ราชันกระบี่น้อยสรุปเองในใจว่าถ้าหากเขาสู้กับหลิงฮันระยะไกล เขาจะกลายเป็นเป้ามนุษย์ให้กับหลิงฮัน และหากสู้ระยะไกลพลังโจมตีของเขาก็จะถูกลดทอนลงไปด้วย แต่ถ้าหากสู้ระยะประชิด เขาก็ไม่ใช่คู่มือของหลิงฮันที่มีร่างกายราวกับสัตว์ประหลาดเช่นกัน
สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงเว้นระยะห่างให้พอดี ต้องไม่เว้นระยะไกลเกินไปจนเปิดโอกาสให้หลิงฮันรวบรวมพลังใช้ทักษะยิงธนู
ราชันกระบี่น้อยกวัดแกว่งกระบี่ไปด้านหน้าและจู่โจมใส่หลิงฮันด้วยรัศมีกระบี่
หลิงฮันไร้ความเกรงกลัว เขากำดาบในมือตอบโต้ราชันกระบี่น้อยอย่างไม่สะทกสะท้าน
ในความเป็นจริง แม้จะเป็นระยะห่างแค่นี้ แต่ด้วยความเร็วของเขาที่ราชันกระบี่น้อยไม่สามารถไล่ทัน เขาก็สามารถพุ่งเข้าใกล้อีกฝ่ายเพื่อสู้ระยะประชิดได้ แต่เขาเลือกที่จะปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นคนเลือกวิธีสู้เองและจะเหยียบย่ำอีกฝ่ายให้จมดิน
โชคร้ายที่ราชันดาบก็อยู่ที่นี่เพื่อสอดส่องสถานการณ์ ทำให้หลิงฮันไม่กล้าใช้ทักษะสามดาบลึกลับออกมา ไม่เช่นนั้นราชันกระบี่น้อยจะต้องพบเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากกว่านี้หลายเท่า
นิกายกระบี่ไร้เทียมทานนั้นไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่านิกายดาบสวรรค์ ในเมื่อนิกายดาบสวรรค์มีทักษะสามดาบลึกลับ แล้วนิกายกระบี่ไร้เทียมทานจะไม่มีทักษะที่เหมือนๆกัน?
ราชันกระบี่น้อยคำราม กระบี่ในมือของเขาราวกับกลายเป็นมังกรแห่งความเกรี้ยวกราดและสะบั้นจู่โจมใส่หลิงฮัน
พลังปราณอันไร้ที่สิ้นสุดผสานเข้าด้วยกัน พลังทำลายล้างของการโจมตีนี้ได้บรรลุถึงขีดจำกัดสูงสุดที่จอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาจะใช้ออกมาได้!
หลิงฮันไม่กล้ารับการโจมตีนี้โดยตรง ร่างของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเส้นสายฟ้าเพื่อหลีกเลี่ยงภัยอันตรายที่พุ่งเข้ามา
ในขณะเดียวกัน หุ่นเชิดเพชรกำลังดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรมันก็ไม่สามารถหลุดออกมาจากแรงดูดของชามพลิกสวรรค์ได้ แม้ร่างของมันจะใหญ่กว่าชามพลิกสวรรค์หลายเท่า แต่เพื่อถูกชามพลิกสวรรค์ดูดอย่างต่อเนื่อง ร่างของมันก็ค่อยๆหดเล็กลงจนถูกดูดเข้าไปอย่างไม่ยากเย็น
หลิงฮันเอื้อมมือออกไป ‘ฟุบ’ ชามพลิกสวรรค์ลอยกลับเข้ามาอยู่ในมือของเขา อักขระมากมายบนชามได้ส่องสว่างออกมาเพื่อหลอมกลั่นสมับัติต่างๆที่มันดูดกลืนเข้าไป
ราชันกระบี่น้อยพยายามสุดความสามารถเพื่อโจมตีให้โดนหลิงฮันและจับหลิงฮันมาถามถึงความลับของสมบัติ ในความคิดของเขา หลิงฮันก็ไม่ต่างอะไรกับโกดังสมบัติเคลื่อนที่
ทักษะกระบี่เจ็ดอรุณของนิกายกระบี่ไร้เทียมทาน สามารถตัดได้แม้แต่สวรรค์ ปฐพีและดวงดาว
เพียงแต่ว่าหลิงฮันนั้นรวดเร็วเกินไป กระบี่ที่โจมตีออกไปไม่สามารถสัมผัสตัวเขาได้
หลังจากโจมตีไปสิบกว่าครั้ง ราชันกระบี่น้อยก็หยุดมือ เขารู้แล้วว่าหากเป็นเชช่นนี้ต่อไปคงไม่สามารถสังหารหลิงฮันได้
“ไม่สู้แล้ว?” หลิงฮันแสยะยิ้ม “ลืมแล้วรึไงว่านี่คือการประลองเป็นตาย!”
