หากคนที่ลอบจู่โจมเป็นเทียนเซี่ยตี้เอ้อ กู่ต้าวอี้คงเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมากที่ในการปะทะกันก่อนหน้านี้เทียนเซี่ยตี้เอ้อจงใจซ่อนพลังเอาไว้ทำให้เขาประมาท
แต่แท้จริงแล้วคนที่ลอบจู่โจมหลิงฮัน!
เป็นหลิงฮันไปได้อย่างไร?
คนที่เดินผ่านทางมาก่อนหน้าเขามีเพียงเทียนเซี่ยตี้เอ้อเท่านั้น… เช่นนั้นแล้วหลิงฮันโผล่มาจากไหน?
“เจ้าจงใจแอบอยู่ที่นี่เพื่อลงมือกับข้า?” กู่ต้าวอี้กล่าว ถึงแม้จะเป็นประโยคคำถามแค่น้ำเสียงของเขากลับแฝงไปด้วยความเหี้ยมโหด
หลิงฮันชี้นิ้วและกล่าว “ความบาดหมางระหว่างเจ้ากับข้าจะจบลงที่นี่!”
“เจ้าคิดว่าตนเองมีคุณสมบัติพูดจาเช่นนั้นกับข้า?” กู่ต้าวอี้เค้นเสียง “ชีวิตชาติภพแรกของข้าคือนิรันดร์ระดับโลกียนิพพานในดินแดนแห่งเซียน เทียบกับข้าแล้วเจ้าไม่นับเป็นอันใดได้!” เขาชี้นิ้วกลับไปยังหลิงฮันด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
ที่เขาไม่ผลีผลามลงมือเป็นเพราะต้องการจะถ่วงเวลา
หากต้องสู้กันที่นี่เขาย่อมเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างมาก หลิงฮันมากายหยาบไร้เทียมทาน ผลกระทบที่ได้รับจากแรงกดดันของกรงเล็บย่อมน้อยกว่าเขา ยิ่งกว่านั้นเมื่อครู่เขาก็ถูกหลิงฮันโจมตีทีเผลอทำให้ได้รับบาดเจ็บ ตัวเขาในตอนนี้ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของหลิงฮันได้
แต่ถ้าถ่วงเวลาจนมีคนอื่นมาถึงที่นี่ หลิงฮันจะยังกล้าสังหารเขา?
ขอแค่หนีออกจากที่นี่ได้เขาก็จะรีบเร่งบ่มเพาะพลังกลับมาแก้แค้นหรือไม่ก็ไปขอให้เซียนซิงฉาลงมือแทน
หลิงฮันมั่นใจเป็นอย่างมาก ในการประลองศิษย์ใหม่เขาสามารถเอาชนะกู่ต้าวอี้ได้ด้วยรูปแบบอาคมระดับสิบสี่ แต่ตอนนี้เขามีรูปแบบอาคมอีกาโลหิตที่เป็นรูปแบบอาคมที่แข็งแกร่งที่สุดของรูปแบบอาคมระดับสิบห้าสลักไว้บนร่างกาย ต่อให้กู่ต้าวอี้จะบ่มเพาะพลังได้รวดเร็วเพียงใดก็ไม่สามารถมีพลังต่อสู้เหนือเกินไปกว่าเขา
เขายิ้มและกล่าวอย่างไม่รีบร้อน “ที่นี่คือห้องสมบัติของราชันวารีสวรรค์ ในอดีตราชันวารีสวรรค์ได้รับมรดกสืบทอดของราชานิรันดร์ทำให้ถูกปรมาจารย์จากดินแดนต้องห้ามมากมายไล่ล่าจนสุดท้ายก็ต้องตกตาย แต่สมบัติในห้องนี้ไม่ได้ถูกเหล่าปรมาจารย์ของดินแดนต้องห้ามช่วงชิงไป”
กู่ต้าวอี้สูดหายใจแรง เขามองไปยังหลิงฮันด้วยดวงตาเปิดกว้าง
หลิงฮันพยักหน้า “เจ้าคาดเดาถูกแล้ว สมบัติที่ว่าตกมาอยู่ในมือของข้าเป็นที่เรียบร้อยและข้าก็ได้ใช้มันล่อเจ้ามาที่นี่เพื่อสะสางบัญชีแค้น”
ทักษะบ่มเพาะระดับราชานิรันดร์!
