยิบเงินจํานวนแปดพันดอลลาร์ออกมาจากกระเป๋าสตางค์สีดําก่อนวางบนโต๊ะอย่างภูมิอกภูมิใจ “เป็นไง….ดูดีใช่ไหมล่ะ?”

ภรรยาของหลิวเป่าเฉินคว้าเงินไปนับอย่างรวดเร็วก่อนมองไปถามเขาอย่างสงสัย “แค่แปดพันเองเหรอ?”

“ครับผม แปดพัน” หลิวเป่าเฉินตอบอย่างสุภาพ

“คุณไม่ได้แอบเม้มไว้ที่อื่นอีกใช่ไหม?”

“ผมไม่กล้าหรอก”

“ไหนเอามาดูสิ”

“นี่ ช่วยเคารพผมหน่อยได้ไหม? ผมเป็นสามีคุณนะ!” หลิวเป่าเฉินพูดอย่างร้อนรน

“เคารพบ้าบออะไร!” ภรรยาของหลิวเป่าเฉินสวนกลับพลางตบๆ ลูบๆ ไปทั่วร่างกายเขา

เพียงไม่กี่นาทีหล่อนจึงเจอเงินอีกสองพันดอลลาร์จากกระเป๋าเสื้อด้านในของสามี สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสิงโตดุร้ายในทันที “แหม! กล้านักนะ! คิดว่าจะซ่อนเงินจากฉันได้ เหรอห้ะ?”

“อย่างน้อยคุณต้องให้เงินผมไปเที่ยวข้างนอกบ้างสิ!”

“เที่ยวนอกบ้านแบบไหนเหรอที่ต้องใช้ตั้งสองพันนะ?”

“คุณก็รู้ว่าเหวินหย่งกังเพิ่งถูกย้ายมาที่สํานักงานตํารวจในฐานะรองผู้กํากับการ ฉันติดตามเขาก็เลยต้องใช้เงินจํานวนนี้เพื่อวางแผนและสร้างความสัมพันธ์บางอย่าง” หลิวเป่าเฉินอธิบาย “ฉันต้องใช้เงินนั้นจริงๆ นะคุณ คืนมาเถอะ”

“ฉันเองไม่ใช่จะเป็นคนไร้เหตุผล ถ้ารู้ว่าต้องใช้เงินเพื่อสร้างสายใยกับเพื่อนร่วมงาน…งั้นค่อยมาเบิกกับฉันที่หลังแล้วกัน และถ้าจะใช้ต้องรายงานฉันอย่างละเอียดด้วยว่าเอาเงินไปใช้อะไร?” ภรรยาตอบขณะเก็บเงินทั้งหมดลงในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนของเธอ “เอ้าไปทํางานได้แล้ว”

“ถึงผมเป็นสามีคุณแต่ก็มีสิทธิ์มีเสียงเหมือนกันนะเว้ย!” หลิวเป่าเฉินโก่งคอตะโกนด้วยความโกรธ

ภรรยาไม่ใส่ใจเขาเลย เธอเดินเข้าไปทําความสะอาดในครัวหน้าตาเฉย

พอเห็นว่าภรรยาไม่มีท่าที่จะพูดเรื่องเงินอีก เขาจึงทําได้เพียงชุดโจ๊กให้หมดก่อนลุกไปเปลี่ยนชุดทํางานและแวะไปที่ห้องของลูกสาว

“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณพ่อ” เด็กหญิงอายุสิบขวบแต่งตัวในชุดคล้ายเจ้าหญิงทักทายหลิวเป่าเฉินด้วยรอยยิ้มแสนหวาน

หลิวเป่าเฉินนั่งลงและจูบที่หน้าผากเด็กตัวเล็กพลางถามว่า “วันนี้วันหยุดใช่ไหม? บ่ายนี้จะทําอะไรเอ่ย?”

