หลิงฮันเดินออกมาจากสวนและเห็นเซียงเฉิงหยินกำลังยืนรอเขาอยู่ที่ประตู เมื่อเขาเห็นหลิงฮันเดินออกมา ช่วยไม่ได้ที่เขาจะเผยสีหน้าที่เย็นชาใส่ เขาไม่ได้รอหลิงฮันเพื่อพูดคุยแต่อย่างใด
“จริงสิ!” เขาขึ้นมาและเดินเข้าไปในสวนอย่างรวดเร็ว
เห็นได้ชัดว่าเขาถูกผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายเรียกมา
หลิงฮันอดที่จะส่ายหัวไม่ได้ ในความเป็นจริงเซียงเฉิงหยินก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะเช่นกัน ความสำเร็จของเซียงเฉิงหยินตอนที่ยังอยู่ในสำนักค่อนข้างเป็นที่น่าจับตามอง เขาใช้เวลาเพียงแค่เจ็ดร้อยปีเท่านั้นก็ทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นสูงสุดแล้ว แต่เขาก็ออกจากสำนักและติดตามผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย
หากเป็นหลิงฮันเขาจะไม่ทำเช่นนั้น
“สำหรับจอมยุทธสิ่งสำคัญที่สุดคือการฝึกฝน ท้ายที่สุดการติดตามใครไม่ใช่วิธีการของผู้ที่จะเป็นใหญ่” หลิงฮันคิดอยู่ในใจ เส้นทางของเขา เขาจะเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง ทำไมต้องให้คนอื่นมากำหนดด้วย?
หลังจากนั้น หลิงฮันก็กลับไปที่สำนักและเริ่มฝึกฝนทักษะหกธาตุต่อ
หลังจากได้คำแนะนำจากผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย ทำให้หลิงฮันมั่นใจว่าตัวเวลาครึ่งปี เขาจะมีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบดาว
วันต่อมา ข่าวที่น่าตกตะลึงได้ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วสำนัก
หลิงฮันและสุ่ยเยี่ยนยวี่เป็นคู่รักกัน และพวกเขาได้วางแผนที่จะแต่งงานกันแล้ว!
ข่าวดังกล่าวทำให้ทั้งสำนักต้องเดือดพล่าน
หลิงฮันคือใคร? ผู้คนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าเขาคืออันดับหนึ่งของการทดสอบเข้าร่วมสำนักฝ่ายเหนือ หลังจากที่ผ่านหอคอยได้แปดชั้น เขาจึงมีโอกาสที่จะเป็นอัจฉริยะระดับสี่ดาวในอนาคต
อย่างไรก็ตาม สุ่ยเยี่ยนยวี่นั้นผิดกับหลิงฮัน นางเป็นคนที่มีชื่อเสียงมาก
นั่นเป็นเพราะนางเป็นหนึ่งในสาวงามของเมืองจักรพรรดิเมื่อยี่สิบปีก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไปสาวงามคนอื่นก็เข้ามาแทนที่นาง ท้ายที่สุดดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ได้ขาดแคลนสาวงาม
แต่ถ้าจะให้ร่ายชื่อสาวงามในช่วงสิบปีที่ผ่านมา สุ่ยเยี่ยนยวี่จะต้องมีชื่ออยู่ในสามอันดับแรกอย่างแน่นอน และถ้าได้อันดับแรกก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจได้อย่างใด
ความงามของนางเปรียบได้กับเทพธิดาและบริสุทธิ์เหมือนลูกพีช!
ความงามของนางทำให้หัวใจของทุกคนต้องหวั่นไหว มิเช่นนั้นจ้าวหลุนจะอยากได้นางเป็นแม่ของลูกไปทำไม?
ยิ่งไปกว่านั้น เหตุผลที่ทำให้ชื่อเสียงของสุ่ยเยี่ยนยวี่โด่งดังขึ้น นั่นเป็นเพราะจ้าวหลุน บุตรชายแห่งแม่ทัพจ้าวที่เป็นอัจฉริยะในประวัติศาสตร์ของสำนัก ทุกคนต่างรู้ว่าเขาหมายปองสุ่ยเยี่ยนยวี่มากแค่ไหน แต่ตอนนี้กลับมีคนแย่งคนรักของเขาอย่างนั้นหรือ?
เขาเป็นใครกัน ถึงได้กล้าหาญขนาดนั้น!
จากนั้นข้อมูลทั้งหมดของหลิงฮันก็เริ่มถูกขุดขึ้นมา
—— อันดับหนึ่งในสำนักฝ่ายเหนือของปีนี้
– ผ่านหอคอยได้แปดชั้น
– เป็นนักปรุงยา
– มาจากโลกใบเล็ก
– เปิดสวรรค์ขึ้นมา!
ข้อมูลสุดท้ายมันน่าทึ่งมาก เพราะคนส่วนใหญ่คิดว่าการเปิดสวรรค์เป็นเพียงแค่ตำนานเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปิดสวรรค์ จอมยุทธจากโลกใบเล็กจะต้องทะลวงผ่านระดับทลายมิติยี่สิบดาวก่อนถึงจะทำเช่นนั้นได้ ไม่แปลกใจเลยที่เขาสามารถผ่านหอคอยได้แปดชั้นและกลายเป็นอัจฉริยะอันดับต้นๆ
ทว่าข้อมูลดังกล่าวเมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลจ้าวต่างเป็นเรื่องเท็จทั้งหมด
หลิงฮันพักอยู่ในคฤหาสน์ของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายเท่านั้น เว้นแต่เขาจะมีผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายเป็นผู้ปกครอง แล้วเขาจะมีคุณสมบัติที่จะแข่งขันกับบุตรชายของแม่ทัพจ้าวได้อย่างไร?