ราชันกระบี่น้อยนิ่งเงียบ ท่าทีของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาและยกมือขวาขึ้นฟ้า หอกสีแดงเข้มราวกับโลหิตปรากฏออกมา กลิ่นอายแห่งความกระหายเลือดอบอวลไปทั่วท้องฟ้า
‘ปัง ปัง ปัง’ เมื่อหอกโลหิตถูกสังเวยขึ้นฟ้าพร้อมกับเมฆสีดำที่หมุนมารวมตัวกัน อัสนีบาตอันเกรี้ยวกราดผ่าลงมาราวกับสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์
ทุกคนตกตะลึง นี่เป็นครั้งที่สามของวันแล้วที่มีเมฆสายฟ้าปรากฏออกมา
แต่เมฆสายฟ้าครั้งนี้นั้นต่างออกไป มันอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งลางร้าย
ตัวตนระดับอาวุโสหลายคนแสดงสีหน้าตกตะลึง
“นี่มัน…”
“ยุทธภัณฑ์สวรรค์ต้องห้าม หอกกำเนิดความพินาศ!”
“ยุทธภัณฑ์สวรรค์ต้องห้าม!”
หลิงฮันขมวดคิ้วและมองไปยังหอกโลหิต จากนั้นก็เบี่ยงสายตาหันไปมองเมฆสายฟ้าบนท้องฟ้าและพึมพำออกมา “ยุทธภัณฑ์สวรรค์ต้องห้าม?”
ยุทธภัณฑ์สวรรค์ต้องห้าม… มันคืออาวุธที่แม้แต่สวรรค์ยังไม่ยินยอมให้มีอยู่ ดังนั้นเมื่อราชันกระบี่น้อยสังเวยหอกโลหิตขึ้นฟ้า สวรรค์และปฐพีจึงเคลื่อนไหวเพื่อมาทำลายมัน
เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ในชีวิตที่แล้วแต่ไม่เคยเห็นด้วยตาแม้แต่ครั้งเดียว ก็เหมือนกับอาวุธวิญญาณระดับสิบที่หลิงฮันเพิ่งเคยพบเห็นในชีวิตนี้ อาวุธวิญญาณระดับสิบเป็นสมบัติที่ทรงพลังที่สุดในโลก เพียงแต่ว่าถ้าอยากจะใช้พลังของมันให้ได้อย่างเต็มที่ ผู้ใช้ต้องบรรลุระดับทลายมิติเสียก่อน
แต่ยุทธภัณฑ์สวรรค์ต้องห้ามนั้นต่างออกไป มันไม่จำเป็นต้องใช้พลังบ่มเพาะหรือความเข้าใจในศาสตร์แห่งวรยุทธในการกระตุ้นใช้งาน สิ่งที่จำเป็นต้องใช้มีเพียงการสังเวยโลหิต
แม้จะง่าย แต่ก็ต้องแลกด้วยพลังชีวิต
ราชันกระบี่น้อยมีของแบบนี้อยู่ในครอบครองด้วย?
นี่เป็นสิ่งพบเจอจากคลังสมบัติของจักรวรรดิโบราณหรือโบราณสถานอื่นกันแน่?
“สังเวยอายุขัยของข้าห้าสิบปี!” ราชชันกระบี่น้อยคว้าหอกเอาไว้และมองไปยังหลิงฮัน
‘พรึบ’ หอกโลหิตส่องแสงสว่างออกมา ปราณโลหิตมากมายผสานตัวกันเป็นอสรพิษขนาดเล็กหมุนพันรอบหอก อสรพิษนี้ราวกับมีชีวิต มันปลดปล่อยอำนาจอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา
ผมของราชันกระบี่น้อยเปลี่ยนเป็นสีขาว ผิวพรรณที่เคยเรียบเนียนราวกับหยกก็ปรากฏริ้วรอย ตอนนี้เขาดูเหมือนชายอายุเจ็ดสิบถึงแปดสิบปี
พลังอำนาจที่หอกโลหิตปลดปล่อยออกมานั้น มันเทียบได้กับระดับสวรรค์!
การสังเวยอายุขัยห้าสิบปีของราชันกระบี่น้อยทำให้หอกเล่มนี้มีพลังอำนาจเท่ากับระดับสวรรค์ ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะสังหารหลิงฮัน
ผมและผิวของราชันกระบี่น้อยค่อยๆกลับสู่สภาพปกติอย่างช้าๆ เพราะอย่างไรเขาก็เป็นจอมยุทธที่มีอายุขัยมากกว่าหนึ่งร้อยปี เหตุผลที่สภาพของเขาแก่ชราไปชั่วขณะเป็นเพราะเมื่อครู่เขาถูกดูดพลังชีวิตและอายุขัยออกไปอย่างกระทันหัน
“ด้วยอำนาจของยุทธภัณฑ์สวรรค์ต้องห้าม แม้เจ้าจะเป็นเทพมารเจ้าก็หนีความตายไม่พ้น!”
ราชันกระบี่น้อยคำรามและควงหอกยาวในมือ จากนั้นก็เขวี้ยงหอกโลหิตที่ส่องประกายใส่หลิงฮัน
ร่างของหลิงฮันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงหอกโลหิจ แต่หอกโลหิตราวกับมีชีวิตและดวงตา มันเปลี่ยนทิศทางที่พุ่งและไล่ตามเขามาติดๆ
สมกับเป็นยุทธภัณฑ์ต้องห้าม ช่างลึกล้ำยิ่งนัก!
ในเมื่อหลบไม่ได้ก็ต้อง…
เขายื่นชามพลิกสวรรค์ออกไปยังทิศทางของหอกโลหิต
สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดได้เกิดขึ้น หอกโลหิตถูกชามพลิกสวรรค์ดูดเข้าไปในทันที
ยุทธภัณฑ์สวรรค์ต้องห้ามที่แม้แต่สวรรค์ยังไม่อาจยินยอมให้คงอยู่… กลับถูกชามดูดเข้าไปง่ายๆเช่นนั้น?
จิตใจของทุกคนสั่นไหวทันที แม้แต่ตัวตนระดับผู้อาวุโสก็ยังแสดงท่าทีละโมบออกมา
ราชันกระบี่น้อยไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง เขาต้องเสียสละอายุขัยตนเองไปถึงห้าสิบปี แต่นั่นกลับไม่ช่วยอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว จะให้เขายอมรับความเป็นจริงนี้ได้อย่างไร?
หลิงฮันกำดาบกำเนิดมารเอาไว้ในมือและยิ้ม “มีลูกเล่นอะไรอีกไหม?”
จิตสังหารของเขาปะทุออกมา คราวนี้เขาจะจำกัดราชันกระบี่น้อยออกไปให้พ้นๆเสียที
ราชันกระบี่น้อยยังคงไม่ยินยอม เขายังมีไพ่ลับมากมายที่เก็บซ่อนเอาไว้อยู่ เขานำเครื่องรางวิญญาณและกาน้ำสีดำออกมา
แม้มันจะไม่ใช่สมบัติที่ยอดเยี่ยมมากนักแต่หลิงฮันก็รู้สึกไม่ดีหากจะต้องทำลายพวกมันเพราะเขาตั้งใจจะนำทรัพย์สมบัติทุกอย่างของอีกฝ่ายมาเป็นของตนเอง
คงจะน่าเสียดายหากต้องทำลายมันทิ้งอย่างเสียเปล่า!
หลิงฮันรีบสร้างระยะห่างกับราชันกระบี่น้อยและโคจรทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราอีกครั้ง