“เสื้อคลุมที่เจ้าใส่คงไม่ใช่ของธรรมดาใช่หรือไม่?” หลิงฮันถาม
ศพที่สองพยักหน้าและพูดว่า “ใช่แล้ว มันเป็นสมบัติลับ ภายในระยะที่กำหนด มันสามารถปกปิดสัมผัสสวรรค์และพรางตัวเพื่อย่องเข้าไปแล้วลอบสังหาร”
“ขอบคุณที่ช่วยอธิบาย” หลิงฮันส่งเสียงหัวเราะ
“ด้วยความยินดี ยังไงเสียเจ้าก็กำลังต้องตายอยู่แล้ว และข้ามักจะเคารพผู้ที่ถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของข้า” ศพที่สองกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าเจ้าเป็นศพที่สอง ถ้างั้นมันก็มีศพที่หนึ่งด้วย?” หลิงฮันถามอีกครั้ง
ศพที่สองส่ายหน้าและพูดว่า “ไม่มีศพที่หนึ่ง แต่เป็นศพที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ซึ่งเหนือกว่าข้าหนึ่งก้าวและได้เปิดสติปัญญาแล้ว”
หลิงฮันรู้สึกมึนงง เปิดสติปัญญามันหมายความว่าอะไร? ศพที่สองไม่ได้เกิดมา แต่เป็นเหมือนกับจิตวิญญาณศิลา ร่างกายดำรงอยู่มานับไม่ถ้วน และได้รับสติปัญญา หรือว่าเขาจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษ?
ศพที่สองยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ดูแปลกประหลาด เขาพูดว่า “เจ้าเดาได้ถูกต้อง แต่เดิมแล้วร่างกายของข้าเป็นซากศพ ข้าไม่รู้หรอกว่าใครเป็นจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดในชีวิตที่แล้วของข้า แต่ซากศพไม่เสียหายเป็นพันพันปี จนในที่สุดสวรรค์และปฐพีก็ทำให้ข้ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง”
ช่วยไม่ได้ที่สีหน้าของหลิงฮันจะเปลี่ยนไปดูเคร่งขรึม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขารู้สึกว่าคนคนนี้แก่มากและเด็กมากพร้อมกัน ซึ่งดูไม่สอดคล้องกัน มันกลายเป็นว่าดวงวิญญาณดวงใหม่ได้จุติในซากศพและกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์ที่สวรรค์มอบให้คือการรวมกันของชีวิตและความตาย คนแก่และเด็ก
“ถ้างั้นศพที่ยิ่งใหญ่ก็เป็นเหมือนกับเจ้าอย่างนั้นรึ?”
ศพที่สองพยักหน้าและพูดว่า “ใช่แล้ว ศพที่ยิ่งใหญ่แข็งแกร่งกว่าข้าเพราะกระดูกของเขาดีกว่าข้า อย่างไรก็ตาม ชีวิตที่สองทำให้ข้าสามารถบ่มเพาะพลังได้อีกครั้ง ในอนาคต ข้าไม่มีทางแพ้เขาอย่างแน่นอน”
นี่เป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก มันคือการฟื้นคืนชีพของศพที่ตายไปแล้ว าและไม่รู้ว่าพลังต่อสู้จะน่าทึ่งขนาดไหน และสามารถใช้ทักษะจากชีวิตที่แล้วได้หรือไม่? ต้องรู้ก่อนว่าเจ้าของศพนี่สามารถทำให้ศพไม่เน่าเปื่อยมานานพันพันปี เขาจะต้องเป็นตัวตนที่ทรงพลังอย่างแน่นอน และเจตจำนงแห่งเต๋าของเขาได้หลอมรวมเข้ากับเนื้อทุกส่วน กระดูกและโลหิต
ตอนนี้ร่างกายของมันไม่เลวเลย เจตจำนงแห่งเต๋าอาจใช้งานได้อีกครั้ง แล้วจะไม่น่าแปลกใจได้อย่างไร?
“นิกายพันศพให้ความสำคัญกับข้าเกินไปแล้ว ถึงส่งคนอย่างเจ้ามาสังหารข้า!” หลิงฮันกล่าว พลังต่อสู้ของอีกฝ่ายอย่างน้อยอยู่ในระดับสวรรค์ห้าดาว เขาเชื่อว่าความแข็งแกร่งแบบนั้นอาจถือได้ว่าเป็นตัวตนระดับสูงของนิกายพันศพและแน่นอนว่าแข็งแกร่งกว่าเขา
ศพที่สองหัวเราะและพูดว่า “ใครขอให้เจ้ารนหาที่ตายเองล่ะ เจ้าก่อตั้งจักรวรรดิ ซึ่งนิกายข้าไม่อาจยอมรับได้!”
“หรือว่านิกายพันศพวางแผนที่จะก่อตั้งแคว้น?” หลิงฮันถาม
“ฮ่าฮ่าฮ่า เป้าหมายของนิกายพันศพคือการสร้างแคว้นขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยซากศพ ส่วนเหตุผลนั้นเป็นความลับ!” ศพที่สองกล่าว
หลิงฮันรู้สึกแปลกใจและพูดว่า “เป็นเรื่องจริงอย่างนั้นรึที่นิกายพันศพเองก็………” เขาไม่พูดคำว่าเปิดสวรรค์ “…สนใจ?”
ศพที่สองแสยะยิ้มและพูดว่า “ใช่แล้ว แต่มันอาจแตกต่างจากที่เจ้าคิดอยู่เล็กน้อย”
การเปิดสวรรค์จะพาทั้งทวีปฮงเทียนขึ้นไปอยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และจะทำให้ระดับโดยรวมของทวีปเทียนฮงถูกยกสูงขึ้นและกลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่เดี๋ยวก่อน หลิงฮันรู้สึกคาใจเรื่องบางอย่างอยู่ บางคนฝึกฝนบ่มเพาะพลังทำให้พวกเขาสามารถเข้าสู่โลกใต้พิภพได้ แล้วถ้าคนพวกนั้นเปิดสวรรค์…เขตแดนใดที่ทวีปฮงเทียนจะถูกยกขึ้นไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์?
โลกใต้พิภพ!
หึ่ม นิกายพันศพเองก็มี “ความฝัน” ที่ยิ่งใหญ่เหมือนกัน!
อย่างไรก็ตาม ในแง่พลังของนิกายพันศพและประสิทธิภาพในปัจจุบัน พวกมันมีความสามารถที่จะทำแบบนั้น? ไม่ใช่ว่าหลิงฮันดูถูกพวกมัน แต่มันฟังดูเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพียงแค่หนึ่งในห้าของนิกายโบราณก็เพียงพอที่จะกวาดล้างพวกมันแล้ว
ไม่เช่นนั้น ทำไมนิกายพันศพต้องหลบซ่อนตัวมานานหลายปีแบบนี้ด้วย?
ศพที่สองดูไม่รีบร้อนหรือเคร่งขรึม ราวกับว่าเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อฆ่าหลิงฮัน เขาพูดว่า “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังพยายามถ่วงเวลา แต่หารู้ไม่ทำไมข้าถึงไม่ขัดขวางเจ้า? เจ้าติดพิษซากศพของข้าแล้ว และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกำจัดมันออกไป ซึ่งมีแต่จะเลวร้ายลงเท่านั้น! ตามที่ข้าพูด ข้าจะให้ความเคารพคนที่ถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของข้า”
หลิงฮันก้มลงไปมองและเห็นแผลสีดำที่อยู่ตรงเอวของเขากำลังขยายตัว มันเกือบจะทำให้ทั้งเอวของเขากลายเป็นสีดำ
จูเสวี่ยนเอ๋ออุทานออกมาทันทีเมื่อเห็นว่าเขาได้รับบาดเจ็บ และไม่อยากจะคิดถึงผลลัพธ์ เพราะเมื่อเขาตายจะกลายเป็นทหารซากศพ
หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “ข้าไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นศพหมื่นปี กายาเพชรของข้ายังไม่สามารถกำจัดพิษได้อันตโนมัติ!” เขารีบโคจรพลังของคัมภีสวรรค์นิรันดร์ทันที พรึบ และทันใดนั้นได้มีแสงสีทองปรากฏออกมาและทำให้เขาดูเหมือนเป็นเทพแห่งสงคราม
ศพที่สองนำมือทั้งสองข้างไขว้ไว้ข้างหลังด้วยท่าทีผ่อนคลาย เขาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาออกมาว่า “เจ้าพูดถูก ข้าเป็นศพ และอย่างน้อยร่างกายนี้ก็เป็นซากศพที่มีอายุมากกว่าแสนปี!”
