Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 102

ตอนที่ 102 60 วินาทีของการสารภาพ

รถแล่นไปบนถนนอย่างรวดเร็ว

หม่าเหลาเอ๋อกระชากผมของเหวินเทาพร้อมตะโกนว่า “ไอ้เสี่ยวฉู่อยู่ไหน?”

“โอ๊ย…ปล่อยๆ ค่อยพูดค่อยจากันก็ได้” เหวินเทาพูดขณะพยายามยืดตัวขึ้น

“ฉันถามแกว่าเสี่ยวฉู่อยู่ไหน!” หม่าเหลาเอ๋อตะโกนอีกครั้ง

“เสี่ยวฉู่คือใคร? ฉันไม่รู้จัก” เหวินเทาถูกทำร้ายจนตัวงอจึงหอบหายใจเวลาพูด

“ไม่รู้จักงั้นเหรอ?” หม่าเหลาเอ๋อพึมพำพลางใช้มีดแทงต้นขาซ้ายของเหวินเทา

“ฉึก!”

เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นไปทั่วร่างของหลิวจื้อชู

“แม่งเอ๊ย! ถ้ากล้าขนาดนี้ ทำไมไม่ฆ่ากูเลยล่ะ?!” เหวินเทาคำราม

หม่าเหลาเอ๋อขยับมีดไปทางซ้ายเพื่อกรีดกางเกงของเหวินเทาออก

“แกจะทำอะไร?” เหวินเทารู้สึกวิตกกับการกระทำของหม่าเหลาเอ๋อ

“มีดเล่มนี้เย็นไหม?” หม่าเหลาเอ๋อถามอย่างโหดเหี้ยม “แค่ฉันขยับนิดหน่อยไอ้จ้อนของแกก็ถูกเฉือนให้เป็ดกินแล้ว”

เหงื่อไหลลงมาที่หน้าผากของเหวินเทาในขณะที่กลืนน้ำลายอย่างหวาดกลัว

“แกรู้ไหมฉันมาที่นี่ทำไม?” หม่าเหลาเอ๋อพูดพร้อมเผยแววตาโหดร้าย “แกคิดว่าฉันถ่อมาถึงซ่งเจียงเพราะเรื่องเล็กน้อยงั้นเหรอ? คิดว่าถ้าแกไม่บอกฉันจะหามันไม่เจอรึไง?”

“อะ เอามีดออกก่อน ละ แล้วเรามาคุยกัน”

“ฉันจะถามแกเป็นครั้งสุดท้ายว่าไอ้เสี่ยวฉู่อยู่ที่ไหน?” หม่าเหลาเอ๋อคำราม “นี่คือโอกาสสุดท้ายของแก”

“ขะ ขอร้อง! อะ เอามีดออกก่อน!”

“แกอยากเล่นเกมกับฉันสินะ…ได้ ฉันจะเล่นกับแกเอง!” หม่าเหลาเอ๋อปามีดไปที่เป้าของเหวินเทา

“อย่า! บะ บอก ผมบอกแล้ว” เหวินเทากรีดร้องออกมาอย่างหวาดกลัว “เขาอยู่ที่บ้านฉัน…ขอร้องล่ะ อย่าทำแบบนี้เลย”

“ที่บ้านแกมีใครบ้าง?”

“มะ…มีแค่เขา” เหวินเทาคงไม่ตกใจกลัวขนาดนี้ ถ้าหม่าเหลาเอ๋อแทงเขาสักสองถึงสามทีหรือทำให้พิการ แต่เพราะเหวินเทาทนไม่ได้ที่ต้องกลายเป็นคนไม่มีเพศจึงยอมสารภาพทันที

“บ้านแกอยู่ไหน? สารภาพมาเดี๋ยวนี้!” หลิวจื้อชูถาม

“ละ เลี้ยวซ้ายข้างหน้า” เหวินเทาพูดติดอ่าง

ณ ร้านขายเนื้อในเขตเมือง

เฒ่าหม่าตรวจสอบอาวุธก่อนหันกลับไปสั่งการ “กวนฉี จ่ายเงิน”

กวนฉีล้วงเงินสดออกมายื่นให้ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนชาวต่างชาติ อีกฝ่ายนับเงินอย่างระมัดระวังพร้อมหัวเราะเบาๆ “พวกคุณไปทำอะไรกันที่เฟิงเป่ย? ช่วงนี้ผมได้รับคำสั่งซื้อแบบนี้เยอะมาก”

