“ซือหม่าหลิง เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” หลี่ลั่วถงตะโกนทันที
ซือหม่าหลิงมองไปยังติงผิงและกล่าว “เจ้าหนูนั่นเป็นเพียงคนนอกเหตุใดเจ้าถึงไปพลอดรักกันโดยไม่ไว้หน้าข้า?”
ที่แท้ก็เป็นรักสามเศร้า
หลิงฮันกับคนอื่นๆไม่กล่าวอะไรและให้พวกเขาจัดการปัญหาเรื่องนี้เอาเอง
“ข้าจะทำอะไรกับใครแล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้า?” หลี่ลั่วถงไม่สบอารมณ์
“เจ้าลืมไปแล้วรึว่าตระกูลตั้งใจจะให้พวกเราสองคนแต่งงานกัน?” ซือหม่าหลิงพยายามอดกลั้นความโกรธและกล่าวออกมา
“แล้วมันอย่างไร? คุณหนูผู้นี้ไม่เคยเคยเจ้าแม้แต่น้อย!” หลี่ลั่วถงกล่าวอย่างไม่ไว้หน้า
ซือหม่าหลิงระเบิดอารมณ์ออกมา “หมอนั่นดีกว่าข้าตรงไหน? ในแง่ของพรสวรรค์ ข้ามีสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุดของตระกูลซือหม่าในช่วงล้านปีนี้ เจ้าหนูนั่นจะทัดเทียมข้าได้? ในแง่ของพลังบ่มเพาะข้าเองก็บรรลุระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดแล้ว ข้าแข็งแกร่งกว่าหมอนั่นไม่รู้กี่ร้อยล้านเท่า ยิ่งกว่านั้นในแง่ของรูปลักษณ์ข้าเองก็หล่อเหลากว่าเยอะ รูปลักษณ์ของหมอนั่นแค่ธรรมดาสามัญ!”
พรวด!
เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย พวกหลิงฮันก็เผยรอยยิ้ม
ขอโทษนะ… เจ้าที่ตัวเป็นสีฟ้าแบบนั้นกล้าเรียกตนเองว่าหล่อเหลางั้นรึ? เจียนเยว่ซวนตลกจนเผลอหัวเราะออกมา
“บัดซบ!” ซือหม่าหลิงเกรี้ยวกราดและปล่อยหมัดที่ปกคลุมไปด้วยรูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์ใส่เจียนเยว่ซวน
สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์สะบัดมือเบาๆ ‘ปัง’ รูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์บนหมัดสลายไปทันที
พลังบ่มเพาะของนางในตอนนี้คือระดับสุริยันจันทราขั้นสมบูรณ์ นางแข็งแกร่งกว่าซือหม่าหลิงไม่รู้กี่เท่า
“อาจารย์หญิงช่างแข็งแกร่ง!” เจียนเยว่ซวนชูมือขึ้นและตะโกน
แววตาของซือหม่าหลิงกลายเป็นขึงขัง สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความหลงใหล สตรีผู้นี้ไม่เพียงแข็งแกร่งแต่ยังงดงามมากด้วย ซึ่งทำให้จิตใจของเขาสั่นสะท้าน เขากำหมัดและกวาดตามอง “พวกเจ้าคิดจะเป็นศัตรูกับตระกูลซือหม่า”
“ซือหม่าหลิง เจ้าไม่ได้ค่าพอจะเป็นตัวแทนของตระกูลซือหม่าทั้งหมด!” หลี่ลั่วถงกล่าว
ซือหม่าหลิงเค้นเสียงและกล่าว “ความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นเรื่องที่ตระกูลของพวกเราตัดสิน เจ้าที่เล่นชู้กับเด็กนั่นไม่เพียงแต่จะกระตุ้นความโกรธของตระกูลซือหม่า… แม้แต่ตระกูลเจ้าเองก็ไม่มีทางเข้าข้างเจ้า!”
สีหน้าของหลี่ลั่วถงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตระกูลตั้งแต่จะมอบตัวนางให้กับซือหม่าหลิงซึ่งนางได้ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้เมื่อนางตัดสินใจจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับติงผิง หากผู้อาวุโสตระกูลรู้เข้าจะต้องเกรี้ยวกราดเป็นแน่
“ไม่ต้องไปใส่ใจ ต่อให้ท้องฟ้าร่วงหล่นข้าก็จะแบกรับเอาไว้ให้เอง” ในที่สุดหลิงฮันก็เปิดปาดพูด “ในเมื่อเจ้าตกลงปลงใจกับติงผิงแล้ว ในฐานะที่ข้าเป็นอาจารย์ของเขานี่ถือเป็นของขวัญต้อนรับ” เขาสะบัดนิ้วโยนขวดเม็ดยาให้กับหลี่ลั่วถง
หลี่ลั่วถงรับขวดเอาไว้ นางรู้สึกว่าคำพูดของหลิงฮันแฝงไปด้วยอำนาจอันทรงพลังที่ต้องเชื่อฟัง
นางเปิดฝาขวดออกและเทเม็ดยาสีแดงเพลิงที่ปกคลุมไปด้วยรูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์ลงบนฝ่ามือ ทันทีที่เม็ดยาถูกเทออกจากขวด เม็ดยาก็สั่นไหวราวกับพยายามจะหลบหนีออกจากฝ่ามือของนาง
นี่มัน!
ในตอนแรกหลี่ลั่วถงไม่คาดคิดว่าหลิงฮันจะมอบเม็ดยาที่ยอดเยี่ยมอะไรมากให้เป็นของขวัญ ในฐานะคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลี่ สายตาของนางย่อมเฉียบคม นางดูออกว่าเม็ดยาเม็ดนี้เกือบจะมีสติปัญญาในตัวเอง!
เม็ดยาชนิดนี้จะไม่สูญเสียประสิทธิภาพไปตามกาลเวลา
“เม็ดยาปราณโลหิตคลั่ง!” สายตาของนางเฉียบคมมากและจำแนกเม็ดยาได้ทันที นางมีความสุขเป็นอย่างมาก ด้วยเม็ดยานี้ ระยะเวลาบ่มเพาะพลังของนางจะย่นลงมาถึงหมื่นปี
“ว่าไงนะ!” ซือหม่าหลิงตกตะลึงไม่แพ้กัน เม็ดยาปราณโลหิตคลั่งเป็นเม็ดยาที่ราคาสูงลิบลิ่วในตลาดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เขาก็เพียงแค่เคยได้ยินชื่อของเม็ดยาชนิดนี้แต่ไม่มีโอกาสได้กินสักครั้ง
หากเขาได้ครอบครองเม็ดยาเช่นนี้สักจำนวนหนึ่ง เขาจะบรรลุระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดได้ภายในระยะเวลาแสนปีและมีเวลาเหลือเฝือในการทะลวงผ่านระดับดารา
หลี่ลั่วถงทั้งตกตะลึงและมีความสุข นางกุมเม็ดยาเอาไว้โดยไม่รู้จะกล่าวอะไรดี
“เหตุใดถึงยังไม่ขอบคุณท่านอาจารย์ของข้า” ติงผิงกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ขอขอบคุณท่านอาจารย์!” หลี่ลั่วถงรีบโค้งคำนับ
หลิงฮันสะบัดมือ ในฐานะจักรพรรดิปรุงยาที่มีหอคอยทมิฬ เขาไม่สนใจเรื่องมูลค่าของเม็ดยามากเท่าไหร่
ซือหม่าหลิงถลึงตาจ้องหลิงฮันเขม็ง
ทั้งหนึ่งพันผลึกก่อเกิด เม็ดยาปราณโลหิตคลั่งและความโกรธที่มีคนแย่งคนรักไป ความแค้นของเขาในตอนนี้เดือดดาลเป็นอย่างมาก
