“ไม่ผิด” หอคอยน้อยพยักหน้าตอบ “เพียงแต่ว่าพฤกษาต้นกำเนิดต้นนี้ถูกเร่งให้เติบโตด้วยพลังของข้า แก่นกำเนิดพลังของมันจึงยังไม่ถึงเวลาที่จะถูกสร้างขึ้น”
“ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใด?” หลิงฮันถาม
“อีกร้อยล้านปีเป็นอย่างน้อย” หอคอยน้อยกล่าว
หลิงฮันส่ายหัวทันที ร้อยล้านปีเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเกินไป บางทีการตามหาต้นสังสารวัฏต้นอื่นอาจจะรวดเร็วเสียกว่า
แต่จะอย่างไรก็ตาม ดูเหมือนกวางน้อยเมฆาสวรรค์เจ็ดชีวิตจะพึงพอใจกับสภาพแวดล้อมภายในหอคอยทมิฬเป็นอย่างมาก และยอมตกลงที่จะมอบหยดสมุนไพรนิรันดร์ให้กับหลิงฮันทุกๆพันปี
“ได้สมุนไพรนิรันดร์มาแล้ว งั้นพวกเราก็ไปจากที่นี่กันเถอะ” หลิงฮันเอ่ยกล่าว
“ฮันน้อย เจ้าช่างตาต่ำยิ่งนัก แค่สมุนไพรนิรันดร์เพียงต้นเดียวจะไปเพียงพออะไร?” สุนัขตัวดำแสยะยิ้ม “ที่นี่ยังมีห้องสมบัติอยู่อีกหลายแห่ง เจ้าไม่อยากได้อุปกรณ์กึ่งนิรันดร์หรืออย่างไร? “
หลิงฮันนั้น แม้เขาจะไม่ได้ต้องการอุปกรณ์กึ่งนิรันดร์ แต่เขาอยากได้แร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงหรือแร่โลหะกึ่งนิรันดร์เป็นอย่างมาก เขาเริ่มครุ่นคิดว่า ในเมื่อตอนนี้เขากลายเป็นโจรไปแล้ว หากเป็นไปได้ก็ต้องเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้มากที่สุด!
เอาไว้หลังจากบรรลุเป็นราชานิรันดร์ เขาจะนำสิ่งที่ช่วงชิงไปกลับมาคืน
สุนัขตัวดำดูเชี่ยวชาญกับเส้นทางเป็นอย่างมาก มันนำพาหลิงฮันและจักรพรรดินีออกจากอาณาเขตภูเขา มายังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งมีตำหนักมากมายเรียงรายอยู่เป็นความยาวหลายร้อยไมล์ “ตำหนักเหล่านั้นคือห้องสมบัติทั้งหมด!” สุนัขตัวดำกล่าวด้วยแววตาเป็นประกาย
“ห้องสมบัติย่อมหนีไม่พ้นมีรูปแบบอาคมคุ้มกันติดตั้งเอาไว้” หลิงฮันกวาดสายตามองและกล่าว
“ต่อหน้านายท่านหมา ในโลกนี้ไม่มีรูปแบบอาคมใดปิดกั้นข้าได้!” สุนัขตัวดำกล่าว
ทั้งสามก้าวเดินมายังตำหนักแห่งแรก สุนัขตัวดำเริ่มลงมือถอดรูปแบบอาคมทันที ยิ่งมีหลิงฮันคอยช่วยเหลือด้วยแล้ว เวลาผ่านไปเพียงไม่นานรูปแบบอาคมป้องกันก็ถูกถอดถอนเสร็จสมบูรณ์
“เจ้านี่เกิดมาเพื่อเป็นโจรจริงๆ!” สุนัขตัวดำเอ่ยชม
“เจ้าไม่รู้สึกกระดากปากบ้างรึ ที่เป็นคนกล่าวคำนั้นออกมาจากปากตัวเอง?” หลิงฮันสะบัดมือ
ทั้งสามคนเดินเข้าสู่ตำหนักแห่งแรก ซึ่งจากที่ดูแล้วตำหนักแห่งนี้สมควรเป็นห้องสมบัติสำหรับเก็บของใช้เป็นหลักโดยเฉพาะเสื้อผ้า เสื้อผ้ามากมายที่เก็บอยู่ที่นี่นั้นไม่ใช่เสื้อผ้าทั่วไป พวกมันถูกทักทอขึ้นจากสัตว์อสูรระดับนิรันดร์ที่แข็งแกร่ง
แม้สิ่งของต่างๆจะไม่ใช่ระดับนิรันดร์ แต่ก็เป็นระดับกึ่งนิรันดร์ แน่นอนว่าหลิงฮันไม่เกรงใจและขโมยพวกมันไปทั้งหมด
หลังจากในตำหนักแรกไม่มีอะไรเหลือแล้ว ทั้งสามคนก็ย้ายไปปล่นชิงตำหนักที่สองต่อ
เมื่อทำลายรูปแบบอาคมและเข้าสู่ด้านใน สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าพวกเขาด้านในตำหนักที่สองก็คือบ่อน้ำที่เรียงติดกันอยู่สิบบ่อ
“นั่นมัน!”
