เก้าสิบห้าก้าว เก้าสิบหกก้าว เก้าสิบเจ็บก้าว
ยิงเข้าใกล้เกาะ การก้าวขาก็ทำได้ยากขึ้น
เก้าสิบแปดก้าว เก้าสิบเก้าก้าว!
หลิงฮันรีดเค้นพลังเล็กน้อยเพื่อก้าวขาก้าวสุดท้ายออกไป
เมื่อเท้าสัมผัสกับเกาะ แรงโน้มถ่วงที่ถาโถมเข้ามาก็สลายหายไป
เกาะที่ว่านั้นมีขนาดเล็กมาก พื้นที่มีขนาดราวๆสองฟุตเท่านั้นราวกับว่ามันเป็นเพียงโขดหินที่ถูกตัดปลาย บนเกาะแห่งนี้มีผลึกภูผาวารีหลายสิบก้อนวางเรียงอยู่
จะสามารถหยิบผลึกไปสองก้อนหรือมากกว่านั้นในครั้งเดียวได้รึเปล่า?
หลิงฮันโค้งตัวก้มหยิบผลึกภูผาวารี แต่เมื่อเขาหยิบได้หนึ่งก้อนเขาก็ถูกพลังงานบางอย่างของเกาะผลักเขาลอยกระเด็นกลับไปที่ชายฝั่ง
หลังจากร่วงลงสู่ชายฝั่งหลิงฮันก็อดย้อนกลับมาคิดไม่ได้ว่าถ้าเมื่อครู่เขาใช้ทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตคว้าผลึกภูผาวารีก้อนอื่นเอาไว้ มันจะเป็นไปได้หรือไม่?
ในตอนนี้มีผู้คนมากมายจับจ้องมายังหลิงฮัน
เพียงแค่ผลึกภูผาวารีธรรมดาก็ทำให้ผู้คนเกิดความโลภแล้ว ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังสยบความคิดจะแย่งชิงเอาเอาไว้ได้ แต่ตอนนี้มันต่างออกไป ผลึกภูผาวารีที่หลิงฮันได้มามีความสามารถพิเศษใงเอาไว้!
ผลึกภูผาวารีที่มีความสามารถพิเศษจะช่วยเพิ่มพลังต่อสู้ให้แก่จอมยุทธอย่างถาวร มันสามารถทำให้อัจฉริยะหนึ่งดาวกลายเป็นอัจฉริยะสองดาว และสามารถทำให้อัจฉริยะสองดาวเป็นอัจฉริยะสามดาวได้
แล้วแบบนี้ใครจะควบคุมความโลภไหว?
“มอบผลึกภูผาวารีมาซะ!” ชายชราผู้หนึ่งเป็นคนกล่าวเริ่ม ตัวเขาเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสุด หากใช้ทักษะลับของตัวเขา เขามั่นใจว่าพลังต่อสู้ของเขาจะสามารถบดขยี้หลิงฮันได้อย่างสมบูรณ์
หลิงฮันเก็บผลึกภูผาวารีเข้าไปในหอคอยทมิฬก่อนจะกล่าว “งั้นเจ้าก็คงต้องมีความสามารถพอ!”
โลกของจอมยุทธนั้นวัดกันที่พลังมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“เจ้าหนู อย่ามั่วทำอะไรไร้สาระ” จอมยุทธหลายคนก้าวเข้ามา พวกเขาล้วนแต่เป็นคนจากรุ่นอาวุโส ตอนนี้มีแค่พวกเขาที่มีพลังต่อสู้เทียบเท่าระดับภูผาวารีขั้นกลางเท่านั้นที่มีคุณสมบัติจะปะทะหลิงฮัน
ในที่นี้มีจอมยุทธเช่นนั้นยี่สิบสองคน แต่คนที่ก้าวเดินออกมามีแค่เจ็ดคน ที่บางคนไม่เดินออกมาเป็นเพราะพวกเขาคิดว่าแค่เจ็ดคนก็เพียงพอแล้ว
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ทำไมพวกเจ้าต้องรีบด้วย? ไว้ข้าไปนำผลึกก้อนอื่นมาก่อนพวกเจ้าค่อยมาช่วงชิงไปเป็นอย่างไร?”
ตึง!
สายตาของทุกคนจดจ้องมายังหลิงฮัน รุ่นเยาว์ผู้นี้บ้ารึเปล่าที่พูดเช่นนั้นออกมา?
