การทดสอบอายุกระดูกเป็นการใช้รูปแบบอาคมพิเศษเจาะผิวหนังกล้ามเนื้อไปยังส่วนกระดูก
หลิงฮันยืนตรง ‘พรึบ’ รูปแบบอาคมถูกใช้งานแต่กลับไม่ปรากฏอายุกระดูกของเขา
“หืม เกิดอะไรขึ้น?”
“รูปแบบอาคมพังแล้วรึ?”
หลายคนที่ทำหน้าที่ทดสอบกระดูกกล่าวด้วยเสียงแปลกใจ ปกติแล้วเมื่อผู้ทดสอบยืนตรงและรูปแบบอาคมถูกใช้งาน อายุของคนคนนั้นก็จะปรากฏให้เห็นทันที เหตุใดจู่ๆรูปแบบอาคมถึงได้ไม่ตอบสนอง?
“เจ้าไม่ได้โคจรพลังปราณต่อต้านเอาไว้ใช้รึไม่!” ใครคนหนึ่งรีบกล่าว
เมื่อจอมยุทธที่แข็งแกร่งโคจรปราณก่อเกิด พวกเขาจะสามารถป้องกันพลังจากภายนอกอย่างเช่นนี้รูปแบบอาคมได้
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “แล้วเจ้าคิดว่าข้าโคจรปราณก่อเกิดอยู่รึไง?”
ผู้ทำหน้าที่ทดสอบเป็นเพียงจอมยุทธระดับดารา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมองออกรึไม่ว่าปรมาจารย์ระดับดาราโคจรปราณก่อเกิดอยู่รึไม่ ดังนั้นเขาจึงไม่ตามตัวตนระดับสูงของตระกูลให้มาช่วยเหลือ
หลินชินเดินเข้ามา เขากวาดสายตาผ่านร่างหลิงฮันพร้อมกับแสดงสีหน้าตกตะลึง
รุ่นเยาว์คนนี้เป็นปรมาจารย์ระดับดารา!
ด้วยช่วงอายุที่ต่ำกว่าหนึ่งล้านปี เป็นไปได้ด้วยรึที่จะบรรลุระดับดารา?
“เขาคือตัวตนระดับดารา ให้ความเคารพเขาด้วย!” หลินชินตะโกน ไม่ว่าจะไปที่ไหน จอมยุทธระดับดาราก็สามารถจัดว่าเป็นปรมาจารย์ที่ทุกขุมอำนาจต้องการตัว
ชายที่ทำหน้าที่ทดทอบหวาดกลัวและรีบก้มหัวให้กับหลิงฮัน
เนื่องจากหลิงฮันปกปิดออร่าเอาไว้ ต่อให้เป็นจอมยุทธระดับดาราด้วยกันก็ไม่สามารถมองเห็นพลังบ่มเพาะของเขาได้อย่างชัดเจน อย่างมากหลินชินก็สามารถสัมผัสได้ว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้มีพลังลึกซึ้งเกินจะหยั่งถึง
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ไม่ต้องใส่ใจ”
รูปแบบอาคมตรวจสอบถูกใช้งานอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถวัดอายุกระดูกของหลิงฮันได้อยู่ดี
หลินชินสับสนก่อนที่จะชะงัก
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ หากจอมยุทธที่แข็งแกร่งโคจรปราณก่อเกิดเอาไว้ อีกฝ่ายจะสามารถป้องกันการคุกคามจากพลังภายนอกเช่นรูปแบบอาคมจึงไม่อาจวัดค่าอายุกระดูกได้ แต่จากที่เขาดู หลิงฮันไม่ได้โคจรปราณก่อเกิดเลยแม้แต่น้อย
ถึงอย่างนั้นรูปแบบอาคมก็ยังไม่สามารถวัดค่าอายุกระดูกของหลิงฮัน นั่นหมายความว่าอย่างไร?
