แม้ออร่าที่เสี่ยวกู่ปลดปล่อยออกมาจากคลุมเครือเป็นอย่างมากแต่เซียนทั้งสามอย่างพวกสตรีนกอมตะย่อมสามารถสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายคือตัวตนระดับเซียนอย่างแน่นอน!
แต่เซียนคนไหนที่จะบ้าทำท่าทางไร้เดียงสาเช่นนั้น?
หลิงฮันหัวเราะก่อนจะกล่าว “เขามีนิสัยแปลกประหลาดอยู่บ้างเล็กน้อย”
ใช่แล้ว แปลกประหลาดมาก พวกนางไม่เคยพบเห็นเซียนเช่นนี้มาก่อน
“เขา.. มี.. นิ…” เสี่ยวกู่พูดเลียนแบบอีกครั้งด้วยใบหน้าไร้เดียงสา
หลงเซียงเยว่กลั้นหัวเราะไม่ไหว เซียนแต่ละคนมีนิสัยไม่เหมือนกันก็จริงแต่นางก็ไม่เคยพบเจอเซียนคนใดที่มีนิสัยเหมือนกับเสี่ยวกู่มาก่อน นี่เจ้ายังคิดว่าตนเองเป็นเซียนจริงๆรึเปล่า?
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เสี่ยวกู่หัวเราะตาม เสี่ยวกู่ในตอนนี้เปรียบเสมือนฟองน้ำที่พร้อมจะดูดซับทุกอย่างที่พบเจอ
“เอาล่ะ ไปภูเขาลูกอื่นกันดีกว่า”
ในขณะเดินทางหลิงฮันได้เล่าสิ่งที่เขาพบเจอบนยอดเขาให้ทุกคนฟังซึ่งทั้งสี่ต่างแสดงทีตกตะลึงออกมา ในขณะเดียวกัน เสี่ยวกู่เองก็เรียนรู้พูดเลียนแบบคำพูดของทุกคนอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
แต่เมื่อมาถึงวันที่สี่ ในที่สุดเสี่ยวกู่ก็หยุดเลิกพูดเลียนแบบทุกคำพูดและเลือกเลียนแบบเฉพาะบางคำ คำไหนที่เคยได้ยินมาแล้วมันจะไม่พูดซ้ำอีก แต่หากเป็นคำไหนที่ไม่เคยได้ยินมันจะพูดซ้ำไปมาด้วยท่าทางตื่นเต้น
หลิงฮันไม่ได้บอกใครถึงเรื่องที่ว่าแท้จริงแล้วเสี่ยวกู่นั้นเป็นแท่งกระดูก แม้เสี่ยวกู่จะมีพลังในระดับเซียนแต่ในสายตาของเขาอีกฝ่ายไม่ต่างอะไรไปจากเด็กน้อย เขาไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าแท้จริงแล้วเสี่ยวกู่คืออะไรเพราะเกรงว่าท่าทีปฏิบัติของทุกคนจะเปลี่ยนไป
กลุ่มของหลิงฮันเดินผ่านเส้นทางที่คาดว่ามีคนเคยผ่านไปก่อนแล้วพวกเขาจึงไม่พบเจอสมุนไพรใดๆเลยระหว่างทาง แต่ในทางตรงข้าม พวกเขาพบเจอเสื้อผ้าที่ถูกฉีกขาดบางส่วนซึ่งสมควรเป็นของจอมยุทธที่เคยผ่านมาที่นี่ก่อนและถูกสัตว์อสูรโจมตี
หนึ่งเดือนกว่าๆผ่านไป เส้นทางที่พวกเขาเดินสำรวจไม่พบเจอภูเขาอีกต่อไป สภาพแวดล้อมโดยรอบมีเพียงที่ราบว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตที่มีสายน้ำขนาดใหญ่ไหลผ่าน
แม่น้ำมีขนาดใหญ่มากจริงๆ มันกว้างราวๆพันไมล์และไม่รู้ว่ายืดยาวไปไกลขนาดไหน
ในแม่น้ำมีสิ่งมีชีวิตอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นปลายักษ์ที่มีเขายาว จระเข้ที่มีหกขาและมีปีกเหมือนนก เต่าที่เมื่อลอยขึ้นเหนือผิวน้ำแล้วมีขนาดใหญ่ราวกับภูเขาลูกย่อมๆ
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ทรงพลังเป็นอย่างมากแต่ไม่มีตัวใดเลยที่ออกมาจากแม่น้ำเพื่อโจมตีพวกเขา พวกมันแต่ละตัวใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข
กลุ่มหลิงฮันหกคนไม่ลงไปในแม่น้ำเพื่อท้าทายสัตว์อสูรที่ทรงพลังเหล่านี้ แม้น้ำสายนี้แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก น้ำในแม่น้ำมีอักขระอาคมไหลผ่านไปมา เกรงว่าหากลงไปร่างกายพวกเขาอาจจะได้รับบาดเจ็บ
พวกเขาเดินเลียบแม่น้ำขึ้นไป ทุกคนมีความคิดเดียวกันคืออยากรู้สึกสุดปลายสายแม่น้ำมีอะไรอยู่กันแน่ บางทีพวกจักรพรรดินีก็อาจจะอยู่ที่สุดสายแม่น้ำแห่งนี้
สิบวันต่อมา สภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไป จากที่ราบอันว่างเปล่าเริ่มมีพืชนานาชนิดปรากฏให้เห็น เหล่าสัตว์อสูรเองก็ปรากฏตัวออกมาเช่นกัน พวกมันมีทั้งตัวที่อ่อนแอและทรงพลัง แต่ไม่ว่าพวกมันจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ สิ่งที่พวกมันเหมือนกันคือไร้สติปัญญาและมีเพียงสัญชาตญาณอันโหดเหี้ยมของสัตว์ป่า
สมุนไพรเริ่มมีให้พบเห็นมากขึ้นเพียงแต่ระดับของพวกมันก็ไม่ได้สูงเท่าไหร่ ไม่มีต้นใดเลยที่เป็นสมุนไพรเซียน
เสี่ยวกู่ไม่เคยพบเห็นสัตว์อสูรมาก่อน เมื่อเห็นสัตว์อสูรตัวใดตัวหนึ่งเขาจะรีบวิ่งเขาไปกอดรัดทันที บางครั้งที่เขาอุ้มกระทิงหรือสัตว์อสูรที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเองหลายสิบเท่านั้น เกิดเป็นภาพที่ดูแล้วตลกเป็นอย่างมาก
สามวันต่อมา ที่ด้านหน้าพวกเขาได้มีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่สภาพแวดล้อมอบอวลไปด้วยความมืดมิดปรากฏให้เห็น แม้ระยะของพื้นที่มืดมิดนั่นจะยังอยู่อีกห่างไกล แต่แค่กลิ่นที่ลอยมาก็ส่งผลให้คนที่สูดดมเข้าไปรู้สึกมึนงง
บริเวณกึ่งกลางของพื้นที่มืดมิดนั้นมีก้อนอะไรบางที่เน่าเปื่อยวางอยู่ หากไม่มองให้ดีก็คงไม่สังเกตุเห็น ก้อนเน่าเปื่อยที่วางอยู่นั้นเป็นต้นเหตุให้เกิดกลิ่นเหม็นอันรุนแรง
“นั่นมัน… เห็ดซากศพ” หลังจากจ้องมองอยู่สักพักจู่ๆหลิงฮันก็อุทานออกมา
สิ่งที่ดูเหมือนเนื้อเน่าเปื่อยนั่นแท้จริงแล้วคือสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำที่เรียกว่าเห็ดซากศพ มีคำกล่าวว่าเห็ดชนิดนี้จะเกิดขึ้นมาจากศพที่ตายแล้วของราชาเซียน
เห็ดที่เกิดขึ้นจากซากศพของราชาเซียนนั้น พิษของมันรุนแรงเกินพรรณนา ต่อให้เป็นราชาเซียนหากกินเข้าไปตรงๆก็มีโอกาสสูงมากที่จะตกตาย
เพียงแต่ว่าตราบใดที่พิษของเห็ดซากศพถูกชำระล้างออกไป มันจะกลายเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำที่ล้ำค่าอันดับต้นๆทันที
สมุนไพรตั้งแต่ระดับสิบเจ็ดถึงยี่สิบจะถูกเรียกได้ว่าเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำ โดยที่สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำที่หลิงฮันเคยมีก็ล้วนแต่เป็นสมุนไพรระดับสิบเจ็ด เพียงแต่เห็ดซากศพที่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นสมุนไพรที่แม้แต่ราชาเซียนก็ยังได้รับผลประโยชน์มหาศาล ภายในสมุนไพรอัดแน่นไปด้วยเจตนงยุทธตลอดอายุขัยของราชาเซียน เพียงแต่ว่าจะเก็บเกี่ยวและใช้ประโยชน์จากเห็ดซากศพได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
มันคือสมุนไพรที่แฝงไว้ด้วยพิษอันรุนแรง!
