จักรพรรดิเรียกร่างแยกทั้งเก้าออกมาเพื่อเผชิญหน้ากับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์
ตอนนี้ไม่มีใครอยู่รอบข้าง นางจึงปลดปล่อยพลังแท้จริงทั้งหมดออกมาตั้งแต่คราแรก ต่อให้จะเป็นทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ระดับราชาเซียนนางก็สามารถต้านทานเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น
หลิงฮันไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนจักรพรรดินีเนื่องจากเขาจำเป็นต้องขัดเกลากายหยาบไปพร้อมๆกัน ด้วยความต่างของพลังถึงสองขั้นทำให้เขาไม่กล้าสลายพลังป้องกันเหมือนคราวที่แล้วและเลือกที่จะดูดซับและชี้นำอำนาจสายฟ้าให้ไหลเข้ามาในร่างทีละน้อยแทน
ครั้งนี้หลิงฮันไม่กล้าขึ้นไปยังส่วนลึกของเมฆสายฟ้าเพื่อเอาหยดสายฟ้าสวรรค์ แม้พลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้จะเทียบได้กับราชาเซียนขั้นต้น แต่หากจะขึ้นไปยังส่วนลึกสุดของเมฆสายฟ้า ไม่เพียงแค่ต้องการมีต่อสู้ระดับราชาเซียนแต่ยังต้องต้านการโจมตีระดับราชาเซียนจำนวนมากจากทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ได้ด้วย ซึ่งกายหยาบของเขาในตอนนี้ยังไม่แข็งแกร่งพอ
หลังจากทัณสายฟ้าสวรรค์จบลง หลิงฮันกับจักรพรรดินีก็หันมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้ทั้งสองมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลังทุกคนบนโลกบรรพกาลแล้ว ด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ทั้งสองที่ผ่านกันอย่างสมบูรณ์ทำให้พวกเขาสามารถปลดปล่อยพลังต่อสู้ที่แท้จริงได้ไม่ว่าจะเป็นในดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรือในดินแดนใต้พิภพ
“จะไปจัดการพวกนั้นให้จบๆเลยไหม?” จักรพรรดินีถาม
หลิงฮันครุ่นคิดก่อนจะกล่าว “ไม่ พวกเราลองผสานดินแดนทั้งสองก่อนดีกว่า หากโลกบรรพกาลถูกรวมกลับเป็นหนึ่งด้วยมือของพวกเราได้จริงๆ วาสนาที่ได้รับคงล้ำค่าเกินพรรณนา”
ในตอนที่เขาเปิดสวรรค์ สวรรค์และปฐพีได้มอบวาสนาให้เขาคือพลังต่อสู้พิเศษสามดาวในระดับทลายมิติ แต่โลกใบเล็กนั้นมีอยู่มากมายอัจฉริยะหลายคนสามารถเปิดสวรรค์ได้ แต่โลกบรรพกาลล่ะ?
มันคือวาสนาที่มีเพียงหนึ่งเดียว!
จักรพรรดินีพยักหน้า นางกับหลิงฮันคือคนที่มีความทะเยอทะยานต้องการบรรลุเป็นราชานิรันดร์ แน่นอนว่าในระดับพลังเดียวกันยิ่งมีพลังต่อสู้แข็งแกร่งก็ยิ่งดี
ทั้งสองกลับเข้าหอคอยทมิฬ จักรพรรดินีทำการขัดเกลารากฐานพลังให้มั่นคง ส่วนหลิงฮันได้คิดจะทำให้พลังต่อสู้ของตนเองยกระดับสูงขึ้นไปอีก
ความเข้าใจในศาสตร์รูปแบบอาคมของหลิงฮันมีเพียงพอแล้ว เขาเคยแก้รูปแบบอาคมมานับพันทำให้พื้นฐานของเขามั่นคง และเมื่อได้แลกเปลี่ยนความรู้กับเซียงหมิงซินบ่อยๆ ความเข้าใจในศาสตร์รูปแบบอาคมของเขาในตอนนี้จึงไม่ได้ด้อยไปกว่าเซียงหมิงซิน
เขาตั้งสมาธิศึกษารูปแบบอาคมเซียนใต้ต้นสังสารวัฏ สามปีในโลกภายนอกผ่านไปอย่างรวดเร็วในขณะที่ใต้ต้นสังสารวัฏผ่านไปถึงหนึ่งแสนปี!
