“พอแค่นั้น ที่นี่ไม่ใช่สำนักย่อยที่แปด” เริ่นเฟยอวิ๋นขั้นกลางระหว่างสองฝ่าย “อย่าทำตัวให้คนอื่นมาหัวเราะเยาะเรา!”
ฉีเทียนและไช่เหมี่ยวเค้นเสียงไม่พอใจแต่ก็ไม่ฝืนลงมือ
วัฒนธรรมไม่อาจมีข้อยกเว้น แต่ศักดิ์ศรีของสำนักย่อยที่แปดก็สำคัญเช่นกัน หากพวกเรามีเรื่องกันต่อหน้าสาธารณะชนคงจะดูไม่ดี
เริ่นเฟยอวิ๋น ฉีเทียนและศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดคนอื่นๆพยายามเปิดกล่องแต่ก็ไม่มีใครทำสำเร็จ ปัญหาไม่ใช่พลังแต่เป็นความทนทานของกายหยาบ
แต่ในขณะเดียวกัน เทียนเซี่ยตี้เอ้อนั้นมีกายหยาบที่แข็งแกร่ง แต่พลังของเขากลับไม่พอทำให้เขาเองก็ไม่สามารถเปิดกล่องได้
ถึงแม้จะล้มเหลว แต่กล่าวได้ว่าเทียนเซี่ยตี้เอ้อนั้นเกือบจะทำสำเร็จแล้ว เขาสามารถทำให้กล่องแง้มออกได้เล็กน้อยพร้อมกับมีแสงสว่างสีทองสาดส่องออกมาจากภายในกล่อง เทียนเซี่ยตี้เอ้อเบ่งแรงเต็มที่จนเป้ากางเกงของเขาฉีกขาด
ทว่าไม่มีใครหัวเราะเยาะเขาเลยแม้แต่น้อย เขาสามารถทำในสิ่งที่แม้แต่ศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังทำไม่ได้ แถมยังทำให้ทุกคนมองเห็นความหวังอีกด้วยว่ากล่องนี้สามารถเปิดออกได้จริงๆ!
นอกจากนั้นเมื่อเห็นแสงสว่างสีทองที่สาดส่องออกมาเมื่อครู่ หากจะบอกว่าภายในกล่องไม่มีสมบัติใดๆอยู่เลยก็ย่อมไม่มีใครเชื่อ!
“ตราบใดที่มีกายหยาบใกล้เคียงกับเทียนเซี่ยตี้เอ้อและมีพลังมากกว่า คนคนนั้นจะต้องเปิดกล่องได้แน่”
“แต่คนเช่นนั้น… จะมีอยู่รึ?”
ทุกคนส่ายหัว จอมยุทธที่มาที่นี่มีหลายคนที่พลังบ่มเพาะสูงส่ง แต่หากเป็นในด้านกายหยาบล่ะก็ไม่มีใครเลยที่เทียบกับเทียนเซี่ยตี้เอ้อได้
“หลิงฮัน!” ศิษย์ใหม่คนหนึ่งอุทาน
“ใช่แล้ว หลิงฮัน!” ศิษย์ใหม่อีกคนตะโกน
เหล่าศิษย์เก่าอาจจะยังไม่รู้ แต่ศิษย์ใหม่ทุกคนนั้นเห็นมาเองกับตาว่าในตอนที่หลิงฮันกับเทียนเซี่ยตี้เอ้อปะทะกันอย่างดุเดือดด้วยกายหยาบ ฝ่ายที่สู้ไม่ไหวจนต้องยอมแพ้คือเทียนเซี่ยตี้เอ้อ
จากการประลองนั่นทำให้รับรู้ได้ว่ากายหยาบของหลิงฮันเหนือยิ่งกว่าเทียนเซี่ยตี้เอ้อเสียอีก!
