ดินแดนต้องห้ามต้าหลิง?
ไม่เคยได้ยินมาก่อน มีดินแดนต้องห้ามเช่นนั้นอยู่ด้วย?
ฮูช่านและคนอื่นๆมองหน้ากันพร้อมกับส่ายหัว
“เหอะ คนอย่างเจ้าน่ะรึจะมาจากดินแดนต้องห้าม?” ฮูปิงเอ่ยหยาม
“แม้กระทั่งดินแดนต้องห้ามต้าหลิงก็ยังไม่รู้จัก พวกเจ้าอย่างบ้านนอกจริงๆ!” หลิงฮันกล่าวเหน็บแนม
ฮึ่ม เจ้าหนูนี่!
พวกฮูช่านไม่สบอารมณ์ ไม่ว่าอย่างไรดินแดนต้องห้ามที่ว่าก็ไม่มีอยู่จริงแน่ๆ แต่เจ้ากลับยังปากดีแอบอ้างอยู่ได้!
“เลิกเสียเวลากับเขาได้แล้ว!” ฮูช่านกล่าวด้วยท่าทีขึงขัง
“อืม!” ฮูปิงพยักหน้า เขาจ้องมองหลิงฮันพร้อมกับแสยะยิ้ม เขาเลิกพล่ามไร้สาระและยกหมัดขึ้นไปทางหลิงฮัน
ปราณก่อเกิดถูกควบแน่นแปรเปลี่ยนหมัดของเขาให้แข็งดั่งศิลา เพียงแต่พลังทำลายของหมัดก็ยังคงอยู่ในระดับของระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นเท่านั้น
เหตุใดพลังทำลายถึงได้ต่ำเพียงนี้?
คำตอบนั้นง่ายมาก สายลมของภูเขานี้ได้พัดพาแรงกดดันอันทรงพลังเข้าใส่พวกเขา เพราะงั้นทุกคนจึงต้องแบ่งปราณก่อเกิดเอาไปใช้คุ้มกันร่างกาย ไม่งั้นร่างกายของพวกเขาคงถูกแรงกดดันบดขยี้เป็นเศษเนื้อ
แต่บุรุษตรงหน้านั้นเป็นเพียงศัตรูที่อ่อนแอระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้น เขามั่นใจว่าแค่พลังของหมัดนี้ก็พอแล้วที่จะสังหารหลิงฮันอย่างง่ายดาย
ฮูช่านและคนอื่นๆกอดอกอย่างมั่นใจ
พวกเขาเป็นราชาจากดินแดนต้องห้าม นอกจากสุดยอดอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของดินแดนต้องห้ามแล้ว ใครจะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขา?
หลิงฮันชำเลืองมองอย่างไม่แยแสก่อนจะเริ่มขุดแร่ทางเดินต่อ
ฮูปิงโมโหจนผมสยายชี้ขึ้นฟ้า ช่างอวดดีนัก! ข้ากำลังจะสู้กับเจ้าแต่เจ้ากลับยังคิดถึงเรื่องขุดทางเดินอยู่อีก?
ถ้าอวดดีขนาดนั้นก็ตายซะ!
เขาปล่อยหมัดศิลาเข้าใส่หลิงฮัน
หลิงฮันดีดนิ้วปลดปล่อยปราณดาบเข้าปะทะกับหมัดศิลา ปราณดาบไม่ได้ทะลวงเชือดเฉือนหมัดแต่ทำให้หมัดเบี่ยงทิศทางไปทางอื่น ส่วนปราณดาบนั้นยังคงพุ่งตรงต่อไปยังด้านหน้าฮูปิงโดยที่พลังทำลายไม่ได้ลดลงเลย
ฮูปิงตกตะลึง
หากเป็นสถานการณ์ปกติเขาคงไม่หวาดกลัวการโจมตีของระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้น แต่ปัญหาคือเขาในตอนนี้กำลังใช้ปราณก่อเกิดจำนวนมากไปกับการต้านทานสายลมของภูเขา เมื่อเมื่อครู่เขาเพิ่งแบ่งปราณก่อเกิดมาใช้โจมตี ตอนนี้จึงไม่เหลือปราณก่อเกิดให้นำมาใช้ป้องกัน
“ฮึ่ม!” สตรีในกลุ่มยกมือขึ้นมา ฝ่ามือปราณก่อเกิดที่กระจ่างใสราวกับหยกปรากฏออกมาคุ้มกันฮูปิง
“ขอบคุณพี่หญิงจิ้ง” ฮูปิงกล่าวขอบคุณ
แต่ทันที่พูดจบ ปราณดาบก็กระแทกฝ่ามือหยกพังทลายและพุ่งเข้าหาฮูปิงโดยไม่มีทีท่าจะหยุด
ฉัวะ!
ฮูปิงไม่ได้ระมัดระวังเนื่องจากเขาคิดว่าฝ่ามือของฮูจิ้งจะสามารถต้านทานการโจมตีเอาไว้ได้ หน้าอกของเขาถูกคลื่นดาบกระแทกใส่ ร่างของเขาถูกส่งลอยกระเด็นพร้อมโลหิตสาดกระจาย
“น้องชายปิง!” ทั้งหกคนตะโกนออกมาพร้อมกันและรีบพุ่งไปรับร่างของฮูปิง
“ข้าไม่เป็นอะไร” ฮูปิงกล่าวด้วยน้ำเสียงอึกอัก จริงอยู่ที่การโจมตีของหลิงฮันทรงพลังมาก แต่หลังจากถูกป้องกันถึงสองครั้งพลังทำลายของคลื่นดาบถึงได้ลดลงหลายส่วน เพราะงั้นฮูปิงจึงไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเท่าไหร่นัก
พวกฮูช่านทั้งหกคนมีใบหน้าน่าเกลียด พวกเขานึกว่าการกำราบหลิงฮันจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ไม่ว่าเชื่อว่าฮูปิงจะถูกจู่โจมใส่จนร่างกระเด็นแบบนี้
แปลกมาก… ทุกคนที่นี่ล้วนแต่ได้รับผลกระทบจากสายลมของภูเขาทำให้ไม่สามารถปลดปล่อยพลังต่อสู้ที่แท้จริงได้ แต่เหตุใดการโจมตีของหลิงฮันที่เป็นระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นถึงได้ทรงพลังขนาดนั้น?
