“เจ้า เจ้า…” ร่างของชายคนนั้นสั่นสะท้าน สิ่งมีชีวิตนี่คืออะไรกัน จากรูปลักษณ์เห็นได้ชัดว่ามันคือสัตว์อสูร แต่ทำไมมันถึงสามารถพูดภาษามนุษย์ได้
“อะไรของเจ้า!” จักรพรรดิจอมอสูรตบอุ้งเท้าใส่หัวชายคนนั้น “ข้าคือจักรพรรดิน้อยผู้ไร้เทียมทาน ชายคนนี้คือนายท่านของข้า เขาคือตัวตนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด! ตอนนี้นายท่านของข้าต้องการถามอะไรบางอย่างกับเจ้า เจ้ารู้ตัวดีว่าเจ้าควรตอบอย่างไร ไม่เช่นนั้นข้าถ้ากัดกินแขนทั้งสีของเจ้าก่อนแล้วตามด้วยแขนที่ห้า!”
ชายคนนั้นรู้สึกเย็นยะเยือกจนเผลอเกร็งขา เขารู้สึกว่าหมาป่าตัวนี้โหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก
การที่อยู่ๆตัวเขามาปรากฏตัวในสถานที่ที่แปลกประหลาดเช่นนี้กับถูกจักรพรรดิจอมอสูรข่มขู่ ความคิดต่อต้านของชายคนนั้นจึงพังทลาย
“แท่นบูชานั่นสร้างขึ้นเพื่ออะไร?” หลิงฮันถามโดยไม่อ้อมค้อม
“ระ เรื่องนี้….” ชายคนนั้นลังเล “อ้ากก!” เขากรีดร้องโอดครวญออกมาเนื่องจากแขนข้างหนึ่งถูกจักรพรรดิจอมอสูรกัด
จักรพรรดิจอมอสูรไม่ใช่คนใจอ่อน แต่เดิมเขาเป็นคนของดินแดนใต้พิภพอยู่แล้ว ในสายตาของเขาคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ค่าไม่ต่างจากมดปลวก ไม่ใช่แค่แขนอย่างเดียว ต่อให้ต้องกัดคอหรือส่วนเขาก็ไม่มีทางลังเล
ชายคนนั้นเห็นจักรพรรดิจอมอสูรจ้องไปยังแขนอีกข้างของตัวเอง เขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นกว่าเดิมและรีบกล่าว “เพื่อที่จะนำสมบัติข้างใต้มาครอบครอง พวกเราต้องสังเวยโลหิตเพื่อขจัดปราณชั่วร้ายทิ้งไปก่อน!”
ว่าไงนะ?
หลิงฮันประหลาดใจเล็กน้อย “สิ่งที่พวกเจ้าทำอยู่คือคำสั่งของจักรพรรดิของพวกเจ้า?”
“ใช่แล้ว มันคือความประสงค์ขององค์จักรพรรดิ!” ในเมื่อเผลอหลุดปากพูดไปแล้ว เขาก็ไม่คิดจะต่อต้านและตอบไปตามตรง
“ดูจากแผ่นกระดาษอักขระศักดิ์สิทธิ์ระดับดาราเมื่อก่อนหน้านี้แล้ว จักรพรรดิของเจ้าคงให้ความสำคัญกับสมบัติชิ้นนี้มาก แต่การที่เขาไม่ทำหน้าที่นี้ด้วยตนเองก็หมายถึงแม้แต่จักรพรรดิของเจ้าก็ไม่ไปนำสมบัตินั่นมาได้โดยตรง เลยต้องให้พวกเจ้าช่วยกำจัดปราณชั่วร้ายทิ้งไปเสียก่อน” หลิงฮันแสดงความเห็นของตัวเอง
แปะ แปะ แปะ แปะ จักรพรรดิจอมอสูรรีบใช้อุ้งเท้าปรบมือและกล่าว “นายท่านช่างฉลาดและหลักแหลม สมแล้วที่นายท่านเป็นดั่งดวงอาทิตย์ดวงเล็กที่คอยเฉิดฉายชี้นำทางจักรพรรดิน้อยเช่นข้า!”