“แต่ว่า พลังบ่มเพาะของศิษย์พี่หลิงก็เท่ากับเทียนเซี่ยตี้เอ้อไม่ใช่รึ หากเทียนเซี่ยตี้เอ้อเปิดกล่องไม่ได้ศิษย์พี่หลิงก็น่าจะเปิดไม่ได้เช่นกัน”
“เหอๆ ศิษย์พี่หลิงเอาชนะเทียนเซี่ยตี้เอ้อได้ บางทีหากเป็นเขาอาจจะเปิดสำเร็จ!”
“ใช่แล้ว ไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไร?”
ทุกคนถกเถียงกันสักพักก่อนจดจ้องไปยังหลิงฮัน
“ศิษย์น้องหลิง เจ้าลองเปิดดูหน่อย” ศิษย์เก่าคนหนึ่งกล่าวกับเขา
แต่หลิงฮันจะเปิดกล่องเพื่ออะไร หากเขาเปิดแล้วคนอื่นๆที่เข้าไปก็ย่อมรู้ว่าภายในนั้นเป็นเขตแดนลี้ลับที่ว่างเปล่า เช่นนั้นแล้วเขาจะล่อกู่ต้าวอี้ได้อย่างไร?
“เหอะ ศิษย์ใหม่อันดับหนึ่งอะไรกัน แม้แต่ความกล้าที่จะเปิดกล่องก็ไม่มี!” ใครบางคนตะโกน ไม่รู้ว่าเขาจงใจยั่วยุหลิงฮันหรือว่าเป็นพวกหัวรุนแรงกันแน่
คนคนนั้นไม่ใช่ศิษย์ของสำนักย่อยที่แปด เขาเป็นศิษย์เก่าที่ไม่มีความบาดหมางใดๆกับหลิงฮัน เพียงแค่ว่าความโดดเด่นของหลิงฮันทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมรณ์ “ศิษย์น้อง พักหลังมานี้เจ้ามีชื่อเสียงพอดูเลยนะ!”
แม้แต่เหล่าศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังเปิดกล่องไม่ได้ แต่ผู้คนมากมายกลับพูดเป็นเพียงเดียวกันว่าหากเป็นหลิงฮันอาจจะเปิดสำเร็จ ยิ่งกว่านั้นหลิงฮันก็ยังหลีกเลี่ยงวัฒนธรรมรับศิษย์ใหม่อย่างการคลานลอดผ่านช่องสุนัขได้อีกด้วย เขารู้สึกไม่สบอารมณ์ถึงจงใจยั่วยุให้หลิงฮันอับอาย
หลิงฮันลุกขึ้นยืน อย่างไรกู่ต้าวอี้ก็ยังมาไม่ถึง จะตุบทีคนอื่นฆ่าเวลาก็ดีเหมือนกัน “เหอๆ นี่เจ้ากำลังอิจฉาข้า?”
“ฮ่า! ฮ่า!” ศิษย์เก่าคนนั้นแสยะยิ้ม “ข้ามีพลังบ่มเพาะระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลาง และแข็งแกร่งเป็นอันดับแปดในการประลองศิษย์ใหม่ครั้งที่แล้ว มีความจำเป็นอันใดที่ข้าต้องอิจฉาเจ้า?”
“พล่ามมากเสียจริง!” หลิงฮันกวักมือยั่วยุ
“เจ้ารนหาที่ตายเอง!” ศิษย์คนนั้นพุ่งทะยานเข้ามา สำนักละอองดาราไม่ได้มีกฎห้ามศิษย์ปะทะแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากัน ยิ่งกว่านั้นที่นี่ยังเป็นนอกสำนักด้วย หากมีการสังหารเกิดขึ้นใครจะกล่าวว่าอะไรได้?
เหล่าศิษย์ของสำนักย่อยที่แปดส่ายหัว ทุกคนต่างรู้สึกสงสารศิษย์เก่าผู้นั้น
พลังต่อสู้ของหลิงฮันนั้นเป็นที่รู้กันในหมู่สำนักย่อยที่แปดแล้วว่าสามารถทัดเทียมกับระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุดได้ ศิษย์เก่าผู้นั้นมีพลังเพียงระดับวารีนิรันดร์ขั้นกลาง ไม่ใช่ว่าเป็นเขาหรอกรึที่รนหาที่ตาย?
