“ผู้ก่อตั้งสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์?” ชายชรามีท่าทีประหลาดใจ ทำไมรุ่นเยาว์ตรงหน้าถึงได้อยากรู้เรื่องนี้กัน?
เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฝึกฝนวรยุทธหรือความลับอันใดของห้านิกายโบราณ ทำไมอีกฝ่ายถึงต้องอุตส่าห์บุกเข้ามาเพื่อถามคำถามเช่นนี้ด้วย?
ชายชราครุ่นคิดชั่วขณะก่อนจะกล่าว “เจ้าช่วยบอกข้าได้รึไม่ว่าทำไมเจ้าถึงต้องการรู้เรื่องนี้?”
หลิงฮันยิ้ม “บรรพบุรุษของข้ามีความเกี่ยวข้องกับผู้นำของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ เพราะงั้นข้าเลยต้องการรู้”
ชายชราชะงักเล็กน้อยก่อนจะกล่าว “แซ่ของเจ้าคือหลิง หรือว่าเจ้าจะเป็นลูกของคนผู้นั้น?”
หลิงฮันกล่าว “ก็ไม่เชิง” แน่นอนว่าเขาไม่มีทางบอกรายละเอียดเบื้องลึกกับอีกฝ่าย เขาไม่ใช่ผู้สืบทอดของหลิงฮันแต่เขานี่แหละคือหลิงฮัน จักรพรรดิปรุงยาเมื่อหลายหมื่นปีก่อน!
“ผู้ก่อตั้งสมาคมมีอยู่สามคนคือ ปรมาจารย์เฉินหลุยเจียง ปรมาจารย์หยุนหย่งหวังและปรมาจารย์คังซิวหยวน!” ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเคารพ มือของเขาประกบเข้าหากันราวกับกำลังกราบเทิดทูน
เป็นอย่างที่คิด!
ถ้าเช่นนั้นแล้วสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ก็คงจะถูกสร้างขึ้นโดยเจียนเยว่ซวน แต่ทำไมทั้งสี่คนถึงต้องสร้างสมาคมแยกกันด้วย? ว่าเจียนเยว่ซวนจะมีความขัดแย้งกับพวกเฉินหลุยเจียง?
หลิงฮันนั่งคิดอยู่สักพักก่อนจะกล่าว “ทั้งสามคน… ขึ้นไปบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วงั้นรึ?”
“ย่อมเป็นเช่นนั้น!” ชายชรากล่าวอย่างภาคภูมิใจ “ทั้งสามคนกลายเป็นพระเจ้าอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะติดต่อกับโลกเบื้องล่างเพื่อก่อตั้งสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ขึ้นมา”
คิ้วของหลิงฮันขมวดเข้าหากัน นี่มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่?
เจียนเยว่ซวนเองก็สมควรกลายเป็นพระเจ้าได้แล้วเช่นกัน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานถึงสี่พันห้าพันปี
หรือว่าลูกศิษย์ของเขาอีกสามคนที่เหลือคงจะมีความขัดแย้งกับเจียนเยว่ซวนจริงๆ?
การที่จะขึ้นไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ หากไม่เปิดสวรรค์ก็ต้องยอมจำนนต่อห้านิกายโบราณ
หรือว่าลูกศิษย์ทั้งสี่ของเขาจะมีฝ่ายใดยอมเข้าร่วมกับห้านิกายโบราณทำให้เกิดความขัดแย้งกัน?
ไม่สิ…
หลิงฮันส่ายหัว เขารู้จักลูกศิษย์ทั้งสี่ของเขาดีพวกเขาไม่ใช่คนแบบนั้น นอกจากนั้นหลิงฮันก็ยังลืมคนไปคนหนึ่ง… นั่นคือสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์!
ด้วยการช่วยเหลือของนาง แม้จะไม่เข้าร่วมกับห้านิกายโบราณนางอาจจะช่วยเหลือพาทั้งสี่คนขึ้นไปบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ได้
“สหายน้อย! สหายน้อย!” เมื่อชายชราเห็นหลิงฮันตกอยู่ในภวังค์ เขาก็อดตะโกนเรียกหลิงฮันไม่ได้
หลิงฮันรู้สึกตัวอีกครั้งและยิ้ม “ขอบคุณผู้อาวุโสมากที่ช่วยไขข้อข้องใจของข้า!”
“โอ้ แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น” ชายชราหัวเราะ เขาเป็นคนหนึ่งที่รับรู้ได้ว่าหลิงฮันนั้นเป็นรุ่นเยาว์ที่มีอนาคตไร้ขีดจำกัด ดังนั้นเขาจึงคิดจะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับหลิงฮันเอาไว้
หลิงฮันนำสมุนไพรมากมายออกมาและกล่าว “ช่างน่าอายนักที่ข้าทำให้คนของสมาคมมากมายต้องบาดเจ็บ”
ชายชราไม่ปฏิเสธและนำสมุนไพรเหล่านั้นเก็บเข้ามาใส่ในแหวนมิติ “สหายน้อย ถ้าเจ้าพบภัยคุกคามที่ไม่อาจแก้ไขได้ก็จงมาที่นี่ ไม่ว่าภัยนั้นจะอันตรายขนาดไหนชายชราผู้นี้จะช่วยเหลือเจ้า”
หลิงฮันชะงักในใจ หรือว่าอีกฝ่ายจะหมายถึงการชำระล้าง? หลิงฮันไม่ได้กล่าวถามออกไปและพยักหน้า “เช่นนั้นข้าก็ขอขอบคุณผู้อาวุโสมาก ข้าคงต้องขอตัวก่อน”
“คงไม่จำเป็นต้องให้ข้าไปส่งนะ” ชายชราหัวเราะ
เขาคือตัวตนระดับทลายมิติ ถึงแม้หลิงฮันจะเรียกได้ว่ามีสถานะทัดเทียมกับจอมยุทธระดับสวรรค์ แต่ตามกฎของโลกวรยุทธเขาก็ไม่มีคุณสมบัติพอให้ชายชราต้องไปส่งกลับอยู่ดี
“ไปกันเร็วๆ!” ฮูหนิวเร่งเร้า นางรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับลากขาของเจ้ากระต่ายไปด้วย ทำให้เจ้ากระต่ายต้องส่งเสียงร้องโอดครวญ
พวกเขาออกมาถึงประตูทางเข้าของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่าคนมากมายต่างจ้องมองมายังพวกเขา
ฮูหนิวคึกขึ้นมาทันที นางปล่อยขาเจ้ากระต่ายและกล่าว “ใครที่ต้องการสู้ หนิวจะเป็นคู่ต่อสู้ให้เอง!”
ทุกคนมีท่าทีประหลาดใจ ก่อนหน้านี้พวกเขาต่างคิดว่าหลิงฮันนั้นไม่สามารถต่อกรกับตัวตนระดับทลายมิติได้ ถ้าเช่นนั้นแล้วทำไมเขาถึงเดินกลับออกมาได้อย่างปลอดภัยเช่นนี้?
“ฮ่าๆๆ สมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ของปลอมก็ยังคงเป็นสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ของปลอมอยู่วันยังค่ำ! พวกเจ้าช่างน่าอัปยศยิ่งนัก!” กลุ่มของสมาคมทิศใต้หัวเราะลั่น
ถึงแม้ผู้คนของของสมาคมทิศเหนือจะไม่สบอารมณ์ แต่การที่หลิงฮันเดินกลับออกมาได้อย่างปลอดภัยก็เป็นความจริง เช่นนี้แล้วพวกเขาจะเถียงอะไรได้?
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ข้าพบกับผู้นำสมาคมและพบว่าข้าไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของผู้นำได้ เพราะงั้นข้าจึงยอมรับความพ่ายแพ้และขอโทษแต่โดยดี เป็นผู้นำต่างหากที่เมตตาและปล่อยข้ากลับออกมา” ในเมื่อผู้นำมีทัศนิติที่ดีต่อเขา หลิงฮันจึงไม่รังเกียจที่จะไว้หน้าเขาบ้าง
เมื่อได้ยินเช่นนั้นผู้คนของสมาคมทิศเหนือก็ยิ้มทันที ที่แท้ผู้นำก็ไม่เห็นหลิงฮันอยู่ในสายตานี่เอง
“ผู้อาวุสาม เขาคือหลิงฮัน!” มู่เฟยเหยากล่าวขึ้นมาทันที
“โอ้ เขานะรึหลิงฮัน?” ชายชราสามคนของสมาคมทิศใต้หันไปมองหลิงฮันทันที
“ไม่ผิดแน่!” มู่เฟยเหยากล่าว
“เจ้าหนู จงเปลี่ยนชื่อของเจ้าซะ!” ชายชรากล่าวกับหลิงฮัน
ชายชราสามคนคือ ผู้อาวุโสสาม ผู้อาวุโสสี่และผู้อาวุโสแปดของสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ทิศใต้ คนที่กล่าวกับหลิงฮันคือผู้อาวุโสสี่
หลิงฮันยิ้ม “ทำไมข้าต้องทำเช่นนั้น?”
“เพราะเจ้าไม่คู่ควรกับชื่อนั่น!” ผู้อาวุโสแปดกล่าวแทรก
หลิงฮันส่ายหัว “เจ้าจะเคารพตัวตนจากยุคโบราณก็เป็นเรื่องของเจ้า แต่อย่าลากผู้อื่นเข้าไปเกี่ยวข้อง! ข้ามีอิสระในการตั้งชื่อ เจ้าไม่มีสิทธิ์มาบังคับข้าได้!”
“เจ้าแก่ตัวเหม็น หรือเจ้าต้องการมีเรื่อง?” ฮูหนิวกระโดดออกมาและชี้นิ้วใส่ “หนิวจะเป็นคนจัดการเจ้าเอง!”
ผู้อาวุโสแปดย่อมไม่สนใจคำพูดของเด็กน้อย เขาเมินเฉยต่อฮูหนิวอย่างสิ้นเชิง
“ไม่กล้างั้นรึ? ช่างน่าสมเพช!” ฮูหนิวคว้าร่างของเจ้ากระต่ายขึ้นมาและขว้างใส่ผู้อาวุโสแปด
“อ้ากก ทำไมต้องเอานายท่านกระต่ายเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย?” เจ้ากระต่ายกรีดร้องและขดตัวเป็นวงกลม