“อ้ากกก” ชายที่ถูกจับมากรีดร้องอีกครั้งก่อนจะมองไปยังจักรพรรดิจอมอสูรด้วยสายตามึนงง ทำไมจู่ๆเจ้าถึงกัดข้าอีกแล้ว?
“นายท่านของข้ากล่าวได้ยอดเยี่ยมขนาดนั้นแท้ๆ เจ้ายังกล้าไม่ปรบมืออีกรึ?” จักรพรรดิจอมอสูรใช้สายตาของหมาป่ามองอย่างโหดเหี้ยม
ชายที่ถูกจับรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ถ้าตอนนี้เขามีพลังล่ะก็ คนแรกที่เขาจะจัดการไม่ใช่หลิงฮันแต่เป็นหมาป่าตัวนี้!
“สมบัติที่ว่าคืออะไร?” หลิงฮันถาม
“ข้าไม่รู้” ชายที่ถูกจับส่ายหัว ‘อ้ากก’ ทันใดนั้นเขาก็ต้องกรีดร้องออกมาเพราะแขนอีกข้างถูกจักรพรรดิจอมอสูรกัด “ข้าไม่รู้จริงๆ” เขารีบกล่าวโอดครวญทันทีเนื่องจากยังไม่อยากถูกกัดขาไปด้วย
“นายท่าน ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้จริงๆ” จักรพรรดิจอมอสูรหันมากล่าวกับหลิงฮัน
ชายที่ถูกจับไม่สบอารมณ์มาก โชคดีที่หลังจากบรรลุระดับพระเจ้าแล้วการฟื้นฟูแขนขาที่หักนั้นเป็นเรื่องจิ๊บจ้อยและใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้าหากเป็นบาดแผลจากปรมาจารย์ที่ทิ้งเจตจำนงเอาไว้ที่แผล การฟื้นฟูก็คงเป็นไปไม่ได้หากไม่ขจัดเจตจำนงทิ้งไปเสียก่อน
หลิงฮันจับคางครุ่นคิด จักรพรรดิจอมอสูรที่เห็นเช่นนั้นก็ไม่ต้องการรบกวน เขาลากชายที่ถูกจับไปอีกฝั่งและทรมานอีกครั้งเพื่อถามข้อมูลอื่นๆมาใช้ประจบหลิงฮัน
จักรพรรดิของจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ถึงขนาดวางแผนให้แคว้นราชสีห์ทองคำก่อสงครามเพื่อปกติวัตถุประสงค์ที่แท้จริง การที่อีกฝ่ายต้องทำอะไรยุ่งยากขนาดนี้ก็แสดงว่าสมบัติที่ว่าจะต้องล้ำค่าเกินกว่าจะจินตนาการได้
ในระหว่างที่เขามาที่นี่ เขาได้เห็นว่าแผ่นดินกว่าพันไมล์ถูกย้อมเป็นสีแดง สิ่งมีชีวิตโดยรอบถูกทำลายไม่เหลือซาก ไม่ใช่แค่สัตว์หรือมนุษย์ แต่ดอกไม้ ป่าไหม้ก็ยังไม่เหลือรอด
แต่ความลับไม่มีในโลก ในไม่ช้าเหตุการณ์ที่นี่ก็ต้องถูกโลกภายนอกรับรู้ หลิงฮันสรุปความเป็นไปมาสองข้อ
ข้อแรกคือสมบัติที่อยู่ที่นี่ล้ำค่ามากถึงขนาดทำให้จักรพรรดิยอมวางแผนปกปิดมันเอาไว้ และเสี่ยงทำเรื่องที่จะทำให้เกิดสงครามกับอีกสองจักรวรรดิราชวงศ์
ข้อสองคือสมบัตที่ที่ว่าคือสมบัติที่ทรงพลังมาก หากจักรพรรดิได้ครอบครองมันเขาก็จะมีอำนาจอยู่เหนือใคร ต่อให้สิ่งที่เขาทำถูกเปิดโปงก็ไม่มีใครต่อต้านเขาได้
เพราะอย่างไรโลกนี้ก็ถูกตัดสินกันด้วยพลัง หากมีพลังอำนาจก็ไม่มีใครกล้ากล้าโต้แย้ง
“ไม่ดีแล้ว การบูชาโลหิตเช่นนี้เป็นสิ่งที่บ้าระห่ำมาก แต่ถึงอย่างนั้นจักรพรรดิก็ยังเลือกที่จะทำมันซึ่งแสดงให้เห็นว่าแผนการของเขานั้นสำคัญยิ่งกว่าการขัดแย้งกับอีกสองจักรวรรดิราชวงศ์”
“ต้องทำลายแผนการนี้!”
