ทุกคนรอบข้างสูดหายใจลึก ขนาดหนึ่งในผู้ติดตามของจ่างซุนเหลียงยังแข็งแกร่งขนาดนี้ แล้วตัวของจ่างซุนเหลียงเองล่ะจะทรงพลังขนาดไหน?
ชายหนุ่มผมแดงกวาดสายตามองฝูงชนพร้อมกับแสยะยิ้ม “เพียงหนึ่งการโจมตีของนายท่านจ่างซุนเหลียงสามารถทำให้รูบนเสาส่องประกายได้ถึงเก้าสิบเก้าแต้ม”
พรวด… เก้าสิบเก้า!
ทุกคนอ้าปากค้างด้วยความตะลึง
คนที่อยู่ที่นี่แทบจะทุกคนได้ลองทดสอบด้วยตัวเองแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่ทำให้รูส่องประกายได้เพียงสามสิบกว่าแต้ม มีเพียงจำนวนน้อยนิดเท่านั้นที่ทำให้รูส่องได้เกินหกสิบแต้ม
ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าพลังของทายาทแห่งนิกายจันทราหม่นแสงนั้นทรงพลังขนาดไหน
“ถ้าเช่นนั้น ต้องทำให้รูบนเสาส่องแสงได้จำนวนเท่าไหร่ถึงจะมีคุณสมบัติเข้าสู่เกาะเมฆาเซียน” จู่ๆใครบางคนในหมู่ฝูงชนก็เอ่ยถาม เขาเป็นรุ่นเยาว์ที่ดูธรรมดาสามัญเป็นอย่างมากและมีส่วนสูงที่เตี้ยกว่าคนทั่วไป
หลังจากที่เขาเอ่ยถาม ผู้คนที่อยู่รอบข้างตัวเขาก็ก้าวขาออกห่างทันที
ชายหนุ่มผมแดงมองไปยังชายร่างเตี้ยก่อนจะหรี่ตาเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ถึงออร่าอันเย็นยะเยือกจากอีกฝ่าย
ออร่าที่สัมผัสได้จากรุ่นเยาว์ร่างเตี้ยตรงหน้าราวกับว่าอีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นสัตว์อสูรดุร้าย!
ชายหนุ่มผมแดงหวาดผวาและพอคาดเดาได้ว่ารุ่นเยาว์ร่างเตี้ยผู้นี้ทรงพลังเป็นอย่างมาก
หลิงฮันพยักหน้าในใจ พลังของรุ่นเยาว์ร่างเตี้ยผู้นี้เหนือกว่าชายหนุ่มผมแดงมากพอสมควร
“เจ็ดสิบแต้มถึงจะมีสิทธิ์เหยียบย่ำเกาะเมฆาเซียน” ชายหนุ่มผมแดงปาดเหงื่อที่หน้าผากก่อนจะจ้องมองไปยังรุ่นเยาว์ร่างเตี้ยอีกครั้งด้วยแววตายำเกรง
รุ่นเยาว์ร่างเตี้ยพยักดหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ให้ข้าลองดู” เขาก้าวเดินออกมายืนหน้าแท่งเสา หลังจากแน่นิ่งอยู่ครู่หนึ่งเขาก็หันหน้ามาเอ่ยถาม “ข้าสามารถทดสอบได้กี่ครั้ง?”
“สามครั้ง” ชายหนุ่มผมแดงปาดเช็ดเหงื่ออีกรอบ สายตาที่จ้องมองมาของอีกฝ่ายนั้นทำให้เขารู้สึกราวกับกำลังถูกสัตว์อสูรที่น่าสะพรึงกลัวจดจ้องอยู่
รุ่นเยาว์ร่างเตี้ยหัวเราะ เขากำหมัดขวาและโจมตีเข้าใส่แท่งเสาอย่างลวกๆ ‘ตูม’ แสงจากรูเจ็ดสิบเอ็ดรูส่องประกายแสงเจิดจ้า
เจ็ดสิบเอ็ดแต้ม!
