ในที่สุดหลิงฮันก็เริ่มออกเดินทาง
เดิมทีพาหนะแหวกเมฆาไม่สามารถนั่งได้หลายคน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะมันได้ถูกดัดแปลงเป็นเรือเหินดาราแล้ว หลังจากที่ป้อนพิกัดดาวเข้าไปมันก็สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง
ดังนั้น ทุกคนสามารถเข้าไปฝึกฝนอยู่ด้านในหอคอยทมิฬอย่างหายห่วง โดยไม่จำเป็นต้องมีคนคอยขับขี่
แม้พาหนะแหวกเมฆาจะได้รับการดัดแปลง แต่มันก็ยังต้องใช้เวลานานถึงสองปีกว่าจะไปถึงดาวหยุนติ่ง!
แต่สำหนับตัวตนระดับพระเจ้า เวลาสองปีไม่ได้นานอะไรเลย แต่พวกเขาทุกคนก็ไม่สามารถปล่อยให้เวลาสองปีสูญเปล่าได้
ฝึกฝน! ฝึกฝน! และฝึกฝน!
ถึงหอคอยทมิฬจะขาดแคลนพลังปราณ แต่เรื่องนั้นก็ไม่สำคัญ เพราะหลิงฮันมีผลึกก่อเกิดและเม็ดยาจำนวนมาก ตราบใดที่หลิงฮันยังคงเป็นผู้นำ เขาก็สามารถจัดหาเม็ดยาให้เหล่าพรรคพวกของเขาได้ ดังนั้นความก้าวหน้าของทุกคนจึงเป็นไปแบบก้าวกระโดด
ทุกคนใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝนบ่มเพาะพลัง แต่หลิงฮันใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการปรุงยา
ตั้งแต่ที่เขาทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทรา เขาก็พยายามหลอมเม็ดยาปราณโลหิตคลั่ง แล้วด้วยการฝึกฝนอยู่ใต้ต้นสังสารวัฎ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่ารากฐานพลังไม่เสถียร
เม็ดยาปราณโลหิตคลั่งเป็นเม็ดยาระดับแปด แต่ตอนนี้หลิงฮันเป็นแค่นักปรุงยาระดับห้าเท่านั้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะหลอมเม็ดยาข้ามระดับได้ขนาดนั้น แต่โชคยังดีที่เขามีสูตรเม็ดยาโบราณอยู่ เม็ดยาเหล่านั้นเป็นเม็ดยาระดับหกและเจ็ด ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่เขาจะหลอมสำเร็จ
หลิงฮันนำสูตรปรุงยาระดับหกออกมา มันมีชื่อว่าเม็ดยาระเบิดอัสนี
หลังจากที่ใช้เม็ดยานี้แล้วจะใช้พลังสายฟ้าได้และยกระดับพลังต่อสู้ได้สองดาว
ถึงมันจะเพิ่มพลังต่อสู้ได้แค่สองดาว แต่อย่างได้ดูถูกมันเชียว ต้องทราบก่อนว่าทั้งที่หลิงฮันมีพรสวรรค์ยอดเยี่ยม ยังมีพลังต่อสู้แค่หกดาว การที่พลังต่อสู้สองดาวถือว่ายอดเยี่ยมหรือไม่? แต่ถ้ายิ่งพลังต่อสู้สูงเท่าไหร่ ประสิทธิภาพของมันก็จะลดลงเท่านั้น และอาจเพิ่มพลังต่อสู้ได้แค่หนึ่งดาว
ผ่านไปห้าเดือน ในที่สุดหลิงฮันก็หลอมเม็ดยาระเบิดอัสนีสำเร็จเป็นครั้งแรก หลังจากที่ล้มเหลวทั้งหมดเก้าครั้ง
จากนั้น เขาก็เริ่มศึกษาปรุงยาเม็ดยาระดับเจ็ดที่มีชื่อว่าเม็ดยาชำระล้างกระดูกที่สามารถช่วยยกระดับกายหยาบได้
เขาใช้เวลานานขึ้น หลังจากผ่านไปเจ็ดเดือนเต็ม หลิงฮันเริ่มลองอีกครั้ง และเมื่อเขาหลอมเม็ดยาชำระล้างกระดูกสำเร็จเป็นครั้งแรก การเดินทางสองปีของเขาเองก็ใกล้จะถึงสิ้นสุด
หลังจากที่เฟิงโป๋วหยุนและคนอื่นๆ ทะลวงผ่านระดับ พวกเขาไม่เพียงแค่ทำให้รากฐานพลังมั่นคงเท่านั้น แต่ยังมีความก้าวหน้าที่เห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งติงผิง เขาทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุดแล้ว มันน่าทึ่งมาก
ด้านหน้าของพวกเขามีดาวสีแดงปรากฏอยู่ นั่นคือดาวหยุนติ่ง
เหตุผลที่มันมีสีแดงเพราะมันมีสิ่งชีวิตใต้น้ำที่มีชื่อว่า สาหร่ายเมฆโลหิต ที่เติบโตอยู่ทุกหนแห่งในดาบหยุนติ่งและดาวหยุนติ่งมีพื้นที่น้ำมาก ดังนั้นทั้งดาวจึงมีสีแดง
