หลังจากสุ่ยเยี่ยนยวี่ผ่านสายฟ้าสวรรค์จากการทะลวงผ่านระดับได้ หลิงฮันตัดสินใจเดินทางกลับ
พวกเขาล่าโจรสลัดได้มากพอแล้ว กลุ่มโจรสลัดมีปรมาจารย์ระดับสุริยันจันทราคอยควบคุมอยู่ ดังนั้นหลิงฮันจึงไม่กล้าลงมือให้เอิกเกริกไปมากกว่านี้ เพราะอย่างไรพลังของระดับภูผาวารีกับระดับสุริยันจันทราก็ต่างกันเกินไป
สุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่ใช่หลิงฮัน นางไม่มีกายหยาบที่ทนทาน สายฟ้าสวรรค์ยากลำบากไม่น้อยสำหรับนาง ถึงแม้นางจะผ่านไปได้ แต่ตามตัวก็ปรากฏรอยเผาไหม้ที่สาหัส
นี่ขนาดหลิงฮันให้นางยืมหินกำเนิดสวรรค์ไปแล้ว หากไม่ได้หินกำเนิดสวรรค์ช่วย สภาพของนางคงจะย่ำแย่กว่านี้
แต่ผลลัพธ์จากการทะลวงผ่านก็ถือว่าน่าพึงพอใจ
จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นกลางจะได้รับอายุขัยเพิ่มขึ้นสองแสนปี นั่นหมายความว่านางจะไม่มีร่องรอยของความแก่ชราไปอีกอย่างน้อยห้าหมื่นหรือหกหมื่นปี รูปลักษณ์ของนางจะดูเหมือนกับรุ่นเยาว์อายุยี่สิบปี
สำหรับสตรีที่งดงาม นี่คือของขวัญที่ดีที่สุดจากการบ่มเพาะพลัง
ด้วยพรสวรรค์ของนางและเม็ดยาจากหลิงฮัน บางทีในอีกหลายร้อยหรือพันปี นางคงจะสามารถบรรลุระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด เมื่อถึงตอนนั้นความชราของนางก็จะถูกเลื่อนไปอีกหลายหมื่นปี
ความรู้สึกดีใจที่แก่ช้าลงมีมากกว่าดีใจที่แข็งแกร่งขึ้นเสียอีก หลิงฮันรู้สึกว่าบุรุษกับสตรีนั้นคิดต่างกันจริงๆ เขาอดที่จะมองไปยังกระจกไม่ได้
“อืม หน้าดูอ่อนกว่าอายุ” หลิงฮันถอนหายใจ เขาที่ชีวิตที่แล้วมีอายุเกินกว่าสองร้อยปี ถึงแม้เขาจะยังห่างไกลกับคำว่าชรา แต่ตอนนี้เขากลับดูเหมือนรุ่นเยาว์ที่อายุราวๆยี่สิบห้ายี่สิบหก
“เจ้าจะเหน็บว่าข้าแก่งั้นรึ?” สุ่ยเยี่ยนยวี่ถลึงตาใส่เขา
“โอ้ ภรรยาข้า เจ้ามีส่วนใดที่แก่ชรากัน ผิวของเจ้านั้นอ่อนเยาว์เกินจะบรรยาย” หลิงฮันเรียนก็รู้วิธีประจบมาบ้าง
ทั้งสองกลับไปยังเมืองจักรพรรดิ
พวกเขาไม่เร่งรีบ หลิงฮันหลอมเม็ดยาไข่มุกนภาเอาไว้มากมาย เมื่อเขากลับไปเมืองจักรพรรดิเขาก็จะขายพวกมันและเปลี่ยนเป็นวัตถุดิบในการหลอมเม็ดยาระดับสาม
ยิ่งเม็ดมีระดับสูงขึ้น เวลาที่จะต้องหลอมก็เพิ่มขึ้นตาม แม้จะฟังดูง่ายแต่ก็มีนักปรุงยาเพียงกลุ่มน้อยที่สามารถทำได้ ในช่วงชีวิตของนักปรุงยาส่วนใหญ่นั้นสามารถหลอมได้เพียงเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่งและขั้นสองเท่านั้น
ดังนั้นตั้งแต่เม็ดยาระดับสามขึ้นไป ราคาของมันจึงพุ่งขึ้นสูงมาก
พวกเขาใช้เวลาราวๆครึ่งเดือนในการกลับเมืองจักรพรรดิและผ่านประตูเมืองด้วยสถานะของศิษย์สำนักนภาสีชาด สุ่ยเยี่ยนยวี่กลับไปยังตระกูลสุ่ยก่อนถึงถึงค่อยไปรายงานสำนักว่านางทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นกลางแล้วเพื่อที่จะย้ายไปพักยังส่วนกลางของสำนัก
หลิงฮันเองก็กลับไปยังสำนักแล้ว