กายหยาบของชายหนุ่มคนนี้แข็งทนทานเกินไปจนเปรียบเสมือนโคจรปราณก่อเกิดคุ้มกันเอาไว้อยู่ตลอดเวลา
ชายชราหลินชินสะบัดมือและกล่าว “ไม่ต้องทดสอบแล้ว ข้าสามารถยืนยันได้ว่าชายคนนี้… มีอายุต่ำกว่าห้าร้อยปี!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฝูงชนก็เอะอะขึ้นมาทันที
อายุห้าร้อยปี!
ก่อนหน้านี้มีจอมยุทธระดับสุริยันจันทราที่ห้าอายุต่ำกว่าเจ็ดร้อยปี กับระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดที่ต่ำกว่าสองพันปีก็ว่าน่าสะพรึงกลัวมากพอแล้ว
แต่ตอนนี้กลับมีจอมยุทธระดับดาราที่อายุต่ำกว่าห้าร้อยปีปรากฏตัว!
นี่มันเรื่องจริงรึเปล่า?
ต่ำกว่าห้าร้อยปี… นั่นอาจจะเป็นสี่ร้อยหรือสามร้อยปีก็ได้ ยิ่งอายุต่ำเท่าไหร่ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าพรสวรรค์ของหลิงฮันน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน
ยิ่งกว่านั้นการที่อีกฝ่ามาเข้าร่วมการทดสอบนี้หมายความว่าอย่างไร?
อีกฝ่ายมีศักยะภาพโดดเด่นในด้านศาสตร์แห่งการปรุงยาด้วย! หากหลอมเม็ดยาไม่เป็นแล้ว ต่อให้ตัวตนระดับสร้างสรรพสิ่งมาที่นี่ก็ไม่สามารถได้อันดับต้นๆในการแข่งขัน
ใต้ท้องฟ้านี้มีคนที่อัจฉริยะขนาดนั้นได้อย่างไร?
หลิงฮันยิ้มไปยังหลินชิน แม้พลังบ่มเพาะของพวกเขาทั้งสองจะแตกต่างกัน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นตัวตนระดับดาราเหมือนกัน สถานะของพวกเขาจึงนับว่าทัดเทียม
หลินซินจ้องหลิงฮันด้วยแววตาส่องประกาย
อัจฉริยะเช่นนี้ ต่อให้ไม่มีพรสวรรค์ในศาสตร์แห่งการปรุงยาก็ต้องชักชวนให้เข้าร่วมตระกูลหลินให้ได้ ด้วยศักยภาพในด้านวรยุทธของหลิงฮันบวกกับเม็ดยาจากตระกูลหลิน ภายในหมื่นปีหลิงฮันจะบรรลุระดับวารีนิรันดร์ได้แน่นอน!
เมื่อถึงตอนนั้นหากรวมปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์คนอื่นเข้าไปด้วย สถานะของตระกูลหลินก็จะเพิ่มขึ้นมหาศาล
จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อชักชวนให้ได้!
หลินซินกล่าวในใจ แต่ในเมื่อเขาก็ยังคิดเช่นนี้ คนอื่นๆจะไม่คิดแบบเขาได้อย่างไร?
หลินอวีฉีมีท่าทีกระอักกระอ่วน นางเคยลองยั่วยวนชักชวนหลิงฮันดูแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธอย่างไม่ใยดี ในตระกูลหลินจะมีใครมีเสน่ห์ยั่วยวนให้เท่ากับนาง?
ในแง่ของรูปลักษณ์อันงดงาม นางเป็นหนึ่งในสตรีที่งดงามที่สุดไม่ผิดแน่ แต่ที่นางแตกต่างคือเสน่ห์อันยั่วยวนเหล่าบุรุษ อีกทั้งนางยังบรรลุระดับดาราแล้วด้วย คิดว่าจะมีสตรีสักกี่คนที่เทียบกับนางได้?
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ตราบใดที่ยังเป็นบุรุษเพศอยู่ คนๆนั้นก็ต้องหลงไหลในตัวนาง!