จิตใจของกู่ต้าวอี้สั่นสะท้าน หลิงฮันอาจจะไม่รู้ว่าคำว่า ‘ราชานิรันดร์’ มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ขขนาดไหน… ราชานิรันดร์นั้น ในดินแดนแห่งเซียนพวกเขาคือเหล่าตัวตนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุด!
ดินแดนแห่งเซียนนั้นกว้างใหญ่ไพศาล เหล่าปรมาจารย์และอัจฉริยะมีอยู่มากมายราวกับหมู่เมฆ แต่ราชานิรันดร์ล่ะ? เท่าที่เขารู้จักตัวตนระดับนั้นอยู่เพียงเจ็ดคน ต่อให้เขาจะเป็นนิรันดร์ระดับโลกียนิพพานแต่ก็ไม่เคยท่องไปทั่วทั้งดินแดนแห่งเซียนมาก่อน
ราชานิรันดร์คือตัวตนที่อยู่บนยอดสุดพีระมิดของดินแดนแห่งเซียน
บางที… หลิงฮันอาจจะได้รับทักษะบ่มเพาะระดับราชานิรันดร์!
“ส่งมา! มันคือของข้า!” เส้นเลือดปูดบวมขึ้นมาที่บริเวณศีรษะของกู่ต้าวอี้ ดวงตาสองข้างของเขาแปรเปลี่ยนเป็นแดงฉาน
“เจ้าเพ้ออะไรอยู่!” หลิงฮันลงมือปล่อยหมัดเข้าใส่กู่ต้าวอี้
กู่ต้าวอี้เตรียมรับมือเอาไว้แล้ว ร่างแยกทั้งเก้าพุ่งทะยานออกไปพร้อมกับแก่นกำเนิดนิรันดร์ที่ส่องประกายเจิดจ้า ดวงตาของเขาระเบิดคลื่นแสงออกมาด้วยพลังทำลายที่น่าสะพรึงกลัว
“เจ้าคิดว่ามีแค่ตนเองที่แข็งแกร่งขึ้น?” กู่ต้าวอี้คำรามและผลักฝ่ามือออกไปด้วยทักษะที่เรียกว่า ‘ตราผนึกหมาป่า’ มันคือทักษะในชาติภพแรกของเขาที่ฝึกฝนในดินแดนแห่งเซียน
หลิงฮันไม่หวาดหวั่นและปล่อยหมัดต่อไป พริบตาเดียวร่างแยกห้าร่างของกู่ต้าวอี้ก็ถูกซัดจนลอยกระเด็น หมัดของเขาทรงพลังราวกับจะบดขยี้โลกได้ทั้งใบ
กู่ต้าวอี้ชะงักตกตะลึง ร่างแยกทั้งเก้านั้นมีพลังต่อสู้ที่ทรงพลังกว่าเขาเสียอีก เป็นไปได้อย่างไรที่พวกมันจะพ่ายแพ้ง่ายดายแบบนั้น?
ไม่จริง หลิงฮันแข็งแกร่งขึ้นมากขนาดนี้ได้อย่างไร?
เวลาผ่านไปไม่กี่ปี เขาสามารถยกระดับพลังต่อสู้ของตนเองขึ้นมาได้สามถึงสี่เท่าด้วยทักษะยุทธจากชาติภพก่อน ความสำเร็จขนาดนี้เรียกได้ว่าน่าอัศจรรย์มากแรก แต่ในกรณีของหลิงฮัน พลังต่อสู้ของอีกฝ่ายเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่า ร้อยเท่า หรืออาจจะพันเท่า!
ทั้งๆที่พลังบ่มเพาะของหมอนั่นก็เพิ่มขึ้นมาเพียงหนึ่งชั้นย่อยเท่านั้นแท้ๆ เหตุใดพลังต่อสู้ถึงจะเพิ่มขึ้นสูงขนาดนั้น?