หรืออีกฝ่ายจะมาจากดินแดนต้องห้ามต้าหลิงอะไรนั่นจริงๆ?
“พวกเราดูถูกเจ้าไปหน่อย!” ฮูจิ้งที่ก่อนหน้านี้ลงมือช่วยเหลือฮูปิ้งมีใบหน้าเกรี้ยวกราด การที่นางลงมือแล้วก็ยังไม่สามารถป้องกันให้ฮูปิงได้นั้นทำให้นางรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมาก
หลิงฮันไม่สนใจทั้งเจ็ดคนและขุดทางเดินต่อ
จักรพรรดินีก้าวออกมาและกล่าว “สามีของข้าไม่ว่างพอมาเสียเวลากับเจ้า ข้าจะเป็นคนประมือกับเจ้าแทนให้เอง”
แววตาของฮูจิ้งกลายเป็นเหี้ยมโหด นางรังเกียจจักรพรรดิมากเนื่องจากถูกแย่งความโดดเด่นไป แต่นางก็ไม่ได้มีความคิดอยากสังหารจักรพรรดินีแต่อย่างใดแต่นางจะทำให้ใบหน้าอันงดงามของอีกฝ่ายมีบาดแผลจนกลายเป็นสตรีอัปลักษณ์!
นางลงมือ ‘ครืนน’ ผินดินสั่นสะเทือนพร้อมกับมีแทงหินแหลมคมราวกับหอกนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นมาจากพื้นพุ่งเข้าใส่จักรพรรดินี
จักรพรรดินีไม่ใช่หลิงฮันที่มีกายหยาบไร้เทียมทานก็จริง แต่นางมีหินต้นกำเนิดสวรรค์ซึ่งสามารถใช้สลายการโจมตีทุกรูปแบบ
นางสะบัดมือ ‘ปัง’ ‘ปัง’ ‘ปัง’ เสาหินแหลมคมถูกหินต้นกำเนิดสวรรค์บดขยี้แหลกเป็นเศษซาก
ปกติแล้วสตรีที่ยืนถือแผ่นหินอยู่ในมือนั้นย่อมดูไม่สง่างาม แต่เสน่ห์ของจักพรรดินีนั้นเหนือชั้นกว่าทุกสรรพสิ่ง ต่อให้นางจะถือแผ่นหินเอาไว้ในมือนางก็ยังสามารถทำให้ผู้คนที่จ้องมองมารู้สึกหลงไหล
นางตอบโต้โดยการเหวี่ยงแผ่นหินเข้าใส่ใบหน้าของฮูจิ้ง
ภายใต้แรงกดดันของภูเขา ฮูจิ้งย่อมไม่สามารถหลบหลีกได้ทัน นางถูกแผ่นหินกระแทกใส่จนร่างร่างกระแทกใส่พื้นดังสนั่น
บางทีนางอาจจะได้รับบาดเจ็ดสาหัสกว่าฮูปิงก่อนหน้านี้เสียอีก แถมบนใบหน้าของนางยังมีอักษรคำว่าจิตวิญญาณบรรพบุรุษปรากฏให้เห็น ไม่ว่าใครที่มองใบยังใบหน้าของนางก็ต้องอ้าปากหัวเราะ
ทว่าพวกฮูช่านกลับไม่หัวเราะ พวกเขาจ้องมองไปยังแผ่นหินในมือของจักรพรรดินีและขมวดคิ้ว
“นั่นมันหินต้นกำเนิดสวรรค์?” ฮูช่านกล่าว
จักรพรรดินีเมินเฉยไม่คิดแม้จะตอบคำถามของอีกฝ่าย
“ไม่ผิดแน่ มันคือหินต้นกำเนิดสวรรค์คือวัตถุที่พลังทำลายภายนอกไม่สามารถทำลายได้จึงมักถูกใช้บันทึกเรื่องต่างๆ” สตรีอีกคนในกลุ่มกล่าวอย่างมั่นใจ ชื่อของนางคือฮูซูอวี่ นางมีพลังระดับวารีนิรันดร์ขั้นสูงสุด
“แย่งชิงมาให้ได้!” คนอื่นๆกล่าวด้วยแววตาส่องประกาย
หินต้นกำเนิดสวรรค์นั้นแม้จะไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้มากเท่าไหร่ แต่เนื่องจากความทนทานของมันทำให้บางครั้งก็ถูกใช้สำหรับบันทึกทักษะลับเอาไว้เพื่อสืบต่อจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งหากถึงขั้นต้องสลักเอาไว้บนหินต้นกำเนิดสวรรค์ล่ะก็ทักษะที่ว่าต้องเป็นทักษะที่ยอดเยี่ยมมากไม่ผิดแน่
ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้หินต้นกำเนิดสวรรค์ถือได้ว่าเป็นวัตถุที่ล้ำค่า เนื่องจากสามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นโล่ป้องกันได้