Super God Gene ตอนที่ 3096 สามัญชนที่เป็นเจ้าของร้านขายของออนไลน์
“เชียวหยิน ทําไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?” เฟิงเฟยเฟยเดินเข้าไปหาเฟิงหยินหยินด้วยใบหน้ายิ้มแย้
เฟิงเฟยเฟยนั้นรักและเอ็นดูเฟิงหยินหยินมาโดยตลอด และตอนนี้มันก็กําลังจะถึงวันเกิดเธอ ดังนั้นเฟิงเฟยเฟยจึงไม่คิดจะตําหนิอะไรเธอ ถึงแม้เฟิงเฟยเฟยจะไม่พอใจที่เฟิงหยินหยินพาหานเซิ่นและคนอื่นๆมาที่นี่ แต่เฟิงเฟยเฟยก็คิดจะไม่แสดงมันออกมา
เฟิงหยินหยินกําลังจะตอบกลับ แต่ทันใดนั้นเธอก็พูดขึ้นมาด้วยความตกใจ
“น้า จมูกของน้ากําลังมีเลือดไหลออกมา”
เฟิงเฟยเฟยประหลาดใจในเรื่องนั้น เธอเอาผ้าออกมาเช็ดจมูกจนผ้าเช็ดหน้าสีขาวเปลี่ยนเป็นสีแดง
“บางที่จมูกของน้าอาจจะแห้งเกินไป?” เฟิงเฟยเฟยไม่รู้สึกถึงความผิดปกติอะไรในร่างกาย
หลังจากที่เช็ดเลือดไปจนหมดแล้ว เฟิงเฟยเฟยก็จับมือของเฟิงหยินหยินพร้อมกับพูดว่า
“เซียวหยิน พวกเราไปที่ล็อบบี้กันเถอะ งานวันเกิดของเจ้าจะเริ่มแล้ว ข้ามีของขวัญที่พิเศษมากๆจะมอบให้กับเจ้า”
หลังจากนั้นเธอก็หันมามองที่พวกหานเซิ่นก่อนที่จะพูดว่า “พวกเจ้าสองคนเองก็ควรกลับไปที่ล็อบบี้และเพลิดเพลินกับอาหาร”
“เซียวหยิน วันนี้เป็นวันเกิดของเจ้าอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นแค่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเฟิงเฟยเฟย เขาไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเฟิงหยินหยินเช่นกัน
“หลังจากผ่านเที่ยงคืน มันจะเป็นวันเกิดของหนู พี่ชานมู่เองก็มาฉลองงานวันเกิดด้วยกันสิ” เฟิงหยินหยินยื่นมือมาจับมือของหานเซิ่น หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินไปที่ล็อบบี้พร้อมกัน
เฟิงเฟยเฟยรู้สึกแปลกใจ เธอไม่รู้ว่าทําไมเฟิงหยินหยินถึงได้ดีกับหานเซิ่น เธอมองหานเซิ่นด้วยสายตาที่เหมือนกับว่าเธอกําลังมองคนร้ายที่ลักพาตัวเด็กผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หานเซิ่นเมินเฉยต่อสายตาของเฟิงเฟยเฟย
ขณะที่เดินไป เฟิงเฟยเฟยก็ถามเฟิงหยินหยินว่า “เซียวหยิน เจ้ารู้จักกับเพื่อนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ทําไมข้าไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“หนูพบพี่ซานมในงานปาร์ตี้” เฟิงหยินหยินพูด
“หนูจึงยังไม่มีโอกาสแนะนําพี่ซานมู่ให้น้ารู้จัก แต่นั่นไม่เป็นอะไร พวกน้าควรทําความรู้จักกันหลังจากนี้ พวกเรารีบไปที่ล็อบบี้กันเถอะ หนูอยากรู้แล้วว่าน้าเตรียมของขวัญพิเศษอะไรไว้ให้กับหนู”
เฟิงหยินหยินดึงแขนของพวกเขาทั้งสองคนเข้าไปในห้องโถง เฟิงเฟยเฟยหายตัวไปจากงาน ด้วยเหตุนั้นผู้คนจึงออกมาตามหาเธอ ดังนั้นในตอนที่แขกในงานเห็นเฟิงหยินหยินจูงแขนของเฟิงเฟยเฟยและหานเซิ่นเข้ามาในล็อบบี้ พวกเขาก็ขมวดคิ้ว
ซิตูย่าเดินออกมาข้างหน้า เธอยิ้มให้กับเฟิงเฟยเฟยและเฟิงหยินหยินขณะที่ถามขึ้นว่า “เฟยเฟย เชียวหยิน พวกเจ้าหายไปไหนมา”
“ก็ไม่ได้ไปไหน พวกเราแค่ไปเตรียมของขวัญสําหรับเซียวหยิน” เฟิงเฟยเฟยพูด
ซิตูย่าสังเกตเห็นว่าเฟิงหยินหยินกําลังจับมือของหานเซิ่น ดังนั้นเธอจึงถามขึ้นว่า “คนนี้คือ?”