หรือว่า…
“กายหยาบของเจ้าแข็งแกร่งจนถึงขั้นที่สามารถสลักรูปแบบอาคมที่เหนือว่าระดับพลังบ่มเพาะไปถึงสองขั้น!” เขาเข้าใจทันที หากไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่พลังต่อสู้ของหลิงฮันจะเพิ่มขึ้นมหาศาลทั้งๆที่พลังบ่มเพาะเพิ่มขึ้นมาเพียงน้อยนิด!
จะ จะ เจ้ามันสัตว์ประหลาด!
หลิงฮันไม่ปรานี หลังจากปล่อยหมัดออกไปเก้าหมัดร่างแยกทั้งเก้าของกู่ต้าวอี้ก็สลายไปอย่างสมบูรณ์
กู่ต้าวอี้กัดฟัน ด้วยแรงกดดันจากกรงเล็บของราชาเซียนจะให้เขาหลบหลีก็คงทำไม่ได้
สิ่งที่ทำได้ตอนนี้มีเพียงสู้จนตัวตายและรอให้คนอื่นมาถึง
เขาตบหน้าอกตนเอง ทันใดนั้นพลังของแก่นกำเนิดนิรันดร์ทั้งสามครั้งที่เขาสามารถใช้ได้ก็ถูกโคจรพร้อมกัน ‘เปรี๊ยะ’ ผิวหนังทั่วร่างของเขาปรากฏรอยปริแตกและมีโลหิตไหลออกมาทำให้เขาดูราวกับเป็นมนุษย์โลหิต
อันที่จริงแค่การใช้พลังของแก่นกำเนิดนิรันดร์สองครั้งพร้อมกับก็แทบจะทำให้เขาหมดสติแล้ว แต่หากเขาไม่ใช่สามครั้งพร้อมกันทั้งหมดก็คงไม่สามารถต่อกรกับหลิงฮันได้
“ข้ากู่ต้าวอี้ผู้ไร้เทียมทาน ในการต่อสู้ระดับเดียวกันข้าไม่มีมันพ่ายแพ้!” เขาคำรามโดยที่ไม่รู้ว่าทำไปเพื่อปลุกกระตุ้นความฮึกเหิมให้ตนเองรึเปล่า
หลิงฮันไม่หวาดหวั่น ทักษะบ่มเพาะของอีกฝ่ายคือทักษะเก้าสวรรค์ดับสูญที่ไม่สมบูรณ์ แต่ทักษะบ่มเพาะของเขาคือทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ที่ผสานรวมเคล็ดของทักษะระดับราชานิรันดร์มากมายมาไว้ในทักษะเดียว แม้ตัวเขาในตอนนี้จะยังไม่ค้นพบวิธีใช้ก็ทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ก็ตามที
เมื่อเทียบกับข้าแล้วเจ้าจะนับเป็นอันใด?
หลิงฮันปล่อยฝ่ามือออกไปพร้อมกับกระตุ้นใช้งานรูปแบบอาคมอีกาโลหิตทั้งสิบเต็มกำลัง เขาต้องการกำราบกู่ต้าวอี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะกลัวว่าร่างของอีกฝ่ายจะรับอำนาจของแก่นกำเนิดนิรันดร์ไม่ไหวจนระเบิดเสียก่อน หากเป็นเช่นนั้นจริงๆจักรพรรดินีของเขาก็จะไม่สามารถนำแก่นกำเนิดรินิรันดร์ไปใช้ได้ พลังบ่มเพาะของนางจะยกระดับอย่างเชื่องช้าทำให้เขาอดหลับนอนกับนาง!
“อย่าได้บังอาจ!” หลิงฮันเกรี้ยวกราด
กู่ต้าวอี้ชะงักมึนงงชั่วครู่ว่าทำไมจู่ๆหลิงฮันถึงโมโห แต่พริบตาเดียวฝ่ามือของหลิงฮันก็กดทับเข้าหาร่างของเขาโดยรอบฝ่ามือโอบล้อมไปด้วยอีกาโลหิตที่กำลังสยายปีกปลดปล่อยออร่าอันน่าสะพรึงกลัว
ข้าจะตอบโต้ได้อย่างไร?