หลิงฮันประหลาดใจเล็กน้อย กลุ่มห้าทมิฬลงทุนถึงขนาดไล่ล่าเขากับสุ่ยเยี่ยนยวี่?
ทั้งเขากับสุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่ผิดอะไร ที่ผิดคือกลุ่มห้าทมิฬเองต่างหากที่มาแส่หาเรื่อง เพียงเพราะเรื่องเล็กๆแค่นั้นกลุ่มห้าทมิฬถึงขั้นต้องทำให้เรื่องมันใหญ่แบบนี้เลยรึ?
“ฮ่าๆๆๆ!” เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม กลุ่มต้าเฉิงก็หัวเราะออกมา
“ยอดเยี่ยม!”
“คนที่ทำร้ายพวกเจ้าอยู่ในโรงเตี๊ยมของพวกเรา? ฮ่าๆๆ ถ้าเช่นนั้นพวกเขาก็สมควรได้รับการยกเว้นค่าเข้าพักเป็นรางวัล!”
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่ม เขาคือหัวหน้าของกลุ่มต้าเฉิงโดยมีพลีงบ่มเพาะอยู่ที่ระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด “เพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ เจ้าถึงกลับต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง?”
ชายหนุ่มที่ว่าคือเจียงอันหยุน เขาเป็นบุตรชายคนเดียวของเจียงฉีหัวหน้าของกลุ่มห้าทมิฬ
เพียงเพราะการวิวาทเล็กๆ บุตรของหัวหน้ากลุ่มห้าทมิฬถึงกลับต้องลงมือ เรื่องนี้มันไร้เหตุผลสิ้นดี
“นายน้อย เป็นชายหญิงคู่นั้น!” ชายที่พันผ้าพันแผลเอาไว้ที่แขนชี้นิ้วไปยังหลิงฮันกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ เขาคือชายร่างใหญ่ที่เคยคิดจะเก็บข้าผ่านทางจากหลิงฮันเมื่อวาน
เจียงอันหยุนมองไปยังทิศทางที่นิ่วชี้ไป เขาชำเลืองมองหลิงฮันแวบนึง สายตาเขาไม่หยุดนิ่งและมองไปยังสุ่ยเยี่ยนยวี่ ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เปิดปากและอ้าปากค้างโดยไม่รู้ตัว
งดงาม… มีเสน่ห์จนเขาแทบจะห้ามใจไม่อยู่
แม้จะเป็นความจริงที่คนของเขาถูกทำร้าย แต่ในท่าเรือขวานทรราชแห่งนี้คนที่ผิดคือคนที่อ่อนแอ หรือจะพูดง่ายๆก็คือตราบใดที่คนของพวกเขาไม่ตายหรือบาดเจ็บสาหัส กลุ่มห้าทมิฬก็จะไม่ถือสาเอาความ
เพราะใครจะไปรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ดีไม่ดีหากอีกฝ่ายเป็นทายาทของตัวตนระดับดาราล่ะก็ ไม่ต้องพูดถึงกลุ่มห้าทมิฬเลย บางทีแม้แต่ตระกูลหยางก็อาจจะถูกทำลายทิ้ง
เจียงอันหยุนเพียงแค่ได้ยินมาว่าในสองคนนี้มีคนหนึ่งเป็นสตรีที่งดงามมากก็เท่านั้นเอง
ใครจะไม่รู้บ้างว่าเจียงอันหยุนคือชายหนุ่มที่คลั่งไคล้สาวงาม แต่ไม่อาจระงับความต้องการเมื่อพบเจอกับสาวงามได้
ดังนั้นแม้เขาจะกล่าวว่านำคนมาเพื่อแพ้แค้น แต่ความจริงคือเขามาเพื่อตามหาสาวงามต่างหาก
“แค่ก! แค่ก!” เขากลับมาตั้งสติได้ก่อนจะไอสองครั้งและกล่าว “เจ้าหนู เจ้าทำร้ายคนของข้า เจ้าคิดจะชดใช้อย่างไร?”
กลุ่มต้าเฉิงยังคงไม่เคลื่อนไหว ตราบใดที่เจียงอันหยุนไม่สร้างปัญหามากเกินไป เพราะพวกเขาไม่อยากจะทำอะไรให้มันเกิดการปะทะที่รุนแรงขึ้น
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “คนของเจ้าข่มขู่ข้า เจ้าจะชดใช้อย่างไร?”
เจียงอันหยุนเค้นเสียง “เหอะ เจ้ายืนอยู่ตรงนั้นอย่างไร้บาดแผล ทำไมเจ้าต้องได้รับการชดใช้ด้วย! ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อพูดเรื่องไร้สาระกับเจ้า ส่งสตรีของเจ้ามาเป็นคู่หูให้ข้าแล้วข้าจะลืมความบาดหมางไป!”