ในกลุ่มชนชั้นสูงของเมืองหลวงนั้น เธอไม่เคยเห็นเขามาก่อน แต่เธอจําคนหัวโล้นที่อยู่ข้างหลังได้ เธอรู้ว่าคนๆนั้นคือเซี่ยหยูเฟย
ถึงเซี่ยหยูเฟยจะเป็นลูกศิษย์ของมิสเตอร์ แต่พรสวรรค์ของเขาค่อนข้างธรรมดา ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่มีชื่อเสียงอะไรมาก
“นี่คือพี่ซานมู่ เขาเป็นเพื่อนของหนู” เฟิงหยินหยินพูด หลังจากนั้นเธอก็ดึงหานเซิ่นไปที่โต๊ะหลัก
ในงานปาร์ตี้แบบนี้ตําแหน่งที่นั่งของแต่ละคนจะถูกกําหนดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว โต๊ะหลักจะมีแค่บุคคลที่ทรงเกียรติของเมืองหลวงเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ได้นั่ง
แต่ตอนนี้เฟิงหยินหยินดึงหานเซิ่นไปนั่งที่โต๊ะหลักตรงตําแหน่งข้างๆเธอ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงได้นั่งข้างๆของเฟิงเฟยเฟยไปด้วย ผู้คนหลายคนคิดว่านั่นเป็นอะไรที่แปลก
ซิตูย่ามองไปที่เฟิงเฟยเฟยด้วยความสับสน เฟิงเฟยเฟยทําท่ายักไหล่เพื่อบ่งบอกว่าเธอเองก็ไม่รู้ ก่อนที่จะพูดขึ้นว่า
“คุณหานเป็นเพื่อนของเซียวหยิน เซียวหยินต้องการให้เขาร่วมฉลองงานวันเกิดกับนาง”
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็ได้รู้ว่าการที่หานเซิ่นมานั่งอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ถูกจัดเตรียมโดยเฟิงเฟยเฟย แต่มันเป็นเพราะเฟิงหยินหยินไม่มีมารยาทและพาเพื่อนของเธอมานั่งโดยพลการ
ซิตูย่ามองไปที่หานเซิ่น เธอยิ้มและพูดขึ้นว่า “เจ้าคงจะเป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยมมากๆสินะถึงได้มาเป็นเพื่อนของเซียวหยินได้ ข้าสงสัยจริงๆว่าเจ้ามาจากไหน?”
“ข้าเกิดที่ภูเขาแอนเชี่ยนท์บิ๊กก็อต” หานเซิ่นตอบอย่างไปตามตรง นั่นคือสถานที่ที่เขาเกิดขึ้นมาสู่จักรวาลแห่งนี้ ด้วยเหตุนั้นมันสามารถนับได้ว่าเป็นบ้านเกิดของเขา
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของเหล่าขุนนางก็ดูแปลกๆ หลายๆคนมองเขาอย่างเย้ยหยัน
สําหรับผู้คนที่กําเนิดมาในกลุ่มชนชั้นสูง ถ้าพวกเขาถูกถามถึงที่มา พวกเขาจะตอบเป็นชื่อตระกูลของตัวเอง ถ้าเป็นคนที่ฐานะต่ําลงมาหน่อย พวกเขาจะตอบเป็นชื่อเมืองที่พวกเขาเป็นเจ้าของ
แต่หานเซิ่นบอกว่าเขาเกิดที่ภูเขาแอนเชี่ยนท์บิ๊กก็อต นั่นบ่งบอกว่าเขาเป็นแค่สามัญชนที่ไม่มีแม้แต่เมืองเป็นของตัวเอง
บุคคลแบบนั้นจะมีฐานะสูงกว่าทาสอยู่แค่หนึ่งระดับเท่านั้น ถ้าไม่มีภูมิหลังที่มีชื่อเสียง ถึงจะมีโลหิตชีพจรเทพสปิริตไปก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรมากนัก ในอนาคตอย่างมากที่สุดพวกเขาก็เป็นได้แค่เจ้าเมืองของเมืองสักเมืองหนึ่ง
การเป็นเจ้าของเมืองๆหนึ่งนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรภายในเมืองหลวง เพราะผู้มีอํานาจทุกคนในที่แห่งนี้ล้วนแต่เป็นเจ้าของเมืองจํานวนมาก
ซิตูย่าพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณหานจะมาจากสถานที่ที่ห่างไกล คุณคงจะต้องมาทําธุรกิจใหญ่ภายในเมืองกําแพงหยกสินะ”