หลิงฮันลงมือปล่อยหมัดออกไปลวกๆ
ศิษย์เก่าผู้นั้นแสยะยิ้ม บังอาจดูถูกข้ารึ? แล้วเจ้าจะเสียใจ
“เห้อ!” เหล่าศิษย์ของสำนักย่อยที่แปดถอนหายใจ
“ไม่ต้องคิดว่า หลิงฮันเป็นศิษย์ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ การจะแพ้ให้กับศิษย์เก่าไม่ใช่เรื่องที่น่าอับอาย” ศิษย์ของสำนักย่อยอื่นกล่าว
“พวกเราไม่ได้ถอนหายใจเพราะหลิงฮันจะแพ้ พวกเราถอนหายไปเพราะสงสารอีกฝ่ายต่างหาก!” ศิษย์คนหนึ่งของสำนักย่อยที่แปดยิ้มแห้ง “ข้าหวังว่าศิษย์พี่คนนั้นจะไม่เจ็บหนัก”
พรวด!
ศิษย์ของสำยักย่อยอื่นหัวเราะลั่นและสำลัก สำนักย่อยที่แปดช่างตลกนัก ทั้งสองคนนั่นมีพลังบ่มเพาะต่างกันถึงหนึ่งขั้นย่อย ต่อให้หลิงฮันเป็นราชาระดับสามส่วนอีกฝ่ายเป็นราชาระดับหนึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไร
ศิษย์เก่าคนนั้นเองก็ได้ยินคำพูดที่คนอื่นกำลังพูดคุยกันเช่นกัน เขารู้สึกเกรี้ยวกราดและปล่อยฝ่ามือเป็นกรงเล็บเข้าตอบโต้หลิงฮันทันที
ด้วยกรงเล็บนี้ หมัดของหลิงฮันจะต้องแหลกเป็นชิ้นแน่นอน
ตูม!
หมัดกับกรงเล็บเข้าปะทะกัน ศิษย์เก่าคนนั้นเผยสีหน้าตกตะลึง ต่อหน้าหมัดของหลิงฮันแล้วการโจมตีของเขานั้นบอบบางราวกับเป็นเพียงกระดาษ หมัดของหลิงฮันพุ่งทะลวงผ่านกรงเล็บพุ่งเข้าใส่หน้าอกเข้าอย่างรุนแรง
เป็นไปได้อย่างไร?
ศิษย์เก่าคนนั้นอุทานในใจ ร่างของเขาถูกซัดลอยกระเด็นราวกับเป็นว่าวเชือกขาด
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างแน่นิ่งไร้คำพูด
แม้เหล่าศิษย์เก่าจะเคยได้ยินมาว่าหลิงฮันเป็นผู้ชนะในการประลองศิษย์ใหม่ โดยที่การปะทะของเขากับกู่ต้าวอี้น้าน่าอัศจรรย์มาก มีคำบอกเล่าว่าพลังต่อสู้ของพวกเขาสามารถทัดเทียมได้กับระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุด แต่ใครกันจะยอมเชื่อคำบอกเล่าเช่นนั้น?
ทั้งสองเพิ่มจะบรรลุระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นเท่านั้น จะเป็นไปได้อย่างไรที่ทั้งสองคนจะมีพลังต่อสู้ของระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุด?
ต้องเป็นเพราะพวกศิษย์ใหม่ไม่เคยเห็นพลังของระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุดของจริงเป็นแน่พวกเขาถึงได้แพร่งพรายข่าวที่เกินจริงเช่นนั้นออกไป
แต่ตอนนี้ทุกคนเห็นแล้วว่าหมัดของหลิงฮันทรงพลังขนาดไหน คราวนี้ไม่ได้จากคำร่ำลือแต่ทุกคนได้เห็นด้วยตาของตนเอง
บ้าไปแล้ว เป็นไปได้อย่างไรที่ศิษย์ใหม่จะทรงพลังขนาดนี้!