สิบสองล้านล้านปี!
ต่อให้เป็นในหอคอยทมิฬที่สามารถลดเวลาหนึ่งพันปีให้เหลือหนึ่งปีก็ยังต้องใช้เวลาถึงสิบสองพันล้านปี หลิงฮันไม่รู้สึกว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้นานขนาดนั้น
มีคำกล่าวว่าต่อให้เป็นตัวตนระดับสร้างสรรค์พสิ่งก็ยังมีอายุขัยที่จำกัด
แม้จะถูกเรียกว่าจอมยุทธระดับพระเจ้า แต่นั่นก็หมายถึงการที่เหล่าจอมยุทธนั้นแข็งแกร่งและมีอายุขัยที่ยาวนาน พวกเขาไม่ใช่พระเจ้าจริงๆ
หอคอยน้อยสั่นไหวเล็กน้อยและกล่าว “สมบัติทั้งตัวของเจ้าแม้จะนำมารวมกับก็เทียบไม่ได้กับต้นสังสารวัฎ เจ้าต้องนำมันมาให้ได้!”
“นำมันมาข้าก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี” หลิงฮันส่ายหัว
“ใครบอกเจ้าแบบนั้น?” หอคอยน้อยกล่าว “ข้ามีวิธีเพาะปลูกมัน!”
“…สิบสองล้านล้านปีน่ะรึ?” หลิงฮันตกตะลึง
“ขอเวลาสามปี ข้าจะทำให้มันงอกเงยแล้วเจ้าจะสามารถดูดซับพลังวิญญาณจากมันได้” หอคอยน้อยกล่าวอย่างไม่แยแส
“นี่เจ้าสามารถใช้อำนาจแห่งกาลเวลาได้!” หลิงฮันคาดเดาได้อย่างรวดเร็ว “ทำไมเจ้าไม่ใช้มันกับข้า ทำให้ข้าฝึกฝนสามวันโดยมีผลสามแสนปี หลังจากนั้นข้าจะไปจัดการพวกบัดซบที่มุ่งร้ายข้า!”
“พลังของข้าฟื้นฟูกลับมาเพียงเศษเสี้ยว ข้าสามารถใช้อำนาจกฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติได้เพียงครั้งเดียว หากต้องใช้กับเจ้า… มันเสียของเปล่า!” หอคอยน้อยกล่าว
หลิงฮันถอนหายใจ “เจ้าพูดเช่นนั้นไม่กลัวว่ามันจะกระทบหัวใจอันบอบบางของข้าหรอกรึ?”
“เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับข้า!” หอคอยน้อยกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
หลิงฮันเลิกคิดฟุ้งซ่าน ในเมื่อหอคอยน้อยมีความสามารถเช่นนั้น เขาก็ต้องนำต้นสังสารวัฎมาให้ได้
“หนึ่งล้านห้าแสน!” เขาครุ่นคิดและเสนอราคาเพิ่มไปถึงครึ่งนึงของราคาต้น
ด้วยราคานี้ ผู้คนที่คิดจะประมูลแย่งก็ลดลงอย่างมาก
เพราะอย่างไรก็ไม่มีใครสามารถรอจนต้นสังสารวัฎเติบใหญ่ได้ ต่อให้เป็นลูกหลานของพวกเขาก็คงรอไม่ไหวเช่นกัน
“สองล้าน!” หลิงฮันเสนอราคาเพิ่มขึ้นอีก
เมื่อราคานี้ถูกเสนอก็ไม่มีใครกล้าแข่งกับเขาอีก
ต่อให้เป็นจ้าวหลุนที่เกลียดหลิงฮัน เขาก็ยังหวั่นที่จะกลั่นแกล้งเพิ่มราคาเพราะเกรงกลัว่าต้องเป็นคนจ่ายแทน
คนอื่นไม่มีหอคอยทมิฬ พวกเขาไม่มีทางคิดถึงแน่ว่าในโลกนี้จะมีสมบัติที่สามารถทำให้เวลาสิบสองล้านล้านปีลดเหลือเพียงสองถึงสามปี
“สองล้านครั้งที่หนึ่ง”
“สองล้านครั้งที่สอง”
“สองล้านครั้งที่สาม ปิดการขาย!”
ชายชรารู้สึกเสียดายเล็กน้อย สิ่งที่เขานำมาประมูลเป็นถึงต้นสังสารวัฎ มันสมควรจะขายได้ถึงร้อยล้านผลึกเป็นอย่างน้อย โชคไม่ดีที่เพราะต้นไม้ชนิดนี้ต้องใช้เวลาเติบโตนานทำให้มันแทบจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีราคา
หลิงฮันยิ้มอย่างพึงพอใจ หลังจากนี้อีกสองถึงสามปีเขาจะมีต้นสังสารวัฎที่ช่วยพัฒนาจิตวิญญาณของเขาได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ต้องรู้ก่อนว่าถึงแม้เขาจะเป็นจักรพรรดิปรุงยา แต่เม็ดยาส่วนใหญ่สามารถช่วยเพิ่มพัฒนาได้เพียงพลังปราณหรือพลังกาย แต่ด้วยต้นสังสารวัฎ เขาเชื่อว่าต่อให้เป็นหมูก็สามารถบ่มเพาะพลังไปจนถึงระดับสร้างสรรพสิ่งได้
“มันไม่ได้สะดวกสบายเช่นนั้น ยิ่งดูดซับพลังของต้นสังสารวัฎมากเท่าไหร่ หรือมีจำนวนคนในดูดซับมาก มันก็ยิ่งเผาผลาญพลังของต้นสังสารวัฎมากเช่นกัน” หอคอยน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
หลิงฮันถลึงตาและกล่าว “ทำไมเจ้าไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้?”