หลิงฮันตัดสินใจ
วิธีที่ดีที่สุดคือการขโมยสมบัติไปจากที่นี่ แต่ขนาดจักรพรรดิก็ยังต้องใช้การสังเวยในการขจัดปราณชั่วร้ายเพื่อไปนำสมบัติมา แล้วเช่นนี้เขาจะไปขโมยสมบัติที่ว่ามาได้อย่างไร?
ปราณชั่วร้ายนั้นจะควบแน่นเป็นรูปร่างของมนุษย์และใช้การโจมตีการจิตวิญญาณ สมบัติที่สามารถปลดปล่อยปราณชั่วร้ายออกมาได้ขนาดนี้ หลิงฮันจะสามารถไปนำมันมาได้?
“ถ้ามีหินต้นกำเนิดสวรรค์อยู่ข้าคงลองดูแล้ว”
หลิงฮันอดรู้สึกเสียใจไม่ได้ แต่เมื่อคิดว่านี่เป็นความต้องการขององค์จักรพรรดินี หลิงฮันก็อดยิ้มไม่ได้ จักรพรรดินีนั้นได้เข้ามาอยู่ในจิตใจของเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัว
“ถ้าแย่งสมบัติมาไม่ได้งั้นข้าก็จะสร้างความอลม่านขึ้นเอง ข้าจะปลดปล่อยสิ่งมีชีวิตที่ถูกขังอยู่ในที่แห่งนี้ทั้งหมดเพื่อทำลายความต่อเนื่องของการบูชายัญและเผ่นหนีทันที เมื่อข่าวนี้ถูกส่งกลับไปยังเมืองจักรพรรดิ องค์จักรพรรดิก็จงมาแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเอง”
“ความบาดหมางระหว่างตัวตนระดับจักรพรรดิไม่การต่อสู้ที่ข้าจะมีส่วนร่วมได้”
ชะตากรรมของเขาในตอนนี้ผูกติดอยู่กับจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ ถ้าจักรพรรดิของจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ครอบครองพลังที่ทำให้เขาไร้เทียมทานที่สุดในโลก เมื่อนั้นขั้วอำนาจของดาวดวงนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงและอาจจะไม่สมดุลอีกต่อไป
อัจฉริยะเช่นเขาย่อมตกอยู่ในอันตราย สิ่งที่ผู้อยู่เผด็จการกลัวที่สุดก็คือใครสักคนที่มีศักยะภาพพอจะคุกคามตนเองได้
นอกจากนั้นเขาก็ยังมีจักรวรรดิต้าหลิงฮันอยู่ด้วย เขาไม่อาจปล่อยให้จักรวรรดิของเขาตกไปอยู่ในมือคนอื่น
“ดีล่ะ ตัดสินใจแล้ว!”
ร่างของหลิงฮันปรากฏตัวออกมาจากหอคอยทมิฬ ที่ชั้นหนึ่งนั้นมีคนเดินตรวขตราครั้งล่ะรอบ ดังนั้นต่อให้คนเดินตรวจตาหายไปก็ไม่มีใครสังเกตเห็น
เขามายืนอยู่ตรงหน้ากรงกรงหนึ่ง เขากวัดแกว่งดาบและสะบั้นลงไปตัดประตูเล็ก จากนั้นเขาได้ยิ้มและกล่าวกับนักโทษที่ถูกขังไว้ด้านใน “พวกเจ้าต้องการออกไปจากที่นี่รึไม่?”