แต่ในกรณีของหลิงฮัน สาวงามไม่อาจล่อตาล่อใจเขาได้
หลิงฮันเดิยกลับมายังตำแหน่งเดิม ในขณะที่เดินผ่าน สายตามากมายได้ถูกดึงดูดให้จ้องมองมายังเขา
ก่อนหน้านี้เขาปกปิดออร่าเอาไว้ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นปรมาจารย์ระดับดาราจึงถูกเมินเฉย แต่ตอนนี้บารมีของเขาได้โดดเด่นเฉิดฉาย สายตานับไม่ถ้วนส่องประกายตื่นเต้นและมองมาที่เขา โดยเฉพาะเหล่าสตรีนั้นใครบางจะไม่สนใจเขา
กฎของโลกนี้คืออำนาจที่แข็งแกร่ง หลิงฮันยังเยาว์วัยอยู่ อนาคตของเขานั้นไร้ขีดจำกัด
หลินชูหยิงจ้องมองด้วยสายตาแวววาว นางเคยมั่นใจมาตลอดว่าในโลกนี้ไม่มีชายใดที่เหมาะสมกับนาง แต่ตอนนี้หัวใจของนางกลับเต้นแรงจนแทบจะคุมเอาไว้ไม่อยู่
“ต่อไปเป็นการแข่งขันแรก ทดสอบจำแนกรูปลักษณ์สมุนไพร!” หลินซินเอ่ยกล่าว
ผู้เข้าร่วมถูกนำพาไปยังสถานที่ทดสอบแห่งหนึ่ง คนที่มาจากสาขาเดียวกันจะถูกแยกให้กระจัดกระจายกันออกไปเพื่อไม่ให้มีการโกงเกิดขึ้น
ด้านหน้าหลิงฮันคือโต๊ะที่มีถุงผ้าวางเอาไว้ ถุงผ้าถูกรูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์ผนึกตราประทับเอาไว้ หากใช้กำลังฝืนเปิดถุง ตราประทับก็จะถูกทำลาย
“เมื่อเทียนส่องแสง ขอให้พวกเจ้าเปิดถุงผ้าและเริ่มจำแนกรูปลักษณ์สมุนไพรได้ทันที การทดสอบจะดำเนินไปเรื่อยๆจนกระทั่งไฟบนเทียนมอดดับ ยิ่งจำแนกได้ถูกต้องมากเท่าใดก็จะได้แต้มมากเท่านั้น ในการทดสอบแรกมีแต้มสูงสุดคือหนึ่งร้อยแต้ม” หลินซินกล่าวด้วยท่าทีสงบนิ่ง แต่น้ำเสียงของเขาก้องกังวาลเข้าไปยังหูของผู้เข้าร่วมทุกคน
เมื่อเขาพูดจบก็พยักหน้าส่งสัญญาณ ทันใดนั้นก็มีผู้ช่วยคนหนึ่งจุดไฟบนเทียนอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นผู้เข้าร่วมทุกคนก็ลงมือเปิดผนึกตราประทับบนโต๊ะ ถุงผ้านี้คืออุปกรณ์มิติ แม้มันจะดูมีขนาดเท่าครึ่งตัวคน ในพื้นที่ด้านในนั้นกว้างขวางมาก
ส่วนสมุนไพรถูกนำออกมาจากถุง ทุกคนค่อยๆจำแนกพวกมันที่ละชิ้นและเขียนชื่อของสมุนไพรลงไปบนกระดาษแผ่นเล็กติดไปยังชิ้นสมุนไพร พวกเขาดำเนินขั้นตอนเหล่านี้ซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด
เพื่อที่จะจำแนกสมุนไพรให้มากที่สุด หากพบสมุนไพรชิ้นใดที่ไม่รู้จักก็สามารถข้ามไปได้เลยไม่ต้องเสียเวลานึกคิด
ผู้ที่ชมการแข่งขันอยู่ต่างนิ่งเงียบ เสียงที่ได้ยินมีเพียงเสียงขยับสมุนไพรอันเบาบางเท่านั้น