ทุกคนตกตะลึง มีคนที่พลังต่อสู้แข็งแกร่งจนสามารถทำให้รูส่องประกายแสงได้เกินเจ็ดสิบรูอยู่จริงๆ!
“เจ้ามีชื่อว่าอะไร?” ต่อหน้าจอมยุทธที่ทรงพลังเช่นนี้ ท่าทีของชายหนุ่มผมแดงได้เปลี่ยนเป็นสุภาพและไม่เหลือร่องรอยความหยิ่งยโสเหมือนก่อนหน้านี้
“เปียนเจ๋อจากเมืองอัสนีบาตคำราม” รุ่นเยาว์ร่างเตี้ยกล่าวโดยไม่หันมองใคร สายตาของเขาจดจ้องไปยังแท่งเสาด้วยสีหน้าจริงจัง แม้การโจมตีเมื่อครู่จะแสดงให้เห็นว่าเขามีคุณสมบัติพอจะเข้าสู่เกาะ
เขาทำให้แท่งเสาส่องประกายได้เจ็ดสิบเอ็ดแต้ม แต่จ่างซุนเหลียงทำได้ถึงเก้าสิบเก้าแต้ม เหตุใดความต่างชั้นถึงได้มากขนาดนี้?
“ข้าจะลองอีกครั้ง” เปียนเจ๋อกล่าวและโคจรพลัง
โฮกกก!
เสียงคำรามดังก้องกังวานออกมาจากภายในร่างกายของเขา เสียงคำรามนี้คล้ายคลึงกับเป็นเสียงคำรามของมังกรหรือไม่ก็พยัคฆ์ หลังจากเสียงคำรามถูกปลดปล่อยออกมา ร่างของผู้คนรอบข้างก็ชะงักแข็งข้างไร้เรี่ยวแรง น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก ยังไม่ทันได้ลงมือโจมตีเลยแท้ๆแต่แค่เสียงคำรามก็ทำให้คนอื่นหมดสภาพไม่อาจต่อสู้ได้
คลื่นพลังอันน่าสะพรึงไหลทะลักออกมาจากร่างกายของเขา นอกจากหลิงฮัน จักรพรรดินี และจอมยุทธที่ทรงพลังอีกสิบกว่าคนแล้ว คนอื่นๆนอกจากนี้รีบขยับถอยหลังทันที คลื่นพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมารุนแรงจนแม้แต่ราชาเซียนทั่วไปก็ไม่อาจต้านทานไหว
คราวนี้หมัดของเปียนเจ๋อถูกปกคลุมไปด้วยประกายสายฟ้า ตราประทับแห่งเต๋าบนอำนาจสายฟ้าสั่นระรัวพร้อมกับแปรสภาพกลายเป็นมังกรอัสนี
ตูม!
การโจมตีปะทะเข้ากับแท่งเสา อำนาจสายฟ้าแพร่กระจายไปทั่วทิศ
เมื่ออำนาจสายฟ้าสลายไป แสงของรูบนแท่งเสาก็ค่อยๆส่องสว่างทีละรู
เจ็ดสิบเก้าแต้ม!
ไม่น่าเชื่อ!
การโจมตีทีรุนแรงขนาดนั้นกลับเพิ่มจากเจ็ดสิบเอ็ดแต้มมาเพียงแค่แปดแต้มเท่านั้น แถมยังไม่อาจขึ้นไปถึงแปดสิบแต้มได้?
ถ้าเช่นนั้นแล้ว จ่างซุนเหลียงที่ทำให้แสงของแท่งเสาส่องสว่างได้ถึงเก้าสิบเก้าแต้มจะต้องแข็งแกร่งขนาดไหน?
สถิติเก้าสิบเก้าแต้มที่เขาทำเอาไว้เป็นคะแนนที่ไม่มีใครเอื้อมถึง!
