ไม่น่าดูเอาเสียเลย!
เจ้าเป็นถึงจักรพรรดินีที่ยิ่งใหญ่ ทำไมพลังใจเจ้าถึงอ่อนแอเช่นนี้!
หัวใจของหลิงฮันสั่นสะท้านในอก นางเป็นสตรีงดงามที่สามาทำให้จิตใจของบุรุษสั่นไหวเพียงแค่ชำเลืองมองร่างนาง ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เขายังไม่เห็นใบหน้าของนาง หลิงฮันก็ยังต้องย้อนกลับไปนึกถึงนางนับครั้งไม่ถ้วน
แต่ตอนนี้นางปล่อยตัวของนางเข้าสู่อ้อมกอดของเขาแถมยังยอมเปิดเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงให้เขาเห็นด้วย สภาพของนางในตอนนี้จะน่ายั่วยวนขนาดไหน?
หลิงฮันพยายามอดกลั้น แต่ถึงอย่างนั้นมือของเขากลับเผลอคว้าไปยังหน้าอกขนาดมหึมาสองลูกของนาง
‘บัดซบ! ทำไมข้าถึงได้เอามือไปไว้ตรงนั้น!’
‘ต้องเป็นเพราะเป้าหมายมันมีขนาดใหญ่แน่ๆ ข้าถึงยืนมือไปขยำโดยไม่รู้ตัว…’
‘ใหญ่! ยืนหยุ่น! นุ่ม! เด้งสู้มือ!’
หลิงฮันกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ เขารู้สึกถึงสัมผัสเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน
เขาส่ายหัวเต็มแรง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเพ้อถึงเรื่องนี้!
ฉัวะ!
จักรพรรดินีไม่อาจระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป นางเริ่มฉีกกระฉากชุดของหลิงฮันอีกครั้ง
‘บัดซบ! บัดซบ! บัดซบ!’
หลิงฮันสาปแช่งในใจก่อนที่ร่างของเขาจะหายเข้าไปในหอคอยทมิฬ
แววตาของจักรพรรดินีแห่งดารากลายเป็นมึนงงในขณะจ้องมองร่างของหลิงฮันที่จู่ๆก็หายไปจากอ้อมกอดของนาง การเคลื่อนไหวของนางช้าลงเนื่องจากผลของความราคะ
“อะไรกัน!” เสียงของเซียนหวู่เซียงดังขึ้นและกล่าว “อุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์? เป็นไปไม่ได้… ต่อให้เป็นอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ตัวของอุปกรณ์ก็ไม่ควรหายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นนี้”
‘อย่างที่คิด! เฒ่าตัวเหม็นนั่นไม่ได้ไปไหนแต่แอบดูอยู่!’
หลิงฮันบ่นในขณะที่เข้ามาในหอคอยทมิฬ เขารู้สึกอยากจะตบหน้าตัวเองเสียเหลือเกิน
สาวงามเช่นนี้เป็นฝ่ายปล่อยตัวเข้าหาเขาเอง แต่เขากลับเลือกหลบเข้ามาในหอคอยทมิฬ!
เขามีความรู้สึกอะไรต่อจักรพรรดินีแห่งดารารึเปล่า?
หลิงฮันยอมรับเลยว่าความยั่วยวนของจักรพรรดินีคนนี้นั้นอยู่เหนือทุกสรรพจริงๆ ขนาดเขาก็ยังใจเต้นทุกครั้งที่เห็นนาง แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับหนีจากอ้อมกอดนางแบบนั้น? แค่คิดก็ทำให้เขารู้สึกเสียใจแล้ว เขามีความรู้สึกตัณหาต่อนางแท้ๆ ทำไมเขาถึงต้องทำตัวเป็นพ่อพระ?
‘ข้าไม่ได้ทำตัวเป็นพ่อพระ เพียงแค่… ถ้าหากทำเรื่องเช่นนั้นกับนางลงไปข้าจะมีความรู้สึกผิดหลงเหลืออยู่ในจิตใจ’
‘เป้าหมายของข้าคือการไต่เต้าขึ้นไปยังจุดสูงสุดของการบ่มเพาะพลัง ถ้าจิตใจของเขามีจุดอ่อนแม้แต่จุดเดียวมันจะส่งผลกระทบต่อการทำความเข้าใจเจตจำนงแห่งแห่งวรยุทธในอนาคต บางทีมันอาจจะเป็นปัจจัยที่นำข้าไปสู่ความตายเลยก็เป็นได้’
เมื่อคิดได้เช่นนี้จิตใจของเขาก็ค่อยๆสงบลง เพราะเหตุผลข้างต้นเขาถึงได้เลือกยอมเปิดเผยความลับของหอคอยทมิฬแทนที่จะเลือกปลปล่อยความไคร่กับจักรพรรดินีแห่งดารา
หอคอยน้อยปรากฏตัวด้านข้างเขาและกล่าว “เจ้าบอกหมอนั่นไปก็ได้ว่าข้ามีวิธีทำให้เขาเกิดใหม่”
หลิงฮันชะงักแน่นิ่งไปชั่วครู่ เขาเกือบปะทุความโกรธออกไปและตะโกน “ทำไมเจ้าไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้!”
เขาถูกขังอยู่ในมิตินั่นตั้งเกือบสองปี!
“อย่างแรกเลยคือเจ้าไม่ได้ถาม อย่างที่สองคือข้าคิดว่าเขาอยากให้เวลาอันแสนสนุกกับจักรพรรดินีคนนั้นและไม่อยากออกไปจากมิติกักขัง” หอคอยน้อยกล่าวอย่างใจเย็น
“ไอ้เจ้านี่!” หลิงฮันพึมพำในใจ
ถึงอย่างเขาก็อดหวนกลับไปคิดไม่ได้ว่าสองปีที่ผ่านมาเขาก็พึงพอใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับจักรพรรดินีแห่งดาราเหมือนกัน
หลิงฮันเลิกคิดไร้สาระและกล่าว “เจ้าเฒ่าตัวเหม็นนั่นเหลืออยู่เพียงเศษเสี้ยวของดวงวิญญาณและอยู่ในสภาพใกล้เคียงกับความตาย เจ้าจะบอกว่าเจ้ายังสามารถฟื้นคืนชีพให้เขาได้?”
“ถูกต้อง” หอคอยน้อยกล่าวอย่างไม่อ้อมค้อม “ต้นสังสารวัฏสามารถช่วยคงสภาพเศษเสี้ยวดวงวิญญาณของเขาไม่ให้หายไปได้ ยิ่งกว่านั้นเมื่อเจ้าสามารถเปิดหอคอยทมิฬชั้นต่อไป เจ้าจะสามารถรวบรวมพลังแห่งธาตุทั้งห้าได้ครบและสร้างกายหยาบห้าธาตุขึ้นมาได้”
“กายหยาบห้าธาตุ? ฟังดูแล้วน่าจะทรงพลังเป็นแน่” หลิงฮันกล่าว
“บอกเขาไปว่าการหลอมกายหยาบห้าธาตุคือการกระทำที่ท้าทายสวรรค์ซึ่งจะทำให้ภัยพิบัติแห่งเซียนเกิดขึ้นมากกว่าปกติสิบเท่า”
“อะไรคือภัยพิบัติแห่งเซียน?” หลิงฮันถาม
“ข้าจำเป็นต้องตอบทุกคำถามที่เจ้าถามมางั้นรึ?” หอคอยน้อยกล่าวและตอบคำถามของตัวเองด้วยตัวเอง “ไม่ต้อง! เพราะงั้นอย่ามัวทำให้เวลาอันมีค่าของข้าสูญเปล่า ข้าจำเป็นต้องฟื้นฟูหอคอยทมิฬต่อ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าข้าจำเป็นต้องให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น ข้าคงไม่ปรากฏตัวมาพูดคุยกับเจ้าหรอก!”
“เห้อ ช่างเป็นเจ้านายที่น่าปวดหัวอะไรเช่นนี้ ข้าจำเป็นต้องช่วยเหลือเจ้าไปเสียทุกอย่างเลย”
เมื่อพูดเสร็จหอคอยน้อยก็ค่อยๆหายไป
“บัดซบ! เจ้าเคยปฏิบัติต่อข้าราวกับเป็นเจ้านายสักครั้งรึ?” หลิงฮันพึมพำ
เขาสงยสติอารมณ์และออกจากหอคอยทมิฬ
“อืม….” เสียงอันยั่วยวนดังเข้ามาในหูของเขาก่อนที่จะถูกรัดเข้าสู้อ้อมกอดของจักรพรรดินีแห่งดารา เนื่องจากก่อนหน้านี้จักรพรรดินีกอดเขาโดยที่ไม่ได้กระตุ้นใช้งานรูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์ที่แฝงไว้ด้วยเจตจำนงของนางทำให้เขาสามารถหลบเข้าไปในหอคอยทมิฬได้
เพียงแต่ว่าครั้งนี้นางกระตุ้นใช้งานรูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ร่างของหลิงฮันถูกผูกรั้งเอาไว้โดยไม่อาจหนีไปไหน
“ผู้อาวุโสบัดซบ เจ้าไม่อยากเป็นคนแก้แค้นด้วยตัวเองรึไง?” หลิงฮันตะโกน “เจ้าอยากจะกลับไปเป็นจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งรึไม่? ข้ามีความลับที่น่าตะลึงมาบอกเจ้า ข้าสามาถช่วยเจ้าสร้างกายหยาบห้าธาตุได้! เพียงแต่นั่นจะทำให้เจ้าต้องต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติแห่งเซียนมากกว่าปกติสิบเท่า”
“ว่าไงนะ?!” น้ำเสียงของเซียนหวู่เซียงเต็มไปด้วยความตะลึงและกล่าวด้วยท่าทางตื่นเต้น “เจ้าหนู ที่เจ้าพูดเป็นเรื่องจริงรึ?”
“แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง! แต่ก่อนอื่นปลดทักษะที่เจ้าใช้กับนางเสียก่อน!” หลิงฮันตะโกน
“ฮ่าๆๆ เจ้าช่างเป็นเจ้าหนูที่แปลกคนเสียจริง” เซียนหวู่เซียงกล่าว “ก็ได้ ข้าสนใจจะฟังสิ่งที่เจ้าเสนอมา”
‘พรึบ!’
จักรพรรดินีแห่งดาราหยุดเคลื่อนไหว เพียงแต่ว่านางได้สูญเสียพลังกายทั้งหมดและล้มลงเข้าสู่อ้อมอกหลิงฮัน
หลิงฮันสูดหายใจลึก เขาพยายามรีดเค้นพลังใจทั้งหมดออกมาและนำร่างของจักรพรรดินีแห่งดาราไปไว้ด้านข้าง “ผู้อาวุโสบัดซบ ข้าจะพาเจ้าไปยังบางแห่ง อย่าต่อต้านข้า”
“ไร้สาระ ข้าสามารถสร้างอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยตัวเอง แน่นอนว่าข้าเข้าใจหลักการของมัน” เซียนหวู่เซียงกล่าว “เพียงแต่ว่าดวงวิญญาณของข้าถูกกักเก็บเอาไว้ที่นี่มาตลอดโดยใช้พลังจากสวรรค์ เมื่อใดที่ออกจากที่นี่ ชะตากรรมของเขาจะมีอยู่สองอย่างคือต้องผสานเข้าไปในร่างของใครสักคนหรือไม่ก็ยอมให้ดวงวิญญาณสลายไปโดยไม่อาจหวนคืน”
“ดังนั้นเจ้าอย่าได้คิดหลอกลวงข้าเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นก่อนที่ข้าจะสลายไปข้าจะสังหารเจ้าก่อน!”
หลิงฮันสะบัดมือ “ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น ข้าไม่ทำให้เจ้าเกิดความคิดอยากสังหารข้าแน่น่อน”
“ก็ดี ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้!” เซีนนหวู่เซียงกล่าว ทันใดนั้นแท่นหินในหอคอยก็ส่องสว่างและปรากฏบอลแสงสีขาวบินวนอยู่รอบมือหลิงฮัน
หลิงฮันปลดปล่อยสัมผัสสวรรค์คลุมบอลแสดงเอาไว้
‘พรึบ!’
เขาเข้าไปในหอคอยทมิฬพร้อมกับบอลแสง