“คุณแม่จะพาหนูไปบ้านคุณย่าค่ะ”

“ดีแล้วจ้ะ ลูกควรไปหาคุณย่าบ่อยๆ คุณย่าแก่มากแล้ว คงคิดถึงลูกหลาน” หลิวเป่าเฉินพูดขณะลูบหัวลูกสาวด้วยความเอ็นดู “เมื่อวานพ่อซื้อของขวัญไว้ให้ลูกด้วยแหละ มันวางอยู่บนชั้นวางหนังสือของพ่อ”

“จริงเหรอคะ?!”

“ไปเอาสิจ๊ะ แต่อย่าให้แม่เห็นนะเข้าใจไหม?”

“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ!” เด็กหญิงตัวน้อยโอบรอบคอและหอมแก้มของหลิวเป่าเฉินก่อนรีบวิ่งออกห้องไป

หลิวเป่าเนินสวมเสื้อคลุมและจากไปอย่างกระฉับกระเฉงภายใต้แดดยามเช้าที่ส่องเข้ามาในบ้านอบอุ่นหลังนี้

เวลาหนึ่งทุ่มครึ่งในคฤหาสน์เริงรมย์

“สาวๆ ออกมาต้อนรับผู้บัญชาการหมวดหลิวของเราหน่อย!” เสี่ยวจิ๋วตะโกนบอกพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่ง

“ไม่เป็นไร ไม่จําเป็นหรอก” หลิวเป่าเฉินปฏิเสธความปรารถนาดีของเสี่ยวจิ๋วด้วยรอยยิ้ม “เข้าธุระเลยดีกว่า”

“หืม… แน่ใจนะครับว่าไม่จําเป็น?”

“แน่ใจสิ เดี๋ยวกลิ่นผู้หญิงที่นี่จะติดกลับบ้านไปด้วยน่ะ ฮ่าๆๆ” หลิวเป่าเฉินตอบด้วยเสียงหัวเราะ

“นายน่าจะได้รับรางวัลสามีดีเด่นแห่งเขตพิเศษนะ” หยวนเค่อแซวขณะเดินเช็ดมือออกจากห้องน้ำมา “นายได้รับคําขอความร่วมมือจากสํานักงานตํารวจเขตเจียงหนานแล้วใช่ไหม?”

“ใช่ ผมเห็นเมื่อเช้าแล้ว” หลิวเป่าเฉินตอบพร้อมพยักหน้า

“เรายังไม่มีรูปถ่ายของคนที่ฆ่าหมู่เหย้า จะมีก็แต่ภาพสเก็ตช์คนร้าย” หยวนเค่อกล่าวขณะจิบน้ำ “ผู้บัญชาการหมวดหลิว ฉันต้องการให้นายและคนของนายให้ความสําคัญกับคดีนี้ด้วย ฉันจะขอบคุณมากๆ ถ้านายสามารถจับมือปืนเหล่านั้นได้”

“ผมมีรูปถ่ายของมือปืนที่ฆ่าหรู่เหย้า” หลิวเป่าเฉินพูดขึ้นทันที

“อะไรนะ! นายมีเหรอ?” หยวนเค่อตกตะลึงกับข้อมูลกะทันหันนี้

หลิวเป่าเฉินเปิดกระเป๋าและหยิบรูปถ่ายของอาเสียวขึ้นมาวางบนโต๊ะ “ลองดูสิ ว่าตรงกับคนในรูปสเก็ตซ์ไหม?”

หยวนเค่อหยิบภาพขึ้นมาจ้องเขม็งอยู่หลายวินาที “จริงอย่างที่นายว่า พวกเขาเหมือนกันจริงๆ”

“พวกเขาเป็นคนคนเดียวกันครับ หลิวเป่าเฉินยืนยัน “จําได้ไหมว่าผมเพิ่งจัดการกับคดีลักลอบขนอาวุธน่ะ? ผมจับตัวแทนจําหน่ายรายย่อยได้สองสามราย หนึ่งในนั้นผมได้ภาพจากกล้องวงจรปิดมา”

“อืม ประจวบเหมาะกันจริงๆ” หยวนเค่อพูดขณะพลิกรูปภาพกลับลง “ฉันได้ยินมาว่าคนที่ฆ่าหรู่เหย้าเป็นลูกค้าพวกนั้นด้วย”

