หลิงฮันเองก็ดึงเอวจักรพรรดินีมาอยู่ในอ้อมแขน การห่างกันเป็นเวลาแปดปีช่างยาวนานนัก!
ท่าทางเย็นชาของจักรพรรดินีไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไป ใบหน้าของนางแสดงออกถึงความอ่อนโยนจนทำให้จิตใจของทุกคนหลอมละลาย
เสี่ยวกู่ที่ยืนดูอยู่ด้านข้างทนไม่ไหวและก้าวเดินเข้ามา มันอ้าแขนราวกับอยากจะจะโอบกอดเลียนแบบหลิงฮัน
“หยุดเลย นี่คือภรรยาข้า อย่าได้คิดเลียนแบบ!” หลิงฮันรีบห้ามปราม
“ยี่ ยา ย่า” เสี่ยวกู่กล่าวด้วยท่าทางเศร้าเสียใจเล็กน้อย
“เขาเป็นใคร?” จักรพรดินีเอ่ยถาม เหตุใดรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายถึงได้เหมือนหลิงฮันราวกับฝาแฝด?
“เอาไว้ข้าจะอธิบายทีหลัง” หลิงฮันเปลี่ยนจากโอบกอดมาเป็นจับมือจักรพรรดินีและเดินไปหาพวกเซียนซิงฉาพร้อมกับกล่าว “พวกท่านพบเจออะไรรึยัง?”
เหล่าเซียนจากสำนักละอองดาราอย่างเซียนซิงฉา เซียนหมิงซิงและเซียนคนอื่นๆส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “สมุนไพรนิรันดร์อยู่ตรงหน้าแท้ๆแต่กลับไม่สามารถครอบครองได้ ช่างน่าสลดนัก”
“โฮ่ง ฮันน้อย เหตุใดพบเจอข้าแล้วถึงได้ไม่คารวะทักทายกัน?” สุนัขตัวดำก้าวเดินเข้ามา แต่พริบตาที่มันเห็นเสี่ยวกู่ ขนทั่วร่างของมันก็ตั้งชี้ฟ้าทันที
“สัตว์ประหลาด!” มันกระโดดถอยหลังและแยกเขี้ยว
“สัตว์ประหลาด!” เสี่ยวกู่รู้สึกสนใจจึงเลียนแบบคำพูด
“เจ้านั่นล่ะสัตว์ประหลาด!” สุนัขตัวดำเกรี้ยวกราด
“เจ้านั่นล่ะสัตว์ประหลาด!” เสี่ยวกู่เลียนแบบด้วยท่าทางสนุกสนาน
“อย่าเลียนแบบข้า!”
“อย่าเลียนแบบข้า!”
“เจ้ามันโง่ที่พูดเองไม่ได้!”
“เจ้ามันโง่ที่พูดเองไม่ได้!”
“……”
ไม่ว่าสุนัขตัวดำจะกล่าวอะไร เสี่ยวกู่ก็จะเลียนแบบคำนั้นกลับไป แม้ว่าสุนัขตัวดำจะเปลี่ยนความเร็วและโทนเสียงในการพูดแล้วเสี่ยวกู่ก็ยังเลียนแบบกลับไปได้อย่างแม่นยำ
ผ่านไปครู่หนึ่งสุนัขตัวดำก็ลงไปนอนแผ่อยู่กับพื้น หูของหันถูกพับปิดลงมาโดยไม่ต้องการฟังอะไรอีกแล้วทั้งนั้น
หลิงฮันหัวเราะ หายากนักที่จะได้เห็นสุนัขตัวดำพ่ายแพ้ในการทะเลาะวิวาท
“ยี่ ยา ย่า!” เสี่ยวกู่เองก็หัวเราะเช่นกัน
“เจ้าคือหลิงฮัน?” ราชาเซียนรุ่นเยาว์ก้าวเดินเข้ามา เขาเป็นชายหนุ่มที่เยาว์วัยเป็นอย่างมาก จากที่ดูอายุของเขาสมควรอยู่ที่ไม่กี่พันปีเท่านั้นแต่กลับบรรลุระดับสร้างสรรพสิ่งขั้นสูงสุดชั้นสูงสุดแล้ว!
