มาเร็วมาก!
เสียงฝีเท้าดังกึกก้องมาจากหุบเขาลึก
หลิงฮันและคนอื่นออกไปเผชิญหน้ากับมันทันทีและจ้องมองไปที่ปากหุบเขา และเห็นสิ่งมีชีวิตบางอย่างร้อยกว่าตัวอยู่ด้านหน้า ร่างของพวกมันถูกห่อหุ้มด้วยกระแสพลังปราณสีดำ ทำให้พวกเขามองไม่เห็นรูปลักษณ์ของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสูงหรือเพศ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแยกแยะพวกมันออก
ด้านหลังของพวกมันเป็นกลุ่มฝูงชนที่มีปราณสีดำห่อหุ้ม เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นแค่คนธรรมดา แต่ปราณสีดำพวกนั้นทำให้พวกเขากระหายเลือดและดูน่าหวาดกลัว
“พวกเขาถูกแปรสภาพให้กลายเป็นปีศาจรับใช้ระดับต่ำ” อี้ชวงชวงกล่าว “มันมีความคล้ายคลึงกับทหารซากศพที่ไม่รู้จักความเจ็บปวดและไม่เกรงกลัวต่อความตาย แต่ความแข็งแกร่งของพวกมันด้อยกว่าพอสมควร และยังมีสติปัญญาหลงเหลืออยู่ลงน้อย”
“แล้วสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านหน้าล่ะ?” หลิงฮันถาม
“พวกมันเรียกว่าปีศาจรับใช้ระดับสูง” อี้ชวงชวงพยักหน้า
“ทั้งที่เป็นจอมยุทธระดับทลายมิติแต่เป็นได้แค่ปีศาจรับใช้ระดับสูงอย่างนั้นรึ?” หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ
อี้ชวงชวงเหลือบมองเขาและพูดว่า “ตัวตนระดับพระเจ้าแบ่งออกเป็นห้าระดับ แต่ละระดับแบ่งออกเป็นสี่ขั้น แม้แต่ขั้นเล็กๆก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะก้าวผ่าน แล้วพวกมันจะนับว่าเป็นอันใด?”
…….นั่นมันก็จริง
ระดับโดยรวมของทวีปฮงเทียนนั้น แค่ปีศาจรับใช้ระดับสูงก็เทียบได้กับตัวตนที่อยู่สูงที่สุดแล้ว
“และมันเป็นหน้าที่ของตัวตนระดับพระเจ้าทุกคนที่จะจัดการพวกมัน แม้แต่ข้าก็ไม่มีข้อยกเว้น!” อี้ชวงชวงกล่าว “วันนี้ข้าจะต่อสู้เคียงข้างเจ้าเพื่อกำจัดปีศาจรับใช้พวกนี้ให้หมด!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่ข้าคงไม่ได้มาช้าไปใช่ไหม?” ท่ามกลางเสียงหัวเราะ มีชายคนหนึ่งพร้อมกับขวดน้ำเต้าอยู่ในมือปรากฏตัวออกมา
“พี่ใหญ่!” หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ และเข้าไปทักทายเขาทันที
เขาคือเฟิงโป๋วหยุน!
หลังจากผ่านไปไม่กี่ปี เฟิงโป๋วหยุนก็ทะลวงผ่านระดับทลายมิติขั้นห้าแล้วจากระดับทลายมิติขั้นสาม ความก้าวหน้าของเขาค่อนข้างน่าทึ่งทีเดียว
แต่ถึงแม้ว่าเฟิงโป๋วหยุนยังไม่ทะลวงผ่านระดับทลายมิติขั้นเก้า แต่เขาก็สามารถสร้างแก่นแท้แห่งดาบให้ได้แล้ว
“น้องสอง ข้าไม่ได้เห็นหน้าเจ้ามานาน ความก้าวหน้าของเจ้ามันทำให้ข้าตกตะลึงยิ่งนัก!” เฟิงโป๋วหยุนหัวเราะ ครั้งสุดท้ายที่เขาเจอหลิงฮันเขาเป็นแค่จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาใกล้จะทะลวงผ่านระดับทลายมิติแล้ว
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “พี่ใหญ่ ท่านอยู่ในอาณาเขตจักรวรรดิต้าหลิงของข้า ข้าสามารถมอบตราประทับให้กับท่านได้เพื่อใช้พลังแห่งจักรภพยกระดับพลังต่อสู้”
“ดีเลย!” เฟิงโป๋วตอบตลกหยุนยิ้ม
หลิงฮันเริ่มเคลื่อนย้ายตราประทับและพูดว่า “จงฟัง ข้าขอแต่งตั้งให้พี่ใหญ่เฟิงโป๋วหยุนของข้าเป็น ‘ราชันแห่งสายลม’ แห่งจักรวรรดิต้าหลิงนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป!”
ตู้ม เมื่อตราประทับถูกเคลื่อนย้าย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทุกซอกทุกมุมของจักรวรรดิต้าหลิง และบนธงของจักรวรรดิต้าหลิงมีตัวอักษรสีทองเขียนอยู่
“ราชันแห่งสายลม เฟิงโป๋วหยุน!”
