ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ – ตอนที่ 1386 หัวใจที่เจ็บปวดของนาง (8) / ตอนที่1387 หัวใจที่เจ็บปวดของนาง (9)

ตอนที่ 1386 หัวใจที่เจ็บปวดของนาง (8)

 

 

ตอนนี้หงหลวนราวกับนักรบถือกระบี่ยาวในชุดเกราะสีแดง!

 

 

นางสังหารทุกอย่างที่ผ่านหน้าและปลิดชีพคนไปนับไม่ถ้วน!

 

 

ตั้งแต่ที่นางจากเมืองบูรพามากับอวิ๋นลั่วเฟิงเมื่อหลายเดือนก่อน นางก็สังหรณ์ใจว่านางต้องเผชิญหน้ากับศัตรูน่าเกรงขามมากมายในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้นเพื่ออวิ๋นลั่วเฟิงแล้ว ถึงแม้นางจะต้องทนกับผลข้างเคียงจากการเพิ่มพลัง นางก็ไม่เสียใจ!

 

 

 

 

ภายในห้อง อวิ๋นลั่วเฟิงมุ่งความสนใจไปที่การเอาแก่นเลือดออกจากหัวใจของอวิ๋นเซียวเพียงอย่างเดียวโดยไม่รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกแม้แต่น้อย แต่นางก็เชื่อในตัวหงหลวน นางเชื่อว่านางต้องขัดขวางคนพวกนั้นได้แน่!

 

 

สายตาของอวิ๋นเซียวจับจ้องอยู่ที่อวิ๋นลั่วเฟิง อาจเป็นเพราะเสี่ยวโม่ส่งพลังฌานจำนวนมากจากมิติคัมภีร์เซียนให้เขา เขาเลยไม่รู้สึกเจ็บมาก ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความเจ็บอยู่บ้าง ดังนั้นสายตาของอวิ๋นเซียวจึงย้ายไปมองอวิ๋นลั่วเฟิงช้าๆ แล้วเขาก็นึกถึงช่วงเวลาที่เขาได้ใช้เวลาบนเตียงกับเด็กสาวเพื่อหันเหความสนใจ

 

 

“นายหญิง” เหงื่อไหลลงจากหน้าผากของเสี่ยวโม่ ใบหน้าซีดเซียวของเขาหันมาหาอวิ๋นลั่วเฟิง “ถึงแม้ว่าภายในมิติคัมภีร์เซียนจะมีพลังฌานมากมายและข้าก็บอกท่านว่ามิติสามารถให้พลังฌานกับท่านได้ไม่กำจัด แต่ความจริงแล้ว…พลังฌานในมิติคัมภีร์มีจำกัด ตอนนี้ข้าสัมผัสได้ว่าครั้งนี้พวกเราใช้มากเกินไปและมิติคัมภีร์เซียนก็ทนมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ขมวดคิ้วเลยสักนิดเดียว “ทำต่อไป!”

 

 

“เข้าใจแล้ว” เสี่ยวโม่ไม่พูดอะไรอีก เขาใช้มือส่งพลังฌานให้อวิ๋นเซียวเพื่อลดความเจ็บปวดจากการผ่าตัดที่หัวใจของเขา

 

 

“เฟิงเอ๋อร์ พอเถอะ…” อวิ๋นเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ที่เหลือข้าทนได้ ให้เสี่ยวโม่หยุดเถอะ”

 

 

“ถ้าเจ้าไม่ต้องการให้ข้าใช้พลังมากกว่านี้ก็หยุดพูด!” อวิ๋นลั่วเฟิงตะโกนอย่างหัวเสีย ทันทีที่นางนึกได้ว่าอวิ๋นเซียวปิดบังเรื่องสำคัญกับนาง นางก็ยิ่งไม่พอใจ

 

 

อวิ๋นเซียวมองเสี่ยวโม่ที่ร่างเริ่มสั่นเทิ้ม หัวใจของเขาก็อึดอัด มือที่วางอยู่ข้างๆ กำหมัดแน่น…

 

 

เสี่ยวซู่มองอวิ๋นลั่วเฟิงทีมองเสี่ยวโม่ทีหน้าซีดเผือดที เขายื่นมือไปเกาก้นของตัวเองก่อนจะดึงดอกเบญจมาศออกมา ถูกต้อง เป็นดอกเบญจมาศสีเหลืองจริงๆ

 

 

หั่วหั่วมองเสี่ยวซู่อย่างพูดไม่ออก บั้นท้ายของเด็กคนนี้เป็นกระเป๋าสมบัติหรือ เหตุใดจึงมีทุกอย่างอยู่ในนั้น

 

 

หลังจากที่เสี่ยวซู่ดึงดอกเบญจมาศออกมาแล้ว เขาก็ส่งเถาวัลย์ไปรัดตัวอวิ๋นเซียวให้อยู่กับที่แน่นขึ้นก่อนจะเข้าไปในมิติคัมภีร์เซียน

 

 