เหล่าจอมยุทธรุ่นอาวุโสมองหน้ากันและพยักหน้า จะอย่างไรหลิงฮันก็หนีไปไหนไม่รอดอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงตกลงกันว่าจะยอมให้หลิงฮันไปนำผลึกภูผาวารีมาเพิ่ม
“ทิ้งผลึกภูผาวารีเอาไว้ แล้วเจ้าค่อยไปลองครั้งต่อไป” ชายชรากล่าวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโลภ
ถ้าหากเขาได้ผลึกภูผาวารีชนิดพิเศษมาล่ะก็ จะนับว่าเป็นวาสนาครั้งใหญ่หลวง แม้ตัวเขาเองจะไม่มีช่องว่างให้พัฒนาแลว แต่เขามีหลานที่มีพรสวรรค์อยู่คนหนึ่ง ด้วยการช่วยเหลือของผลึกภูผาวารีชนิดพิเศษ บางทีหลานของเขาอาจจะกลายเป็นอัจฉริยะสองดาวได้
หลิงฮันไม่ต้องการจะเสียเวลากับคนเฒ่าคนแก่พวกนี้
เขานำคันศรและลูกศรออกมาพร้อมกับเล็งไปยังชายชรา
ทันใดนัน้เองทุกคนก็รู้สึกเย็นยะเยือกจากก้นบึ้งของจิตใจ ความรู้สึกหนาวเย็นนี้ไม่ได้มาจากเขตแดนลี้ลับแต่มาจากความหวาดกลัว
หลิงฮันกล่าว “แม้ข้าจะไม่เชี่ยวชาญด้านการยิงธนู แต่ข้ามั่นใจว่าถ้าข้ายิงศรนี้ออกไปใครสักจะต้องตกตายแน่ มีใครอยากลองบ้าง?”
ไม่มีใครกล้าผลีผลามลงมือ แม้พวกเขาจะมั่นใจในพลังของตัวเอง แต่พลังอำนาจที่ลูกศรปลดปล่อยออกมานั้นทำให้พวกเขาไม่มีใครกล้าลองดี
“ตอนนี้ยังมีใครต้องการออกคำสั่งกับข้าอยู่รึไม่?” หลิงฮันมองไปยังฝูงชน เมื่อปลายของคันศรถูกชี้ไปยังทิศทางหนึ่งคนที่ถูกชี้ก็เหงื่อไหลท่วมตัว
ทุกคนรู้ว่าถึงแม้ลูกศรของหลิงฮันจะมีพลังทำลายที่น่าสะพรึงกลัว แต่หลิงฮันไม่สามารถยิงคันศรที่ว่าได้หลายนัดแน่นอน ด้วยจำนวนของปรมาจารย์ยี่สิบกว่าคนย่อมสามารถสยบหลิงฮันได้
แต่คำถามก็คือใครจะยอมเสียสละถูกคันศรยิง?
ทุกคนไม่ใช่ญาติพี่น้อง ทำไมข้าต้องเสียสละชีวิตเพื่อพวกเจ้าด้วย? ต่อให้เป็นตระกูลเดียวกันหากไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็ไม่มีใครต้องการเสียสละอยู่ดี
เหล่าจอมยุทธรุ่นอาวุโสค่อยเขยิบถอยหลัง ณ ตอนนี้พวกเขาไม่คิดจะลงมือกับหลิงฮัน แต่สถานการณ์เช่นนี้จะคงอยู่ไปได้นานแค่ไหนนั้นก็เป็นอีกเรื่อง ถ้าหากมีโอกาสพวกเขาจะไม่นิ่งเฉยแน่นอน
หลิงฮันเก็บคันศรและลูกศรกลับไป ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไม่ต้องการเปิดเผยความลับเรื่องหอคอยทมิฬแก่คนเหล่านี้ เขาคงหลบเข้าหอคอยทมิฬไปแล้ว
เขาเริ่มเดินข้ามทะเลสาบอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้แค่ก้าวเท้าไปก้าวแรกเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าแรงโน้มถ่วงที่ถาโถมเข้าใส่นั้นรุนแรงเท่ากับก้าวที่แปดสิบของเมื่อครั้งก่อน เมื่อเขาเดินไปได้ราวๆสามสิบก้าวเขาก็ต้องล่าถอย
เมื่อเห็นหลิงฮันเดินกลับมา ใครบางคนก็แสดงท่าทีโล่งอก ในขณะที่ก็มีใครบางคนแสยะยิ้มเยาะเย้ย
“เจ้าสามารถครอบรองผลึกภูผาวารีได้ก้อนเดียวเท่านั้น เจ้าไม่อาจเทียบกับศิษย์พี่จ้าวได้”
“นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ศิษย์พี่จ้าวคืออัจฉริยะสุดแกร่งในรอบพันปี ในอนาคตเขาจะกลายเป็นตัวตนระดับดาราได้อย่างแน่นอน!”
“เหอะ ส่วนเจ้าเป็นเพียงมดปลวกจากโลกใบเล็ก!”
หลายคนสบถคำด่าออกมากเวยสายตาแดงฉาน
สุ่ยเยี่ยนยวี่และหูเฟยหยินเดินเข้ามา หูเฟยหยินกล่าว “ไม่ต้องผิดหวังไป ยังไงเจ้าก็ได้รับผลึกภูผาวารีมาแล้ว แถมเจ้าก็ยังเพิ่งทะลวงผ่านระดับภูผาวารีด้วย รอให้เจ้าบรรลุระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดได้เมื่อไหล่เจ้าจะไม่อ่อนแอไปกว่าจ้าวหลุนแน่นอน”
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “คุ้มกันข้าหน่อย ข้าจะดูดซับผลึกภูผาวารีและลองอีกครั้ง”