“นายพยายามล้วงข้อมูลเราเหรอ?” เฒ่าหม่าขมวดคิ้วพร้อมถาม

“เปล่า ผมแค่ถามเฉยๆ” ชายวัยกลางคนตอบพร้อมรอยยิ้ม “ผมยังมีของอีกเยอะ ถ้าต้องการอะไรเพิ่มก็โทรหาผมได้”

เฒ่าหม่าเหลือบมองชายวัยกลางคนก่อนพูดว่า “ไปกันเถอะ”

ฝูงชนเดินออกไปพร้อมกับเฒ่าหม่าอย่างรวดเร็ว

บ้านของเหวินเทา

เสี่ยวฉู่ผู้ที่รอคอยด้วยความประหม่ามาตลอดหมดความอดทน เขากระวนกระวายอย่างมากหลังจากที่เหวินเทาไม่รับสาย

เขานั่งครุ่นคิดบนเตียงครู่หนึ่งก่อนหาเบอร์โทรศัพท์แผนกต้อนรับของดูคคาร์นิวัลและโทรออก

หลังจากฟังเพลงรอสายอยู่ประมาณสามสิบวินาที ในที่สุดเขาก็โทรติด “สวัสดีค่ะ ดูคคาร์นิวัลค่ะ”

“เอ่อ สวัสดีครับ ผมอยากสอบถามว่าเหวินเทาอยู่แถวนั้นไหมครับ?”

“นี่คือหมายเลขของแผนกต้อนรับส่วนหน้า ถ้าคุณกำลังมองหาเหวินเทาโปรดติดต่อเขาผ่านหมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวแทนค่ะ”

“ขอโทษครับแต่ผมโทรหาเขาไม่ติด ผมเป็นเพื่อนของเหวินเทาและต้องการคุยธุระด่วน คุณช่วยโทรหาเขาแทนผมได้ไหมครับ?” เสี่ยวฉู่ถามอย่างสุภาพ

“วันนี้ฉันยังไม่เห็นเขาเลยค่ะ”

“ได้โปรดตามหาเหวินเทาให้หน่อยครับ เขาบอกกับผมตอนบ่ายว่าจะแวะที่ทำงาน” เสี่ยวฉู่พยายามสงบสติ อารมณ์ “ช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ? ผมต้องคุยกับเขาจริงๆ”

“งั้นสักครู่นะคะ”

“ครับ ขอบคุณครับ”

ทั้งสองพักสายไปประมาณสามนาทีก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดขึ้นอีกครั้งว่า “ยังอยู่ไหมคะ?”

“ยังอยู่ครับ”

“เหวินเทาออกจากดูคคาร์นิวัลไปแล้วค่ะ”

“นานหรือยังครับ?”

“น่าจะสักพักแล้วค่ะ”

เหวินเทาขมวดคิ้วพร้อมครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบว่า “ขอโทษที่รบกวนนะครับ”

“ยินดีค่ะ” พนักงานต้อนรับวางสาย

เสี่ยวฉู่เหลือบมองนาฬิกาก่อนลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ

บนรถ

ในที่สุดฉินอวี่ก็รับสายหม่าเหลาเอ๋อ เขาจึงเอ่ยถามว่า “นายอยู่ไหน?”

“กินข้าวอยู่” ฉินอวี่ตอบ “ตอนนี้เรารอลุงของนายไปซื้ออาวุธอยู่”

“ฉันจับเหวินเทาได้แล้ว” หม่าเหลาเอ๋อพูดเข้าประเด็น “ไอ้เด็กนี่บอกตำแหน่งเสี่ยวฉู่ภายในหกสิบวินาที”

ฉินอวี่ตกตะลึงพลางวางตะเกียบลงและถามด้วยความกังวล “ทำไมนายไม่บอกฉันว่านายจะลักพาตัวเหวินเทา?!”

“ฉันโทรหานายแล้วแต่โทรไม่ติด” หม่าเหลาเอ๋อตอบ “เราจำเป็นต้องคุยเรื่องลักพาตัวผ่านโทรศัพท์ด้วยเหรอ?”

“นายบอกว่ามันให้ตำแหน่งของเสี่ยวฉู่งั้นเหรอ?”

“อือ” หม่าเหลาเอ๋อพยักหน้ารับ

ฉินอวี่ลุกยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว “ส่งที่อยู่มา ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

“นายไปไม่ทันแน่” หม่าเหลาเอ๋อตอบ “ตอนนี้ฉันใกล้ถึงบ้านของเหวินเทาแล้ว นายช่วยบอกเฒ่าหลี่ว่าติดต่อคนรู้จักที่ชายแดนให้ฉันที เพราะถ้าจับเสี่ยวฉู่ได้ฉันจะกลับซ่งเจียงทันทีซึ่งน่าจะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงกว่าจะถึงชายแดน”

“หมายความว่ายังไง? นายกำลังไปจับเสี่ยวฉู่เหรอ?”