สิ่งนี้คือแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้ที่ครอบครองตราประทับอย่างเป็นทางการของจักรวรรดิต้าหลิง และสามารถเรียกใช้พลังแห่งจักรภพได้ผ่านตราประทับ
ในปัจจุบันจักรวรรดิต้าหลิงมีราชันเพียงแค่สามคนเท่านั้น นั่นคือ จักรพรรดิพิรุณ มู่หลงชิง และเฟิงโป๋วหยุนที่เพิ่งถูกแต่งตั้ง
เฟิงโป๋วหยุนใช้พลังแห่งจักรภพทันที และช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกตกตะตึง “พลังต่อสู้ของเขาอยู่ที่ระดับทลายมิติสิบดาว! แต่น่าเสียดายที่เขามีกายหยาบไม่แข็งแกร่งพอ มิฉะนั้นมันอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย”
ภายใต้พลังแห่งจักรภพมันทำให้พลังต่อสู้เพิ่มขึ้นสี่ดาว
“เจ้าหนูแต่งตั้งข้าด้วย” อี้ชวงชวงกล่าวว่าแม้นางจะเป็นตัวตนระดับพระเจ้า แต่นางถูกยับยั้งพลังเอาไว้ ทำให้นางอยู่ในระดับทลายมิติขั้นเก้า แต่ไม่ได้หมายความว่านางจะมีพลังต่อสู้ยี่สิบดาว
ดังนั้น พลังแห่งจักรภพก็ยังส่งผลต่อนางเช่นกัน
หลิงฮันพยักหน้าและมอบตราประทับให้กับอี้ชวงชวงในฐานะ “ราชินีไร้พ่าย”
“พลังต่อสู้ของข้าเพิ่มขึ้นสามดาวเลยรึ?” อี้ชวงชวงรู้สึกมีความสุข
ไม่มีทาง ยิ่งแข็งแกร่งเท่าไหร่ ประสิทธิภาพของพลังแห่งจักรภพก็จะอ่อนแอลงเท่านั้น เว้นแต่ว่านางจะเป็นประมุขของจักรวรรดิถึงจะทำให้นางได้รับพลังของมันได้ไม่จำกัด
“แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการพวกมัน!”
“เผ่ามนุษย์เอ่ย จงยอมแพ้เสีย ข้าผู้นี้สามารถมอบชีวิตนิรันดร์ให้กับพวกเจ้าได้!” ภายในหุบเขา เมื่อปีศาจรับใช้ตนหนึ่งปรากฏตัวออกมา ปีศาจรับใช้ตนอีกหยุดเคลื่อนที่ทันทีและกลิ่นอายที่มันปลดปล่อยออกมานั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง ราวกับว่าแม้แต่ท้องฟ้ายังต้องพังทลาย
“เป็นแค่ปีศาจรับใช้ต่ำต้อยแต่กล้าพูดจาใหญ่โตขนาดนั้นเลยรึ!” หลิงฮันแสยะยิ้ม
“สามห้าว เจ้ากล้ามากที่พูดจาแบบนั้นกับข้าผู้นี้!” ปีศาจข้ารับใช้ระดับสูงตนเดิมตะโกน เขายกมือขึ้นและมีแมงมุมยักษ์สีเงินขนาดเท่าภูเขาปรากฏตัวออกมา
แมงมุมยักษ์สีเงินนั่นมีขาทั้งหมดแปดขา และมองกำลังจ้องมองดูสิ่งมีชีวิตอื่นด้วยท่าทางเหยียดหยาม
“ฆ่ามัน!” ปีศาจรับใช้ระดับสูงตนเดิมที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำของพวกมันชี้นิ้วไปที่หลิงฮัน และแมงมุมยักษ์สีเงินตัวนั้นก็เคลื่อนที่ไปหาหลิงฮันทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าจะเป็นคู่ต่อสู้ให้กับเจ้าเอง!” เฟิงโป๋วหยวนหัวเราะและกระโจนออกไป ที่เขามีความก้าวหน้ารวดเร็วมันเป็นเพราะเจ้าแมงมุมยักษ์สีเงินนั้นเป็นเป้าหมายของเขาอยู่ตลอด
และตอนนี้เมื่อเขาได้รับการยกระดับพลังต่อสู้จากพลังแห่งจักรภพ มันทำให้พลังของเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก
ตู้ม!
การปะทะกันของเฟิงโป๋วหยุนกับแมงมุมยักษ์สีเงินทำให้ท้องฟ้าและปฐพีสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
หลิงฮันจ้องมองไปที่การต่อสู้ และเขาพบว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเฟิงโป๋วหยุนนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าแมงมุมยักษ์สีเงินเลย เขารู้สึกผ่อนคลายลงและพูดว่า “ข้าคือหลิงฮัน จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิต้าหลิง จงบอกชื่อของเจ้ามา!”
ราชันปีศาจรับใช้แสยะยิ้ม “หึ่ม เป็นแค่จอมยุทธระดับสวรรค์แต่กล้าเรียกตัวเองว่าจักรพรรดิ น่าขันยิ่งนัก! ชื่อของข้าข้าละทิ้งมันไปนานแล้ว แต่เจ้าสามารถเรียกข้าว่า…ราชันปีศาจก็ย่อมได้!”
อี้ชวงชวงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้และพูดว่า “เป็นแค่ปีศาจรับใช้ที่ต่ำต้อย แต่กล้าเรียกตัวเองว่าราชันปีศาจ นี่เจ้าเป็นคนที่หน้าด้านขนาดไหนกัน? เข้ามา เข้ามา ข้ายินดีที่จะต่อสู้กับเจ้าสามร้อยรอบและมาดูกันว่าข้าจะสามารถฉีกของเจ้าได้หรือไม่!”
“เจ้าต้องการรนหาที่ตายรึ?” ราชันปีศาจแสยะยิ้มและปล่อยฝ่ามือใส่อี้ชวงชวง
“อย่ามาจับข้าด้วยมือสกปรกของเจ้า!” อี้ชวงชวงปลดปล่อยฝ่ามือยักษ์ออกไปที่ราชันปีศาจ
ราชันปีศาจแสยะยิ้มและปัดฝ่ามือของนางด้วยปราณปีศาจและพูดว่า “ฆ่าให้หมด!”
กองทัพของเขาเริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพื่อโจมตีจักรวรรดิต้าหลิงทันที