ศพที่สองพูดต่อว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าซากศพก็เปรียบเหมือนต้นไม้ที่มีอายุขัยไม่จำกัด อย่างน้อยร่างกายของข้าเป็นศพที่มีอายุสามแสนปีก่อน ฮ่าฮ่าฮ่า โทษทีที่ข้าจำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้”
ถ้านี่คืออายุของอีกฝ่าย มันถือว่าเก่าแก่กว่าทวีปฮงเทียนซะอีก
“เป็นเวลาสามแสนปีที่ร่างกายของข้าอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์และเงา ทำให้ก่อเกิดปราณซากศพขึ้นที่เกิดกว่าจินตนาการ มิฉะนั้นคงเป็นไปไม่ได้สำหรับข้าที่จะมีดวงวิญญาณดวงใหม่และกลายเป็นทหารซากศพ”
หลิงฮันที่ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทองพูดว่า “ทำไมเจ้าถึงต้องการพึ่งพานิกายพันศพทั้งที่เจ้าสามารถเดินไปมาระหว่างสวรรค์และโลกได้?”
“ผู้คนย่อมมีความฝัน และความฝันของข้านั้นเหมือนกับนิกายพันศพ แน่นอนว่าข้าเป็นคนใจกว้าง นอกจากนี้….” ศพที่สองยิ้ม “ข้าเป็นซากศพ แต่ยังต้องการปราณศพเพื่อที่จะยกระดับพลัง ไม่เช่นนั้นข้าจะเข้าร่วมนิกายพันศพไปทำไม?”
แสงสีทองเริ่มเลือนราง หลิงฮันส่ายหัวและพูดว่า “ศพโบราณทรงพลังอย่างแท้จริง แม้แต่ข้ายังไม่สามารถกำจัดพิษนี่ออกไปได้”
ไม่ใช่เพราะพลังของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์นั้นอ่อนด้อย แต่เป็นเพราะซากศพโบราณนี่ถูกฝั่งมานานกว่าสามแสนปีพิษของมันแน่นอนว่าต้องไม่ธรรมดา แม้แต่จอมยุทธระดับทลายมิติก็ยังไม่อาจต้านทานได้ นอกจากนี้ระดับพลังของหลิงฮันยังต่ำเกินไป
ในขณะนั้นพิษเริ่มลามไปที่หน้าอกของหลิงฮัน
ศพที่สองรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยและพูดว่า “ความแข็งแกร่งของเจ้าถือว่าดี แต่เทคนิคบ่มเพาะพลังของเจ้านั้นดีกว่า ถึงทำให้การแพร่กระจายของพิษช้าลงได้”
“ตามจริงอัจฉริยะอย่างเจ้าข้ายังรู้สึกลังเลที่จะฆ่า แม้ว่าซากศพของเจ้าจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่มีสติปัญญาและมีข้อจำกัด” เขาดูเศร้าเล็กน้อย
“เจ้าพูดแบบนั้นออกมา ข้าต้องรู้สึกผิดหวังหรือไม่?” หลิงฮันยิ้ม ร่างกายของเขากระพริบหายไป และปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง ซึ่งเร็วกว่ากระพริบตาเสียอีก และพิษในร่างกายของเขาก็ถูกกำจัดออกไปอย่างสมบูรณ์
ผิดของเขากลับมากระจ่างใส่อีกครั้ง และไม่มีรอยดำของพิษหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย
ช่วยไม่ได้ที่ศพที่สองจะแสดงสีหน้าตกตะลึง มันเป็นไปได้ยังไงกัน!