หลิงฮันไม่เห็นด้วยกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ เขาหยิบผลึกภูผาวารีออกมาและเริ่มดูดซับมันโดยตรง
แต่ผลึกภูผาวารีที่เขานำออกมาไม่ใช่ผลึกภูผาวารีที่เขาเพิ่งได้รับมา แต่เป็นผลึกภูผาวารีที่ได้รับมาจากกลุ่มเจ็ดคนที่เขาได้สังหารไป มันมีทั้งหมดสองก้อน แต่เขาไม่รีบที่จะดูดซับมัน
เมื่อเห็นหลิงฮันดูดซับผลึกภูผาวารีในที่สาธารณะ คนอื่นอยากจะกระโจนเข้าไปแย่งผลึกภูผาวารีจากเขาเหลือเกิน
แต่โชคดีที่พวกเขาเห็นว่ามันเป็นแค่ผลึกภูผาวารีธรรมดา พวกเขาจึงอดใจเอาไว้ได้
ผลึกภูผาวารีธรรมดาจะช่วยให้จอมยุทธประหยัดเวลาฝึกฝนบ่มเพาะพลังเท่านั้น แม้ว่ามันจะมีค่ามาก แต่สำหรับอัจริยะแล้วพวกเขาไม่ได้ขาดแคลนเวลา ซึ่งมีเพียงแค่ผลึกภูผาวารีที่มีคุณสมบัติพิเศษเท่านั้นถึงจะเรียกว่าสมบัติ เพราะมันจะช่วยยกระดับพลังต่อสู้ของพวกเขาได้
นอกจากนั้นมีสองเหตุผลที่เขาหลีกเลี่ยงคือความแข็งแกร่งของหลิงฮันและตัวตนของหูเฟยหยินที่เป็นราชินีที่เก้า
เมื่อคำนึงถึงความโปรดปรานที่จักรพรรดินีมีให้ต่อราชินีที่เก้าแล้ว ใครจะกล้าทำตัวหยาบคายกับนาง?
อย่าว่าแต่ผู้คนจากจักรวรรดิราชวงศ์จันทราหายนะเลยที่ไม่กล้าทำตัวหยาบคายกับนาง แม้แต่ผู้คนจากจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ และจักรวรรดิราชวงศ์นภาสีครามก็ยังไม่กล้า และหากราชินีที่เก้าตกอยู่ในอันตราย พวกเขาทุกคนก็จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือนาง นั่นเป็นเพราะพวกเขาทุกคนรู้ว่าหากราชินีที่เก้าตายที่นี่ จักรพรรดินีจะต้องโกรธเกรี้ยวมากเป็นแน่และสังหารทุกคนที่นี่
จักรพรรดินีจะต้องทำเช่นนั้นอย่างแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย
ยิ่งไปกว่านั้น หลิงฮันยังเป็นคนที่น่าสะพรึงกลัวในสายตาของทุกคนด้วย
นี่เป็นเรื่องที่บ้าและประมาทเกินไปในสายตาคนอื่น แต่หลิงฮันกับผ่อนคลาย เพราะไม่มีใครรู้ว่ากายหยาบของเขาเทียบเท่ากับแร่เหล็กระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สองแล้ว แล้วใครจะสามารถทำร้ายเขาได้?
ในมือของหลิงฮันผลึกภูผาวารีเริ่มส่องแสงและแผ่ขยายกว้างอย่างรวดเร็ว
จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้นจะสามารถดูดซับได้อย่างรวดเร็ว เมื่อแสงของผลึกภูผาวารีเริ่มสลัวและกลายเป็นผุยผง เงาของภูเขาลูกแรกในตันเทียนของหลิงฮันขยายใหญ่ขึ้นมากว่าเดิมหนึ่งร้อยเท่า ในที่สุดมันก็มีรูปร่างเป็นภูเขาสักที
“นี่คือระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุด?” หลิงฮันพูดในใจ เห็นได้ชัดว่าภูผาวารีของเขาเป็นรูปเป็นร่างแล้ว แต่ทำไมมันถึงยังเล็กอยู่?
นี่เป็นเพราะข้าใช้ผลึกภูผาวารี?
ช่างมันเถอะ ไม่ว่าจะเกิดอะไร ตราบใดที่ข้าแข็งแกร่งขึ้นผลลัพธ์จะยังไงก็เหมือนกัน
หลิงฮันลุกขึ้นยืนและลองข้ามทะเลสาบอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาไปถึงแผ่นหินที่หกสิบได้ภายในหนึ่งลมหายใจ และเริ่มชะลอความเร็วลง หลังจากที่ระดับพลังของเขาก้าวหน้า มันทำให้เขาก้าวหน้าขึ้นมาก แต่หลังจากที่ไปถึงแผ่นหินก้อนที่เก้าสิบ เขาก็ไม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้อีกต่อไป แล้วตกลงไปในทะเลสาบอย่างกะทันหัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ใครบางคนส่งเสียงหัวเราะออกมาทันทีพร้อมกับปรบมือ
แต่ทันใดนั้นเอง สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
เพราะหลิงฮันหมุนแขนและว่ายน้ำไปที่เกาะ
สัตว์ประหลาด! เขาจะสัตว์เป็นประหลาดอย่างแน่นอน!
เพราะมันเป็นเรื่องยากและยากกว่าเดิมหลายร้อยเท่า
แค่เดินไปให้ถึงเกาะกลางทะเลสาบก็นับว่ายากแล้ว แต่นี่เขากลับว่ายน้ำอยู่ในทะเลสาบที่มีพลังกัดกร่อนน่าสะพรึงกลัว
ยิ่งไปกว่านั้น…แม้ว่าหลิงฮันจะตกลงไปในน้ำ แต่ร่างกายของเขากลับไม่ละลาย!