เขานั้นทำตัวไม่โดดเด่นอะไร แต่หลังจากเหตุการณ์ต่างๆในสำนักนภาสีชาดและเมืองจักรพรรดิ เขาจะยังเรียกว่าไม่โดดเด่นอีกรึ? ในวันรุ่งขึ้นมีคนมากมายมาหาเขาในยามเช้า
อย่างเช่นหลีเหว่ยเหว่ย หลินยู่ หม่าซิงและสหายเก่า บางคนเองก็ต้องการชื่อเสียงและมาท้าประลองเขา
“ท้าประลองกับข้า? ย่อมได้ แต่ค่าธรรมเนียมคงต้องแพงเสียหน่อย” หลิงฮันยิ้ม
“ไม่ใช่ว่าแค่สิบผลึกก่อเกิดหรอกรึ?” เหล่าผู้ท้าประลองถาม
“นั่นมันตอนที่ข้ายังไม่มีชื่อเสียง ค่าธรรมเนียมถึงได้ต่ำ แต่ตอนนี้มันต่างกัน ไม่งั้นพวกเจ้าก็คงไม่ต้องมาต่อแถวท้าประลองข้าเช่นนี้หรอกใช่ไหมล่ะ? ถ้าพวกเจ้าไม่มีเงินก็อย่ามารบกวนข้า เตรียมผลึกก่อเกิดไว้หนึ่งหมื่นก้อนแล้วต่อแถวกัน จักรพรรดิน้อย เจ้าเป็นคนทำหน้าที่นับจำนวน” หลิงฮันกล่าวกับจักรพรรดิจอมอสูร
“โบร๊วว!” จักรพรรดิจอมอสูรตอนนี้สิงอยู่ในร่างหมาป่า มันจึงตอบรับด้วยเสียงหอน
ทุกคนโมโหทันที บางคนถึงขั้นบุกเข้าไปเพื่อเริ่มการประลองทันที แต่พวกเขาก็ถูกจักรพรรดิจอมอสูรขวางเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย จักรพรรดิอสูรในตอนนี้มีพลังต่อสู้ระดับภูผาวารีขัน้สูงสุดชั้นปลาย ในสำนักมีเพียงศิษย์แค่หยิบมือที่สามารถโค่นเขาได้
“เจ้าทึ่ม หลายวันมาที่เจ้าไปทำอะไรมา เจ้ายังเห็นเจ้านายเช่นข้าอยู่ในสายตารึไม่?” หลีเหว่ยเห่วยกล่าวอย่างอวดดีและพาดแขนกอดอก
น่าเสียดายที่หน้าอกของนางเล็กไปหน่อย แม้มันจะมีเสน่ห์แต่ก็ยังไม่สุดอยู่ดี
หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “ยินดีด้วยที่ทะลวงผ่านระดับภูผาวารีแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหลีเหว่ยเหว่ยก็มีความสุขและกล่าว “ไม่ใช่แค่นั้น คุณหนูผู้นี้ยังดูดซับผลึกภูผาวารีจนบรรลุระดับกลางขั้นต้นแล้วด้วย!” นางก็ชะงักไป “เพียงแต่ว่าข้ายังไม่เข้าใจเกี่ยวกัลพลังของระภูผาวารีแม้แต่น้อย”
“ไม่ต้องกังวล จะอย่างไรเจ้าก็ทะลวงผ่านระขั้นต้นชั้นสูงสุดมาแล้ว เจ้าค่อยๆนึกย้อนทำความเข้าใจไปก็ได้ เจ้าที่ขั้นพลังสูงขั้นต้นความยากย่อมน้อยลง” หลิงฮันปลอบใจ
หลี่เหว่ยเหว่ยจ้องไปที่เขาและกล่าว “เจ้าหมายความว่าคุณหนูผู้นี้โง่เกินไปจนทำความเข้าใจพลังตั้งแต่ขั้นต้นไม่ได้งั้นรึ?”
“เอาเถอะ!” หลีเหว่ยเหว่ยเปลี่ยนสีหน้าทันควันและกล่าว “ข้าจะบอกข่าวร้ายกับเจ้า จ้าวหลุนทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราแล้ว!”
“รวดเร็วเช่นนั้น!” หลิงฮันประหลาดใจเล็กน้อย ต่อให้เป็นอัจฉริยะเช่นจ้าวหลุนแต่แค่กสนทะลวงผ่านขั้นพลังเล็กเขาก็ต้องใช้เวลาเป็นสิบปี ดังนั้นหากจะทะลวงระดับพลังหลักยิ่งต้องใช้เวลามากขึ้นไปอีก
เหตุใดเขาถึงทะลวงผ่านระดับสุริยันจันทราได้รวดเร็วเช่นนี้?
นี่มันไร้เหตุผลเป็นอย่างยิ่ง
“จากที่ได้ยิน ดูเหมือนจอมพลจ้าวจะพบเจอเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงจากโบราณสถานที่เขาไปสำรวจ ด้วยเหตุผลนี้จอมพลจ้าวจึงบาดเจ็บสาหัสถึงขนาดที่จักรพรรดินียังตกใจ” หลีเหว่ยเหว่ยกล่าว
หลิงฮันแตะคางครุ่นคิด ข่าวนี้ไม่ใช่ข่าวดีเลยจริงๆ