“ฮ่าๆๆ!” สุนัขตัวดำกลิ้งไปมาพร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะ
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงฮันและเห็นท่าทางของสุนัขตัวดำ ติงเหยาหลงและหานลู่ก็รู้สึกเกรี้ยวกราดขึ้นมา
ช่างน่ารังเกียจนัก!
ดวงตาของทั้งสองแดงฉานราวกับเปลวเพลิง ถ้าตอนนี้พวกเขายังไม่รู้ตัวอีกว่าถูกหลิงฮันปั่นหัว พวกเขาก็ไม่สมควรเป็นนิรันดร์สี่นิพพานแล้ว
คนอื่นๆที่มองดูสถานการณ์อยู่ชะงักแน่นิ่งไร้คำพูด พวกเขาไม่คิดว่าหลิงฮันจะเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด ที่สำคัญคือเขากล้ายอมรับด้วยว่าตนเองเป็นคนทำ
ติงหู่คำรามและลงมือโจมตีหลิงฮันอีกครั้ง เขารังเกียจหลิงฮันเป็นอย่างมาก ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างโหดเหี้ยมราวกับจะกลืนกินหลิงฮันทั้งเป็น
ในโลกนี้ เกรงว่าคงจะมีเพียงหลิงฮันคนเดียวที่สามารถทำให้นิรันดร์ระดับโลกียนิพพานสติแตกขนาดนี้ได้
ปัง! ปัง! ปัง!
หลิงฮันทำได้เพียงรับมือกับการโจมตีของติงหู่ที่กระหน่ำเข้าใส่ พลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้ยังห่างไกลเกินกว่าที่จะตอบโต้กับกับจอมยุทธระดับนิรันดร์ แต่ด้วยกายหยาบอันไร้เทียมทานของเขา ต่อให้ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่อีกฝ่ายได้ แต่ตัวเขาเองก็ไม่แม้แต่กระอักโลหิต
เหล่าผู้คนที่มองดูตกตะลึงอ้าปากค้า
อัศจรรย์ยิ่งนัก! พลังป้องกันของจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งทรงพลังขนาดนี้ได้อย่างไร?
ณ เวลานี้หากยังมีคนบอกว่าติงหู่ยังเล่นละครอยู่ พวกเขาก็คงเชื่อ
“ฮึ่ม!” หานลู่คว้ามือไปยังหลิงฮัน ‘ครืนน’ ฝ่ามือปราณก่อเกิดขนาดมหึมาปรากฏขึ้นมาราวกับเป็นภูเขายักษ์ใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อันน่าสะพรึง
“สับขาวายุ!” สุนัขตัวดำรีบเผ่นหนีอย่างรวดเร็ว
“เจ้ากับข้าต้องร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน” หลิงฮันเอื้อมมือไปคว้าจับหางของสุนัขตัวดำเอาไว้ และด้วยการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วของสุนัขตัวดำทำให้ร่างของหลิงฮันสะบัดปลิวไปมาราวกับว่าว
“ปล่อยข้า ตัวเจ้ามันหนักเกินไป!” สุนัขตัวดำโอดครวญ
“ไม่มีปัญหา ข้าเชื่อใจเจ้า!” หลิงฮันหัวเราะ
‘ตูม’ ที่ด้านหลังของพวกเขา ฝ่ามือปราณก่อเกิดมหึมาสัมผัสโดนแต่เพียงอากาศที่ว่างเปล่า
“คิดหนี?” ติงเหยาหลงลงมือ ทั่วร่างของเขาพัวพันไปด้วยตราประทับของอำนาจแห่งกฎเกณฑ์นับไม่ถ้วนจนแทบมองไม่เห็นร่างกาย
‘พรึบ’ ร่างติงเหยาหลงพุ่งทะยานด้วยความเร็วสูงจนแซงขึ้นหน้าสุนัขตัวดำ แม้ความเร็วของเขาในตอนนี้จะเกิดจากการเผาผลาญแก่นพลังชีวิตทำให้คงสภาพอยู่ในเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ตราบใดที่สามารถเคลื่อนที่ไปขัดขวางได้ มีรึที่จอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งที่อ่อนแอจะหนีไปจากมือของเขาพ้น?
