“ว่าไงนะ ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะทำเรื่องสกปรกเช่นนั้น!” หลิงฮันรีบทำท่าทางเกรี้ยวกราดใส่โก้วลี่และตะโกนเสียงดัง “ข้ามอบสุราให้เจ้าด้วยความสัตย์จริงแต่เจ้ากลับชวนข้ามากินของที่ขโมยมา!”
เขายกเนื้อย่างในมือขึ้นและกำลังจะขว้างลงพื้น แต่เมื่อคิดดูดีๆแล้ว… ‘งับ’ หลิงฮันกัดเนื้อในมือเต็มคำจนริมฝีปากเต็มไปด้วยน้ำมันจากเนื้อและกล่าว “ข้าดูแคลนคนเช่นเจ้าที่สุด!”
เขามองไปยังสตรีผู้นั้นอีกครั้ง “แม่นาง ข้าจะช่วยเจ้าจัดการหมอนี่เอง!”
สตรีผู้นั้นชะงักแน่นิ่งตามสถานการณ์ไม่ทันก่อนจะมองไปยังโก้วลี่ที่ยังกินเนื้อย่างไม่หยุด ความเกรี้ยวกราดผุดขึ้นในใจของนาง นางสะบัดดาบพร้อมกับกล่าว “เจ้ายังกล้ากินไก่หยดของข้าอยู่อีก!”
สตรีผู้นั้นสะบัดดาบออกไป เบื้องหลังของนางปรากฏวิถีดาราจักรที่มีดวงดาวอยู่อย่างน้อยหลักร้อยเดียว
ระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลาง!
หลิงฮันตกตะลึง ดูเหมือนระดับวรยุทธของดาวดวงนี้จะสูงพอสมควร จอมยุทธสองคนแรกที่เขาพบเจอก็เป็นตัวตนระดับวารีนิรันดร์เสียแล้ว
“แม่นาง ท่านโกรธแค้นผิดคนแล้ว ข้าไม่เกี่ยวข้องอันใดกับเรื่องนี้! ข้าแค่ปรากฏตัวผิดที่ผิดเวลาเท่านั้น” โก้วลี่หลบการโจมตีไปมาโดยไม่ตอบโต้
หลิงฮันกลายเป็นไร้คำพูด เทียบกับระดับพลังบ่มเพาะแล้วโก้วลี่ผู้นี้ช่างไร้ยางอายนัก เขากล้าโกหกออกมาหน้าด้านๆอย่างไม่อับอาย
“พวกเจ้าจงยอมรับสารภาพแต่โดยดี!” สตรีผู้นั้นสูดหายใจลึกและกระหน่ำสะบั้นดาบไม่ยั้งมาทางเขากับโก้วลี่ “ไม่เช่นนั้นข้าจะสังหารพวกเจ้าทั้งคู่!”
นางไม่ได้พูดขู่ รูปแบบอาคมอสูรบนตัวดาบของนางปลดปล่อยอำนาจออกมาอย่างไม่หยุดยั้งส่งผลให้พลังต่อสู้ของนางเพิ่มขึ้นอีกระดับ
หลิงฮันหลบหลีกอย่างลำบากเล็กน้อย
พลังของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าอีกฝ่าย เพียงแต่ในด้านของอำนาจแห่งกฎเกณฑ์นั้นเขาเสียเปรียบอยู่พอสมควร ความเข้าใจในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของเขาคือระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นชั้นกลางเท่านั้น เพราะงั้นพลังของเขาในตอนนี้จึงอยู่เพียงระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลางทั่วไปที่มีพลังต่อสู้ไม่เกินหนึ่งดาว
แน่นอนว่านี่ยังไม่นับรวมเพลิงเก้าสวรรค์ รูปแบบอาคมเก้าผสานพินาศและกายหยาบของเขาที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับอำนาจแห่งกฎเกณฑ์
โก้วลี่มองมาหาเขาที่กำลังหลบการโจมตีอย่างลำบากและกล่าวคำพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วง “น้องชาย หากเจ้ายังไม่อยากถูกแม่นางสังหารทำไมไม่ยอมรับไปเสียล่ะว่าเจ้าเป็นคนขโมยไก่ หากเจ้ายอมรับแต่โดยดีแม่นางจะต้องยกโทษให้เจ้าแน่”
สตรีผู้นั้นเดือดดาลเป็นอย่างมาก ตระกูลของนางมีไก่หยกเพียงแค่ห้าตัวเท่านั้นซึ่งทุกๆตัวล้วนแต่ได้รับความดูแลจากนางเป็นอย่างดี แม้แต่ตัวนางเองก็ไม่กล้ากินพวกมา ดังนั้นเมื่อไก่ถูกหัวขโมยสองคนนี้แย่งชิงไปกินมีรึที่นางจะไม่โกรธและอยากสังหารทั้งสอง
“หัวขโมยคือเจ้าต่างหาก ข้าเพียงแค่ผ่านมาติดร่างแห” หลิงฮันถอนหายใจ
โก้วลี่ทำสีน่าตกตะลึง “น้องชาย เจ้าจะพูดไร้สาระแบบนี้ไม่ได้ เจ้าเป็นคนขโมยไก่เองแท้ๆทำไมถึงกล่าวโทษข้า? ข้าไปมีความบาดหมางอะไรกับเจ้าถึงได้ทำกับข้าเช่นนี้?”