พาหนะแหวกเมฆาหยุดเคลื่อนที่ ตอนนี้มันถูกควบคุมโดยหลิงฮัน อย่างไรก็ตามหลังจากที่มันถูกดัดแปลงเป็นเรือเหินดารา มันจึงไม่ใช่พาหนะที่โปรยบินบนท้องฟ้าได้อีกต่อไป นั่นเป็นเพราะความเร็วต้นของมันจะช้า แต่เมื่อความเร็วของมันไปถึงจุดสูงสุด มันก็จะรวดเร็วมากและง่ายต่อการชน
ดังนั้น ไม่ว่าหลิงฮันจะระมัดระวังแค่ไหน พาหนะแหวกเมฆาก็กระแทกพื้นอยู่ดีเมื่อร่อนลง แต่โชคดีที่มีรูปแบบอาคมป้องกันอยู่ ทำให้มันทนต่อแรงกระแทกดังกล่าวและไม่พัง มิฉะนั้นหลิงฮันมันคงเป็นปัญหาสำหรับหลิงฮันแน่ตอนกลับดาวเหอหนิง
เขาเก็บพาหนะแหวกเมฆาเข้าไปในหอคอยทมิฬ และพาเฟิงโป๋วหยุนกับคนอื่นๆออกมาสัมผัสกับพลังปราณของที่นี่
“พลังปราณของที่นี่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์กว่าดาวเหอหนิงกับดาวเฟยหยุนเล็กน้อย” พวกเขากล่าว
“บางทีระดับของจอมยุทธของที่นี่ก็อาจจะสูงกว่าด้วย”
จุดลงจอดของพวกเขาอยู่ในส่วนลึกของภูเขา หลังจากใช้ความพยายามเล็กน้อยเพื่ออกมาจากพื้นที่ภูเขา ในไม่ช้าพวกเขาก็เห็นเมืองที่ใกล้ที่สุด
อย่างแรกเลยที่พวกเขาต้องทราบคือ พวกเขาอยู่ที่ไหนและห้านิกายโบราณอยู่ที่ไหน
เมื่อพวกหลิงฮันมาถึงเมือง พวกเขาต่างก็เผยสีหน้าประหลาดใจ เพราะภายในเมืองมากมีจอมยุทธหัววัว หัวแกะ และหัวเสือ และอื่นๆ
นี่หมายความว่า…สัตว์อสูรฝึกฝนบ่มเพาะพลังจนทะลวงผ่านขอบเขตพระเจ้า จึงแปลงกายเป็นมนุษย์ได้!
ในดาวเหอหนิงและดาวเฟยหยุน สัตว์อสูรและเผ่ามนุษย์นั้นไม่ถูกกัน เจ้ากินข้า ข้ากินเจ้า และสังหารกันไปมา แต่ที่นี่มีเผ่ามนุษย์อยู่หลายคนอาศัยอยู่ภายในเมือง และดูเหมือนพวกเขาจะเข้ากันได้ดีกับสัตว์อสูร
ต่างดาว ต่างวัฒนธรรม
มันดูแปลกตาสำหรับพวกเขามาก แต่สัตว์อสูรครึ่งมนุษย์กลับไม่สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ราวกับคุ้ยเคยจอมยุทธเผ่ามนุษย์
หลิงฮันและพรรคพวกของเขาเดินเข้าไปในโรมเตี๊ยมแห่งหนึ่งเพื่อหาข้อมูล เขาเรียกบริกรคนหนึ่งมาพูดคุย และในที่สุดเขาก็เข้าใจเรื่องเกี่ยวกับดาวดวงนี้มากขึ้น
เหตุผลที่ว่าทำไมสัตว์อสูรและเผ่ามนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันได้นั้น นั่นเป็นเพราะพวกเขามีศัตรูร่วมกัน นั่นคือดินแดนใต้พิภพ!
หลังจากที่หลิงฮันซื้อแผนที่ ในที่สุดเขาก็ค้นพบตำแหน่งที่ตั้งของห้านิกายโบราณ มันตั้งอยู่ในใจกลางจักรวรรดิราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งไม่ไกลจากพวกเขาเท่าไหร่นัก จากที่นี่น่าจะเดินทางประมาณครึ่งเดือน
จักรวรรดิราชวงศ์!
นี่แสดงให้เห็นขุมพลังนี้จะต้องมีจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์
จักรพรรดิแห่งจักวรรดิราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์เป็นที่รู้จักกันในนาม จักรพรรดิเพลิงศักดิ์สิทธิ์ และกล่าวกันว่าเขาทะลวงผ่านจุดสูงสุดของระดับวารีนิรันดร์เมื่อล้านปีก่อน ตอนนี้เขากำลังวางแผนที่จะสืบทอดบัลลังก์ให้กับคนรุ่นหลัง เพื่อทะลวงผ่านระดับสร้างสรรพสิ่ง
ส่งต่อบัลลังก์ให้กับคนรุ่นหลัง ไม่ใช่ลูกหลาน
ทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น?
นั่นเป็นเพราะจักรพรรดิเพลิงศักดิ์สิทธิ์มีชีวิตอยู่มานานมาก บุตรชายและหลานของเขาต่างก็เสียชีวิตไปหมดแล้ว แต่เขายังมีลมหายใจอยู่