แต่เดิมมิติคัมภีร์เซียนมีพลังฌานหนาแน่นมาก ทว่าตอนนี้ที่นี่ช่างดูรกร้าง สมุนไพรที่ถูกปลูกไว้ในแปลงก็เ**่ยวเฉาและปลิวไปตามลม ทันทีที่เขาเห็นว่าแหล่งอาหารเขากลายเป็นแบบนี้ เสี่ยวซู่ก็โกรธจัดจนผมตั้ง ตาแดงก่ำ

 

 

ถ้ามิติคัมภีร์เซียนเป็นคน เสี่ยวซู่ต้องรีบเข้าไปตีเขาแน่นอน! แต่ว่าเสี่ยวซู่ไม่สามารถตีมิติคัมภีร์เซียนได้จึงทำได้แค่คิดวิธีรักษามิติที่ใกล้จะพังทลายเอาไว้ ที่สำคัญที่สุดคือช่วยเหลือแหล่งอาหารของเขา!

 

 

ผลก็คือเสี่ยวซู่หาจุดที่เหมาะสมแล้วปลูกต้นอ่อนของดอกเบญจมาศที่เขาดึงออกมาจากบั้นท้ายลงไป จนกระทั่งเขาเห็นดอกเบญจมาศน้อยๆ ค่อยๆ โต เขาถึงตบมือแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ

 

 

การพังทลายของมิติคัมภีร์เซียนเป็นเรื่องไม่สำคัญ แต่การสูญเสียแหล่งอาหารนั้นเป็นเรื่องร้ายแรงมาก! เขาจะทนอดอยากได้อย่างไร

 

 

แต่ว่าการเติบโตของดอกเบญจมาศช้าเกินไปหน่อย เสี่ยวซู่รับไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงปลดกางเกงแล้วเริ่มปัสสาวะใส่ดอกเบญจมาศน้อย…

 

 

 

 

 

 

ตอนที่1387 หัวใจที่เจ็บปวดของนาง (9)

 

 

ไม่นานหลังจากนั้นดอกเบญจมาศน้อยก็โตอย่างรวดเร็วแล้วค่อยๆ กลายเป็นดอกเบญจมาศยักษ์ที่ใหญ่กว่าต้นไม้ขนาดใหญ่เสียอีก ความจริงแล้วนี่เป็นเมล็ดพืชที่แค่เลียนแบบดอกเบญจมาศเฉยๆ เสี่ยวซู่ใช้มันช่วยรักษามิติคัมภีร์เซียน อ้อ ใช่ ไม่สิ เพื่อรักษาแหล่งอาหารเขาไว้ต่างหาก ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมรูปร่างถึงเหมือนดอกเบญจมาศ [1] เสี่ยวซู่ก็ไม่รู้เหมือนกัน…

 

 

 

 

ภายในห้อง ทั้งเสี่ยวโม่และอวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้สังเกตว่าเสี่ยวซู่หายไปและก็ไม่ได้สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมิติคัมภีร์เซียน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าดอกเบญจมาศดอกหนึ่งกำลังเติบโตจนบานสะพรั่งอยู่ในมิติ

 

 

“นายหญิง อีกไม่นานมิติคัมภีร์เซียนจะทนไม่ได้อีกต่อไป” เสี่ยวโม่มองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยใบหน้าซีดเผือด “หากท่านยังรักษาอวิ๋นเซียวไม่เสร็จ อีกไม่นานมิติจะพังทลาย”

 

 

พลังฌานที่อวิ๋นลั่วเฟิงใช้เป็นด้ายแบบพิถีพิถันเหมือนการค่อยๆ คัดเลือกใบชา แต่ตอนนี้ก็แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง นางใช้พลังเป็นน้ำ และไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำที่ใหญ่แค่ไหนก็ทนดื่มมันไม่ได้อยู่ดี

 

 

“เสี่ยวโม่ ข้าเกือบจะเสร็จแล้ว เจ้าทนอีกนิดเดียว”

 

 

พวกเขาผ่านขั้นตอนนี้ไปแล้ว ดังนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงจึงไม่ยอมแพ้ ถึงแม้ว่านางจะต้องเสียสละตัวเอง นางก็ไม่ยอมให้อวิ๋นเซียวต้องทนรับความเจ็บปวดนี้!

 

 

ร่างของเสี่ยวโม่สั่น เขามองอวิ๋นลั่วเฟิง ความแน่วแน่ค่อยๆ ปรากฏบนดวงตาสดใสของเขา

 

 

“นายหญิง ท่านยังจำตัวตนที่ข้าเคยพูดถึงได้หรือไม่” เสี่ยวโม่ยิ้ม “การคงอยู่ของข้าเกิดจากพลังฌานในมิติคัมภีร์เซียน ในเมื่อพลังฌานส่วนใหญ่ในมิติใช้ไปกับข้าแล้ว ถ้าเรายังทำแบบนี้ต่อไป ข้าก็จะต้องตายอย่างแน่นอน”

 

 

“แต่ว่า…” เขาเงยหน้ามองด้วยน้ำตาคลอ “ในเมื่อร่างกายถูกสร้างจากพลังฌานของมิติ ข้าก็สามารถเปลี่ยนตัวเองไปเป็นพลังฌานและช่วยลดความเจ็บปวดของอวิ๋นเซียวได้”

