หลิวสือคิดจะหยุดหลิงฮันแต่ทุกอย่างก็สายไปแล้ว
ดาบของหลิงฮันปลดปล่อยปราณดาบออกมานับพัน ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยคลื่นแห่งดาบ
“อ้ากก!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้น เพียงแค่การโจมตีเดียว คนของนิกายดาบสวรรค์ทั้งเจ็ดก็ร่วงลงไปเหลือห้าคน นอกจากหลิวสือแล้ว อีกคนที่รอดชีวิตได้รับบาดเจ็บสาหัส บรืเวณซี่โครงของพวกเขาถูกฟันลึกจนเห็นกระดูก
หลิวสือดวงตาเปิดกว้าง เขาทั้งเกรี้ยวกราดและตะลึง เป็นไปได้อย่างไรที่เจ้าหนูนี่จะแข็งแกร่งเพียงนี้?
พลังโจมตีของอีกฝ่ายคือพลังของระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดที่อ่อนด้อยกว่าเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้พลังบ่มเพาะของเขาจะยังไม่บรรลุระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดชั้นสูงสุด แต่เขาก็มีพลังอยู่ที่ระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดชั้นกลาง
ไม่เพียงแค่อีกฝ่ายบ่มเพาะพลังได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังมีพลังต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวอีกด้วย
เป็นไปได้อย่างไรที่โลกใบเล็กจะมีอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์เช่นนี้?
หลิวสือประหลาดใจมาก
คนเดียวทีรอดชีวิตจากการโจมตีเมื่อครู่เหงื่อไหลท่วม น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก… หากเมื่อครู่เขาตอบสนองได้ไม่เร็วพอคงมีสภาพเหมือนอีกห้าคนที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นแล้ว แค่คิดเขาก็รู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงกระดูก
“เจ้ามดปลวก บังอาจนัก!” จิตใจของหลิวสือเจ็บปวด รู้รึเปล่าว่านิกายต้องใช้ทรัพยากรไปมากมายขนาดไหนถึงจะฟูมฟักศิษย์ระดับสุริยันจันทราขึ้นมาได้? เพื่อให้ศิษย์ระดับภูผาวารียกระดับเป็นระดับสุริยันจันทรา พวกเขาต้องแบ่งส่วนมอบเม็ดยาที่หลอมจากสิ่งมีชีวิตของโลกใบเล็กให้ศิษย์เหล่านั้น
การหลอมเม็ดยาที่ว่าขึ้นมาได้จำเป็นต้องใช้เวลาถึงหมื่นปี เม็ดยาที่หลอมขึ้นมาก็ต้องแบ่งออกเป็นห้าส่วนให้กับนิกายทั้งห้า แต่หลังจากที่หลิงฮันเปิดสวรรค์พวกเขาก็ไม่สามารถหลอมเม็ดยาได้อีกเลยแม้แต่เม็ดเดียว
ด้วยเหตุนั้นแล้วสำหรับห้านิกายโบราณเช่นพวกเขา ศิษย์ระดับสุริยันจันทราจึงล้ำค่าอย่างมาก
หลิงฮันสะบัดดาบอสูรนิรันดร์ ใบดาบส่องประกายราวกับหิมะขาวที่ไม่มีโลหิตเปื้อนแม้แต่น้อย “น่าขัน พวกเจ้าคิดจะสังหารข้า แต่ข้าห้ามสังหารพวกเจ้างั้นรึ?”
หลิวสือรู้ว่าเขาพล่ามไร้สาระออกไป แต่ด้วยความโกรธที่ปะทุอยู่ในใจจะให้เขาทำอย่างไรล่ะ?
“โลหิตต้องชำระล้างด้วยโลหิต!” หลิวสือสูดหายใจลึก รุ่นเยาว์ตรงหน้าเขาน่าสะพรึงกลัวเกินไป แม้พลังของเขาจะแข็งแกร่งกว่าแต่ก็กล้าประมาทแม้แต่น้อย
เขานำอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ของตนเองออกมา มันคือหอคอยผลึกหยกใสเจ็ดชั้น ทันทีที่มันปรากฏออกมา ตัวของหอคอยก็ส่องแสงเป็นประกายเจิดจ้าราวกับแม้แต่ดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าก็ไม่อาจส่องสว่างสู้มันได้
“หืม!” หลิงฮันตะลึง เขาโคจรเนตรแห่งสัจธรรมมองอย่างรอบคอบ “หอคอยนั่น… มีอำนาจแห่งสุริยันจันทราของเจ้าผสานเอาไว้!”
เขาเคยคิดยินมาว่าอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นสามารถนำอำนาจของสุริยนัจันทราของผู้ใช้ผสานเข้าไปเป็นเนื้อเดียวกันได้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นทำให้รู้สึกสนใจไม่น้อย
ผู้ใช้กับอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน?
“ทำลายหอคอนั่นซะ!” เสียงของหอคอยน้อยดังขึ้นในห้วงจิตของหลิงฮัน มันรังเกียจอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีรูปร่างหอคอยเช่นมัน เพียงแค่เห็นแวบแรกมันก็รู้สึกโมโหอย่างไม่มีเหตุผล
หลิงฮันไม่สนใจหอคอยน้อยและกล่าว “ขอข้าดูพลังของมันหน่อยแล้วกัน”
“เจ้าจะได้เห็นแน่นอน!” หลิวสือกล่าว “และเจ้าต้องจ่ายค่าดูด้วยชีวิต!”
เขาควบคุมหอคอยโจมตีใส่หลิงฮัน ‘ครืนน’ หอคอยปลดปล่อยคลื่นแสงออกมา คลื่นแสงแค่ละเส้นร้อนระอุราวกับเปลวเพลิงที่อัดแน่นไปด้วยพลังทำลายล้าง ชั้นบรรยากาศถูกเผาไหม้จนเกิดเสียง
หลิวสือเป็นผู้ใช้ทักษะบ่มเพาะเปลวเพลิง อำนาจของสุริยันจันทราของเขาก็เป็นเปลวเพลิงเช่นกัน ดังนั้นเมื่อผสานพลังเข้ากับอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์จึงสามารถดึงพลังแห่งเปลวเพลิงออกมาใช้ได้เต็มที่
หลิงฮันพยักในใจ การผสานอำนาจสุริยันจันทราของตนเองเข้าไปอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นทรงพลังมากก็จริง แต่ข้อเสียของมันก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เมื่อใดที่ผสานอำนาจบ่มเพาะของตนเองไปแล้ว คนคนนั้นจะไม่สามารถทะลวงผ่านระดับที่สูงขึ้นได้อีกในชีวิตนี้
คนของเหล่าห้านิกายโบราณนั้นเก้าในสิบส่วนไม่สามารถทะลวงผ่านระดับดาราได้ ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงไม่สนใจหากจะสละพลังบ่มเพาะของตนเอง
ในเมื่อทะลวงผ่านไม่ได้ พวกเขาจึงเลือกที่จะทำให้พลังระดับสุริยันจันทราของตนเองทรงพลังที่สุด
แต่ต่อให้อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ของอีกฝ่ายจะทรงพลังขนาดไหน มันจะเทียบกับดาบอสูรนิรันดร์ได้?
ดาบของหลิงฮันสะบั้นขึ้นท้องฟ้า แม้จะเป็นการฟันดาบที่ไร้ทักษะ แต่คลื่นดาบนับฟันที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากดาบอสูรนิรันดร์นั้นน่าสะพรึงกลัวมา
‘ตูมม’ คลื่นแสงเปลวเพลิงถูกผ่าออก คลื่นดาบปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าราวกับจะบดขยี้โลกทั้งใบ
“ฮึ่ม!” หลิวสือรู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการหลิงฮันด้วยพลังของหอคอยเพียงอย่างเดียว ร่างของเขาพุ่งไปด้านหน้า ในมือของเขาปรากฏดาบกวัดแกว่งเข้าใส่หลิงฮัน
ดาบเล่มนั้นปลดปล่อยอำนาจแห่งเปลวเพลิงออกมา
หลิงฮันตะลึง ดาบเล่มนั้นผสานไว้ด้วยอำนาจสุริยันจันทราเช่นกัน!
หมอนี่คงไม่ในผสานสุริยันจันทราทั้งสี่ลูกเข้าในในอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์หมดเลยหรอกนะ?
“ยังมีอีกรึไม่?” หลิงฮันกล่าวดด้วยยิ้ม เขาถามอย่างสงสัยแม้จะกำลังห้ําหั่นกันอยู่
“แน่นอน!” หลิวสือแสยะยิ้ม ‘พรึบ’ เขานำดาบอีกเล่มออกมา ในมือทั้งสองข้างของเขาถือดาบในขณะที่หอคอยทำหน้าที่โจมตีด้วยตัวมันเอง มันปลดปล่อยลำแสงเปลวเพลิงออกมาอย่างไม่หยุดยี้งราวกับพยายามจะหลอมหลิงฮันให้ละลาย
ดาบเล่มที่สองที่อีกฝ่ายหยิบออกมามีอำนาจแห่งสุริยันจันทราผสานอยู่เช่นกัน หากเป็นเช่นนั้นก็หมายความว่าอีกฝ่ายใช้สุริยันจันทราทั้งสามดวงของตนเองหลอมเข้ากับอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ไปหมดแล้ว และเนื่องจากอีกฝ่ายยังบ่มเพาะพลังไม่ถึงขั้นที่จะสร้างสุริยันจันทราดวงที่สี่จึงมีอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ผสานพลังแล้วแค่สามชิ้น
โดยปกติแล้วจะไม่มีใครใช้อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ในการต่อสู้หลายชิ้นเนื่องจากพลังของจอมยุทธมีจำกัดทำให้ไม่สามารถควบคุมอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์หลายชิ้นได้เต็มที่ การใช้อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์เพียงชิ้นเดียวในการต่อสู้ย่อมดีกว่า
แต่อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ของหลิวสือทั้งสามนั้นผสานอำนาจของสุริยันจันทราของเจ้าตัวเข้าไปทำให้แตกต่างออกไป อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างของเขา การควบคุมจึงไม่ใช่เรื่องยากและสามารถรีดเค้นพลังออกมาได้ถึงขีดสูด
นิกายเล็กๆก็มีประโยชน์ในตัวมันเอง เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถทะลวงผ่านระดับดาราได้จึงสรรหาวิธีต่างๆมาทำให้พวกเขาแข็งแกร่งที่สุดในระดับสุริยันจันทรา
หลิวสือก้าวเดินเข้ามา มือทั้งสองของเขาถือดาบไว้แน่นพร้อมกับปลดปล่อยเปลวเพลิงออกมาอย่างไร้ที่สุดสุด
หลิงฮันยืนนิ่งรอคอยอีกฝ่าย ทันทีที่หลิวสือเข้ามาใกล้เขาใช้งานทักษะจิตเจ็ดสังหารสั่นสะท้านจิตวิญญาณของอีกฝ่ายทันที
“อั่ก!” หลิวสือบ่มเพาะพลังมาแล้วหลายล้านปี จิตวิญญาณของเขาจึงมั่นคงมาก เมื่อถูกทักษะจิตเจ็ดสังหารจู่โจม เขาเพียงรู้สึกมึนงงเล็กน้อยและนำมือกุมหัว
หลิวสือชะงักและรีบควบคุมหอคอยให้มาคุ้มกันทันที ‘ครืนน’ หอคอยเจ็ดชั้นขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่าและร่วงลงมาคลุมหัวเพื่อปกป้องเขา
ตูม!
ในขณะที่หลิงฮันสะบั้นดาบทันทีหลังจากใช้ทักษะจิตเจ็ดสังหาร การโจมตีของเขาก็ปะทะเข้ากับหอคอยจนเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ผิวของหอคอยแตกร้าวและมีเศษเล็กๆน้อยๆหลุดออกมา สุดท้ายดาบของเขาก็ถูกหยุดเอาไว้ได้
ไม่ว่าอย่างไรจิ้งจอกเฒ่าตนนี้ก็มีชีวิตอยู่มาแล้วมากกว่าสามล้านปี ประสบการณ์ในการสู้รบของเขาย่อมมีมากมาย
หลิงฮันไม่โจมตีต่อแต่มองไปยังคนของนิกายดาบสวรรค์คนที่รอดชีวิต