“ใช่” หม่าเหลาเอ๋อตอบพร้อมพยักหน้า “ฉันถามเหวินเทาแล้ว มันบอกว่าเสี่ยวฉู่อยู่บ้านคนเดียว”

“อย่าเพิ่ง!” ฉินอวี่พูดพร้อมส่ายศีรษะ “ลงมือตอนที่พวกฉันไปถึงจะปลอดภัยกว่า นายรู้แล้วนี่ว่าพวกฉันเจอหยงตงกับทายาทของบริษัทขายยาและตอนนี้ศัตรูก็รู้แล้วว่าเราอยู่ที่เฟิงเป่ย…นายเข้าใจไหมว่ามันหมายถึงอะไร?”

ภายในห้องพักพนักงานของดูคคาร์นิวัล

เด็กหนุ่มชุดสีดำวิ่งเข้ามาในห้องก่อนถามอย่างกังวลในขณะที่หายใจหอบ “เหวินเทามาที่นี่หรือเปล่า?”

“อืม เขามาลาออกแล้วก็เก็บของน่ะ” พนักงานคนหนึ่งในห้องพักตอบขณะเล่นโทรศัพท์

“ฉิบหายแล้ว!” เด็กหนุ่มสบถพลางปาดเหงื่อบนหน้าผาก “ฉันเห็นถูกผู้ชายสี่คนจับตัวไปที่หน้าทางเข้า”

“เป็นไปไม่ได้ พวกเราเป็นคนเดินไปส่งเขาที่รถ”

“เขาถูกลักพาตัวตอนอยู่ข้างรถ”

“ทำไมนายไม่ช่วยเขาล่ะ? แล้วคนพวกนั้นจะลักพาตัวเหวินเทาไปทำไม?” พนักงานคนนั้นพูดพร้อมลุกยืนขึ้น

“ฉันจะช่วยเขาได้ยังไง? ในเมื่อคนพวกนั้นมีทั้งปืนและมีด! โชคดีนะที่ฉันวิ่งเร็วไม่งั้นคงถูกจับไปด้วยแล้ว” เด็กหนุ่มตอบอย่างหวาดกลัว

ผู้จัดการเดินเข้ามาในห้องขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันและถามว่า “พูดอะไรกัน? ใครถูกลักพาตัว?”

“เหวินเทาครับ” ชายหนุ่มตอบทันที “ผมพนันได้เลยว่าเหวินเทาต้องไปขโมยเงินอีกแล้ว”

“ไว้ฉันจะโทรเช็กเหวินเทาเอง พวกนายเลิกนินทาคนอื่นและแยกย้ายไปทำงานได้แล้ว” ผู้จัดการบ่นก่อนเดินไปด้านข้าง

สองนาทีต่อมา ผู้จัดการร้านยืนอยู่ตรงบันไดฉุกเฉินขณะพูดด้วยน้ำเสียงเคารพ “ครับ..ผมได้ยินมาว่าเขาถูกลักพาตัวที่ลานจอดรถ แต่ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น”

………………………………….

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

Special District 9 เขตพิเศษที่ 9

บทนำ โลกกำลังเกิดหายนะ…ภัยพิบัติร้ายแรงทำลายล้างมนุษยชาติ…สัตว์กลายพันธุ์…ผู้คนขาดแคลนอาหาร…สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม…ยุคสมัยและอารยธรรมถูกทำลาย… ‘ฉินอวี่’ ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในเขตพัฒนาซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนไร้กฎ ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าสังเวช…ทั้งถนนผุผัง ระบบบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้ รวมไปถึงบ้านเก่าทรุดโทรมและกลิ่นปฏิกูลคละคลุ้ง ฉินอวี่จึงลาออกจากงานและตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อซื้อสัญชาติเข้าไปอยู่ในเขตปกครองพิเศษที่เก้า…หวังให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม! ภายในเขตพิเศษที่เก้า…ฉินอวี่เข้าสมัครงานในสำนักงานตำรวจนครบาลเมืองพื้นทมิฬเพื่อดิ้นรนเพื่อหาเลี้ยงชีพ แม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่…เขาได้เจอเพื่อนร่วมงานผู้หวังดีที่เปรียบเสมือนเพื่อนแท้… ระหว่างทำงานในสำนักงานตำรวจ…ฉินอวี่ได้เผชิญการกดขี่มากมายและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและแผนการอันชาญฉลาด เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ของตนเองได้อย่างไร…โปรดติดตามต่อใน…เขตพิเศษที่เก้า!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset