หลิงฮันแข็งแกร่งและทรงพลังมาก
เขาสามารถเผชิญหน้ากับจอมยุทธระดับกึ่งสุริยันจันทราและราชาทั้งสามได้พร้อมๆกัน เขาถูกล้อมโดยจอมยุทธมากมายจนขยับไปไหนไม่ได้และหยดเซียนหยวนหยวนหยดที่สี่ก็ถูกคนอื่นครอบครองไปในที่สุด
เมื่อหยดเซียนหยวนหยดที่ห้าปรากฏ จอมยุทธที่ล้อมเขาก็ถูกเปลี่ยนเป็นกลุ่มที่ก่อนหน้าไปแย่งชิงหยดเซียนหยวนหยดที่สี่
หลิงฮันชะงัก เขากลายเป็นศัตรูของสาธารณะชนไปแล้ว ทุกคนเล็งเป้ามาที่เขาคนเดียว!
ให้ตายเถอะ ช่างไร้ยางอายเสียจริง!
ในระยะจำแหน่งที่ไกลออกไป เหล่าจอมยุทธที่ไม่มีคุณสมบัติแย่งชิงหยดเซียนหยวนต่างรู้สึกเลื่อมใสในตัวหลิงฮัน
แค่คนๆเดียวกลับต้องให้ปรมาจารย์มากมายช่วยเหลือกันถึงจะกักพื้นที่เขาได้ ขนาดรุ่นเยาว์ระดับราชาก็ยังต้องเข้ามาร่วมมือด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าหลิงฮันแข็งแกร่งขนาดไหน
หยางฮ่าวในตอนนั้นไม่ถูกรุมกักพื้นที่เช่นนี้ แค่ถูกจอมยุทธมากมายโจมตีพร้อมกันเขาก็ล่าถอยแล้ว
อย่างน้อยในระดับภูผาวารี หลิงฮันก็เหนือกว่าหย่างฮ่าวไปแล้ว เรียกได้ว่าเขาเป็นสุดยอดอัจฉริยะคนแรกตั้งแต่ยุคสมัยก่อนจนถึงยุคสมัยนี้
หยดที่หก หยดที่เจ็ด… ฝูงชนสลับเปลี่ยนหน้าที่กันกักพื้นที่หลิงฮันให้อยู่ในตำแหน่งเดิม ด้วยคนจำนวนมากมายแม้พวกเขาจะสร้างได้แค่บาดแผลเล็กๆให้กับหลิงฮัน แต่พวกเขาก็สามารถกักกันพื้นที่หลิงฮันได้อย่างสมบูรณ์
ไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย!
เหตุใดพวกเจ้าถึงได้ร่วมมือกันเข้าขากันขนาดนี้?
หลิงฮันอารมณ์เสีย ไม่มีใครปล่อยโอกาสให้เขาหลุดพ้นไปได้เลยจนกระทั่งหยดเซียนหยวนหยดที่สิบปรากฏออกมา กลุ่มคนที่กักพื้นที่เขาอยู่ไม่ทำหน้าที่อีกต่อไปเพราะหยดเซียนหยวนหยดนี้คือหยดสุดท้าย
สถานการณ์ตกอยู่ในความยุ่งเหยิงอีกครั้ง
หลิงฮันหัวเราะ เป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ หลังจากแย่งชิงกันอย่างดุเดือดหลิงฮันก็ได้ครอบครองหยดเซียนหยวนหยดที่สี่ในที่สุดและได้สร้างสถิติใหม่ขึ้นมา
คนคนเดียวสามารถครอบครองหยดเซียนหยวนได้เกือบครึ่งจากทั้งหมด นี่มันปาฏิหาริย์ชัดๆ เกรงว่าในอนาคตสถิตินี้ก็ไม่มีทางถูกทำลายและจะคงอยู่ตลอดไป ตราบใดที่เขตแดนลี้ลับและนี้ยังคงอยู่ การแย่งชิงหยดเซียนหยวนในอนาคตจะต้องมีการกล่าวถึงความสำเร็จของหลิงฮันในวันนี้
และแน่นอนว่าไม่มีใครสามารถแย่งหยดเซียนหยวนมาจากหลิงฮันได้สำเร็จแน่นอน ใครกันจะทำลายพลังป้องกันของเขาได้?