“ข้ามีความบาดหมางอะไรกันเจ้าน่ะรึ?” หลิงฮันส่ายหัวและยิ้ม ตัวเขาในตอนนี้กำลังถูกเซียนไล่ล่า กับแค่บาดหมางกับจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์เขาย่อมไม่แยแส
“มอบชีวิตพวกเจ้ามา!” สตรีผู้นั้นที่เห็นทั้งสองกำลังทะเลาะได้คำรามอย่างเกรี้ยวกราด ร่างของนางปลดปล่อยคลื่นพลังที่หนาวเย็นสุดขั้วออกมาราวกับจะทำให้ทั้งสวรรค์และปฐพีกลายเป็นน้ำแข็ง
“สุภาพบุรุษไม่ตอบโต้สตรี น้องชาย เจ้าสู้กับนางไปแล้วกัน พี่ชายคนนี้ขอตัวก่อน!” กล่าวจบโก้วลี่ก็หันหลังเผ่นหนีทันที
แต่เขาวิ่งไปได้ไม่กี่เขาก็ต้องหันกลับมามอง “น้องชาย เจ้าจะวิ่งตามข้ามาทำไม?”
“ไม่ได้มีเหตุผลอะไร ข้าแค่อยากวิ่งเป็นเพื่อนเจ้าเฉยๆ” หลิงฮันวิ่งตามหลังโก้วลี่ติดๆ
“แต่พี่ชายไม่อยากวิ่งกับเจ้า!” โก้วลี่กระทืบเท้า
“จะอย่างไรก็ช่าง ถ้าหากไม่อยากถูกจับได้ก็รีบวิ่งซะ!” หลิงฮันยิ้มและเร่งความเร็วจนวิ่งนำอีกฝ่าย ด้านหลังพวกเขามีสตรีกำลังไล่ฟันดาบอันเย็นยะเยือกตามมาติดๆ
“น้องชายรอข้าก่อน พวกเราเป็นคู่หูกันเหตุใดถึงได้ทิ้งข้าไว้ข้างหลังคนเดียว!” โก้วลี่โอดครวญ
“ไสหัวไป ข้าไม่รู้จักเจ้า!” หลิงฮันสะบัดมือ
“แต่ข้ารู้จักเจ้า เจ้าคือหลิงฮัน น้องหลิงของข้า” โก้วลี่ตะโกนจากด้านหลัง เสียงของเขาดังก้องราวกับกลัวว่าสตรีผู้นั้นจะไม่ได้ยิน
เห็นได้ชัดว่าหมอนี่จงใจ
“หัวขโมยไก่มันเจ้าต่างหาก!” หลิงฮันคำรามตอบ
“คนรักคุณธรรมเช่นข้าจะทำเรื่องต่ำทรามอย่างขโมยไก่ได้อย่างไร?” โก้วลี่กล่าวด้วยน้ำเสียงสัจย์จริงและทำใบหน้าราวกับเป็นฝักใฝ่คุณธรรมทั้งๆปากยังกัดเนื้อย่างไม่หยุด
“บัดซบ! บัดซบ!” สตรีที่ตามหลังมาเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก นางกวัดแกว่งดาบต่อเนื่องไม่หยุด ไม่ว่าจะหลิงฮันหรือโก้วลี่นางก็จะสังหารให้หมดเพื่อแก้แค้นให้กับไก่หยกสุดที่รักของนาง
โก้วลี่ไม่เพียงกินไก่ต่อหน้านางอย่างเดียว แต่แม้กระทั่งกระดูกไก่เขายังบ้วนทิ้งไปด้านหลังอีกด้วย เพราะงั้นสตรีที่พวกเขามาจึงอารมณ์เดือดยิ่งขึ้น ผมสีดำของนางสยายชี้ขึ้นฟ้าพร้อมกับแข็งตัวเป็นแท่งน้ำแข็งสีขาว