เปียนเจ๋อยอมรับความพ่ายแพ้และจ้องมองไปยังแท่งเสาด้วยแววตาเหม่อลอย เขาคิดว่าตนเองคือผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของราชาเซียนแล้วและคนอื่นทำได้เพียงแหงนมองขึ้นมายังเขา เปียนเจ๋อไม่เคยคาดฝันมาก่อนว่าภูเขาจะยังมีฟ้าที่เขาไม่อาจข้ามผ่านได้อยู่อีก
โดยปกติแล้ว หากมีพลังบ่มเพาะเท่ากัน ความต่างของพลังก็ไม่สมควรมากมายขนาดนี้!
เพียงแต่เปียนเจ๋อก็ใช่ว่าจะอ่อนแอ คะแนนเจ็ดสิบเก้าแต้มของเขาคือคะแนนที่สูงที่สุดในตอนนี้และเป็นเพียงคนเดียวที่มีคุณสมบัติพอจะได้เหยียบย่ำเข้าไปยังเกาะเมฆาเซียน
“ฮ่าๆ ให้ข้าผู้นี้ลองบ้าง” รุ่นเยาว์ชุดขาวผู้หนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทางอวดดียิ่งกว่าเปียนเจ๋อ แต่ทว่าผลลัพธ์ที่เขาทำได้กลับไม่ดีเท่าเปียนเจ๋อ การโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเขาทำให้รูบนแท่งเสาส่องแสงได้เพียงสิบเจ็ดสี่แต้ม
แม้จะห่างกันเพียงห้าแต้ม แต่ความแตกต่างของพลังนั้นมากมายมหาศาล
จะอย่างไรก็ตามแต่ ด้วยแต้มที่มากถึงเจ็ดสิบสี่แต้ม รุ่นเยาว์ชุดขาวผู้นี้ก็ยังถือว่าแข็งแกร่งอยู่ดีและคาดว่าจะเฉิดฉายโดดเด่นไม่น้อยหน้าใครในการประลองสิบวันข้างหน้า
เหล่าอัจฉริยะค่อยๆปรากฏตัวและทำการทดสอบ มีบ้างเล็กน้อยที่จอมยุทธทรงพลังบางคนสามารถทำคะแนนได้ถึงเจ็ดสิบกว่าแต้ม แต่ไม่มีใครเลยที่ทำคะแนนถึงแปดสิบแต้ม
เม่าซูอวี่และพวกเว่ยโปวเองก็ลองทดสอบเช่นกัน แต่ถึงแม้พวกเขาจะนำสมบัติที่ทรงพลังออกมาใช้โจมตีด้วยแล้ว คนที่ได้คะแนนสูงสุดก็ยังทำได้แค่หกสิบสองแต้มซึ่งก็คือเม่าซูอวี่
บางทีคงต้องรอขัดเกลาพลังไปอีกสักสิบล้านปีและควบแน่นดวงดาราให้มีจำนวนเกินสองหรือสามหมื่นล้านดวงเสียก่อน นางถึงจะทำคะแนนได้เกินกว่าเจ็ดสิบแต้ม
พวกเม่าซูอวี่เซ้าซี้ให้หลิงฮันทำการทดสอบ แต่ในทันใดนั้นเองจู่ๆก็เกิดเสียงเอะอะขึ้นท่ามกลางฝูงชน
“ดูนั่น หยวนซิ่งผิงมาที่นี่!” เมื่อเสียงอุทานของใครบางคนเอ่ยดังขึ้นมา เหล่าฝูงชนที่แออัดกันอยู่ก็แยกตัวเปิดทางให้คนผู้หนึ่งเดินผ่าน
หยวนซิ่งผิง ชายผู้ถูกยอมรับว่าเป็นจอมยุทธที่ทรงพลังที่สุดในการประลองครั้งนี้!