 

 

“เสี่ยวโม่!” หัวใจของอวิ๋นลั่วเฟิงบีบรัด “มิติสามารถทนได้ ไม่ใช่ว่าเจ้าเคยพูดว่าพลังฌานในมิติคัมภีร์เซียนมีมากมายไม่มีวันหมดหรอกหรือ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ถึงขนาดที่เจ้าพูดแต่ก็ควรจะทนได้อีกสักหน่อย”

 

 

เสี่ยวโม่ส่ายหน้า “แม้จะมีฐานะผู้ปกป้องมิติคัมภีร์เซียน แต่ก็ไม่มีใครรู้ขอบเขตของพลังฌานในมิติคัมภีร์เซียน ดังนั้นข้าไม่สามารถรวบรวมมันได้อีก อย่างน้อยข้าก็ไม่ยอมให้ท่านตาย!”

 

 

เมื่อมิติพังทลาย พวกเขาทั้งคู่จะต้องตาย ดังนั้นจะดีกว่าถ้าเขาจากไปคนเดียว เขาเป็นแค่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้น แต่แรกเขาก็ไม่มีชีวิต แล้วมิติคัมภีร์เซียนก็ให้สติปัญญาเพื่อยอมให้ได้พบนายหญิง…กับเสี่ยวไป๋

 

 

เสี่ยวโม่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงคิดถึงเด็กสาวซื่อบื้อน่าเอ็นดูคนนั้นในช่วงเวลาแบบนี้

 

 

“เสี่ยวโม่!” อวิ๋นลั่วเฟิงหน้าเปลี่ยนสีทันที “ข้าไม่ยอมให้อวิ๋นเซียวทรมานจากความเจ็บปวดแล้วก็ไม่ยอมให้เจ้าจากไปเหมือนกัน! ดังนั้นอย่าทำอะไรโง่ๆ นะ!”

 

 

“นายหญิง ข้าพอใจแล้วที่ครั้งหนึ่งในชีวิตนี้มีโอกาสได้พบท่าน ใช่แล้ว อย่าลืมบอกเสี่ยวไป๋ด้วยว่าถ้าข้าได้เกิดใหม่เป็นมนุษย์ ชาติหน้าข้าอยากแต่งงานกับนาง”

 

 

เขารู้ดีว่านี่เป็นคำขอธรรมดา แต่สำหรับเขา เขาเป็นแค่ก้อนพลัง เขาไม่มีชีวิตแล้วก็ไม่มีวิญญาณ แล้วเขาจะกลับมาเกิดใหม่ได้อย่างไร ถ้าเขาหายไป เขาก็ไม่มีทางมีตัวตนอยู่ตนโลกนี้ได้อีกต่อไป…

 

 

“เฟิงเอ๋อร์” เมื่อเห็นเสี่ยวโม่กำลังจะเสียสละตัวเอง อวิ๋นเซียวก็ยกมือขึ้นจับมืออวิ๋นลั่วเฟิง “ท่านทำมามากพอแล้ว แทนที่จะปล่อยให้เขาหายไป ข้ายินดีทนรับความเจ็บปวด”

 

 

อวิ๋นเซียวจะไม่รู้ว่าเสี่ยวโม่สำคัญกับนางได้อย่างไร ถ้าเสี่ยวโม่หายไปเพราะเรื่องนี้จริงๆ นาง…ต้องเจ็บปวดไปทั้งชีวิตแน่นอน

 

 

 

 

——

 

 

[1] ดอกเบญจมาศเป็นคำแสลงในภาษาจีนแปลว่า ทวารหนัก

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

Author:
อวิ๋นลั่วเฟิง นักเรียนแพทย์หัวกะทิได้ย้อนอดีตกลับไปอยู่ในร่างของคุณหนูใหญ่สุดสำรวย สตรีผู้มีชื่อฉาวคาวกระฉ่อนว่าเป็นเพียงสวะของสกุล ซ้ำร้ายยังหน้าหนาไปฉุดหนุ่มรูปงามทั้งที่ตนมีคู่หมั้นเป็นถึงองค์รัชทายาท เรื่องน่าอับอายนี้เป็นเหตุให้นางโดนถอนหมั้นจนตัดสินใจปลิดชีวิตตนไปด้วยความเจ็บปวด ครั้นเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง คุณหนูใหญ่แห่งสกุลอวิ๋นก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ฉายาคุณหนูสวะนั้นหรือเป็นเพียงคำลวง แพทย์หญิงอัจฉริยะต่างหากที่เป็นของจริง! ไหนจะมี ‘ชายปริศนา’ ที่โผล่มาบอกให้นาง ‘รับผิดชอบ’ เขา ทั้งยังคอยติดตามอยู่ข้างกายไม่ห่างพร้อมประกาศว่า “ใครหน้าไหนที่จะมาทำร้ายสตรีของข้าก็ดาหน้ากันเข้ามา แต่จงจำไว้ว่ามันจะไม่มีวันได้มีชีวิตกลับไป!” เช่นนี้แล้วอวิ๋นลั่วเฟิงจะรับมือกับเรื่องราวเหล่านี้อย่างไรดีเล่า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset