กลางห้วงอวกาศ ร่างของหลิงฮันยืนกระหง่านท้าทายสวรรค์โดยที่แขนข้างหนึ่งกอดรัดมังกรทองแดงเอาไว้ราวกับตัวเขาเป็นเทพสงครามสังหารมังกร ภาพของหลิงฮันที่ทุกคนเห็น ณ ตอนนี้ทรงพลังจนพวกเขาลืมหายใจ
เหล่าสรีของตระกูลหลงแววตาส่องประกายด้วยความหลงไหล
หลิงฮันมองไปยังฉงปาตู้และกล่าว “ยังมีกระบวนท่าอื่นอีกไหม?” เสียงของเขาเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยจิตสังหาร
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องปะทะกับดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆาอยู่แล้ว เขาจึงจะทำการลงมือสังหารฉงปาตู้ผู้นี้เพื่อเป็นการจุดชนวนความบาดหมาง เพราะตั้งแต่แรกเริ่มเขาก็ไม่ชอบขี้หน้าหมอนี่อยู่แล้ว
ฉงปาตู้เริ่มหวั่นไหว มังกรห้วงการเวลาคือไพ่ลับที่ทรงพลังมากของเขาแต่กลับไม่สามารถทำให้หลิงฮันบาดเจ็บได้เลยแม้แต่น้อย
หรือเขาจะพ่ายแพ้จริงๆ?
เขารีบส่ายหัวทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัว ไม่มีทาง เขาไม่อาจยอมให้เป็นเช่นนั้น!
เขาคือตัวตนระดับเซียนอันเกรียงไกรของดินแดนต้องห้าม ไม่มีทางที่เขาจะแพ้ให้กับจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์!
“ดาบนิรันดร์เก้าชีพจร!” ฉงปาตูเค้นเสียงกล่าวเบาๆ ทันใดนั้นเส้นชีพจรทั้งเก้าเส้นในร่างของเขาก็ปลดปล่อยแสงนิรันดร์อันเลือนราง เขานำอุปกรณ์เซียนออกมาและกระตุ้นพลังของมันทันที รูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์ส่องประกายเจิดจ้าพร้อมกับอำนาจเซียนที่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างไร้ขีดจำกัด
ความน่าสะพรึงกลัวยังไม่จบเพียงเท่านี้ แสงนิรันดร์ในร่างของเขาค่อยๆควบแน่นมารวมกันที่ปลายดาบของอุปกรณ์เซียน
อย่าพูดถึงหลิงฮันที่ตอนนี้ยังเป็นเพียงจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ที่อ่อนแอ ต่อให้เป็นเซียนระดับต้นหรือเซียนระดับกลางก็ไม่กล้าที่จะรับมือกับอำนาจของอุปกรณ์ดาบเซียนของฉงปาตู้ในตอนนี้ หากถูกปราณนิรันดร์บนใบดาบทะลวงเข้าใส่ร่างเกรงว่าดวงวิญญาณของเป้าหมายคงจะแหลกสลายในพริบตา
ปราณนิรันดร์ของฉงปาตู้มีต้นกำเนิดมาจากทักษะบ่มเพาะราชานิรันดร์!
น่าเสียดายที่ทักษะราชานิรันดร์ที่ราชาไค่หยุนได้รับมานั้นไม่ใช่ทักษะที่สมบูรณ์ ในตอนที่ราชาไค่หยุนคิดจะบุกเข้าไปยังห้องสมบัติเพื่อแย่งชิงทักษะก็ถูกราชันวารีสวรรค์ขัดขวางเสียก่อน
แต่ถึงแม้มันจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวทักษะก็ยังล้ำค่าเป็นอย่างมาก ขนาดบ่มเพาะแค่เศษเสี้ยวของทักษะก็ยังสามารถควบแน่นปราณนิรันดร์ขึ้นมาได้ทั้งๆที่มีพลังบ่มเพาะเพียงระดับสร้างสรรพสิ่งซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังต่อสู้ให้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด
‘ด้วยพลังขนาดนี้เขาจะยังกำจัดจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ตั้วจ้อยไม่ได้อีกรึ?’ ฉงปาตู้คิด
หลิงฮันมองไปที่ฉงปาตู้และมีท่าทางชะงักเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ว่าดาบที่เป็นอุปกรณ์เซียนของอีกฝ่ายมีออร่าคล้ายคลึงกับดาบอสูรนิรันดร์
เป็นพลังระดับนิรันดร์!
เพียงแต่เมื่อเทียบกับดาบอสูรนิรันดร์แล้ว ปราณนิรันดร์บนอุปกรณ์เซียนของฉงปาตู้ยังถือว่าเบาบางเกินไปจนแทบจะเหมือนไม่มีอยู่
หลิงฮันไม่กล้าประมาท ไม่ว่าปราณนิรันดร์ของอีกฝ่ายจะเบาบางแค่ไหนแต่ขึ้นชื่อว่า ‘อำนาจนิรันดร์’ ก็เพียงพอแล้วที่จะคุกคามทุกชีวิตของโลกบรรพกาล
“ตาย!” ฉงปาตู้กวัดแกว่งดาบพุ่งเข้ามา
‘ครืน! ครืน! ครืน!’
ในขณะที่อุปกรณ์เซียนของฉงปาตู้ถูกกวัดแกว่ง ดวงดาวมากมายและห้วงอวกาศก็สั่นสะเทือน โดยเฉพาะอำนาจของปลายดาบที่ถูกควบแน่นไว้ด้วยเศษเสี้ยวปราณนิรันดร์ มันปลดปล่อยคลื่นพลังอันรุนแรงจนส่งผลให้ชั้นมิติของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ฉีกขาดและมีหลุมดำปรากฏออกมา
หลิงฮันสะบัดมือนำดาบอสูรนิรันดร์ออกมา
หากปะทะกันด้วยอุปกรณ์ ฝ่ายไหนกันแน่ที่จะต้องหวาดกลัว?
‘ตูม ตูม ตูม ตูม!’ ดาบอสูรนิรันดร์และอุปกรณ์ดาบเซียนเข้าปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ดาบทั้งสองเล่มเป็นอุปกรณ์ระดับสิบเจ็ดเหมือนกันทั้งคู่ เพียงแต่ว่าดาบอสูรนิรันดร์นั้นมีแก่นแท้คืออุปกรณ์นิรันดร์ ต่อให้ตอนนี้พลังของมันจะยังไม่ตื่นอย่างแท้จริง แต่เมื่อเทียบกับปราณนิรันดร์เพียงเศษเสี้ยวแล้วอำนาจของดาบอสูรนิรันดร์ทรงพลังกว่าไม่รู้กี่เท่า
ยิ่งดาบทั้งสองกระหน่ำสะบั้นเข้าใส่กัน ปราณนิรันดร์บนอุปกรณ์ดาบเซียนก็เริ่มสั่นไหวราวกับจะสลายหายไป
“อะไรกัน!”
ฉงปาตู้วิตกอย่างแท้จริง ดาบนิรันดร์เก้าชีพจรคือทักษะที่ทรงพลังที่สุดของเขา ในอดีตกาลแม้แต่ราชานิรันดร์ก็ยังถูกสังหารด้วยทักษะนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่มันจะถูกจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ทำให้เกือบจะสลายหายไป?
“ข้าขอสังหารเจ้าก่อนแล้วจะส่งราชาไค่หยุนตามไปภายหลัง!” หลิงฮันกวัดแกว่งดาบอสูรนิรันดร์ในมือขวาพร้อมกับปลดปล่อยเพลิงเก้าสวรรค์ในมือซ้าย
“จะ เจ้าเป็นใครกันแน่?” ฉงปาตู้เอ่ยถามด้วยเสียงเบา
จากคำพูดของหลิงฮัน ดูเหมือนเขาจะมีความบาดหมางส่วนตัวกับดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆา
“ไม่จำเป็นต้องรู้ ถึงเวลาที่เจ้าจะร่วงหล่นสู่ขุมนรกแล้ว!” หลิงฮันระเบิดพลังอำนาจทั้งหมดรูปแบบอาคมสังหาร พลังต่อสู้ของเขาพุ่งทะยานก้าวกระโดด เมื่อเสริมด้วยอำนาจของดาบอสูรนิรันดร์และเพลิงเก้าสวรรค์ เขาแทบจะไร้เทียมทานในช่วงพลังของเซียนระดับต้น
“บัดซบ!” ฉงปาตู้กวัดแกว่งดาบตอบโต้ ทุกครั้งที่การโจมตีของเขาปะทะกับการโจมตีของหลิงฮัน ร่างของเขาจะถูกบังคับให้ล่าถอยสิบก้าว กล่าวคือเขาถูกหลิงฮันกำราบโดยสมบูรณ์
หลิงฮันสร้างกรงเพลิงกักขังฉงปาตู้ด้วยเพลิงเก้าสวรรค์และเข้าปะทะกับอีกฝ่ายด้วยพลังทั้งหมด
ฉงปาตู้กระอักโลหิตหลายครั้ง เขารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมากที่ตนเองไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของหลิงฮันได้
เขาแทบจะเป็นบ้า เซียนระดับต้นพ่ายแพ้ต่อจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์จากการปะทะซึ่งๆหน้าได้อย่างไร!
ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นระดับวารีนิรันดร์ขั้นสมบูรณ์เรื่องนี้ก็ดูไร้เหตุผลสิ้นดี!
“ข้าจะส่งเจ้าลงนรกในสามดาบ!” หลิงฮันกล่าวเย็นชา
“เพ้อฝัน!” ฉงปาตู้ทำการเผาผลาญพลังชีวิตและดิ้นรนอย่างถึงที่สุด
เพียงแต่ว่าต่อหน้าหลิงฮัน มีรึที่ความพยายามของเขาจะสัมฤทธิ์ผล?
ภายใต้กรงเพลิงเก้าสวรรค์แม้แต่จะหลบหนีฉงปาตู้ก็ไม่อาจทำได้!
“ช่วยแสดงความเมตตาด้วย!” เสียงอันสุภาพและหนักหน่วงดังก้องไปทั่วทั้งห้วงอวกาศ
อำนาจมังกรที่ส่งผ่านเสียงพูดโหมกระหน่ำรุนแรงราวกับคลื่นยักษ์
“คารวะท่านประมุข!” สมาชิกตระกูลหลงทุกคนคุกเข่าข้างเดียว
เจ้าของเสียงที่กล่าวแทรกกระทันเมื่อครู่คือประมุขตระกูลหลง… เซียนระดับกลาง!
จิตใจของฉงปาตู้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา ด้วยการแทรกแซงของประมุขตระกูลหลงมีรึที่หลิงฮันจะกล้าสังหารเขา?
หลิงฮันไม่แยแส ในเมื่อเขาตัดสินจะสังหารแล้ว ไม่ว่าใครก็เกลี้ยกล่อมเขาไม่ได้
ตาย!
ร่างของฉงปาตู้ที่เพิ่งโล่งอกไปเมื่อครู่กลายเป็นสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวทันที
เซียนระดับกลางเปิดปากร้องขอด้วยตัวเองแล้ว ทำไมเจ้ายังไม่หยุดมืออีก?
ฉงปาตู้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำการตอบโต้ต่อไป ภายใต้คลื่นกระแทกอันทรงพลังจากการโจมตีของหลิงฮันได้ทำให้เขากระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง
“ข้าบอกให้หยุด!” เสียงคำรามดังก้องอีกครั้ง คราวนี้อำนาจมังกรก่อตัวกลายเป็นร่างมังกรแท้จริงสีชาดและพุ่งเข้าใส่หลิงฮัน
หลิงฮันยังคงไม่แยแสและสะบั้นดาบเข้าใส่ฉงปาตู้อย่างโหดเหี้ยม
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะสังหารชายตรงหน้าให้ได้!
‘ตูม’ ร่างมังกรแท้จริงสีชาดกระแทกเข้ากับกรงเพลิง ภายใต้แรงกระแทกอันรุนแรง กรงเพลิงถูกทำให้สลายตัวอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยอำนาจอันทรงพลังของเพลิงเก้าสวรรค์ ร่างของมังกรแท้จริงสีชาดก็ถูกเผาเป็นเถ้าธุลีเช่นกัน
ฉงปาตู้ฉวยโอกาสนี้เผ่นหนี
“ดาบที่สาม!” เสียงคำรามอันเย็นชาของหลิงฮันสะท้อนดังมาจากด้านหลังฉงปาตู้