นี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก กายหยาบของเขาแข็งแกร่งแค่ไหนกันถึงต่อต้านพลังกัดกร่อนของทะเลสาบนี้ได้?
หลิงฮันว่ายน้ำอยู่สักพักหนึ่ง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะว่ายไปให้ถึงเกาะกลางทะเลสาบ และทำได้แค่ว่ายกลับเข้าฝั่งอย่างไม่เต็มใจพร้อมกับเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งก่อนที่จะหลุดแล้วเผยให้เห็นผิวหนังที่เปล่งปลั่งไร้บาดแผล
หลิงฮันรีบหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาแล้วใส่มันอย่างรวดเร็ว สาเหตุที่ร่างกายของเขาไร้บาดแผลไม่ใช่เพราะกายหยาบที่แข็งแกร่งของเขาเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะเขาโคจรทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ด้วย ดังนั้นน้ำในทะเลสาบจึงไม่สามารถทำอะไรเขาได้
“ทำไมพวกเจ้าต้องมองข้าตาโตขนาดนั้นด้วย?” หลิงฮันหัวเราะ ตอนนี้ดวงตาของสุ่ยเยี่ยนยวี่และหูเฟยหยินเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
พวกนางจะไม่ตกใจได้อย่างไร ทั้งที่พลังกัดกร่อนของทะเลสาบน่าสะพรึงกลัวขนาดนั้น ใครก็ตามที่ตกลงไปต่างขึ้นมาด้วยสภาพสยดสยอง แต่หลิงฮันกลับว่ายน้ำเล่นและไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย แล้วนี่จะไม่ทำให้พวกนางตกใจได้อย่างไร?
แม้แต่คนอื่นก็รู้สึกตกตะลึงเช่นกัน โชคดีที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้เข้าไปหาเรื่องหลิงฮัน กายหยาบของเขาแข็งแกร่งมาก แล้วใครจะสามารถทำให้เขาได้รับบาดเจ็บได้?
หลิงฮันนั่งลงอีกครั้งและนำผลึกภูผาวารีก้อนสุดท้ายออกมา
หลังจากที่ดูดซับพลังจากมันจนหมด เขาน่าจะไปถึงเกาะกลางทะเลสาบ
เขาไม่ลังเลที่จะดูดซับผลึกภูผาวารีและเริ่มดูดซับมันทันที
ครึ่งวันต่อมา ผลึกภูผาวารีในมือก็กลายเป็นผุยผงอีกครั้ง
ในช่วงเวลานั้น มีหลายคนแห่กันมาถึงที่นี่ แต่ก็มีบางคนที่จากไปจากที่นี่อย่างสิ้นหวังเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นเองอัจฉริยะที่มาจากจักรวรรดิราชวงศ์สวรรค์นิรันดร์ ที่เป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูง และยังเป็นอัจฉริยะระดับสามดาวด้วย หลังจากที่พยายามอยู่หลายครั้ง ในที่สุดเขาก็ได้รับผลึกภูผาวารีแรงโน้มถ่วง
ดังนั้นถ้าต้องการไปให้ถึงเกาะกลางทะเล สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่พลังต่อสู้ – เพราะมีหลายคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาอยู่ที่นี่ แต่ในปัจจุบันมีเพียงแค่เขากับหลิงฮันเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ
ชายที่ชื่อโหยวเฮ่าไม่เพียงแค่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังมีชายชราสองคนคอยคุ้มกันเขาอยู่รอบข้างด้วย ซึ่งชายชราทั้งสองคนแข็งแกร่งมากถึงขั้นไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหว
โหยวจ้าวส่งเสียงหัวเราะและหันไปมองทิศทางทั้งสี่อย่างภาคภูมิใจ
ทุกคนต่างรู้ว่าการที่ไปถึงเกาะกลางทะเลสาบได้นั้นเป็นเรื่องที่น่าทึ่งแค่ไหน ทุกครั้งที่เขตแดนลี้ลับเปิดจะมีเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้นที่ไปถึง ซึ่งเขายังไม่ได้แก่เฒ่าและไม่ได้ใช้ทักษะลับด้วย
นี่ถือว่าเป็นการทดสอบที่แท้จริง!
“นายน้อย พวกข้าขอแสดงความยินดีด้วย!” ชายชราทั้งสองกล่าวชมเขาด้วยสีหน้ามีความสุข
โหยวเฮ่ารู้สึกพึงพอใจ แต่ในไม่ช้าสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ถึงแม้จะมีคนมองมาที่เขาด้วยสีหน้าตกตะลึง แต่ก็มีหลายคนที่มีใบหน้านิ่งเฉย ราวกับมองไม่เห็นความสำเร็จของเขา
คนพวกนี้ตาบอดหรือไม่?
ที่เขาไม่รู้คือหลิงฮันประสบความสำเร็จก่อนเขา ถึงแม้ครั้งที่สองเขาจะไม่ประสบความสำเร็จก็ตาม แต่มันก็น่าทึ่งอยู่ดี
ในขณะนั้นเอง หลิงฮันลุกขึ้นยืน ในตอนนี้เขามาถึงจุดสูงสุดของระดับภูผาวารีขั้นต้นแล้ว
เมื่อโหยวเฮ่าเห็นช่วยไม่ได้ที่เขาจะแสยะยิ้ม เขาเพิ่งไปถึงเกาะกลางทะเลสาบสำเร็จ แต่เจ้าเพิ่งจะนั่งบ่มเพาะพลังเสร็จเนี่ยนะ!