ในสถานที่ที่ตราคำสั่งถูกจำกัดพลังเช่นนี้ พลังป้องกันของหลิงฮันคือไร้พ่าย
เพราะงั้นทุกคนจึงทำได้เพียงจ้องมองหลิงฮันก่อนจะเดินจากไป ทุกคนต่างคิดในใจว่ารุ่นเยาว์ผู้นี้คือสุดยอดอัจฉริยะที่จะเติบโตอย่างไม่มีสิ้นสุด ความสำเร็จในอนาคตของเขานั้นไม่มีทางด้อยกว่าหยางฮ่าวแน่นอน พวกเขาควรจะสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับหลิงฮันเอาไว้ดีรึเปล่า?
“น้องชายหลิง ไว้เจอกันที่สถานที่ที่ตกลงกันเอาไว้” เฉินจู๋เอ๋อ เหอเต๋าและคนอื่นๆกล่าวพร้อมกับเดินจากไป
ราชาก็คือราชา ในหมู่พวกเขานอกจากอู๋เจ๋อแล้วทุกคนได้รับหยดเวียนหยวนกันทุกคนซึ่งก็ไม่แปลกหากดูจากพลังของพวกเขา จะอย่างไรอู๋เจ๋อก็เพิ่งทะลวงผ่านระดับสมบูรณ์ได้ไม่นาน พลังของเขายังไม่กล้าแกร่งเท่าไหร่ผลเก็บเกี่ยวจึงเป็นศูนย์
หลิงฮันพยักหน้าให้พวกเขา การแย่งชิงเมื่อครู่ไม่มีผลต่อการที่พวกเขาจะร่วมมือกันเปิดห้องสมบัติ
สำหรับการแย่งชิงหลิงฮันยอมรับได้เสมอตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ได้เล่นไม่ซื่อ
“ฮันหลิง!” คนแปดคนปรากฏตัว เจ็ดคนเป็นรุ่นเยาว์ในขณะที่คนสุดท้ายเป็นชายชราที่ลดระดับพลังของตนเองลงมาจากระดับสุริยันจันทรา ออร่าที่เขาปลดปล่อยออกมานั้นน่าสะพรึงกลัวเกินบรรยาย
“เจ้าทำได้ดีมาก!” ชายชรากล่าวด้วยท่าทีภาคภูมิใจ
“นายนายน้อยจะต้องพึงพอใจเป็นอย่างมากแน่นอน!” ชายชรากล่าวอีกครั้ง “เอาล่ะ ทีนี้ก็มอบหยดเซียนหยวนสามหยดมาให้ชายชราผู้นี้ได้แล้ว”
ที่แท้ก็เป็นคนของกองกำลังก่าว
หลิงฮันอดหัวเราะไม่ได้ก่อนจะกล่าว “สมองเจ้ากลวงรึเปล่าถึงได้คิดว่าข้าจะมอบหยดเซีนหยวนให้?”
“ฮันหลิง อย่างคิดว่าที่นี่เจ้าจะไร้เทียมทาน ถ้าชายชราโกรธขึ้นมา แค่พลังของเจ้านั้นย่อมไม่เพียงพอ!” ชายชราเค้นเสียงดูถูก
เมื่อตอนที่ก่าวฮวงบอกให้หลิงฮันนำหยดเซียนหยวนมาให้เขานั้นเป็นเพียงแค่ข้อตกลงลวกๆเท่านั้น ใครจะไปคิดว่าหลิงฮันจะแข็งแกร่งจนสามารถครอบครองหยดเซียนหยวนได้ถึงสี่หยด
ชื่อของชายชราคือฉือหมิง เป็นคนของกองกำลังก่าว เขาเคยเข้ามาในเขตแดนลี้ลับแห่งนี้หลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยได้ครอบครองหยดเซียนหยวนเลยสักหยด ถ้าครั้งนี้เขานำหยดเซียนหยวนกลับไปได้สามหยดเขาจะต้องได้รับสิ่งตอบแทนที่ยอดเยี่ยมแน่นอน แม้อายุขัยเขาจะใกล้สิ้นสุดแต่เขาก็ยังมีผู้สืบทอดอยู่ คนเหล่านั้นจะได้รับการดูแลจากกองกำลังก่าวและมีอนาคตที่สดใส
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “เจ้ากำลังขู่ข้า?”
“ข้าไม่ได้ขู่แต่นั่นเป็นส่งที่เจ้าต้องทำ!” ชายชรากล่าวอย่างเย็นชา “ถ้าข้าโมโหขึ้นมา พลังของข้าจะเพิ่มขึ้นเป็นระดับสุริยันจันทราทันที ซึ่งถ้าหากพลังเช่นนั้นถูกใช้ที่นี่ตัวข้าจะเป็นฝ่ายได้รับผลกระทบด้วย”
“โอ้ นั่นหมายความว่าเจ้าไม่กลัวความตาย?” หลิงฮันกล่าว
ฉือหมิงหัวเราะและกล่าว “ใครบ้างจะไม่กลัวความตาย! เพียงแค่ชายชราผู้นี้ทำใจเอาไว้แล้ว”
เขาฝากความหวังเอาไว้กับผู้สืบทอดของตนเอง ดังนั้นเขาจึงต้องสร้างทางเดินให้กับคนเหล่านั้น
ฉือหมิงชี้ไปยังหลิงฮัน “มอบหยดเซียนหยวนมาเดี๋ยวนี้ ข้ายอมให้เจ้าเก็บเอาไว้เองหนึ่งหยดก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว ตัวเจ้ายังเยาว์วัยซึ่งมีโอกาสเข้ามาที่นี่อีกหลายครั้งไม่เห็นจำเป็นต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่”
หลิงฮันส่ายหัวและยิ้ม “นี่เจ้าเป็นโจรที่เชี่ยวชาญในการพูดกล่อม? แต่โชคร้ายที่ไม่ว่าเจ้าจะพูดอย่างไรความจริงที่ว่าเจ้าเป็นโจรก็ไม่เปลี่ยนแปลง!”
“ในเมื่อเจ้าดื้อด้านขนาดนี้…” ฉือหมิงสูดหายใจลึกแสดงออกถึงความเด็ดเดี่ยว
เขาคิดจะใช้พลังของระดับสถริยันจันทรากำราบหลิงฮัน แม้นั่นจหมายถึงเขาต้องถูกเขตแดนลี้ลับต่อต้านก็ตาม
เขาตระนักเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว
“ถ้าเจ้าต้องการแบบนี้ข้าก็จะสนองให้!” ชายชราลงมือ ‘ปัง’ อำนาจของระดับสุริยันจันทราทะลักออกมา โซ่อาคมศักดิ์สิทธิ์เจ้านวนนับร้อยผสานพัวพันกัน
จอมยุทธระดับภูผาวารีจะใช้งานโซ่อาคมศักดิ์สิทธิ์ได้เพียงเก้าสิบเก้าเส้น มีเพียงจอมยุทธระดับสุริยันจันทราถึงจะใช้งานได้เกินหนึ่งร้อยเส้น
ยิ่งจำนวนเยอะก็ยิ่งทรงพลัง นี่คือกฎแห่งธรรมชาติแล้ว ระดับพลังที่ต่างกันอำนาจที่สามารถใช้ได้ก็ต้องต่างกัน