หลายคนกำลังตั้งหน้าตั้งตารอว่าหลิงฮันจะลงเอยยังไง เพราะจ้าวหลุนเคยประกาศต่อหน้าสาธารณะแล้วว่า เมื่อเขาเรียนจบจากสำนัก เขาจะแต่งงานกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ ซึ่งตระกูลสุ่ยก็เห็นชอบด้วย
“เจ้าโง่หลิง เจ้าโง่หลิง!” หลี่เหว่ยเหว่ยรีบวิ่งมาหาด้วยความตื่นเต้น “เจ้าหมั้นกับพี่สาวสุ่ยแล้วรึ?”
หลิงฮันรีบหันไปมองหลี่เหว่ยเหว่ยทันที ไม่ใช่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสุ่ยเยี่ยนยวี่คือคู่รักกันหรอกรึ? เขาเลยถามนางไปว่า “เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน?”
“ข้าไม่เข้าใจแม้แต่น้อย ทั้งที่เจ้าก็ไม่ได้หล่อเหลาอะไรขนาดนั้น ทำไมพี่สาวสุ่ยถึงตกหลุมรักเจ้าได้?” หลี่เหว่ยเหว่ยจับคางและดูงงงวย
“เจ้าจะต้องทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน จ้าวหลุนไม่ได้เป็นแค่อัจฉริยะเท่านั้น แต่ยังมีผู้ติดตามเขาอีกสามคน ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่เป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ เมื่อใดก็ตามที่เขาออกคำสั่ง เจ้าจะต้อง-” นางส่งเสียงกระแอมอยู่ในลำคอและพูดต่อว่า “วันต่อมาศพของเจ้าจะต้องอยู่ข้างถนนอย่างแน่นอน”
หลิงฮันถอนหายใจและพูดว่า “เจ้าจะพูดอะไรที่มันดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือ?”
“ฟังข้าพูดให้จบก่อน!” หลี่เหว่ยเหว่ยวางมือเท้าเอว “จ้าวหลุนเป็นคนที่มีอิทธิพลมาก แต่ใช่ว่าข้าจะกลัวเขา และหากเจ้าเป็นคนรับใช้ข้า ข้าก็ยินดีที่จะคุ้มครองเจ้าเอง”
“ไม่จำเป็น” หลิงฮันปฏิเสธอย่างเด็ดขาดอย่างรวดเร็ว
หลี่เหว่ยเหว่ยดูหงุดหงิดขึ้นมาทันที เจ้าโง่หลิงนี่ดูเหมือนจะไม่รู้อะไรเลย ความแข็งแกร่งของตระกูลจ้าวนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลหลี่ของนางแม้แต่น้อย
แต่เจ้าโง่หลิงนี่กลับพูดปฏิเสธความเมตตาของนาง ซึ่งทำให้นางรู้สึกโกรธมาก!
“หึ่ม เจ้าดูแลตัวเองแล้วกัน!” นางโกรธจนควันออกหูและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
หลิงฮันดูเฉยเมย ตั้งแต่ที่เขาให้สัญญากับสุ่ยเยี่ยนยวี่ เขาก็เดาไว้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็เชื่อว่าจ้าวหยุนจะไม่กล้าทำอะไรเขาในสำนัก เพราะสำนักมีกฎอย่างเคร่งครัด
– ตระกูลจ้าวเป็นแค่ตระกูลของแม่ทัพจ้าวเท่านั้น ไม่ได้เป็นจักรพรรดิสักหน่อย!
แล้วทำไมเขาจะต้องกลัวด้วย?
……
“หืม เยี่ยนยวี่ยอมรับจริงรึ?” ใต้น้ำตกชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ เบื้องหลังเขามีเงาของภูเขาวารีสามสายปรากฏออกมาให้เห็น นี่แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นสูง
หากมองให้ดี ภูผาวารีของเขาแตกต่างจากคนทั่วไป มันมีแสงสีแดงและปล่อยกลิ่นอายที่น่ากลัวออกมา
“ขอรับ นายน้อย!” ด้านหลังเขามีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังคุกเข่าลงข้างหนึ่งด้วยความเคารพ ราวกับว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นพระเจ้า
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่คือจ้าวหลุน ส่วนชายหนุ่มที่คุกเข่าลงข้างหนึ่งคือผู้ติดตามของเขาที่มีนามว่าจั่วเซียว เขากำลังบอกจ้าวหลุนว่าสุ่ยเยี่ยนยวี่และหลิงฮันหมั้นหมายกัน
นี่ทำให้เขารู้สึกโกรธมาก ทั้งที่สุ่ยเยี่ยนยวี่เป็นของนายน้อย แต่อีกฝ่ายกลับกล้าแย่งคนรักของนายน้อยของเขา
เจ้าตัวบัดซบนั่นจะต้องตายร้อยครั้ง!
จ้าวหลุนหัวเราะและส่ายหัว “ไร้สาระ! ดูเหมือนข้าจะให้อิสระกับนางมากเกินไป แล้วเจ้าหมอนั่นมีชื่อว่าอะไร?”
“หลิงฮัน!” จั่วเซียวรีบตอบกลับทันที
“เจ้าจงไปมอบสิ่งนี้ให้กับเขา ถ้าเขายอมรับ ข้าก็จะไว้ชีวิต” จ้าวหลุนโยนบางอย่างออกมาจากแหวนมิติของเขา
จั่วเซียวเหลือบมองและช่วยไม่ได้ที่เขาจะแสยะยิ้มออกมาและพูดว่า “ขอรับนายน้อย!”่