“ตาย!” เขาคำรามและปล่อยฝ่ามือเข้าใส่หลิงฮันอย่างโหดเหี้ยม
หานลู่จิตใจสั่นสะท้าน เขาอยากจะห้ามติงเหยาหลงไม่ให้ลงมือเพราะหลิงฮันอาจจะมีความลับของราชานิรันดร์อยู่กับตัว แต่พอคิดให้ดีแล้ว ต่อให้หลิงฮันตาย ตราบใดที่เขายังสามารถช่วงชิงดวงวิญญาณของอีกฝ่ายมาได้ เขาก็ยังตรวจสอบความทรงจำเพื่อเค้นหาความลับได้อยู่ดี
‘ตูม’ ฝ่ามือขนาดมหึมาของติงเหยาหลงปิดทางหนีของพวกหลิงฮันเอาไว้ อย่างน้อยด้วยความเร็วของสุนัขตัวดำในตอนนี้ย่อมไม่อาจหลบหนีพ้น
หลิงฮันเผยรอยยิ้ม เขาปล่อยมือจากสุนัขตัวดำและใช้เท้าเตะก้นของมัน ‘ปัง’ ร่างของสุนัขตัวดำถูกแรงเตะส่งลอยกระเด็นพุ่งออกจากรัศมีการโจมตีของติงเหยาหลง
ครืนน!
คลื่นกระแทกที่เกิดจากฝ่ามือมหึมาส่งผลให้ทั่วทั้งเมืองธุลีจันทราสั่นไหว เหล่าผู้คนในเมืองตกอยู่ในความอลหม่านทันที เนื่องจากว่าโครงสร้างของดินแดนแห่งเซียนนั้นทนทานเป็นอย่างมาก ในดินแดนแห่งนี้จึงไม่เคยเกิดแผ่นหินไหวหรือแผ่นดินแยกตัวตามธรรมชาติ เพราะงั้นหากเมื่อใดที่พื้นแผ่นดินสั่นสะเทือน ย่อมเป็นผลมาจากการต่อสู้ระหว่างปรมาจารย์ที่ทรงพลัง
“ไม่นะฮันน้อย ความตายของเจ้าช่างอนาถยิ่งนัก!” ในระยะที่ห่างออกไป สุนัขตัวดำกำลังลูบกางเกงในเหล็กของตัวเองที่มีรอยเท้าประทับเอาไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแรงเตะของหลิงฮันรุนแรงขนาดไหน
มันใช้เท้าหน้าทาบอกและกล่าวโอดครวญ “เพื่อช่วยให้นายท่านหมารอดชีวิต เจ้าถึงขนาดยอมสละชีวิตของตัวเอง ช่างน่านับถือนัก! เพื่อที่เจ้าจะได้ไปสู่สุคติโดยไวข้าจะเผารูปของสตรีงดงามจำนวนมากไปให้ ส่วนเรื่องแก้แค้นนั้น คนชั่วช้าอย่างเฒ่าชราสองคนนั่นต้องต้องตายไวอยู่แล้ว นายท่านหมาไม่จำเป็นต้องทำอะไรก็ได้”
“ที่น่าเสียดายที่สุดคือความลับในตัวเจ้า หากรู้ว่าต้องตายล่ะก็ เจ้าน่าจะมอบมาให้ข้าเสียก่อน!” ยิ่งสุนัขตัวดำกล่าว คำพูดของมันก็ยิ่งไร้สาระขึ้นเรื่อยๆ
พลังของฝ่ามือที่ปะทะโดนเป้าหมายแล้วค่อยๆสลายไปพร้อมกับฝุ่นควัน เมื่อทุกอย่างกลับมามองเห็นได้ชัดดังเดิม ใบหน้าของทุกคนก็แสดงออกถึงความตกตะลึงอย่างปิดไม่มิด
หลิงฮันยังคงยืนอยู่อย่างองอาจ!
