“ผู้อาวุโสสาม ท่านยังจะพูดเรื่องไร้สาระกับมันอีกไปทำไม? ถ้าท่านฆ่ามันได้ ทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ก็จะตกเป็นของพวกเรา!” โจวหยู่เฉิงตะโกนอยู่ด้านข้าง
“ใช่แล้ว!” โจวเต่อหยวนพยักหน้าและเดินเข้าหาหลิงฮัน กลิ่นอายของจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาไม่ได้ทำให้หลิงฮันรู้สึกกดดันแค่คนเดียวเท่านั้น แต่คนอื่นก็ได้รับผลกระทบด้วย มันหมายความว่าเจ้าเด็กนี่เป็นอาหารของเขา คนอื่นจะต้องผ่านเขาไปก่อนถ้าคิดจะแย่งอาหารของเขา
หลิงฮันจ้องมองไปที่คนของตระกูลโจวทั้งสองคนและช่วยไม่ได้ที่เขาจะปล่อยจิตสังหารออกมา เพราะการโจมตีของโจวเต่อหยวน ทำให้เขาพลาดท่าที่จะครอบครองทักษะผนึกพลิกปฐพี ถ้าเขาไม่มีโอกาสอื่นและได้รับมันมาแล้ว เขาคงจะฆ่าโจวเต่อหยวนให้ส่าแก่ใจ
ก่อนหน้านี้เขาไม่สนที่จะคิดบัญชีกับพวกมัน แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับเป็นคนเดินเข้ามาหาเอาเอง แล้วหลิงฮันจำเป็นต้องแสดงความเมตตาให้กับพวกมันหรือไม่?
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “นี่เรียกว่านกที่โผล่หัวออกมาย่อมโดนยิง คนอื่นไม่เคลื่อนไหว แต่มีนกโง่เขลาสองตัวที่โผล่หัวออกมา นี่ไม่ใช่ว่าแส่หาความตายหรอกหรือ?”
“บังอาจ ต่อหน้าผู้อาวุโสสามของข้า เจ้าไปเอาความหยิ่งยโสนั่นมาจากไหน?” โจวหยู่เฉิงชี้หน้าใส่หลิงฮัน ถ้าไม่ได้เป็นเพราะเขาอ่อนแอกว่า เขาคงจะพุ่งเข้าไปฉีกกระชากหลิงฮันด้วยตัวเองแล้ว
ดวงตาของโจวเต่อหยวนดูมืดมน และโคจรพลังไปที่มือขวา เขายื่นมือออกไปเพื่อคว้าตัวหลิงฮัน พลังปราณถูกควบแน่นกลายเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ตกลงมาจากท้องฟ้าพุ่งตรงเข้าหาหลิงฮัน
เป้าหมายของเขาคือหมายที่จะเอาชีวิตของหลิงฮัน
หลิงฮันยังคงยืนนิ่งและรอจนกระทั่งฝ่ามือขนาดตกลงมา แล้วปลดปล่อยรัศมีดาบออกไป ตู้ม ฝ่ามือขนาดใหญ่ถูกผ่าออกเป็นสองส่วนก่อนที่จะหายไป
“อะไรกัน!” โจวเต่อหยวนเผลออุทานออกมาและใช้มือซ้ายจับไปที่มือขวาของเขา เขาเห็นว่ามือขวาของเขาปรากฏรอยหลุดเลือดขนาดใหญ่ และมีโลหิตไหลทะลักออกมา เมื่อโลหิตตกลงสู่พื้นดิน พื้นปฐพีก็เริ่มสั่นไหว
โลหิตของจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาถือว่าเป็นสมบัติอย่างหนึ่ง และมันสามารถนำมาใช้ปรุงยาได้ด้วย
โจวเต่อหยวนรีบลงมือหยุดเลือดด้วยพลังปราณอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็พบว่ามีเจตจำนงแห่งดาบที่น่าหวาดกลัวอยู่ในบาดแผล และพลังปราณก่อเกิดของเขาก็ถูกกำจัดทันทีเมื่อโคจรเข้าไปเพื่อหยุดเลือด
โลหิตของเขายังคงหยดไหล
นี่เป็นไปได้ยังไงกันที่จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ หนำซ้ำสามารถทำให้เขาได้รับบาดเจ็บหนักด้วยดาบเดียวเนี่ยนะ?