เธอไม่ได้เล็งเป้าไปที่หานเซิ่น ถึงเขาจะถูกเฟิงหยินหยินดึงมานั่งตรงนี้ แต่ยังไงซะเขาก็เป็นแขกของเฟิงเฟยเฟย ถ้าเธอทําให้เขาต้องขายหน้าได้ มันก็จะทําให้เฟิงเฟยเฟยต้องขายหน้าไปด้วย
ซิตูย่าและเฟิงเฟยเฟยนั้นทั้งเป็นเพื่อนสนิทและเป็นนักร้องเหมือนกัน อย่างน้อยๆนั่นก็คือสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่คิด แต่จริงๆแล้วชิตูย่าอิจฉาเฟิงเฟยเฟยมาโดยตลอด ไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะไม่ช่วยกงซูจื่อทําร้ายเฟิงเฟยเฟย
แต่เนื่องจากซิตูย่าเล่นละครได้ดีมาโดยตลอด เฟิงเฟยเฟยจึงไม่เอะใจอะไรและคิดกับว่าเธอเหมือนกับเป็นพี่น้องที่ดีคนหนึ่ง
“มันไม่ใช่ธุรกิจใหญ่อะไร ข้าแค่มีร้านขายไข่ยีนออนไลน์” หานเซิ่นสารภาพอย่างซื่อตรง
หลังจากที่หานเซิ่นพูดแบบนั้น ซิตูย่าและขุนนางคนอื่นๆก็มองเขาด้วยความดูถูก ร้านขายไข่ยีนออนไลน์นั้นสามารถเป็นอะไรที่ประสบความสําเร็จได้ แต่ไม่ว่ามันจะประสบความสําเร็จมากสักแค่ไหน มันก็ไม่ใช่สิ่งที่มีความสําคัญหรือน่ายกย่องอะไร
มันไม่เหมือนกับร้านของเจียงซื่อ ร้านขายไข่ยืนระดับสูงจริงๆนั้นจะไม่ได้มีอยู่แค่ในโลกอินเตอร์เน็ต
“คุณหานเปิดร้านขายไข่ยืนเหมือนกับพวกเราเลย”
ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดด้วยรอยยิ้ม เขาโบกพัดในมือขณะที่พูดว่า “ข้าเองก็เปิดร้านขายไข่ยืนที่มีชื่อว่าสกาย ข้าสงสัยจริงๆว่าร้านของคุณหานมีชื่อว่าอะไรและขายไข่ยืนแบบไหน”
สีหน้าของเขานั้นเหมือนกับว่าเขาไม่ได้กําลังพูดคุยกับหานเซิ่น แต่มันเหมือนกับว่าเขากําลังหยอกล้อสุนัขหรือแมวตัวหนึ่ง
“ร้านขายของออนไลน์ของข้ามีชื่อว่า “ร้านขายของ” ” หานเซิ่นตอบ
“มันเพิ่งจะเปิดได้ไม่นาน มันขายเพียงแค่ไข่ยืนระดับไวเคานต์และระดับเอิร์ล”
เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้น พวกเขาก็หัวเราะออกมา ชายหนุ่มขําอย่างหนัก “คุณคงจะไม่ได้ให้ไข่ยืนของร้านของคุณเป็นของขวัญให้กับเฟิงหยินหยินหรอกใช่ไหม?”
“ข้ามีแผนที่จะทําแบบนั้น” ไม่มีใครคาดคิดว่าหานเซิ่นจะเอาของขวัญถูกๆแบบนั้นมามอบให้กับเฟิงหยินหยิน แต่เขาก็ทําแบบนั้นจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะตั้งตารอดูของขวัญของคุณ” ซิตูย่าพูดขําๆ
แต่ทว่าเธอรู้สึกตัวว่าคําพูดของเธอนั้นอาจจะทําให้เธอดูไม่ดี ด้วยเหตุนั้นเธอจึงไม่พูดอะไรอีก หลังจากที่ทุกคนมานั่งประจําที่ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ทุกคนบนโต๊ะหลักก็เริ่มพูดคุยกันโดยที่ไม่ได้สนใจหานเซิ่น มีเพียงแค่เฟิงหยินหยินเท่านั้นที่พูดคุยกับหานเซิ่น
แต่พวกเขาไม่ได้จงใจที่จะเมินเฉยต่อหานเซิ่น แต่เนื่องจากหานเซิ่นเป็นเพียงแค่สามัญชนที่เป็นเจ้าของร้านขายของออนไลน์เล็กๆ ฐานะของพวกเขานั้นแตกต่างกันมากเกินไป ซึ่งทําให้พวกเขาไม่มีหัวข้อสนทนาที่จะพูดกับหานเซิ่น