พวกหลิงฮันอุทานออกมา บ่อน้ำตรงหน้านี้น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก ภายในบ่อน้ำมีตราประทับแห่งเต๋าอันสว่างไสวลอยไปมาราวกับฝูงปลากำลังแหวกว่าย
“บ่อน้ำนิรันดร์!” สุนัขตัวดำตะโกนลั่นและกระโดดลงบ่อน้ำทันที มันกางขาแหวกว่ายลอยไปมาท่ามกลางบ่อน้ำ พร้อมกับดูดซับแหล่งพลังงานจากภายในบ่อเข้าสู่ร่างกาย
หลิงฮันและจักรพรรดินีเองก็กระโดดลงบ่อน้ำบ่อที่สองและสามตามๆกันไป
อำนาจแห่งเต๋าจากบ่อน้ำราวกับทำหน้าที่เป็นสะพาน มันช่วยชี้นำพลังจากสวรรค์และปฐพีเข้าสู่ร่างกายอย่างไร้ข้อบกพร่อง ด้วยการช่วยเหลือของบ่อน้ำเหล่านี้ เกรงว่าต่อให้เป็นคนโง่ก็สามารถกลายเป็นปรมาจารย์ที่ทรงพลังได้
หลิงฮันตกตะลึงเป็นอย่างมาก ช่างเป็นสมบัติที่ท้าทายสวรรค์อะไรเช่นนี้!
เขายิ่งรู้สึกสงสัยมากขึ้นไปอีกว่าตัวเองบุกเข้ามาในขุมอำนาจระดับใดกันแน่?
บ่อน้ำเหล่านี้ไม่เพียงมีแก่นพลังของสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดผสมอยู่ แต่แม้กระทั่งแก่นพลังของสมุนไพรระดับนิรันดร์ก็ยังถูกผสมเอาไว้ด้วยเล็กน้อย
พวกหลิงฮันทั้งสามคนนิ่งเงียบไม่ปริปากพูดคุยกันแม้แต่คำเดียว พวกเขาต้องการดูดซับผลประโยชน์จากบ่อน้ำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เจ็ดวันต่อมา หลิงฮันเป็นคนแรกที่ดูดซับแก่นพลังของบ่อน้ำจนหมด เขาลุกขึ้นจากบ่อน้ำที่ตนเองอยู่และเดินไปยังบ่อน้ำบ่อที่สี่ หลังจากผ่านไปอีกสองวัน จักพรรดินีและสุนัขตัวดำก็ลุกขึ้นยืนแทบจะพร้อมกัน ทั้งสองเดินไปยังบ่อน้ำบ่อที่ห้าและบ่อที่หก
จากที่เห็นจะทำให้รับรู้ได้ว่าหลิงฮันนั้นมีกายหยาบที่แข็งแกร่งที่สุด ส่วนจักรพรรดินีนั้นแม้นางจะสร้างร่างแยกทั้งเก้ามาช่วยดูดซับแก่นพลังของบ่อน้ำได้ แต่สุนัขตัวดำก็ยังสามารถดูดซับแก่นกำเนิดพลังได้รวดเร็วเท่านาง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงไม่น้อย
หรือมันเองก็มีแก่นกำเนิดนิรันดร์เช่นกัน?
ความแตกต่างเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ หลังจากหลิงฮันขึ้นจากบ่อน้ำบ่อที่สี่และย้ายไปยังบ่อที่เจ็ด จักรพรรดินีและสุนัขตัวดำก็ใช้เวลานานถึงสามวันกว่าจะย้ายตามไปยังบ่อน้ำบ่อที่แปดและเก้าได้ เมื่อหลิงฮันย้ายมายังบ่อที่สิบและดูดซับแก่นพลังของบ่อไปกว่าครึ่งแล้ว จักรพรรดินีกับสุนัขตัวดำถึงเพิ่งจะตามมาทัน
ทั้งสามดูดซับแก่นพลังของบ่อน้ำพร้อมกันจนบ่อที่สิบแห้งเหือด
ร่างของหลิงฮันอัดแน่นไปด้วยไอความร้อนจากอำนาจแห่งเต๋า จนเสื้อผ้าที่เปียกชื้ออยู่กลับมาแห่งอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเรอออกมา อำนาจแห่งเต๋าที่ดูดซับมาจากบ่อน้ำก็เล็ดรอดลอยออกมาด้วย
ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ พวกเขาเป็นโจรที่ลักลอบเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ จึงไม่มีเวลามากพอสำหรับจะใช้ย่อยซึมซับแก่นพลังที่ดูดเข้ามา
หากบ่อน้ำเหล่านี้สามารถเคลื่อนย้ายได้ล่ะก็ หลิงฮันคงนำพวกมันกลับไปด้วยและค่อยๆดูดซับพวกมันอย่างเชื่องช้า เพื่อไม่ให้เสียของไปแล้ว
แกร่ก!
ในจังหวะนั้นเอง จู่ๆประตูตำหนักก็ถูกเปิดออก และมีร่างของบุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามา
อีกฝ่ายเป็นชายหนุ่มผู้หล่อเหลาที่ตอนนี้กำลังมีสีหน้าตื่นเต้น แต่ทันทีที่ชายหนุ่มผู้นั้นพบเห็นคนสองคนและสุนัขหนึ่งตัวอยู่ในตำหนัก ใบหน้าของอีกฝ่ายก็ชะงักแน่นิ่งไปในทันที
หลิงฮันเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เขารู้สึกว่าโลกใบนี้มันช่างกลมจริงๆ
ชายหนุ่มที่ปรากฏตัวคือหานฉี!
ที่นี่คือห้องสมบัติของตระกูลหาน?