โจวเต่อหยวนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่รุ่นเยาว์ที่เป็นจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ เหตุใดถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?
“ผู้อาวุโสสาม!” โจวหยู่เฉิงตะโกนด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนเล็กน้อย ในความคิดของเขา ผู้อาวุโสทั้งสี่คนของตระกูลสมควรที่จะเป็นตัวตนกวาดล้างโลกได้ แล้วพวกเขาจะพ่ายแพ้ให้กับเด็กได้อย่างไร?
แม้โจวเต่อหยวนจะเป็นคนหยิ่งยโส แต่ก็เป็นคนที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ตอนนี้ผู้อาวุโสสามได้รับบาดเจ็บจากดาบของอีกฝ่าย เขาจึงรีบล่าถอยทันที และกลัวว่าจะตกอยู่ในสภาพเดียวกัน
“สุนัขเฒ่า เจ้าเป็นฝ่ายรนหาที่ตายเองและข้าจะสนองความต้องการของเจ้าให้เอง!” หลิงฮันไม่ได้ใช้ทั้งดาบสังหารหรือดาบกำเนิดมาร ในขณะนั้นเขาเพียงแค่ชี้นิ้วและสะบัด ด้วยพลังของทักษะศักดิ์สิทธิ์อสนีเก้าทิวาทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถรักษาบาดแผลได้ง่าย
“ข้าจะต้องสังหารเจ้าให้จงได้!” โจวเต่อหยวนตะโกนและโจมตีหลิงฮันด้วยกระบี่
พรึบ แสงกระบี่ถูกวาดขึ้นมาและมันมีความยาวมากกว่าสิบฟุต แล้วกลายเป็นมังกรที่บ้าคลั่ง
หลิงฮันเองก็เริ่มตอบโต้ด้วยดาบ นั่นเป็นเพราะอีกฝ่ายเป็นถึงจอมยุทธที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับก้าวสู่เทวา แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาสามารถพูดได้ว่าเล่นกับอีกฝ่ายเท่านั้น แต่ก็ไม่อาจประมาทได้ แล้วเขานำดาบกำเนิดมารออกมา สำหรับคนอย่างโจวเต่อหยวนแค่ดาบเกิดปีศาจก็เพียงพอแล้ว
พรึบ รัศมีดาบถูกปลดปล่อยออกมา
พลังของมันขึ้นอยู่กับความยาวและความหนา ยิ่งยาวและหนาเท่าไหร่พลังของมันก็จะน่าสะพรึงกลัวมากขึ้นเท่านั้น เมื่ออีกฝ่ายเห็นรัศมีดาบของหลิงฮันมีความยาวแค่สิบเมตร โจวเต่อหยวนใจเย็นขึ้นมาทันที และโจวหยู่เฉิงก็รู้สึกมีความหวังอีกครั้ง นี่เขาสงสัยในความสามารถของผู้อาวุโสสามได้อย่างไร สงสัยเขาประเมินเจ้าเด็กนี่สูงเกินไปแล้ว
ตู้ม!
รัศมีดาบและรัศมีกระบี่ปะทะซึ่งกันและกัน ตู้ม รัศมีกระบี่ถูกผ่าออกเป็นสองส่วน!
รัศมีกระบี่ถูกผ่าออกเป็นสองส่วนและเบนไปอยู่ทางด้านซ้ายและขวาของหลิงฮัน แต่รัศมีดาบเปรียบเสมือนกับทหารไร้พ่าย และยังคงพุ่งเข้าหาโจวเต่อหยวนไม่หยุด
โจวเต่อหยวนรู้สึกตกตะลึง และรีบหลบอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาถูกปกคลุมไปด้วยความหวาดกลัว
มันเป็นไปได้ยังไงที่รัศมีกระบี่ของเขาจะด้อยกว่ารัศมีดาบของหลิงฮันถึงเพียงนี้ มันดูเหมือนกับดาบไม้ที่เน่าเปื่อยปะทะกับดาบเหล็กและถูกทำลายทันทีเพียงแค่สัมผัส
ช่วยไม่ได้ที่เขาจะหวั่นไหว รัศมีดาบยิ่งหนาและยาวเท่าใดก็จะยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น แต่รัศมีดาบขึ้นอยู่กับสองสิ่ง นั่นคือความเข้าใจในวิถียุทธและระดับอาวุธ
ดาบนั่นมัน!
โจวเต่อหยวนไม่อาจทำใจเชื่อได้ว่าความเข้าใจเต๋าแห่งดาบของหลิงฮันนั้นจะไกลกว่าความเข้าใจกระบี่ของเขา ดังนั้นจึงมีเพียงแค่คำอธิบายเดียวเท่านั้น นั่นคืออาวุธวิญญาณที่อีกฝ่ายใช้อยู่ในระดับที่สูงมาก ซึ่งทำให้รัศมีดาบทรงพลังได้ถึงเพียงนี้ มันทำให้ช่องว่างระหว่างระดับพลังของพวกเขาแคบลงเท่านั้น แต่ยังบดขยี้เขาได้ด้วย
“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่ไม่ใช่พลังของเจ้า!” เขาตัดสินใจว่าหลิงฮันเพียงแค่พึ่งพาอาวุธวิญญาณ มันไม่ได้เป็นความแข็งแกร่งของตัวเอง แม้ว่าอาวุธวิญญาณจะเป็นส่วนหนึ่งของความแข็งแกร่งก็ตาม
เขากระโจนเข้าโจมตีหลิงฮันอีกครั้งด้วยความเร็ว แต่หลิงฮันยังคงยืนนิ่ง ราวกับว่าเขาไม่สามารถตามความเร็วของอีกฝ่ายได้ทัน
ช่วยไม่ได้ที่โจวเต่อหยวนจะรู้สึกมีความสุข และเมื่อเขาปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของหลิงฮัน เขาก็ลงมือใช้กระบี่ตัดไปที่คอของหลิงฮันทันที
ตาย!
ฉึก เขาสะบั้นกระบี่ออกไป ทว่าทันใดนั้นเองสีหน้าของโจวเต่อหยวนก็ดูตกตะลึง เบื้องหน้าเขาไม่มีแม้แต่เงาของหลิงฮัน!
เกิดความรู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรงก่อตัวขึ้นภายในใจของเขา มันมีเสียงดังมาจากด้านหลังและพูดว่า “เจ้ากำลังมองหาข้าอยู่หรือ?” เขารู้สึกหวาดกลัวมากจนเม็ดเหงื่อไหลพรากราวกับน้ำตก เขาหันหลังกลับไปและสะบั้นดาบใส่หลิงฮันทันที
ตู้ม!
อย่างไรก็ตาม มันกลับว่างเปล่าอีกครั้ง!
มันเป็นไปได้ยังไง?
หัวใจของโจวเต่อหยวนกระหน่ำเต้นอย่างรุนแรง มีเสียงดังมาจากด้านหลังของเขา “ข้าไม่อยากเล่นกับเจ้าอีกแล้ว”
ไม่!
โจวเต่อหยวนกรีดร้อง ฉึก เขารู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นอันไร้ที่สิ้นสุด และเห็นปลายดาบโผล่ออกมาจากหน้าอกของเขา ซึ่งมันได้แทงทะลุผ่านหัวใจของเขามา เขารู้สึกโกรธแค้นและหวาดกลัวมาก ที่แท้หลิงฮันเป็นฝ่ายที่เล่นกับเขาเหมือนกับแมวเล่นกับหนู และแสยะยิ้มเยาะเย้ย
แต่เขาที่เป็นจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาจะตายง่ายๆอย่างนี้ได้ยังไง? เขาถูกแทงหัวใจแล้วมันทำไม? เขายังสามารถโคจรพลังปราณและยังใช้เม็ดยาเพื่อที่จะยื้อชีวิตได้!
แต่ถ้าจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาและจอมยุทธระดับหลอมกายาไร้ซึ่งพลังปราณ ตัวตนทั้งสองจะแตกต่างกันอย่างไร?