คลื้นนนน!
ทันใดนั้น มีกิ่งไม้ปรากฏออกมาและล้อมรอบเซียนหยู่ช่าย ด้วยความเร็วที่น่าทึ่งและคาดไม่ถึง
ถึงแม้ว่าเซียนหยู่ช่ายจะระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างดี แต่ก็ยังถูกโจมตี เพราะกิ่งไม้นี่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของนาง เพียงแค่เคลื่อนไหวเล็กน้อย มันก็สามารถพันรอบเท้าและจับนางกลับหัวได้แล้ว
ในขณะนั้น มีกิ่งไม้อย่างน้อยสิบกิ่งที่กำลังล้อมรอบนางและรัดนางแน่นราวกับปลาหมึก
“เกิดอะไรขึ้น!” ช่วยไม่ได้ที่เซียนหยู่ช่ายจะตกใจและกรีดร้องออกมา
หลิงฮันหันหลังกลับและอดที่จะหัวเราะไม่ได้ “ข้าเดิมพันข้างต้นไม้อสูรโลหิต!”
ฉากที่เกิดขึ้นราวกับเป็นงานศิลปะ กิ่งก้านที่รัดเซียนหยู่ช่ายแน่น ทำให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งร่างกายของนางได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะหน้าอกที่ถูกรัดแน่นราวกับเป็นยอดเขา
แต่เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนไม่รู้สึกขบขัน กลับกันนางรู้สึกโกรธมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนโชว์หน้าอกต่อหน้านาง นางพูดว่า “เจ้ายังไม่รีบเข้าไปช่วยนางอีกรึ?”
“ปล่อยไว้นี่แหละ นางจะได้ไม่รบกวนพวกเราอีก!” หลิงฮันหัวเราะ
ในขณะนั้นมีกิ่งก้านของต้นไม้อีกต้นพุ่งออกมาและเล็งไปที่หัวใจของเซียนหยู่ช่าย ครั้งนี้มันจะไม่หยุดยั้งการเคลื่อนไหวของนาง แต่จะแทงทะลุหัวใจและดูดซับพลังชีวิต
“หึ่ม!” หลิงฮันกระดิกนิ้ว ฉึก ฉึก กิ่งก้านพวกนั้นกระเด็นไปด้านหลังทันที
แต่ทว่ากิ่งก้านยังคงพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่องและเล็งไปที่เซียนหยู่ช่าย
“เจ้ายังไม่ยอมแพ้?” หลิงฮันโจมตีใส่กิ่งก้านพวกนั้นด้วยทักษะผนึกพลิกปฐพี ตู้ม กิ่งก้านพวกนั้นถูกทำลายทันที และหากมองดูให้ดีจะเห็นของเหลวสีเขียวพุ่งออกมาเหมือนกับโลหิต
“อ๊าก!” เสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวดังขึ้น และมีต้นไม้ขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน รากที่ใหญ่โตของมันกลายเป็นเท้าสองข้าง และเซียนหยู่ช่ายถูกแขวนอยู่บนลำต้นของมัน
ต้นไม้อสูรโลหิต!
“ช่วยด้วย! ได้โปรดช่วยข้าด้วย!” เซียนหยู่ช่ายรู้สึกหวาดกลัวมาก นางตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากหลิงฮันด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน
หลิงฮันไม่รีบที่จะเข้าไปช่วยเหลือนาง และปล่อยให้นางได้รับบทเรียนสักเล็กน้อยเผื่อพฤติกรรมจะดีขึ้น เขามองไปที่ต้นไม้อสูรโลหิตและพูดพร้อมกับหัวเราะว่า “การต่อสู้ไม่ใช่การส่งเสียงคำราม”
ตู้ม!
ต้นไม้อสูรโลหิตม้วนกิ่งก้านของมันเป็นแขนและโจมตีใส่หลิงฮัน การโจมตีของมันเข้าถึงตัวหลิงฮันก่อนที่เสียงจะตามมาซะอีก นี่แสดงให้เห็นถึงความรวดเร็วของการโจมตีครั้งนี้ของมัน
“พลังต่อสู้ของมันน่าจะอยู่ที่ระดับสวรรค์เจ็ดดาว” หลิงฮันตัดสินอยู่ในใจ
เขายังคงโจมตีออกไปด้วยทักษะผนึกพลิกปฐพีขณะพุ่งเข้าใส่ต้นไม้อสูรโลหิต
ตู้ม!
แรงระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้ต้นไม้อสูรโลหิตถูกบดขยี้
ฮูหนิวกระโจนออกไปและรีบขุดหาผลึกที่มีขนาดเท่ากับกำปั้นที่อยู่ในลำต้นของมันอย่างรวดเร็ว นางพูดอย่างร่าเริงว่า “หลิงฮัน หลิงฮัน หนิวเจอแก่นของมันแล้ว!”
เซียนหยู่ช่ายปัดก้นขณะลุกขึ้นยืนและรู้สึกผิดหวังมาก แม้นางจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่พวกเขาทั้งสามคนปฏิบัติกับนางอย่างกับอากาศ ทำให้นางรู้สึกเสียใจมากที่ถูกเมิน
หลิงฮันเก็บแก่นของมัน และไม่รีบที่จะสะกัดพลังของมัน เวลาของเขาในตอนนี้มีจำกัด เขาจะต้องรีบไปเอาเขี้ยวมังกรที่แท้จริงก่อน
พวกเขาไม่ได้มุ่งเป้าไปที่การค้นหาต้นไม้อสูรโลหิต พวกเขาเพียงแค่เดินตรงไปตามทางเท่านั้น และถ้าถูกพวกมันโจมตี พวกเขาก็จะแค่ตอบโต้และเก็บเกี่ยวแก่นแท้ของพวกมัน
ที่นี่มีต้นไม้อสูรโลหิตอยู่มาก และตลอดทางพวกเขาเก็บเกี่ยวพวกมันได้เกือบสามสิบต้นแล้ว แต่นี่ยังไม่รวมอาวุธ เสื้อผ้า สิ่งของต่างๆที่ถูกทิ้งไว้ตามทางของผู้คนที่ถูกต้นไม้อสูรโลหิตดูดกลืนพลัง
วันต่อมา พวกเขาได้ยินเสียงคำรามขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า และเห็นต้นไม้อสูรโลหิตขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ กิ่งก้านของมันกลายเป็นแขนและเห็นมันกำลังโจมตีใส่พื้นไม่หยุด
“ต้นไม้อสูรโลหิตยักษ์นี่พลังของมันเทียบเท่ากับจอมยุทธระดับทลายมิติเลยรึ?” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนรู้สึกแปลกใจที่จะพูดออกมา แม้แต่นางก็คงไม่สามารถต้านทานการโจมตีของมันได้
หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “มันแข็งแกร่งมาก พลังต่อสู้ของมันจะต้องอยู่ในระดับทลายมิติอย่างแน่นอน” แม้แต่หลิงฮันก็ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ และเขาคงไม่สามารถทำอะไรได้หากไม่ใช้รูปแบบอาคมมังกรน้ำแข็งทลายปฐพี
แต่พวกเขาก็ไม่รู้สึกหวาดกลัว ถ้าพวกเขาไม่สามารถกำจัดมันได้ พวกเขาก็สามารถล่าถอยได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นหลิงฮันยังมีรูปแบบอาคมมังกรน้ำแข็งปฐพีคอยรั้งมันไว้
พวกเขาเข้าใกล้มันขึ้นเรื่อยๆและเห็นว่าต้นไม้อสูรโลหิตกำลังต่อสู้กับผู้คนมากกว่ายี่สิบคน
“ตระกูลเซียนหยู่!” หลิงฮันกล่าว เขาจำได้หลายคนและเห็นหมางซินอยู่ในกลุ่มคนพวกนั้นด้วย
แม้ว่าพวกเขาจะมีมากกว่ายี่สิบคน แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะจัดการต้นไม้อสูรโลหิตยักษ์นี่ ผู้คนส่วนใหญ่ทำได้แค่สะกิดมันเท่านั้น มีเพียงแค่หมางซินเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับมันได้ เมื่อถูกมันโจมตี เขาจะใช้กระดองเต่ารับการโจมตี ทำให้เขาได้รับความเสียหายไม่มากนัก
การป้องกันของเขาค่อนข้างน่าทึ่งทีเดียว
แต่เต่าไม่ใช่
หมางซินรับผิดชอบในการรั้งมันไว้ ในขณะที่คนอื่นรับผิดชอบในการโจมตี แต่การป้องกันของต้นไม้อสูรโลหิตยักษ์ก็ไม่ได้อ่อนแอ กระบี่และดาบฟันมันเข้าได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น และเป็นเรื่องยากที่จะโจมตีมันเข้า ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีพลังฟื้นฟูที่น่าทึ่ง บาดแผลที่มันถูกฟันถูกปิดในไม่ช้า
“ช่วยพวกเขา!” เซียนหยู่ช่ายกระโจนออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับดาบที่อยู่ในมือ และเข้าร่วมการต่อสู้
แม้ว่านางจะค่อนข้างหยิ่งยโส แต่นางก็เป็นจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาที่มีพลังต่อสู้ใกล้เคียงกับระดับสวรรค์
“คุณหนูช่าย!” หมางซินและคนอื่นตะโกนออกมาอย่างประหลาดใจ
หลิงฮันไม่เข้าไปแทรกแซงและพูดว่า “คนพวกนั้นน่าจะมีสมบัติที่รักษาชีวิตของตัวเองอยู่กับตัว และพวกเราจะไม่หยุดอยู่ที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้นในที่สุดข้าก็สลัดนางหลุดสักที”
หลิงฮันหัวเราะและรีบมุ่งหน้าไปต่อ
เป้าหมายของพวกเขาคือต้นไม้ยักษ์ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของชั้นที่สองก็ตาม และถ้าพวกเขาต้องการไปชั้นที่สาม พวกเขาต้องมาที่ต้นไม้ยักษ์และปีนขึ้นไป
พื้นที่ของที่นี่ค่อนข้างสับสน แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะยังไงที่นี่ก็คือด้านในของจอมยุทธเผ่ามังกร เขาเคยเป็นตัวตนที่ทรงพลังมาก แม้แต่ตัวตนต่ำสุดของพระเจ้าก็ไม่มีทางพ่ายแพ้
ระหว่างทางที่มุ่งหน้าไปที่ต้นไม้ยักษ์ พวกเขากำจัดต้นไม้อสูรโลหิตไปหลายต้นเลยทำให้ความเร็วของพวกเขาช้าลงเล็กน้อย แต่พวกเขาก็มาถึงด้านล่างต้นไม้ยักษ์หลังจากใช้เวลาครึ่งวัน
“นี่มันเป็นต้นไม้จริงๆรึ?” เมื่อมองอย่างใกล้ชิดจะพบว่าต้นไม้ยักษ์นี่มีขนาดใหญ่จริงและดูเหมือนจะเป็นภูเขากระดูกเสียมากกว่า