ทุกคนอุทาน ‘โอ้’ ออกมา มิน่าทำไมเจียงอันหยุนถึงลงมือด้วยตัวเองทั้งๆที่เป็นเรื่องเล็ก ที่แท้เขาก็หวังสตรีผู้นี้เอาไว้นี่เอง
ทุกคนรู้สึกอิจฉาขึ้นมาทันที ถ้าพวกเขามีอำนาจอย่างเจียงอันหยุนพวกเขาก็อยากทำแบบนั้นเพื่อคว้าตัวสาวงามเอาไว้เหมือนกัน
สุ่ยเยี่ยนยวี่เกรี้ยวกราดและนำดาบออกมาทันที
หลิงฮันเอื้อมมือออกไปและกล่าวกับนาง “เมือมีสุนัขมาเห่าต่อหน้าเจ้า เจ้าจำเป็นต้องสนใจด้วยรึ? ไม่ต้องไปใส่ใจ ถ้าเมื่อใดที่สุนัขกัดเจ้า เมื่อนั้นเจ้าค่อยตัดหัวมันทิ้งก็ไม่สาย”
สุ่ยเยี่ยนยวี่พยักหน้าและเก็บดาบกลับไป แต่ใบหน้าของนางยังคงเต็มไปด้วยความเย็นชา
“เจ้าหนู ข้ายินดีจ่ายให้เจ้าหนึ่งล้านผลึกก่อเกิดเพื่อซื้อนาง!” เจียงอันหยุนกลืนน้ำลายและตะโกนออกไป
ฮึ่ม!
ทุกคนเย็นยะเยือกเสียวหลัง หนึ่งล้านผลึกก่อเกิดนี่เป็นเงินจำนวนที่มากขนาดไหนน่ะรึ?
โดยทั่วไปแล้ว หนึ่งผลึกก่อเกิดนั้นสามารถใช้ซื้ออตรีที่งดงามคนหนึ่งได้ ส่วนหนึ่งหมื่นผลึกก่อเกิดนั้นเพียงพอจะทำให้สตรีที่งดงามระดับภูผาวารียินยอนจะกลับบ้านกับเจ้า ส่วนหนึ่งล้านน่ะรึ?
เจียงอันหยุนช่างคลั่งไคล้สตรียิ่งนัก
หลิงฮันเค้นเสียงเย็นชา ต่อให้ขาดแคลนเงินเขาก็ไม่มีทางขายสุ่ยเยี่ยนยวี่เด็ดขาด
ในด้านของเจียงอันหยุนนั้นเขาเพียงแค่กล่าวถึงเงินจำนวนหนึ่งล้านผลึกก่อเกิดเพื่อล่อหลิงฮันให้ออกไปจากพื้นที่ของกลุ่มต้าเฉิงเท่านั้น
“ภรรยาข้า ไม่ต้องไปสนใจสุนัขโง่ตัวนั้น” หลิงฮันกล่าวกับสุ่ยเยี่ยนยวี่
สุ่ยเยี่ยนยวี่พยักหน้า นางคล้านจะให้ความสนใจกับคนประเภทนี้แล้ว ทั้งสองคนหันหลังเดินกลับเข้าโรงเตี๊ยม
เจียงอันหยุนคิดจะตามพวกเขาไปแต่ก็ถูกกลุ่มต้าเฉิงยืนเรียงบังทางเอาไว้
“นายน้อย!” คนของกลุ่มห้าทมิฬรีบเดินเข้ามาพาตัวเขากลับ ถ้าเจียงอันหยุนถูกกลุ่มต้าเฉิงจับตัวไปพวกเขาจะต้องโดนหัวเน้าเจียงฉีสังหารแน่นอน
“ปล่อยข้า!” เจียงอันหยุนคำราม เขาหลงเสน่ห์สุ่ยเยี่ยนยวี่เข้าเต็มๆ
“นายน้อย ฟังข้าก่อน!” ชายชราคนหนึ่งกล่าว “ที่ทั้งสองคนนั้นมาที่นี่ก็เพื่อต้องการไปค้นหาสมบัติในมหาสมุทร เช่นนั้นก็ได้ง่ายแล้ว พวกเราแค่ปล่อยพวกเขาไปก่อนแล้วค่อยไล่ตามพวกเขาไปที่มหาสมุทรเป็นอย่างไร?”
แววตาของเจียงอันหยุนส่องประกาย นี่เป็นความคิดที่ดีมากเขารีบตอบกลับทันที “เที่ยวเรือที่จะออกท่าเร็วที่สุดจะเริ่มออกท่าในวันพรุ่งนี้”
“นายน้อย แค่วันเดียวเท่านั้น โปรดรอก่อน” ชายชรารีบกล่าว
“งั้นก็กลับ!” สายตาของเจียงอันหยุนมองไปยังสุ่ยเยี่ยนยวี่จนนางหายไปจากสายตา เขาสะบัดมือและเดินจากไป
หนึ่งวัน… ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เพียงแต่ว่าในวันต่อมาเจียงอันหยุนก็ต้องเกิดโทสะเนื่องจากหลิงฮันกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ไม่ได้ขึ้นเรือออกมหาสมุทรแต่เลือกที่จะพักในโรงเตี๊ยมต่อ
“ทำไมพวกเขาถึงไม่ออกไปมหาสมุทรกัน?” เขาคำรามด้วยความอาฆาต
“เอ่อ ขอตอบนายน้อย บางทีพวกเขาอาจจะหวาดกลัวท่านพวกเขาถึงได้ไม่กล้าออกมหาสมุทร” ชายชรากล่าวพร้อมกับปาดเหงื่อ
“เจ้าคนไร้ประโยชน์!” เจียงอันหยุนโมโห เขาตบใส่ชายชราและกล่าว “คอยตามดูพวกเขาทั้งวันทั้งคืน ห้ามให้ทั้งสองคนหลบหนีไปได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นข้าจะถลกหนังเจ้า!”