ด้วยพิษของมัน เกรงว่าหากเข้าไปใกล้ต่อให้เป็นราชาเซียนก็ต้องถูกพิษซึมเข้าสู่ร่างกายและไม่อาจขจัดออกได้ง่ายๆ
ว่าแต่ไหนล่ะซากศพที่ตายแล้วของราชาเซียน?
เห็ดซากศพจะงอกขึ้นมาโดยตรงจากซากศพของราชาเซียนและดูดกลืนแก่นพลังเพื่อเจริญเติบโต เพราะงั้นแล้วหากมีเห็ดซากศพก็ต้องมีศพของราชาเซียนถูกทิ้งเอาไว้ใกล้ๆด้วย
พวกหลิงฮันทั้งห้าคนจ้องมองกันด้วยความมึนงงในขณะที่เสี่ยวกู่นั้นไม่สนใจอะไร มันสนใจแต่เพียงสิ่งแปลกใหม่เท่านั้น ส่วนซากศพน่ะรึ? มันเห็นเคยมานานแล้วไม่รู้กี่แสน กี่ล้านปี
“จะเก็บเกี่ยวสมุนไพรนั่นได้อย่างไร?” พวกเขาเลิกคิดว่าเห็ดซากศพเจริญเติบโตขึ้นมาได้อย่างไรโดยไม่มีซากศพข้างๆ ต่อให้มันจะตกลงมาจากฟ้าหรืออะไรก็ช่าง สิ่งสำคัญคือจะเก็บมันมาได้อย่างไร
เซียนหวู่เซียงยกหนึ่งมือขึ้นมา เขาควบแน่นปราณก่อเกิดเป็นมือขนาดใหญ่และเอื้อมเข้าไปยังเห็ดซากศพ เพียงแต่ว่ามือขนาดใหญ่ก็ได้ถูกอากาศอันมืดมิดโดยรอบกัดกร่อนและสลายตัวไปก่อนจะถึงเห็ดซากศพ
เขายกมือขวาขึ้นมาดู เขาพบว่าบริเวณฝ่ามือกลายเป็นสีดำสนิท ภายในฝ่ามือสีดำมีอักขระบางอย่างส่องสว่างออกมาพร้อมกับปลดปล่อยออร่าอันดำทมิฬ ออร่าสีดำค่อยๆแพร่จะจายออกเป็นวงกว้างลามไปยังข้อมือ
เซียนหวู่เซียงพยายามใช้พลังของตนเองเพื่อสลายออร่าสีดำแต่ก็ทำไม่ได้ เขาตัดสินใจเด็ดขาดโดยการใช้มืออีกมือหนึ่งตัดแขนขวาตั้งแต่ช่วงข้อศอกลงมาทิ้ง
‘ฉัวะ’ โลหิตสาดกระจายพร้อมกับมือขวาที่หลุดร่วง แต่ยังไม่ทันที่มือจะได้ร่วงถึงพื้นมันก็สลายกลายเป็นเศษขี้เถ้าเสียก่อน
พิษของเห็ดซากศพนั้นรุนแรงจนเห็นผลทันตา!