หลิงฮันชำเลืองมองพร้อมกับประหลาดใจเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ว่าออร่าของราชาเซียนรุ่นเยาว์ผู้นี้แตกต่างไปจากราชาเซียนคนอื่นๆ
อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่สมบูรณ์! เหมือนกับหานฉีก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายมาจากดินแดนแห่งเซียน
ไม่น่าแปลกใจที่อีกฝ่ายสามารถบรรลุเป็นราชาเซียนสูงสุดได้ด้วยอายุเพียงเท่านี้ ด้วยทรัพยากรบ่มเพาะในดินแดนแห่งเซียน ความเร็วในการบ่มเพาะจะไม่เป็นไปอย่างรวดเร็วได้อย่างไร? แต่เมื่อเทียบกับฮูหนิวแล้วอีกฝ่ายไม่อาจนับเป็นอันใด ฮูหนิวนั้นเพียงห้าปีก็บรรลุระดับสร้างสรรพสิ่งแล้ว
“ข้าคือหลิงฮัน เจ้ามีชื่อว่าอะไร?” หลิงฮันจ้องมองอีกฝ่าย
“ผางเฉิน” ราชาเซียนรุ่นเยาว์ผู้นั้นกล่าวด้วยท่าทางสูงส่ง
แน่นอนว่าเขาที่เป็นจอมยุทธจากดินแดนแห่งเซียนนั้น ชีวิตของทุกคนในที่นี้มีค่าไม่เท่านิ้วมือหนึ่งนิ้วของเขาเลยด้วยว้ำ หากไม่ใช่เพราะที่นี่มีสมุนไพรนิรันดร์และสตรีงดงามอย่างจักรพรรดินี เขามันเสียเวลาอยู่ที่นี่ทำไมตั้งห้าปี?
หลิงฮันอุทาน ‘โอ้’ ออกมาก่อนจะเลิกสนใจอีกฝ่าย
นี่เจ้า!
ผางเฉินเกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที ท่าทางเช่นนั้นมันอะไร? เจ้าเป็นเพียงเซียนระดับสูงแท้ๆ ต่อหน้าข้ากล้าดีอย่างไรถึงทำตัวไม่แยแสเช่นนั้น?
หืม!
จู่ๆจิตใจของผางเฉินก็สั่นสะท้าน มีเซียนระดับสูงที่อายุน้อยขนาดนี้อยู่ได้อย่างไร!
เขาไม่สามารถระบุอายุที่แน่นอนของหลิงฮันได้ แต่จากพลังชีวิตอันร้อนระอุที่ไหลเวียนในร่างของหลิงฮันทำให้เขาพอคาดเดาได้ว่าพลังชีวิตของหลิงฮันนั้นยังไม่เกินพันปี!
ในโลกบรรพกาลที่สัตว์ประหลาดเช่นนี้อยู่ด้วย?
เขารีบหันไปมองจักรพรรดินี สตรีงดงามหาใครเปรียบที่มีพลังบ่มเพาะอยู่ที่เซียนระดับกลางผู้นี้เองก็มีพลังต่อสู้ทัดเทียมกับราชาเซียนสูงสุด! นี่เกิดอะไรขึ้นกับโลกบรรพกาลกันแน่?
“สหายหลิง!” เหล่าราชาเซียนมากมายจากดินแดนต้องห้ามคำนับต้อนรับหลิงฮัน เมื่อพบว่าพลังบ่มเพาะของหลิงฮันก้าวสู่เซียนระดับสูงแล้ว พวกเขาก็ทั้งตกตะลึงและดีใจ
ที่ดีใจก็เพราะพวกเขาจะได้เข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนแล้ว และที่ตกตะลึงก็เป็นเพราะเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ปีหลิงฮันกลับทะลวงผ่านมาสู่ระดับพลังนี้ได้ซึ่งคิดแล้วก็เหมือนกับเรื่องเพ้อฝัน
หลิงฮันพยักหน้า เขากล่าวทักทายราชาเซียนทุกคนด้วยรอยยิ้มก่อนจะมองไปด้านหน้าและกล่าว “พวกเจ้าเก็บเกี่ยวสมุนไพรนิรันดร์ไม่ได้?”
“ไม่มีทางทำได้!” รุ่นเยาว์ผู้หนึ่งก้าวเดินเข้ามาและกล่าวพูดด้วยสำเนียงที่เหมือนกับคนเฒ่าชรา
“เจ้าเป็นใคร?” หลิงฮันมองไปยังอีกฝ่าย
“ฮึ่ม ข้าคือจักรพรรดิเพลิงอัสนี!” รุ่นเยาว์ผู้นั้นคำรามอย่างไม่สบอารมณ์
หลิงฮันหัวเราะ “ไม่ได้เจอกันไม่กี่ปี เจ้าโตขึ้นเยอะเลย!”