“เพราะว่าข้ากลัวว่าเจ้าจะไม่ซื้อไงล่ะ”
“เจ้า!” หลิงฮันชะงักก่อนจะส่ายหัว
การประมูลดำเนินต่อไป หลิงฮันไม่แย่งชิงสมบัติชิ้นอื่นๆกับหลี่เหว่ยเหว่ยและจื่อหยุนเอ๋อ ถึงแม้เขาจะอยากได้พวกมันแต่ในฐานะสหายแน่นอนว่าเขายินยอม
เขาซื้อเม็ดยาและสมุนไพรบางอย่างมาด้วยเช่นกันจนตอนนี้เงินจำนวนสี่ล้านผลึกก่อเกิดเหลือเพียงหนึ่งแสนผลึก
หลังจากการประมูลเสร็จสิ้น ทางหอประมูลก็นำสมบัติมามอบให้พวกเขา
หลังจากจ่ายเงินเสร็จหลิงฮันก็ไปยังคลังของจักรวรรดิเพื่อถอนผลึกจำนวนหนึ่งแสนที่เหลืออยู่ออกมา
เขาคิดจะกลับไปสำนัก แต่เขาก็พบกับสตรีที่เดินมาหาเขาและหยุดเขาเอาไว้ “คุณชายหลิง นายน้อยของข้าอยากพบกับท่าน!”
“นายน้อยของเจ้าคือใคร?” หลิงฮันถาม
“นายน้อยชาหยวน” สตรีผู้นั้นกล่าว นางคือองครักษ์ของชาหยวนที่ชื่อเหลี่ยวหยิง
ชาหยวน?
หลิงฮันไม่รู้ว่าชาหยวนคือใคร แต่หลังจากถามหลี่เหว่ยเหว่ย เขาก็นึกออกมาชาหยวนคือชายที่เข้ามาชักจูงไม่ให้จ้าวหลุนสังหารเขา
เขาไม่มีความประทับใจที่ดีกับชายคนนี้เท่าใด แต่หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่เขาก็กล่าวออกไป “นำทางไป”
“เชิญคุณชายหลิง!” เหลี่ยวหยิงหันหลังและเดินนำทาง
ทั้งสองเดินไปได้สักพักก็มาถึงร้านอาหารร้านหนึ่ง ถึงแม้เวลานี้จะเป็นช่วงกลางดึกแล้ว ธุรกิจร้านอาหารก็ยังคงมีผู้คนเข้าออกอย่างคึกคัก
เมื่อเห็นเหลี่ยวหยิง ผู้คนในร้านอาหารก็ก้มหน้าไม่กล้ามองมายังพวกเขา
นางคือสาวใช้ของชาหยวน ถ้ามองไปที่นางถึงสองครั้ง อาจจะเกิดปัญหาได้
เหลี่ยวหยิงนำหลิงฮันไปยังห้องอาหารที่ชั้นสาม หลังจากเคาะประตูนางก็กล่าว “นายน้อย คุณชายหลิงฮันมาถึงแล้ว”
“เข้ามาได้” เสียงของชายหนุ่มดังมาจากในห้อง
เหลี่ยวหยิงเปิดประตูและให้หลิงฮันเดินเข้าไปก่อน
หลิงฮันเป็นแขก เขาเดินเข้าไปในห้องและพบเห็นชาหยวนที่กำลังดื่มกิน ซ้ายขวาของเขาแต่ละด้านมีสตรีที่งดงามนั่งขนาบอยู่
ด้านหลังชายหนุ่มมีสตรีอีกสามคนอยู่ยืน พวกนางทั้งงดงามและมีสีหน้าเย็นชาราวกับรูปปั้นหิน
“ฮ่าๆๆ เชิญนั่งเลยๆ!” ชาหยวนไม่ลุกขึ้นยืน เขาชี้นิ้วไปยังเก้าอี้ตรงข้ามในขณะที่กล่าวกับหลิงฮัน
นี่น่ะรึการต้อนรับ?
หลิงฮันเก็บความรู้สึกไม่พอใจเอาไว้ในใจ เขายังคงนั่งลงและอย่างจะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรจากเขา
“ข้าไม่อยากจะอ้อมค้อมให้มากความ ข้าต้องการทักษะขัดเกลากายหยาบของเจ้า” ชาหยวนไม่กล่าวต้อนรับอะไร “เจ้าต้องการผลึกก่อเกิดเท่าไหร่ข้าจะจ่ายให้เจ้า!”