“ทักษะวารีสวรรค์!” สตรีด้านหลังหยุดไล่ตามและสะบัดฝ่ามือซ้ายปลดปล่อยทักษะ ‘ครืนน’ ไอน้ำจากอากาศถูกควบแน่นกลายเป็นเสาผลึกน้ำแข็งทีละเสาขึ้นที่บริเวณด้านหน้า
ด้วยผลึกน้ำแข็งจำนวนมาก หลิงฮันกับโก้วลี่ที่กำลังพุ่งทะยานอย่างเต็มแรงจึงชนกระแทกเข้ากับผลึกน้ำแข็งเหล่านั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ร่างของพวกเขากระแทกเข้าอย่างจัง
เพียงแต่ว่ากายหยาบของหลิงฮันก็แผลงฤทธิ์ แรงกระแทกเพียงแค่นี้ไม่ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย ความเร็วในการวิ่งเองก็ไม่ลดลง ผิดกับโก้วลี่ที่ร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวดเสียงดังลั่นและรีบวิ่งไล่ตามหลังหลิงฮันไปอย่างเอาเป็นเอาตาย
ทั้งสองวิ่งทะลุผ่านกรงผลึกน้ำแข็งออกมาได้อย่างรวดเร็ว และเพื่อที่จะโคจรทักษะสร้างผลึกน้ำแข็งเหล่านี้สตรีผู้นั้นจำเป็นต้องยืนอยู่กับที่ พอนางหยุดโคจรทักษะพวกหลิงฮันกับโก้วลี่ก็วิ่งเผ่นหนีไปไกลแล้ว
“เจ้าพวกหัวขโมยบัดซบ ข้าจะหาพวกเจ้าให้เจอและให้พวกเจ้าชดใช้!” สตรีผู้นั้นตะโกนเสียงดังจากด้านหลัง
หลิงฮันวิ่งมาได้ครู่หนึ่งก็หยุดเท้า โก้วลี่เองก็หยุดตามเช่นกัน พวกเขาสูดหายใจลึกพร้อมกับโก้วลี่ได้กล่าว “น้องชาย เจ้าวิ่งเร็วใช้ได้เลย!”
“น้องชายงั้นรึ?” หลิงฮันหัวเราะ
โก้วลี่รีบโบกมือ “พวกเราเป็นหัวขโมยเหมือนกัน ทำไมจะไม่ใช่พี่น้องกันล่ะ? เห็นแบบนี้ข้าไม่ได้ยอมรับใครง่ายๆหรอกนะ แต่สำหรับเจ้าข้าว่าพวกเราเข้ากันได้!”
หลิงฮันยิ้มและไม่โต้เถียง
ถึงแม้โก้วลี่จะโยนปัญหามาให้เขา แต่นิสัยของอีกฝ่ายก็ไม่ใช่คนเลวร้าย อีกฝ่ายเหมือนกับเขาที่ไม่ได้ทำเพียงป้องกันและหลบหลีกการโจมตีของสตรีก่อนหน้านี้ หากเป็นอีกฝ่ายมีนิสัยโหดเหี้ยมล่ะก็คงลงมือตอบโต้ไปแล้ว
เมื่อมองจากจุดนี้ หลิงฮันเชื่อว่าแม้โก้วลี่จะเป็นตัวปัญหาแต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้าย