พรสวรรค์ของชาหยวนไม่สามารถเทียบกับข้างหลุนได้ก็จริง แต่เขาก็ยังถูกรับเข้านิกายในฐานะศิษย์หลัก นั่นแสดงว่าเขาค่อนข้างแข็งแกร่งทีเดียว
‘ตูม’ มือขนาดใหญ่โจมตีลงมาจนบดบังท้องฟ้า
เขาแสยะยิ้ม เจ้าเป็นอัจฉริยะของสำนักนภาสีชาดแล้วอย่างไร? ต่อให้เป็นอัจฉริยะราวกับสัตว์ประหลาดขนาดไหน ระดับพลังก็ถือว่าเป็นทุกสิ่งอยู่ดี
ตายไปซะ!
เขาจะใช้โอกาสตอนที่จิตวิญญาณของหลิงฮันกำลังจะแหลกสลายรีดเค้นความทรงจำออกมาและช่วงชิงความลับทั้งหมดจากอีกฝ่าย
หลิงฮันส่ายหัว การโจมตีเช่นนี้จะต่างอะไรกับการละเล่นของเด็กเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาในตอนนี้? เขาเค้นเสียงและปล่อยหมัดขึ้นสู่ท้องฟ้า
ตูม!
ฝ่ามือพลังปราณขนาดใหญ่พังทลายทันที มันสลายเป็นเศษซากเงาร่วงหล่นไปทั่วทิศ
อะไรกัน!
กลุ่มของชาหยวนทั้งห้าคนตกตะลึง พวกเขาอ้าปากค้างด้วยความไม่เชื่อ
หมอนี่… เป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทรารึอย่างไร? แต่จอมยุทธระดับสุริยันจันทราไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้! ต่อให้มีขุมอำนาจบางส่วนที่จะให้จอมยุทธระดับสุริยันจันทราทำลายพลังบ่มเพาะของตนเองเพื่อให้เข้ามาในเขตแดนลี้ลับได้ จากนั้นค่อยให้พวกเขากินเม็ดยาเพื่อฟื้นพลังกลับมา แต่หลิงฮันที่ดูเยาววัยเช่นนี้จะทำเรื่องที่เป็นการตัดอนาคตตนเองเช่นนั้น?
“ไม่จริง เป็นไปไม่ได้!” ชาหยวนเรียกได้ว่าเป็นคนที่คุ้นเคยกับหลิงฮันที่สุดในหมู่กลุ่มของพวกเขา ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความรู้สึกเหลือเชื่อ เขาชี้นิ้วไปยังหลิงฮัน “เจ้ามีพลังต่อสู้ขนาดนั้นได้อย่างไร? เป็นไม่ไปไม่เด็ดขาด!”
“ชาหยวน มีเรื่องมากมายที่สำหรับเจ้าแล้วมันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่เรื่องพวกนั้นสามารถเกิดขึ้นจริง อย่างเช่นเรื่องที่ว่า… ข้าจะสังหารเจ้า!” หลิงฮันกล่าวอย่างโหดเหี้ยม
ถ้าประโยคนี้ถูกกล่าวก่อนหน้านี้ชาหยวนจะต้องไม่มีทางเชื่อแน่นอน แต่เมื่อได้เห็นการโจมตีเมื่อครู่ ความแตกต่างระหว่างพวกเขาก็สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า
ชาหยวนเค้นเสียงกล่าว “เอาล่ะ ถือว่าครั้งนี้เจ้าโชคดี! เจ้าไสหัวไปได้แล้ว!”
หลิงฮันประหลาดใจและยากที่จะเชื่อในหูตัวเอง
หมอนี่คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายเหนือกว่าและสั่งให้เขาไสหัวไปราวกับมอบโอกาสให้…
แต่หลิงฮันเข้าใจว่าเหตุใดชาหยวนถึงมีนิสัยความคิดเช่นนี้ ในจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะเขาเป็นถึงบุตรของจอมพลชา เขามีผู้หนุนหลังเป็นถึงจอมยุทธระดับดารา
“อะไร ยังไม่รีบไปอีก?” ชาหยวนกล่าวอย่างเย็นชาด้วยท่าทีไม่พอใจอย่างมาก
เขาให้โอกาสไปขนาดนั้นแล้ว เหตุใดหลิงฮันถึงยังไม่กล่าวขอบคุณแล้วไสหัวไปอีก?
หลิงฮันส่ายหัว “ชาหยวน ข้าเคยคิดว่าเจ้าเป็นคนที่หยิ่งยโสโอหัง แต่ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วว่าข้าเข้าใจเจ้าผิด”
ฮ่าๆ ในที่สุดเจ้าก็รู้เสียทีว่าข้าไม่ธรรมดา!
ชาหยวนกล่าวในใจ รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
“เจ้าเป็นแค่คนโง่!” หลิงฮันกล่าวต่อ
รอยยิ้มของชาหยวนหยุดนิ่งทันที เขาไม่นึกว่าหลิงฮันจะกล่าวคำพูดที่เสียดแทงเช่นนี้ “เจ้าคิดอะไรอยู่?”
“ไม่มีอะไรมาก ข้าแค่อยากยืมหัวของเจ้าเท่านั้นเอง!” หลิงฮันกล่าวอย่างเยือกเย็น
“รนหาที่ตาย!” ชาหยวนเกรี้ยวกราด ตัวเขาเป็นใคร? บุตรของตัวตนระดับดารา! แต่ถึงนั้นนั้นกลับมีคนกล้ากล่าวว่าต้องการยืมหัวของเขา แถมคนคนนั้นยังเป็นมดปลวกจากโลกใบเล็กอีกด้วย!
หลิงฮันส่ายหัวและกล่าว “ข้าไม่มัวพูดจาไร้สาระกับเจ้าแล้ว ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวสมองของข้าจะลดลงไปฉลาดน้อยเช่นเจ้า แต่ก็เอาเถอะ ข้าจะยอมให้เจ้าพูดให้มากที่สุดในขณะที่ยังพูดได้”
“จะ เจ้ากล้าสังหารข้า?” ชาหยวนไม่อยากเชื่อ เขารู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องตลกที่ไม่อาจยอมรับได้
เขาเป็นคนที่สถานะสูงขนาดไหน? หลิงฮันจะกล้าสังหารเขาจริงๆรึ?
หลิงฮันไม่กล่าวตอบอีกต่อไป เขายกมือขวาขึ้นควบแน่นพลังปราณ จิตสังหารของเขาถูกปลดปล่อยออกอย่างรุนแรง
คราวนี้เป็นชาหยวน คนต่อไปคือจ้าวหลุน เขาจะไล่คิดบัญชีให้ครบทีละคน
หลิงฮันดีดนิ้วมือ ‘พรึบ’ ประกายแสงดาบถูกปล่อยออกมาและพุ่งเข้าใส่ชาหยวน
ฉัวะ!
โลหิตสาดกระจาย แต่ร่างของชาหยวนไม่แยกออกเป็นสองส่วน บนร่างของเขาปรากฏแสงสลัวสีทองราวกับเป็นเกราะทองคำ
“โอ้?”
หลิงฮันมองเห็นด้วยตาเปล่า ร่างของชาหยวนถูกปกคลุมไปด้วยตราคำสั่ง มันคือตราคำสั่งที่ยับยั้งการโจมตีสังหารของหลิงฮันเอาไว้ทันเวลา
แน่นอนว่ามันต้องเป็นตราคำสั่งที่จอมพลจ้าวมอบให้กับบุตรของตน
“เจ้า! เจ้ากล้าดีอย่างไร!” ชาหยวนเกรี้ยวกราดน้ำเสียงของเขาสั่นเครือ ถ้าตราคำสั่งถูกกระตุ้นใช้งานก็หมายถึงเมื่อครู่ชีวิตของเขาถูกแขวนไว้บนเส้นแห่งความตาย เนื่องจากตราคำสั่งนี้มีไว้เพื่อปกป้องชีวิตของเขา
เขาเกือบตายแล้ว!
“เจ้าคนบัดซบ!” ชาหยวนสบถ ตราคำสั่งจะถูกกระตุ้นใช้งานด้วยตัวมันเองเท่านั้น ตอนนี้ในเมื่อมันถูกกระตุ้นแล้ว เขาจะพลาดโอกาสในการสังหารหลิงฮันไปได้อย่างไร?
เขาปล่อยหมัดออกไป ตราคำสั่งได้เปลี่ยนการโจมตีของเขาให้กลายเป็นกระทองคำพุ่งเข้าใส่หลิงฮัน
‘บ้าบอที่สุด เหตุใดเจ้าหนูนี่ถึงได้ฆ่ายากฆ่าเย็นขนาดนี้?’
‘อั่ก!’ ในขณะที่กำลังคิดเรื่องหลิงฮัน ชาหยวนก็ร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด แสงสีทองบนร่างของเขาสั่นไหว ตราคำสั่งสีทองค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำราวกับหมดประสิทธิภาพ กระทิงทองคำก็สลายไปเองเช่นกัน
หลิงฮันกระพริบตา เขายังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย แต่เหตุใดชาหยวนถึงได้รับบาดเจ็บนั้นเขาเข้าใจได้ในทันที
เขตแดนลี้ลับแห่งนี้มีผนึกอยู่ ตราบใดที่มีพลังที่ระดับสุริยันจันทราปรากฏขึ้นมา เจ้าของพลังจะตกเป็นเป้าหมายทันที
ก่อนหน้านี้ที่ตราคำสั่งป้องกันประกายแสงจากดาบของเขานั้น แม้พลังของตราคำสั่งจะทรงพลังแต่มันก็ไม่ถึงระดับสุริยันจันทรา แต่ว่าตอนนี้เมื่อชาหยวนเป็นคนใช้งานอำนาจของตราคำสั่งเอง พลังของมันจึงเพิ่มเป็นระดับสุริยันจันทราทันทีจึงตกเป็นเป้าหมายของผนึกเขตแดนลี้ลับแห่งนี้
ตัวของชาหยวนเองนั้นยังไม่เข้าใจสถานการ์ที่เกิดขึ้น เขาคิดว่าหลิงฮันใช้ทักษะลับบางอย่างกับตนเองเขาจึงไม่ลดหลังของตราคำสั่งให้ลดลงแต่ยังรีดพลังตราคำสั่งเพิ่มขึ้นกว่าเดิมด้วย
เมื่อตราคำสั่งถูกกรพตุ้นใช้งาน พลังของมันจะค่อยๆถูกเผาผลาญไปเอง ดังนั้นเขาจึงไม่อยากพลาดที่จะใช้โอกาสนี้ในการสังหารหลิงฮัน
“อ๊ากกก” เมื่อรีดเค้นพลังเพิ่มขึ้นเขาก็กรีดร้องดังกว่าเดิม ตราคำสั่งสั่นสะท้านอย่างรุนแรงราวกับจะพังทลาย
เพล๊ง!
ตราคำสั่งแตกออกเป็นเศษซากกระจัดกระจายทั่วท้องฟ้า ชาหยวนได้รับบาดเจ็บจนกระอักโลหิตออกมา โชคยังดีที่เขาไม่หมดสติ
ใบหน้าของชาหยวนมืดมน สถานการณ์เช่นนี้มันอะไร ตราคำสั่งเป็นคนสาเหตุให้เขาบาดเจ็บ? เขาตัวสั่นชี้ไปยังหลิงฮัน “เจ้า… เจ้าใช้มนต์ดำสกปรกอะไรกับข้า?”
“ข้าไม่เกี่ยว!” หลิงฮันส่ายหัว เขาชี้นิ้วกลับไปและปล่อยประกายดาบพุ่งตัดผ่านชาหยวน
“หยุด!” จี้เจิ่งผิงและอีกสี่คนเข้ามาช่วยชาหยวนป้องกันประกายแสงดาบ แต่หลิงฮันแข็งแกร่งขนาดไหน? พลังต่อสู้ในตอนนี้คือแปดดาวที่เหนือกว่าระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด
‘พลั่ก’ ร่างของทั้งสี่คนถูกส่งลอยกระเด็นด้วยการโจมตีด้วยนิ้วนิ้วเดียว แต่ชาหยวนก็ดีที่ฉวยโอกาสหลบหนีออกมาได้
“ถ้าพวกเจ้าช่วยเขา ข้าจะสังหารพวกเจ้าด้วย” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส “ยังอยากจะหยุดข้าอยู่อีกรึไม่?”