พรวด!
ใครหลายคนสำลักออกมา นี่เจ้าเป็นจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งจริงๆรึ? ที่เจ้าต้านทานการโจมตีของนิรันดร์หนึ่งนิพพานได้นั้นพวกข้ายังพอรับได้ แต่นี่ถึงขนาดเจ้ารับการโจมตีของนิรันดร์สี่นิพพานเข้าไปเต็มๆก็ยังไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย… เจ้ามันสัตว์ประหลาด!
แม้ใบหน้าของหลิงฮันจะประดับเอาไว้ด้วยรอยยิ้ม แต่ภายในใจนั้นกำลังโอดครวญอย่างขมขื่น นิรันดร์สี่นิพพานก็ยังคงเป็นนิรันดร์สี่นิพพาน เพียงการโจมตีครั้งเดียวเมื่อครู่ก็ทำให้เขาต้องเผาผลาญปราณก่อเกิดในร่างจนหมดสิ้น หากติงเซี่ยวเฉินโจมตีอีกครั้ง เขาคงไม่สามารถใช้อำนาจของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ต้านทานได้อีกต่อไป
“โอ้ ฮันน้อย เจ้ายังไม่ตายรึ?” สุนัขตัวดำทำเป็นปาดน้ำตาโดยที่ดวงตาของมันไม่มีน้ำตาอยู่เลยแม้แต่หยดเดียว “นายท่านหมาเสียความรู้สึกเพราะเจ้าไปแล้ว เจ้าจะชดใช้นายท่านหมาอย่างไร?”
“เหอๆ” หลิงฮันหัวเราะและเมินเฉยสุนัขตัวดำ ในทางกลับกันเขาได้หันไปกล่าวกับหานลู่และติงเซี่ยวเฉิน “พวกเจ้าสองคนเล่นไร้สาระอะไรกันอยู่? คนหนึ่งก็โจมตีไม่โดย ส่วนอีกคนทั้งๆที่โจมตีโดนก็ทำอะไรข้าไม่ได้แม้แต่น้อย เห้อ ข้าล่ะรู้สึกขายขี้หน้าแทนพวกเจ้าจริงๆ”
สีหน้าของหานลู่และติงเซี่ยวเฉินเปลี่ยนเป็นมืดมน พลังของสุนัขตัวดำและหลิงฮันนั้นน่าอัศจรรย์เกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการ ตัวหนึ่งมีความสามารถในการเคลื่อนที่ข้ามมิติ ในขณะที่อีกคนมีพลังป้องกันที่ไร้เทียมทานฝืนสวรรค์
“พวกเจ้าเป็นใครกันแน่?” หานลู่กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
อย่างแรกเลยนั้น หากไม่มีความช่วยเหลือจากจอมยุทธระดับแบ่งแยกวิญญาณ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งเช่นหลิงฮันจะไปปรากฏตัวที่โลกบรรพกาล และอย่างที่สองคือ หากอีกฝ่ายไม่ใช่คนของขุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่คับฟ้า จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะสามารถต้านทานการโจมตีของนิรันดร์สี่นิพพานได้?
ระดับโลกียนิพพานคือระดับพลังที่อยู่เหนือระดับสร้างสรรพสิ่งอย่างสิ้นเชิง เรื่องพื้นฐานเช่นนี้ไม่ว่าจะไปถามใคร ทุกคนย่อมตอบตรงกัน
หนึ่งสุนัขหนึ่งคนที่น่าอัศจรรย์คู่นี้ จะต้องมีผู้หนุนหลังที่ทรงพลังมากอยู่แน่นอน