“ฮึ่ม!” ซือหม่าหลิงหันหลังเดินจากไป
ตอนนี้เขาไม่อาจทำอะไรได้ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องแย่งตัวหลี่ลั่วถงกลับมาเลย แค่สตรีงดงามของอีกฝ่ายก็มีพลังเหนือกว่าเขาแล้ว ดื้อรั้นลงมือต่อไปก็มีแต่จะทำให้ตัวเองเป็นตัวโง่งม
“ไม่ต้องไปใส่ใจ หลังจากการประมูลจบพวกเขาจะออกจากเมืองนี้” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส แม้เขาจะมีพลังระดับดาราขั้นต้น แต่หากเอาจริงก็ใช่ว่าจะไม่สามารถต่อกรกับจอมยุทธระดับดาราขั้นสูงสุด
ตอนนี้เขาให้ความสนใจทั้งหมดไปกับแก่นไขกระดูกหยกที่ให้สัญญากับเฒ่าสวีเอาไว้
หลิงฮันไม่ปล่อยเวลาว่างให้เสียเปล่าและศึกษาหลอมเม็ดยาชนิดใหม่ ตอนนี้เขาบรรลุระดับดาราแล้ว ระดับของเม็ดยาที่สามารถหลอมได้ก็เพิ่มขึ้น ตอนนี้ขีดจำกัดในการหลอมเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ของเขาคือระดับเก้าถึงสิบสอง
เขานำขวดที่ใส่หยดพลังวิญญาณของฉือหวงออกมาและผสมลงไปกับเม็ดยาเพื่อยกระดับประสิทธิภาพเม็ดยาให้สูงขึ้น
ฉือหวงคือจิตวิญญาณศิลา โลหิตของเขาบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก ดังนั้นหยดพลังวิญญาณที่ได้จากเขาจึงเป็นยาบำรุงชั้นเลิศ หลิงฮันเผลอเกิดความคิดชั่ววูบว่า หากไปขอให้สหายของเขาคนนี้รีดเค้นหยดพลังวิญญาณออกมาอีกซักเล็กน้อยจะเป็นอะไรไหม?
แต่เขาก็ส่ายหัวสลัดความคิดนี้ทิ้ง หากสิ่งที่เขาคิดถูกบิดาของฉือหวงล่วงรู้เข้า เกรงว่าเขาคงถูกทุบตีจนหน้าบวมเป็นหมูแน่
สิบวันต่อมา พลังบ่มเพาะของหลิงฮันยกระดับขึ้นอย่างมั่นคงแต่ยังอีกไกลกว่าจะบรรลุขั้นต้นชั้นกลาง
ณ ตอนนี้ในที่สุดก็ถึงเวลาที่การประมูลจะเริ่มแล้ว
……
ณ ตระกูลซือหม่า
ซือหม่าหลิงเดินติดสอยห้อยตามรุ่นเยาว์ผู้หนึ่งอย่างเคารพ หากไม่ใช่เพราะแก่นไขกระดูกหยกถูกนำประมูลคงเป็นไปไม่ได้ที่จะเชิญแขกคนนี้มายังตระกูล
ถ้าหลิงฮันอยู่ที่นี่เขาจะต้องจำแขกคนนี้ได้เพียงแค่ชำเลืองมองแน่นอน… แขกผู้มีเกียรติที่ว่าก็คือจ้าวขู่
“นายน้อยขู่ เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าพบเห็นสตรีที่งดงามมากคนหนึ่ง นางเป็นสตรีที่มีเสน่ห์ยั่วยวนเป็นอย่างยิ่ง!” ซือหม่าหลิงหัวเราะในใจ เขาต้องการจะนำพาจ้าวขู่ไปหาหลิงฮัน นายน้อยเจ้าสําราญเช่นจ้าวขู่จะต้องสนใจในตัวสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์แน่ และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นของความบาดหมางระหว่างจ้าวขู่กับหลิงฮัน