“เหอะ ในยุคที่ข้าผู้นี้เหยียบย่ำไปทั่วโลกล้า เจ้ายังเป็นเพียงเด็กน้อยที่ไม่รู้จักวิธีดื่มนมด้วยซ้ำ” จักรพรรดิเพลิงอัสนีเค้นเสียงกล่าว
“ว่าแต่ ทำไม่ถึงไม่อาจเก็บเกี่ยวได้?” หลิงฮันกลับมาคุยเรื่องเดิม
“อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของอาณาเขตแถวนี้ทรงพลังเกินกว่าจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งจะต้านทานไหว” จักรพรรดิเพลิงอัสนีเองก็กลับมากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ตอนนี้อาจจะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่ทรงพลังขนาดนี้ย่อมสามารถเกิดการปะทุของพลังอำนาจได้ตลอดเวลา จากการคาดการณ์ของข้า แม้แต่ตัวตนระดับขอบเขตตำหนักอมตะก็ไม่อาจต้านทานแรงระเบิดที่ว่าได้!”
หลิงฮันตกตะลึง ระดับขอบเขตตำหนักอมตะคือระดับพลังที่ทรงพลังเป็นอันดับสามในดินแดนแห่งเซียน เหนือจากระดับนี้มีเพียงระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้และระดับราชานิรันดร์ หากแม้แต่ตัวตนระดับระดับขอบเขตตำหนักอมตะก็ไม่อาจต้านทานแรงระเบิดของอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ในอาณาเขตนี้ได้ เช่นนั้นต้นตอของอำนาจแห่งกฎเกณฑ์นี้ก็ต้องเป็นระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้เป็นอย่างน้อย
ในขณะเดียวกัน ใบหน้าของผางเฉินได้แปรเปลี่ยนเป็นบูดบึ้ง
เขาคือตัวตนอันสูงส่งที่มาจากดินแดนแห่งเซียนแท้ๆ เหตุใดทุกคนถึงได้ไปให้ความสนใจแต่หลิงฮันกัน แม้กระทั่งสตรีที่เขาชื่นชอบก็ด้วย
ฮึ่ม หากคนเหล่านี้ต้องการเข้าสู่ดินแดนแห่งเซียน คนที่พวกเขาสมควรประจบก็ต้องเป็นข้าคนนี้!
ผางเฉินเริ่มครุ่นคิด เขาจะบอกไปดีหรือไม่ว่าเขาไม่เพียงสามารถเปิดเส้นทางสู่ดินแดนแห่งเซียนได้ แต่ยังเป็นทายาทของขุมอำนาจที่ทรงพลังในดินแดนแห่งเซียนอีกด้วย
เพียงแต่ต่อให้จะเป็นเขาก็ไม่กล้านำพาใครเข้าดินแดนแห่งเซียนไปด้วย ที่ดินแดนแห่งเซียนมีกฎเหล็กอยู่ หากเรื่องที่เขาพาใครเข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนไปโดยไม่ได้รับอนุญาตถูกพบเจอ ตระกูลของเขาจะถูกขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ลบหายไปทันที!
เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขุมอำนาจระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้ได้ส่งรุ่นเยาว์มาหาประสบการณ์ในโลกบรรพกาล รุ่นเยาว์ผู้นั้นพลาดทำสตรีคนหนึ่งตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ เขาใจโหดเหี้ยมทิ้งสตรีเอาไว้และพาเพียงแค่บุตรของตนเองกลับดินแดนแห่งเซียนไปด้วย ซึ่งหลังจากนั้นเป็นอย่างไร?
เรื่องที่ว่าบุตรของเขาเกิดในโลกบรรพกาลถูกแพร่งพราย ผลที่ตามมาคือตระกูลของเขาถูกลบหายไปเพียงชั่วข้ามคืน
ทั้งๆที่เป็นถึงขุมอำนาจระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้!
พวกจอมยุทธล้าหลังเหล่านี้ไม่รู้เสียแล้วว่าการแอบเข้าไปยังดินแดนแห่งเซียนถือเป็นการฝ่าฝืนกฎอย่างร้ายแรง!