หลิงฮันลืมตาตื่น ความเชี่ยวชาญในศาสตร์รูปแบบอาคมของเขาในตอนนี้ก้าวเข้าสู่ระดับเซียนอย่างสมบูรณ์แล้ว!
เพียงแต่ว่าเซียนหมิงซินนั้นเป็นเพียงเซียนระดับต้น ประสบการณ์ที่หลิงฮันเรียนรู้มาจากอีกฝ่ายจึงเป็นแค่ของรูปแบบอาคมเซียนระดับต้น
สำหรับหลิงฮันในตอนนี้ รูปแบบอาคมเซียนระดับต้นจะยังมีประโยชน์อยู่?
แน่นอนว่าไม่!
เพียงแต่ว่าตัวเขานั้นครอบครองรูปแบบอาคมนิรันดร์อยู่
แต่ด้วยกายหยาบของเขาในตอนนี้คงไม่สามารถทนต่ออำนาจของรูปแบบอามมนิรันดร์ได้ หรือต่อให้ทนได้เขาก็ไม่สามารถกระตุ้นใช้งานมันได้อยู่ดี
เพียงแต่ว่าในแสนปีที่เข้าใช้เวลาศึกษาใต้ต้นสังสารวัฏ เขาได้ใช้รูปแบบอาคมนิรันดร์เป็นต้นแบบและแยกย่อยบางส่วนของรูปบบอาคมออกมา แม้อำนาจของรูปแบบอาคมที่ได้จะลดลงแต่มันก็ยังทรงพลังเทียบได้กับอำนาจของเซียนระดับสูงขั้นสูงสุด!
หลิงฮันควบแน่นเพลิงเก้าสวรรค์เป็นใบมีดและสลักอักขระของรูปแบบอาคมลงบนกระดูก
หากเขาไม่พึ่งพารูปแบบอาคม พลังต่อสู้ของเขาจะสามารถทัดเทียมได้กับราชาเซียนขั้นต้น แต่หากใช้งานรูปแบบอาคมในร่าง ต่อให้ศัตรูเป็นราชาเซียนสูงสุดเขาก็ไม่หวั่นเกรง
หลิงฮันเผยรอยยิ้ม การเก็บตัวบ่มเพาะพลังสี่ปีที่ผ่านมาช่างคุ้มค่าอย่างยิ่ง!
หลังจากบรรลุระดับเซียนแล้ว ในโลกบรรพกาลก็ไม่มีเม็ดยาที่จะช่วยให้เขาบ่มเพาะพลังได้อย่างรวดเร็วอีกต่อไป หากไม่ใช่เพราะการทะลวงผ่านระดับสร้างสรรพสิ่งด้วยพลังบ่มเพาะระดับวารีนิรันดร์ขั้นสมบูรณ์สูงสุดจะช่วยให้บรรลุเป็นเซียนระดับต้นสูงสุดได้ง่ายดายกว่าปกติล่ะก็ เกรงว่าพลังบ่มเพาะของเขาในตอนนี้ก็คงยังค้างคาอยู่ที่เซียนระดับต้นขั้นต้น
ยกตัวอย่างเช่นสตรีนกอมตะ ตอนนี้นางก็ยังขะมักเขม้นบ่มเพาะพลังอยู่ในระดับพลังของเซียนระดับต้นโดยไม่สามารถยกระดับพลังได้อย่างรวดเร็วเหมือนเคย
หากจะพูดถึงว่ามีอะไรที่ทำให้พลังบ่มเพาะของเซียนยกระดับอย่างรวดเร็วได้คงจะมีเพียงสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำ แต่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติเช่นนี้จะพบเจอง่ายๆได้อย่างไร?
หลิงฮันตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เขาอยากบ่มเพาะพลังให้บรรลุระดับราชาเซียนในโลกบรรพกาลเพื่อที่เขาจะได้เข้าไปในเมฆสายฟ้าและเก็บเกี่ยวหยดสายฟ้าสวรรค์ แต่อีกใจหนึ่งเขาก็อยากเข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนให้เร็วที่สุด เขามั่นใจว่าที่นั่นต้องมีสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำอยู่มากมายแน่นอน
“อืม…”
หลิงฮันครุ่นคิดอยู่นานสองนานก่อนจะตัดสินใจได้ “เอาไว้เมื่อข้ารับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ตอนทะลวงผ่านเป็นเซียนระดับสูงข้าค่อยลองขึ้นไปยังส่วนลึกของเมฆสายฟ้าดู ข้าเชื่อว่าเมื่อถึงตอนนั้นด้วยพลังของข้าย่อมมีความหวังที่จะทำสำเร็จ”
“เอาล่ะ ไหนลองดูหน่อยว่าหยดสายฟ้าสวรรค์จะมอบผลประโยชน์อะไรให้ข้า”
หลิงฮันลองจิบหยดสายฟ้าสวรรค์เล็กน้อย ทันใดนั้นเองคลื่นสายฟ้าก็ไหลผ่านเข้าไปทั่วร่างของเขาอย่างบ้าคลั่ง กระดูกในร่างเริ่มต้านทานอำนาจสายฟ้าไม่ไหวและเริ่มสึกกร่อน
รุนแรงอะไรอย่างนี้ ต้องรู้ก่อนว่าตัวเขาในตอนนี้คือเซียนระดับกลาง กระดูกภายในร่างมีวความทนทานเทียบได้กับแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับยี่สิบ ไม่น่าเชื่อว่าอำนาจสายฟ้าจะทำให้กระดูกของเขาเริ่มสึกกร่อนได้
“นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าหากข้ายังคิดจะไปส่วนลึกของเมฆสายฟ้าด้วยระดับพลังเท่านี้ คงไม่ต่างจากการรนหาที่ตาย” หลิงฮันพึมพำกับตัวเอง “ที่หอคอน้อยบอกว่าห้ามให้คนอื่นใช้หยดสายฟ้าสวรรค์นั้นมีเหตุผล ในระดับพลังที่ต่ำกว่าระดับนิรันดร์คงมีแค่ข้าคนเดียวที่ต้านทานอำนาจของมันได้”
แม้แต่จักรพรรดินีก็ไม่ไหว!
แม้นางจะสามารถแบ่งความเสียหายที่นางได้รับให้กับร่างแยก แต่หากดื่มหยดสายฟ้าสวรรค์เข้าไปโดยตรง ร่างแยกก็ช่วยอะไรไม่ได้
หลิงฮันกัดฟันและโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์เต็มพลัง
กระดูกภายในร่างเริ่มฟื้นสภาพอย่างช้าๆจนในที่สุดอำนาจอันรุนแรงของสายฟ้าก็ไม่สามารถคุกคามเขาได้
เพียงแต่สภาพเช่นนี้คงอยู่ได้ไม่นาน
หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูปหลิงฮันก็ต้องร้องเสียงโอดครวญ กระดูกที่ฟื้นฟูสภาพกลับมาเริ่มสึกกร่อนอีกครั้ง ผิวหนังของเขาปริแตกและมีโลหิตไหลออกมาไม่หยุด
บ้าไปแล้ว เพียงแค่ลองจิบเล็กน้อยเหตุใดอำนาจของมันถึงได้ทรงพลังขนาดนี้?
หอคอยน้อยบัดซบนั่น ทำไมถึงไม่บอกเรื่องนี้กับข้าก่อน?
“เจ้าหอคอยปากเสีย ในอนาคตหากข้าไม่โยนเจ้าลงหลุมข้าจะขอเปลี่ยนแซ่เป็นของเจ้า!” หลิงฮันคำราม