“ใช่แล้ว ทันทีที่ผมได้รับรายงานจากสํานักงานตํารวจเขตเจียงหนานก็รู้ทันทีว่าเขาเป็นคนเดียวกัน” หลิวเป่าเฉินพยักหน้า

“น่าแปลกจริงๆ ด้วย” หยวนเค่อพูดด้วยความยินดี “คงเป็นเพราะนายตามคดีนี้มาพักใหญ่เลยกลายเป็นผู้นําของตํานวจในรัฐเจียงหนานสินะ การติดตามตําแหน่งของผู้ต้องหาเลยไม่ยากเกินความสามารถ

“หภู่เหย้าถูกฆ่าตายในเจียงหนาน ไม่ใช่ว่าคดีนี้ควรถูกจัดการที่นั้นเหรอ?” หลิวเป่าเฉินถาม

“หวูเวินเซิงมีอิทธิพลมากในเจียงหนาน ฉันว่าเขาน่าจะคุยกับคนใหญ่คนโตที่นั่น” หยวนเค่ออธิบาย “เขาคงขอให้สํานักงานตํารวจรัฐเจียงหนานยื่นคําร้องขอให้สํานักงานตํารวจรัฐพื้นทมิฬเข้ามาร่วมมือ”

“เข้าใจแล้วครับ” หลิวเป่าเฉินพยักหน้า

“ผู้บัญชาการหมวดหลิว ฉันอยากให้นายทําคดีนี้ให้ดีที่สุด” หยวนเค่อพูดขณะต้นตบขาของหลิวเป่าเฉินด้วยน้ำเสียงสุขุม “ถ้านายล้างแค้นให้หรู่เป็นเพิ่งได้ มั่นใจได้เลยว่าเขาจะตอบแทนนายอย่างดี”

“ฮ่าๆ เข้าใจแล้วครับ” หลิวเป่าเฉินตอบ

“จริงสิ! มัวแต่คุยจนเกือบลืมไปเลย” หยวนเค่อพูดพร้อมยิ้มกว้าง “ฉันเพิ่งได้บุหรี่มาจากเฟิงเปยเลยตั้งใจเอามาให้นายสองซอง”

หลิวเป่าเฉินผงะไปครู่หนึ่งก่อนตอบอย่างรวดเร็วด้วยความถ่อมตัว “คุณใจดีมากไปแล้ว ทั้งยังดูแลผมดีมาตลอด รู้สึกไม่ดีที่จะรับไว้เลยนะครับ”

“ไม่เป็นไรๆ ยังไงเราก็เป็นพี่น้องกัน”

สองทุ่ม

หมวดสี่ของสํานักงานตํารวจรัฐพื้นทมิฬล้วนทํางานล่วงเวลา ทุกคนรวมตัวกันในห้องประชุมเพื่อหารือกัน

บนกระดานดํา หลิวเป่าเฉินชี้รูปถ่ายของอาเสี่ยวพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ตามบันทึกของผู้เห็นเหตุการณ์ หมอนี่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการฆาตกรรมหรู่เหย้า และมันยังเป็นผู้บงการคดีลักลอบขนปืนที่เราติดตามมาโดยตลอด เมื่อไม่นานมานี้สํานักงานตํารวจแห่งชาติออกคําสั่งให้สํานักงานตํารวจทั้งห้าภาครวบรวมทีมสอบสวนเพื่อดําเนินคดีนี้ภายในหนึ่งเดือน”

ฉินอวี่มองไปยังกระดานดําก็รู้และระบุได้ทันทีว่าคนในภาพคือคนที่เขาเคยพบในภูมิภาคเจียงโจว มือปืนที่ลักพาตัวพี่คั่งไปนั่นเอง!

นี่เป็นชนวนเหตุสําคัญ หากฉินอวี่เปิดปากพูดเกี่ยวกับเบาะแสจะทําให้ทีมสืบสวนได้แนวทางในการดําเนินคดีทันที

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

บทนำ โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย… ‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม! ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้… ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset